บทที่ 204 เผชิญหน้าโดยบังเอิญ (ตอนที่ 2)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 204 เผชิญหน้าโดยบังเอิญ (ตอนที่ 2)
"มีบางอย่างกำลังเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วสูงงั้นเหรอ?"
ซุนเฉิงหยุดครู่หนึ่งแล้วเลิกคิ้ว
เราถูกเจอตัวแล้วเหรอ?
ความคิดนี้ทำให้เขาอารมณ์เสียมาก เขาโบกมือออกคำสั่งอย่างใจร้อน "เป็นเครื่องบินลาดตระเวนต่อต้านเรือดำน้ำของรัสเซียหรืออเมริกา? เพิ่มความเร็วให้สูงสุดและเตรียมพร้อมดำลงไปลึกขึ้นอีก... "
เขาคิดว่ามันเป็นเพราะเรือภูตผีเป็นแน่ เขาจึงถูกใครบางคนพบตัวเขา แถมช่องแคบนี้ ทั้งกองทัพรัสเซียและอเมริกาต่างก็ได้ใช้เครื่องตรวจจับบนพื้นทะเลเพื่อตรวจสอบเรือดำน้ำของศัตรูกันอยู่แล้ว
ทว่าทันทีที่กำลังคิดเช่นนั้นอยู่ ซุนเฉิงก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่ามันมีบางอย่างผิดปกติ
“เดี๋ยวก่อนนะ เราเพิ่งผ่านช่องแคบแบริ่งมา แม้ว่าเราจะถูกจับตามองอยู่ แต่ความเร็วที่พุ่งเข้ามาหาเรามันเร็วกว่าพาหนะของมนุษย์ทั่วไปแล้ว!”
เขามองขึ้นไปที่เฮเฟสตัสอย่างรวดเร็วและขมวดคิ้วพร้อมถามว่า "เจ้าสามารถระบุประเภทของสิ่งใดกันตรวจพบเรา?"
“ไม่สามารถระบุได้นายท่าน เรากำลังทดสอบสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้าแล้ว สิ่งเดียวที่สามารถยืนยันได้คือเป้าหมายของคนที่เจอตัวเรานั้นไม่ใช่เรา เรดาร์จับร่องรอยของพวกเขาในขณะที่พวกเขากำลังเตรียมที่จะข้ามช่องแคบแบริ่งจากพื้นทะเล...ต่อมาดูเหมือนว่าพวกเขาจะสังเกตเห็นเรา หนึ่งในพวกเขาจึงเริ่มมุ่งหน้ามาหาเรา ตนอื่น ๆ ก็เลยพุ่งตามมาเช่นกัน!”
“จากใต้ทะเล? แสดงว่ามันไม่ใช่เรือดำน้ำของมนุษย์ ดูเหมือนว่าเรากำลังมีปัญหาใหญ่แล้วสิ!”
ซุนเฉิงลุกขึ้นยืนทันที
เพื่อประหยัดพลังงาน เขาจึงยังไม่ได้เปิดใช้งานฟังก์ชั่นการสแกนของแกนหลัก เขาพึ่งพาเพียงเรดาร์ของเรือดำน้ำเพื่อตรวจจับและเตือนภัยล่วงหน้า
ตอนนี้เมื่อได้ยินว่ามีใครบางคนกำลังพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง ซุนเฉิงก็จึงรู้ดีถึงความร้ายแรงของปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในยามนี้
เขาเปิดใช้งานฟังก์ชั่นการสแกนของแกนหลักอย่างรวดเร็ว ความถี่ในการสแกนที่ทรงพลังได้ล็อคไปที่ร่างประหลาดสองร่างที่เข้าใกล้เรือภูตผีทันที
“นี่มัน... คอนสตรัคติคอนส์? และไซด์เวย์?”
หลังจากที่แกนหลักได้ล็อคเป้าหมายทั้งสองที่กำลังเข้าใกล้เรือภูตผี ใบหน้าของซุนเฉิงก็เคร่งเครียดยิ่ง
เขาจำได้ทันทีว่าพวกเขาเป็นใคร ทั้งสองคนนี้ได้ปรากฏตัวในข้อมูลความทรงจำของแบล็คเอาท์ ทั้งยังอยู่ในความทรงจำของเฟรนซี่
หนึ่งในนั้นมีขนาดใหญ่จนน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเมกะทรอน และออฟติมัสไพร์ม เขาถูกเรียกว่า 'เดวาสต้าโต' เขาเป็นสมาชิกของทีมที่มีชื่อเสียงของดีเซปติคอนที่รู้จักกันในชื่อคอนสตรัคติคอน ซึ่งเป็นหนึ่งในนักรบอาวุโสผู้ทรงพลังที่สุดในกองทัพดีเซปติคอน
ถึงแม้ว่าเดวาสต้าโตจะไม่มีชื่อเสียงในระดับเดียวกับพี่ชายของเขาที่เข้าร่วมหน่วย 'คอนสตรัคชั่น' แต่เขาก็เป็นหนึ่งในวิศวกรหลักในกองทัพดีเซปติคอน เดวาสต้าโตเคยได้สร้างฐานทัพสำหรับออโต้บอตส์ด้วยมือข้างเดียวในช่วงสงครามกลางเมือง ซึ่งแสดงให้เห็นเลยว่าเขามีทักษะการก่อสร้างมากเพียงใด
ส่วนนักรบดีเซปติคอนอีกตนที่รูปร่างคล้ายกัน ซุนเฉิงไม่กล้าล่วงเกินเลย
เขาผู้นี้ถูกเรียกว่าไซด์เวย์ แม้ว่าไซด์เวย์จะไม่ใช่สมาชิกของคอนสตรัคติคอน แต่เขาก็ได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นน้องชายและลูกน้องของเดวาสต้าโต โดยดีเซปติคอนตนอื่น ๆ มาโดยตลอด
แต่ซุนเฉิงรู้ดีว่าชายผู้นี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็นภายนอก แท้จริงเขาอันตรายกว่าพี่น้องเดวาสต้าโตด้วยซ้ำ
ไซด์เวย์เป็นนักรบที่ชาญฉลาดในหมู่กองทัพดีเซปติคอน แม้ว่าพลังการต่อสู้ของเขาจะไม่สูง อ่อนแอกว่าเฟรนซี่ในช่วงสงครามกลางเมืองด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาไม่สามารถเข้าร่วมต่อสู้ได้
ทว่าความสามารถในการรวบรวมข่าวกรองของเขาก็ไม่ควรมองข้ามเลย แม้แต่ในกองทัพดีเซปติคอนทั้งหมดก็คาดว่ามีเพียงเฟรนซี่ เลเซอร์บีคและรีเจนท์เท่านั้นที่ถือว่าแข็งแกร่งกว่าเขา
ตั้งแต่นั้นมา ไซด์เวย์ก็อยู่กับพี่น้องเดวาสต้าโต คอยทำหน้าที่เป็นนักยุทธศาสตร์ให้พวกเขา กล่าวโดยสรุปคือ เขาเป็นตัวตนที่รับมือได้ยากมาก
ขณะที่แกนหลักกำลังสแกนคู่ต่อสู้ ดีเซปติคอนสองตนที่กำลังเข้ามาใกล้ก็หยุดชะงักทันที เพราะพวกเขารู้จากความถี่ในการสแกนว่าคนที่อยู่ในเรือดำน้ำก็เป็นดีเซปติคอนเช่นกัน
ซุนเฉิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจจะออกไป เพราะเขาเริ่มรู้สึกสนใจว่าทำไมไซด์เวย์และเดวาสต้าโตถึงมาที่นี่
เขาสั่งให้เฮเฟสตัสบอกเหล่าวิศวกรหยุดเรือดำน้ำและให้ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำทันที
ทันทีที่เรือภูตผีโผล่ออกมาจากน้ำลึก เขาก็รีบออกจากห้องบัญชาการของเรือภูตผีและรีบไปหาดีเซปติคอนสองตนที่ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม
"เป็นเฟรนซี่จริง ๆ สินะ..."
ในขณะที่ซุนเฉิงเดินเข้ามาใกล้ ดีเซปติคอนทั้งสองก็โผล่เข้ามาด้วยสีหน้าเยือกเย็น
ไซด์เวย์สรู้ดีว่าเฟรนซี่ได้เสียชีวิตไปแล้วในสงครามกลางเมืองไซเบอร์ตรอนครั้งที่สอง ดังนั้นการที่เฟรนซี่โผล่มาเช่นนี้ มันจึงไม่ได้ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอะไรเลย
แต่ดูเหมือนว่า หมอนี้จะยังคงมีความแค้นที่ถูกปฏิเสธเพราะซาวด์เวฟไม่ได้เลือกเขาอยู่สินะ
“ไซด์เวย์ เดวาสต้าโต พวกเจ้าถูกเรียกตัวมายังโลกเหมือนกันเหรอ? ใครเรียกเจ้ามา? สตาร์สครีม?”
ซุนเฉิงแค่นเสียง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าเดวาสต้าโตกำลังจ้องมองมาที่เขา เขาจึงทำสีหน้าหงุดหงิดกลับไปทันทีแล้วพูดว่า "เลิกจ้องน่ารำคาญแบบนี้ได้แล้ว ไอ้ตัวโต ถ้ารัมเบิลอยู่ที่นี่ล่ะก็ เขาคงไม่ลังเลที่จะกระทืบพวกเจ้าหรอก!"
เดวาสต้าโตได้แต่พึมพำกับตนเองอย่างไม่พอใจ โบกมืออันใหญ่โตที่น่ากลัวของเขาออก แล้วละสายตาไปมองทางอื่น
อันที่จริงเขาเป็นหนึ่งในนักรบชั้นยอดไม่กี่คนในกองทัพดีเซปติคอนที่มีความสามารถในการก่อสร้างที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ รัมเบิลก็มีความสามารถแบบนั้นอยู่เช่นกัน
ซึ่งหากเทียบกับเขาที่เป็นแค่วิศวกร รัมเบิลแม้จะมีรูปร่างเตี้ย แต่ก็ถือเป็นนักรบที่แท้จริง
ถึงแม้รัมเบิลจะไม่เก่งในการต่อสู้ระยะประชิด แต่ทักษะการต่อสู้ของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าเดวาสต้าโตมาก ซึ่งเดวาสต้าโตนั้นมีจุดเด่นแค่ร่างกายใหญ่โตและการก่อสร้างเท่านั้นเอง
พอสังเกตเห็นว่าเดวาสต้าโตถอยไป ดวงตาของเขาก็กะพริบเล็กน้อย
เมื่อสังเกตเห็นว่าซุนเฉิงมองมาที่เขาอีกครั้ง อีกฝ่ายก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพูดว่า "ดูเหมือนว่าถึงแม้เจ้าจะฟื้นคืนชีพมาแล้ว เจ้าก็ยังคงใจร้อนเหมือนเดิมนะ จริงอยู่ที่เราถูกสตาร์สครีมเรียกตัวมายังโลก แต่ตอนนี้เราทำงานให้กับท่านฟอลเลนต่างหาก!"
“ท่านฟอลเลน?!”
ทันทีที่ชื่อนี้ออกมาจากปาก หัวใจของซุนเฉิงคล้ายจมดิ่งลงไปทันที
หากสตาร์สครีมเรียกเดวาสต้าโตและไซด์เวย์มาที่โลก แล้วจู่ ๆ สตาร์สครีมก็หายตัวไป....เรื่องทุกอย่างมันเข้าล็อคพอดีเลย
แถมเมื่อครู่ อีกฝ่ายได้พูดออกมาตามตรงว่าทำงานให้กับคน ๆ หนึ่งที่เรียกว่า "ฟอลเลน"
ทันใดนั้นคำพูดของออนสลอตก็ปรากฏขึ้นในใจของเขาอีกครั้ง "สตาร์สครีมกำลังเล่นกับไฟ สุดยอดผู้นำที่มีมาตั้งแต่สมัยสภาผู้อาวุโสยามนี้กำลังจำศีลบนดวงจันทร์!”
ดูเหมือนว่า "ฟอลเลน" ที่ไซด์เวย์สพูดถึง คงจะเป็นผู้นำระดับสูงคนเดียวกับที่ออนสล็อตเคยพูดถึง ผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่มาตั้งแต่สมัยสภาผู้อาวุโส!