ตอนที่แล้ว บทที่ 44 ตระกูลกุ่ยหลิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 46 คำสาปวิญญาณร้าย

บทที่ 45 แสงพระพุทธรูปส่องสว่าง


บทที่ 45 แสงพระพุทธรูปส่องสว่าง

เขาดูเหมือนจะหวาดกลัวพระพุทธรูปเป็นพิเศษ

ดังนั้น เมื่อเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่นั้นปราบปรามลงมา พร้อมกับเสียงสวดมนต์ของนักบวชพุทธะ มันจึงทำให้เขาทรมานอย่างยิ่ง

กรงเล็บผีอยู่ภายใต้แสงของพระพุทธรูป ราวกับถูกสะกดอย่างมาก แม้ว่าพลังของผีจะพุ่งทะยาน แต่ก็ไม่สามารถต้านทานแสงของพระพุทธรูปได้ และสลายไปโดยตรง

ซวีมู่ไห่และมู่ฉิงเก๋อก็ตกลงมาจากกรงเล็บผี

ผีทารกที่กำลังปีนขึ้นไปบนแขนของกรงเล็บผีนั้น จู่ๆ ก็ร้องโหยหวนเมื่อสัมผัสได้ถึงแสงของพระพุทธรูป

เสียงร้องไห้ของทารกปะปนกับเสียงคำรามอันน่าสยดสยอง ฟังแล้วทำให้หนังศีรษะชาหนึบ เสียงนั้นแทรกซึมเข้าไปในกระดูก ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สบายตัว

น่าขนลุก…

ควันสีดำแผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของพวกมัน ควันสีดำซึมออกมาจากผิวหนังของพวกมัน

ผิวหนังของพวกมันก็เริ่มเน่าเปื่อย

ในเวลานี้ งานไม้แกะสลักพระพุทธรูปของหลี่ฉางชิงส่องสว่างราวกับดวงอาทิตย์ เด็กชายคนนั้นก็ทรมานอย่างยิ่ง ในดวงตาของมันนอกจากความหวาดกลัวต่อแสงของพระพุทธรูปแล้ว ยังมีความเกลียดชังอย่างมาก!

“เป็นไปไม่ได้!”

“พระพุทธรูปหายสาบสูญไปนานแล้ว เจ้าเป็นใครกันแน่!?”

เด็กชายคำราม ผีทารกทั้งสามถูกชำระล้างด้วยแสงของพระพุทธรูป กลายเป็นเถ้าธุลี

“ข้าเป็นใครไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือเจ้าอย่าคิดทำร้ายผู้อื่น” ในเวลานี้ หลี่ฉางชิงเหยียบไม้ฉางเซิน ค่อยๆ ลงจอด พระพุทธรูปเหนือหัวของเขาก็ค่อยๆ ลงมา

แรงกดดันจากพระพุทธรูปส่งออกมามาก จนเด็กชายผู้นี้เกือบจะคุกเข่าลง แต่พลังของมันนั้นแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่ามันจะถูกสะกดด้วยแสงของพระพุทธรูป แต่มันก็ไม่ได้ถูกกำจัดโดยตรงด้วยแสงของพระพุทธรูปเหมือนกับผีทารกเหล่านั้น

“สหายเต๋าฉางชิง ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ” ในเวลานี้เอง มู่ฉิงเก๋อรู้สึกราวกับว่านางรอดชีวิตจากความตาย และนึกถึงการปรากฏตัวอย่างปาฏิหาริย์ของหลี่ฉางชิงเมื่อครู่นี้ ราวกับเทพเซียนที่ลงมาจากสวรรค์

แม้ว่าหลี่ฉางชิงจะเป็นผู้ชายที่ดูธรรมดา แต่ฉากเมื่อครู่นี้ก็ทำให้หัวใจของมู่ฉิงเก๋อสั่นไหวเล็กน้อย

ตั้งแต่โบราณกาล มีสาวงามคนใดบ้างที่ไม่หลงรักวีรบุรุษ?

“พี่ฉางชิง ท่านช่วยข้าอีกครั้งแล้ว” ซวีมู่ไห่ก็รู้สึกขอบคุณอย่างยิ่ง

“ฮือๆ ท่านอาวุโสฉางชิง ข้าคิดว่าข้ากำลังจะตาย” ในเวลานี้ อิ๋นชางหลีก็พุ่งเข้ามา กอดขาของหลี่ฉางชิงแน่น ไม่ยอมปล่อย

“ข้าจะจำเจ้าไว้” เด็กชายคนนั้นยิ้มกว้างกะทันหัน “แม้ว่าข้าจะไม่สามารถยึดครองร่างกายของพวกเขาได้ แต่เรื่องนี้ยังไม่จบสิ้น พวกเราจะได้พบกันอีกอย่างแน่นอนในอนาคต”

พูดจบ เขาก็จ้องมองงานไม้แกะสลักรูปพระพุทธรูปที่เปล่งแสงเหนือหัวของเขาอย่างดุร้าย จากนั้นก็กัดฟันแน่น หันหลังกลับและบินเข้าไปในโถงหมื่นพุทธะ

ประตูโถงหมื่นพุทธะก็ปิดลงพร้อมกับเสียงดังลั่น

หลี่ฉางชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขายื่นมือออกไป งานไม้แกะสลักรูปพระพุทธรูปบนท้องฟ้าก็ตกลงไปในมือของเขา กลายเป็นงานไม้แกะสลักธรรมดาๆ

หลี่ฉางชิงเพิ่งแกะสลักมันขึ้นมา เขาได้ยินบทสนทนาของคนกลุ่มนั้นก่อนหน้านี้ เนื่องจากเผ่าพันธุ์ภูตผีหวาดกลัวสำนักพุทธะมาก เขาจึงแกะสลักรูปพระพุทธรูปออกมาเพื่อดูว่ามันสามารถสะกดเผ่าพันธุ์ภูตผีเหล่านี้ได้หรือไม่

เขาไม่ได้คาดหวังว่าผลลัพธ์จะดีมากอย่างน่าประหลาดใจ

น่าเสียดาย เขาไม่สามารถสังหารเด็กชายลึกลับในโถงหมื่นพุทธะได้เนี่ยสิ…

แต่หลี่ฉางชิงก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าไปในโถงหมื่นพุทธะแห่งนั้น

ใครจะไปรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน เกิดเขาเข้าไปแล้วถูกซุ่มโจมตีล่ะ?

ถ้าเขาเกิดเรื่องขึ้น ใครจะเป็นคนเลี้ยงดูบุตรชายของเขา?

“พวกเจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?” หลี่ฉางชิงรีบพยุงคนเหล่านั้นขึ้นมา

“ไอ้หนู อย่ากอดขาข้า ขาข้าชาไปหมดแล้ว” หลี่ฉางชิงรีบผลักอิ๋นชางหลีออกไป “เห้ย! อย่าเอาขี้มูกมาเช็ดกางเกงข้าสิ!”

“ท่านอาวุโสฉางชิง ทางนั้น...”

ทันใดนั้น อิ๋นชางหลีก็ตะโกนเสียงดัง ชี้นิ้วไปข้างหลังหลี่ฉางชิง

ในเวลานี้ มีเสียงสั่นสะเทือนดังมาจากพื้นดิน ทุกคนมองไป แต่กลับพบว่าซากศพจำนวนมากพุ่งเข้ามาอีกครั้ง ซากศพแต่ละร่างล้วนแผ่กลิ่นอายแห่งการฆ่าฟันอันน่าตกใจ

ราวกับว่าพวกมันต้องการจะฉีกหลี่ฉางชิงและคนอื่นๆ เป็นชิ้นๆ

“ฮึ่ม”

แขนเสื้อของหลี่ฉางชิงสะท้าน โบกมือเบาๆ พลังลึกลับก็แผ่ซ่านออกไป ราวกับสายลมที่พัดผ่าน พร้อมกับเสียง “ตรึงร่าง”

ทันทีที่เสียงนั้นดังออกมา ซากศพเหล่านั้นก็หยุดนิ่งอยู่กับที่

พวกมันยังคงอยู่ในท่าเดิม และไม่สามารถขยับเขยื้อนได้

ราวกับว่ามีเส้นใยที่มองไม่เห็นนับไม่ถ้วนพันธนาการพวกมันไว้

การเคลื่อนไหวนี้ ทำให้ทุกคนในที่นี้ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

ซวีมู่ไห่ยิ่งไม่อยากจะเชื่อ!

เขาแทบพูดไม่ออก

เพราะนี่ไม่ใช่ทักษะอื่นใด มันคือตราประทับห้าขุนเขาแห่งแดนโบราณเต๋าซานของเขาเอง!

หลี่ฉางชิงเรียนรู้มันได้ยังไง?

แม้ว่าหลี่ฉางชิงจะบ่มเพาะปราณวิญญาณ เดินบนเส้นทางที่คล้ายกับจิตรกรเซียน และมีความสามารถในการเลียนแบบทักษะของผุ้ฝึกตน แต่ตราประทับห้าขุนเขาแห่งแดนโบราณเต๋าซานนั้นแตกต่างจากทักษะทั่วไป

ตราประทับห้าขุนเขาเป็นทักษะระดับสูงสุดที่ผู้ก่อตั้งแดนโบราณเต๋าซานเข้าใจ

แม้แต่จิตรกรเซียนก็ไม่สามารถเลียนแบบได้อย่างง่ายๆ

หากเป็นเพียงทักษะระดับแรก อย่างเช่น ย่างก้าวเทวะ ไร้ชีวี หรือพลังพันจินที่ถูกเลียนแบบ ซวีมู่ไห่อาจจะไม่แปลกใจขนาดนี้

แต่นั่นคือทักษะ "ตรึงร่าง" ขั้นที่สี่ของตราประทับห้าขุนเขา และเขายังตรึงร่างซากศพหลายร้อยร่างด้วยการโบกมือเพียงครั้งเดียว ความสามารถนี้แม้แต่เขาก็ยังไม่อาจเอื้อมถึง

ปราณวิญญาณของหลี่ฉางชิงแข็งแกร่งถึงระดับใดกันแน่?

นอกจากนี้ เขายังไม่ได้รับผลกระทบจากพลังของผีที่นี่ และยังสามารถใช้ขอบเขตบ่มเพาะของเขาได้ ชายคนนี้มีเรื่องลึกลับมากมายจริงๆ

“ปราบปราม!”

งานไม้แกะสลักรูปพระพุทธรูปในมือของเขาพุ่งออกไป เสียงสวดมนต์ของนักบวชพุทธะดังออกมา ทุกที่ที่เสียงสวดมนต์ผ่าน ผีร้ายทั้งปวงย่อมถูกกำจัด!

ซากศพเหล่านั้นกลายเป็นผงเถ้าธุลีในทันที

แต่นี่ยังไม่จบ หลี่ฉางชิงยกฝ่ามือขึ้น งานไม้แกะสลักรูปพระพุทธรูปก็พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยตรง แสงของพระพุทธรูปพุ่งเข้าไปในปราณวิญญาณชั่วร้ายที่เต็มท้องฟ้า มุ่งตรงไปยังดวงตาสีเลือดคู่นั้นข้างบน

หลี่ฉางชิงรู้ดีว่า หากเขาต้องการออกไปจากที่นี่ ดวงตาสีเลือดคู่นั้นคือกุญแจสำคัญ

เมื่อดวงตาสีเลือดเผชิญกับงานไม้แกะสลักรูปพระพุทธรูป แสงสีแดงก็ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง แสงสีเลือดนั้นดูเหมือนจะกดดันงานไม้แกะสลักรูปพระพุทธรูปลง แต่แสงของพระพุทธรูปก็ส่องสว่างเจิดจ้าไม่แพ้กัน

แสงแห่งธรรมเผชิญหน้ากับดวงตาสีเลือดอย่างไม่เกรงกลัว!

ในตอนนี้ เริ่มมีสีเลือดปรากฏขึ้นเป็นหย่อมๆ บนร่างกายของงานไม้แกะสลักรูปพระพุทธรูป ราวกับว่ามันกำลังจะถูกย้อมสี

แต่ในขณะเดียวกัน ดวงตาสีเลือดก็พังทลายลง

รอยแยกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นผืนนภา

ลมแรงพัดมาจากรอยแยก ทุกคนรู้สึกได้ว่าเบื้องหลังรอยแยกนั้นคือโลกภายนอก

“ไป!”

หลี่ฉางชิงอุ้มอิ๋นชางหลี เขาพูดกับมู่ฉิงเก๋อและซวีมู่ไห่ทันที

ทุกคนพยักหน้า รีบมุดเข้าไปในรอยแยกและหายไป ในขณะเดียวกัน พระพุทธรูปบนท้องฟ้าก็ดิ่งลงมา แต่ไม่ตกลงพื้น ทว่ากลับพุ่งเข้าชนประตูโถงหมื่นพุทธะพร้อมกับเสียงดังลั่น

ไม่นานนัก โลกทั้งใบกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง

“คิกๆๆ”

“พวกเจ้าคิดว่าหนีไปได้จริงๆ งั้นเหรอ?”

“ลัทธิฉางเซิงของข้ากำลังจะผงาด”

เสียงนั้นกลับกลายเป็นเสียงของเด็กหญิงตัวเล็กๆ อีกครั้ง เพียงแต่ฟังดูน่าขนลุกยิ่งขึ้น

“ฟู่!”

ในถ้ำ ภาพวาดโบราณตกลงบนพื้น และลุกไหม้เป็นไฟ

ซวีมู่ไห่ทั้งสามนั่งลงบนพื้น รู้สึกราวกับว่าพวกเขารอดชีวิตจากความตาย

ซวีมู่ไห่จำไม่ได้แล้วว่ากี่ปีแล้ว ที่เขาไม่ได้สัมผัสถึงความรู้สึกไร้ทางเลือกเช่นนี้

“ไม่เป็นไรใช่ไหม?” หลี่ฉางชิงถามด้วยรอยยิ้ม

“ขอบคุณสหายเต๋าฉางเซิงสำหรับความช่วยเหลืออีกครั้ง” มู่ฉิงเก๋อกัดริมฝีปากล่างของนางเบาๆ จากนั้นลุกขึ้นยืน และคารวะหลี่ฉางชิง “ข้าหวังว่าสหายเต๋าฉางเซิงจะมาเยือนหุบเขาหมอเทวะเพื่อเป็นแขกผู้ทรงเกียรติ และข้าจะได้ทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด