บทที่ 27 ติ่งไม้
บทที่ 27 ติ่งไม้
(ติ่ง 鼎 dǐng เป็นหม้อที่มีลักษณะพิเศษ คือมีขาตั้งสามหรือสี่ขา และมีหูจับสองข้าง ในสมัยโบราณ ภาชนะนี้มักทำจากสำริดและใช้ในราชสำนักหรือพิธีกรรมสำคัญ)
"ท่านให้ข้างั้นเหรอ?" ซวีมู่ไห่ตื่นเต้นมาก
แม้ว่าปากจะถาม แต่ซวีมู่ไห่ก็เอื้อมมือไปหยิบงานแกะสลักนั้นโดยไม่ลังเล
"นี่มัน..." เมื่อเห็นงานแกะสลักในมือ ซวีมู่ไห่ก็ตกใจ นี่มันติ่ง!
"ติ่ง!"
เมื่อเห็นสิ่งนี้ แววตาของซวีมู่ไห่ก็เต็มไปด้วยความตกใจ มองหลี่ฉางชิงด้วยสายตาที่แปลกไป
"ไม่ชอบเหรอ?" หลี่ฉางชิงเห็นสีหน้าของซวีมู่ไห่ คิดว่าซวีมู่ไห่ไม่ชอบ จึงรีบล้วงแขนเสื้อ หาว่ามีอะไรให้ซวีมู่ไห่อีก
"ไม่ใช่ ไม่ใช่ไม่ชอบ เพียงแต่ข้าตกใจ ท่านผู้อาวุโสฉางชิง ท่านเคยเห็นติ่งจริงๆ ด้วยเหรอ!" ซวีมู่ไห่สูดหายใจเข้าลึกๆ
เขาถือติ่งไม้ชิ้นเล็กๆ นั้นอยู่ในมือ ราวกับถือสมบัติล้ำค่าที่ราคาร้อยล้านตำลึง
"ท่านไม่เคยเห็นงั้นเหรอ?" หลี่ฉางชิงขมวดคิ้ว ติ่งเป็นของหายากขนาดนั้นเลยเหรอ?
"ติ่ง… ข้าย่อมเคยเห็น" ซวีมู่ไห่ยิ้มแห้งๆ แล้วพูดว่า "แต่ติ่งที่ข้าเคยเห็น ไม่เหมือนกับติ่งไม้ที่ท่านผู้อาวุโสฉางชิงแกะสลักเลย"
"ในแดนชางหยวน ติ่งเป็นภาชนะโบราณมาก สืบทอดพลังแห่งศรัทธา"
"แต่ต่อมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ติ่งกลับหายสาบสูญไปในประวัติศาสตร์ ติ่งที่คนรุ่นหลังทำขึ้นมา แค่มีรูปร่างเหมือน แต่ไม่สามารถรับพลังแห่งศรัทธาได้ แม้แต่ช่างวาดภาพก็ยังวาดติ่งจริงๆ ออกมาไม่ได้"
"ดังนั้น เมื่อข้าเห็นติ่งที่ดูสมบูรณ์แบบเช่นนี้ ข้าจึงตกใจมาก!"
ซวีมู่ไห่มองติ่งไม้ในมืออย่างละเอียด เขาถือไว้ในมืออย่างระมัดระวัง ราวกับกลัวว่าจะทำตก
บนติ่งนั้นยังมีตัวอักษรขนาดเล็กๆ สลักอยู่ ตัวอักษรเหล่านี้ก็เป็นฝีมือของหลี่ฉางชิงเช่นกัน มันเป็นอักษรภาพที่เคยใช้ในประวัติศาสตร์ชาติก่อน
เมื่อมองตัวอักษรเหล่านั้น ซวีมู่ไห่ก็รู้สึกใจสั่น ข้างๆ หูราวกับมีเสียงกระซิบเบาๆ
ราวกับเทพเจ้ากำลังพูดอยู่ข้างๆ หูเขา!
เสียงพึมพำทีละคำๆ ทำให้ซวีมู่ไห่รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงสวรรค์!
"จ้าวขุนเขาซวี"
ในเวลานี้ เสียงของหลี่ฉางชิงดังขึ้น ทำให้ซวีมู่ไห่หลุดออกมาจากเสียงสวรรค์นั้น ในชั่วลมหายใจต่อมา ซวีมู่ไห่ก็เหงื่อตก
เขาถูกตัวอักษรโบราณนั้นดึงดูดโดยไม่รู้ตัว
ถ้าเป็นที่อื่น เขาคงจะตกอยู่ในอันตราย
"จ้าวขุนเขาซวี ท่านเป็นอะไร?" หลี่ฉางชิงเห็นซวีมู่ไห่มองติ่งไม้ที่เขามอบให้โดยไม่ขยับ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเรียกสองครั้ง
"บุญคุณที่มอบสมบัติล้ำค่าให้ ข้าน้อยซวีมู่ไห่จะจดจำไว้ตลอดไป!"
ซวีมู่ไห่ถอยหลังไปหนึ่งก้าว ประสานมือคารวะหลี่ฉางชิงอย่างจริงจัง
สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ หลี่ฉางชิงกลับมอบให้เขา
ทำให้ซวีมู่ไห่รู้สึกซาบซึ้งมาก!
ในใจเขาก็สาบานว่า ต่อไปนี้หลี่เหิงเซิงก็คือบุตรชายของเขา
ติ่งไม้ชิ้นนี้ของหลี่ฉางชิง ประเมินค่าไม่ได้จริงๆ!
"จ้าวขุนเขาซวีสุภาพเกินไปแล้ว ท่านเป็นอาจารย์ของเหิงเซิง ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ นี้ ไม่ต้องพูดถึง" หลี่ฉางชิงรีบพูด
"จริงสิ ยังมีเรื่องหนึ่ง" ซวีมู่ไห่ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "ท่านผู้อาวุโสฉางชิง ทำไมท่านถึงกลายเป็นต้ากงเฟิงของตระกูลเหยียน?"
"เรื่องนี้..." หลี่ฉางชิงเล่าเรื่องของป้ายหยกให้ซวีมู่ไห่ฟัง
"ตระกูลเหยียนนี่ช่างเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก" ซวีมู่ไห่หัวเราะเยาะ "ท่านผู้อาวุโสฉางชิง ไม่ต้องสนใจตระกูลเหยียนเล็กๆ นี้หรอก พวกเขาเป็นแค่ตระกูลเล็กๆ ในเมืองฉางถิง ด้วยความแข็งแกร่งของท่านผู้อาวุโสฉางชิง ไปที่ไหนก็มีแต่คนยกย่อง"
"ถ้าท่านผู้อาวุโสฉางชิงเต็มใจ มาที่แดนโบราณเต๋าซานของพวกเรา ข้าจะมอบตำแหน่งผู้อาวุโสให้ท่าน ถึงเวลานั้น ท่านก็จะได้พบกับหลี่เหิงเซิง เป็นไง?"
"ไปแดนโบราณเต๋าซาน?" หลี่ฉางชิงสะดุ้ง รีบส่ายหน้าทันที
ล้อเล่นน่า…
เขาทะลุมิติมาโดยไม่ได้รับความทรงจำ การเขียนจดหมายก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้าพบกับหลี่เหิงเซิงจริงๆ หลี่เหิงเซิงคงจะรู้ว่าเขาไม่ใช่บิดาแน่นอน
ในที่สุดเขาก็ได้เกิดใหม่ ได้สัมผัสความรู้สึกของการมีบุตรชายที่กตัญญู เขาไม่อยากจะสูญเสียมันไปเร็วๆ นี้
ดังนั้น ตอนนี้เขาจะพบกับหลี่เหิงเซิงไม่ได้
มิฉะนั้นคงจะถูกจับได้
"ข้าไม่ไปแดนโบราณเต๋าซาน" หลี่ฉางชิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดว่า "จริงสิ ข้าหวังว่า ท่านจะไม่บอกเรื่องของข้าให้เหิงเซิงรู้"
"หา?" ซวีมู่ไห่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจ "ท่านหมายถึง..."
"ถูกต้อง เขาไม่รู้ว่าบิดาของเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ไร้เทียมทาน ไม่รู้ว่าข้าแกะสลักเป็น ข้าทำแบบนี้ก็เพื่อให้เขาพึ่งพาความพยายามของตัวเอง ไม่ใช่พึ่งพาข้า และกลายเป็นคนไม่เอาไหน ข้าหวังดีกับเขา ท่านเข้าใจใช่ไหม?"
ซวีมู่ไห่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
แต่ซวีมู่ไห่ก็ไม่เข้าใจ ท่านป็นถึงผู้เชี่ยวชาญที่ไร้เทียมทาน แต่กลับทำตัวค้อมต่ำขนาดนี้ แม้แต่บุตรชายก็ยังไม่รู้ว่าท่านเก่งขนาดไหน แถมยังส่งบุตรชายมาที่แดนโบราณเต๋าซานเพื่อลำบากอีก
แปลกเกินไปหรือเปล่า?
เมื่อเห็นสีหน้าของซวีมู่ไห่ หลี่ฉางชิงก็มองซวีมู่ไห่ ยิ้มแล้วพูดว่า "ท่านยังไม่ได้แต่งงาน ท่านคงจะไม่เข้าใจ"
"ท่านผู้อาวุโสช่างเก่งกาจ รู้ด้วยว่าข้ายังไม่ได้แต่งงาน!" ซวีมู่ไห่พูดด้วยความชื่นชม
"ข้าไม่เพียงแต่รู้ว่าท่านยังไม่ได้แต่งงาน แต่ยังรู้ว่าท่านยังบริสุทธิ์" หลี่ฉางชิงยิ้มนิดๆ
"ท่านผู้อาวุโสช่างเก่งกาจยิ่งนัก!" ซวีมู่ไห่ยิ่งชื่นชมหลี่ฉางชิงอย่างจริงจัง
"ไม่คิดเลยว่าปราณวิญญาณของท่านผู้อาวุโสฉางชิงจะแข็งแกร่งขนาดนี้ สามารถสัมผัสได้ว่าแก่นแท้ของข้ายังมั่นคง เลือดลมและหยางยังบริสุทธิ์ มองทะลุข้าได้จากระยะไกล ท่านช่างเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ไร้เทียมทานจริงๆ" ซวีมู่ไห่คิดในใจ
หลี่ฉางชิงยักไหล่ มันจะไปยากตรงไหนกัน
แค่ดูจากเสื้อผ้าของเจ้าก็รู้แล้ว!
จนขนาดนี้ ผู้หญิงคนไหนจะยอมขึ้นเตียงกับเจ้า ใช่ไหม?
"ท่านผู้อาวุโสวางใจ ข้าจะไม่บอกเรื่องนี้กับหลี่เหิงเซิง" ซวีมู่ไห่รับปาก
หลี่ฉางชิงโล่งใจ แต่เขาก็รู้สึกว่าซวีมู่ไห่พูดถูก เขาไม่ใช่คนธรรมดา ตระกูลเหยียนแค่ใช้ป้ายหยกอันเดียว ก็อยากจะผูกมัดเขาไว้กับตระกูลเหยียน
ช่างคิดง่ายเกินไปแล้ว
หลี่ฉางชิงในชาติก่อนหลงใหลในการแกะสลัก ปกติแล้วดูเหมือนจะเป็นคนซื่อๆ แต่จริงๆ แล้วหลี่ฉางชิงไม่ได้โง่
คิดนิดหน่อยเขาก็เข้าใจ
ยิ่งไปกว่านั้น เขามีความสามารถที่จะต่อรอง
"ประมุขตระกูลเหยียน" หลี่ฉางชิงตะโกนเรียกเหยียนป๋อเทาที่อยู่ข้างนอก
"ท่านผู้อาวุโสฉางชิง" เหยียนป๋อเทาได้ยินหลี่ฉางชิงเรียกเขา เขาก็รีบเดินเข้ามา ในที่สุดสองคนนี้ก็คุยกันเสร็จแล้วสินะ?
"ขอบคุณที่ดูแลข้าช่วงนี้" หลี่ฉางชิงพูดอย่างใจเย็น
"ท่านผู้อาวุโสฉางชิงสุภาพเกินไปแล้ว" เหยียนป๋อเทารีบพูด "ท่านผู้อาวุโสมีบุญคุณกับตระกูลเหยียนของข้า บุญคุณที่ท่านช่วยหวี่สือ บุตรชายของข้า ยิ่งมีค่ามากกว่านี้ การที่ท่านมาอ่านตำราที่ตระกูลเหยียนของข้า ไม่นับว่าเป็นอะไร"
"ถ้าอย่างนั้น บุญคุณนี้ก็ถือว่าตระกูลเหยียนตอบแทนแล้ว ป้ายหยกนี้ ข้าขอคืน" พูดจบ หลี่ฉางชิงก็วางป้ายหยกของผู้อาวุโสไว้บนโต๊ะ