ตอนที่แล้วตอนที่ 24 ทำไมถึงไม่มีภาพวาดแบบอื่น?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 26 ไม่ได้ บุตรชายของข้า จะเลวร้ายเหมือนก่อนไม่ได้!

ตอนที่ 25 การพบกันครั้งแรก


ตอนที่ 25 การพบกันครั้งแรก

"มีเรื่องอะไร?"

ในเวลานี้ ซวีมู่ไห่ก็ไม่กล้าปฏิเสธโดยตรง เดิมทีเขาไม่สนใจเรื่องของตระกูลเล็กๆ แบบนี้ แต่ในเมื่อหลี่ฉางชิงอยู่ที่ตระกูลเหยียน เขาก็ต้องให้เกียรติตระกูลเหยียน

เมื่อได้ยินซวีมู่ไห่ถาม เหยียนป๋อเทาก็รีบยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้ซวีมู่ไห่ จากนั้นก็รีบพูดว่า "เกิดเรื่องขึ้นที่เหมืองหนานซานของตระกูลเหยียน ทั้งหมดเขียนไว้ในจดหมายแล้ว"

ซวีมู่ไห่สะบัดจดหมาย นั่งลงอย่างสบายๆ อยากรู้ว่าในจดหมายเขียนว่าอะไร?

ในเวลานี้ เหยียนป๋อเทาก็รีบสั่งให้ผู้อาวุโสไปที่หอว่านซู ถามความเห็นของหลี่ฉางชิงว่าจะพบกับซวีมู่ไห่หรือไม่?

ซวีมู่ไห่มองดูเนื้อหาในจดหมาย

แต่เมื่ออ่านไปเรื่อยๆ สีหน้าของซวีมู่ไห่ก็ดูจริงจังขึ้น

คนงานเหมืองหลายคนของตระกูลเหยียนที่เหมืองหนานซานเคยเห็นดาวตก จากนั้นพวกเขาก็หมดสติไป

แต่เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นมา พวกเขากลับพบว่าตัวเองแก่ลงสิบกว่าปี

บางคนที่เป็นหนุ่มสาว กลับกลายเป็นคนวัยกลางคนโดยตรง

ส่วนคนที่เป็นวัยกลางคน ก็กลายเป็นชายชราผมหรอกขาว

แม้แต่ผู้อาวุโสที่ประจำอยู่ที่นั่นของตระกูลเหยียนก็เจอเรื่องแบบนี้เช่นกัน

ไม่เพียงแต่อายุขัยหายไป ขอบเขตบ่มเพาะก็ยังลดลงไปมากกว่าครึ่ง

เดิมทีการบ่มเพาะอยู่ที่ขอบเขตโฮ่วเทียนขั้นสมบูรณ์ ตอนนี้กลับเหลือเพียงขอบเขตขอบเขตทุยฟ่านขั้นเจ็ด

นอกจากนี้ ยังมีหมู่บ้านหลายแห่งที่อยู่ใกล้กับเหมืองหนานซานก็เกิดเรื่องแปลกๆ แบบนี้ขึ้น

เรื่องนี้ทำให้ผู้คนหวาดกลัว แม้แต่คนงานเหมืองก็หนีไปเกือบหมด ตอนนี้เหมืองหนานซานก็หยุดทำงานแล้ว

เรื่องนี้ทำให้คนของตระกูลเหยียนร้อนใจมาก

ร้อนใจก็ส่วนร้อนใจ แต่พวกเขาก็หาสาเหตุไม่พบ เรื่องแปลกๆ แบบนี้ แม้แต่เหยียนป๋อเทาและคนอื่นๆ ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน

หลังจากที่ซวีมู่ไห่อ่านจดหมายจบ เขาก็วางจดหมายไว้ข้างๆ หลับตาลงอย่างช้าๆ พึมพำกับตัวเองว่า "หรือว่าจะเป็น..."

ณ หอว่านซู

"ท่านผู้อาวุโส" ผู้อาวุโสของตระกูลเหยียนมาถึงหอวั่นซู เห็นหลี่ฉางชิงกำลังอ่านตำราอย่างเคลิบเคลิ้ม เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินเข้าไปทักทาย

"เรียกข้างั้นเหรอ?" ในเวลานี้ หลี่ฉางชิงก็รู้สึกตัว เห็นว่าเป็นคนของตระกูลหเยียน เขาจึงถามอย่างสุภาพว่า "ท่านมีเรื่องอะไรหรือไม่?"

"คือแบบนี้" ผู้อาวุโสคนนั้นรีบเดินเข้ามาใกล้ พูดอย่างนอบน้อมว่า "มีคนอยากจะพบกับท่านผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าท่านผู้อาวุโสจะสะดวกพบหรือไม่?"

"พบกับข้า?" หลี่ฉางชิงตกตะลึง ใครอยากจะพบกับเขา?

"ข้ารู้จักเขาหรือไม่?" หลี่ฉางชิงถามด้วยความประหลาดใจ

"น่าจะ... ไม่เคยพบกันมาก่อนกระมัง?" ผู้อาวุโสคนนั้นเดา เพราะถ้าเคยพบกันมาก่อน ก็ไม่จำเป็นต้องให้ตระกูลเหยียนแนะนำ ซวีมู่ไห่คงจะไปหาหลี่ฉางชิงเองแล้ว

หลี่ฉางชิงส่ายหน้า "งั้นไม่พบ"

ไม่รู้จักกัน จะพบทำไม เขาเกลียดการเข้าสังคมที่สุด

"เอ่อ..." ผู้อาวุโสคนนั้นไม่คิดเลยว่าหลี่ฉางชิงจะปฏิเสธโดยตรง นั่นคือจ้าวขุนเขาของแดนโบราณเต๋าซานนะ!

อิทธิพลมากมาย อยากจะพบก็ยังไม่ได้พบเลย!

ดังนั้นผู้อาวุโสของตระกูลเหยียนจึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ท่านผู้อาวุโส คนที่อยากจะพบกับท่านคือจ้าวขุนเขาแห่งยอดเขามู่ไห่ หนึ่งในสามสิบหกยอดเขาของแดนโบราณเต๋าซาน ท่านจะไม่พบจริงๆ งั้นเหรอ?"

"ว่าไงนะ!" หลี่ฉางชิงเลิกคิ้ว

แดนโบราณเต๋าซาน?

นั่นไม่ใช่สำนักที่บุตรชายที่แสนกตัญญูของเขาฝึกฝนอยู่งั้นหรือ?

เขาจะไม่พบได้อย่างไร ใช่ไหม?

บุตรชายของเจ้าเรียนอยู่ที่นั่น คนอื่นมาเยี่ยมบ้าน เจ้าบอกว่าไม่พบเนี้ยนะ?

งั้นบุตรชายของเจ้าจะไม่โดนคนอื่นรังแกหรือไง?

"ไป รีบพาข้าไปพบเขา" หลี่ฉางชิงรีบวางตำราลงบนชั้นวาง จากนั้นก็พูดอย่างร้อนรน

อาจารย์ของบุตรมาแล้ว ต้องต้อนรับขับสู้ให้ดี มิฉะนั้นอนาคตของบุตรชายจะเป็นอย่างไร?

"ข้าจะพาท่านไปขอรับ" ผู้อาวุโสคนนั้นรีบพูด

ซวีมู่ไห่ที่กำลังรออยู่ในห้องโถงก็ร้อนใจเล็กน้อย

ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ จะพบกับเขาหรือเปล่านะ?

"เฮ้อ—" ซวีมู่ไห่ตบหน้าผากตัวเอง ราวกับว่าทำเรื่องโง่ๆ

"จ้าวขุนเขามู่ไห่ ท่านเป็นอะไรไป?" เหยียนป๋อเทามองซวีมู่ไห่ด้วยความประหลาดใจ ถามอย่างไม่เข้าใจ

"ข้าควรจะไปยืนรอท่านผู้อาวุโสที่หน้าประตูหอว่านซู ทำไมถึงให้เขามาพบข้า ข้าพลาดจริงๆ" ซวีมู่ไห่พูดอย่างเสียใจ

"พาข้าไปที่หอว่านซูเถอะ" ซวีมู่ไห่รีบพูด

แต่พอพูดจบ ข้างนอกก็มีเสียงดังก้องดังขึ้น "ประมุข! ต้ากงเฟิงมาแล้ว"

"มาแล้ว!" เหยียนป๋อเทายิ้มแล้วพูดว่า "ดูเหมือนว่าจ้าวขุนเขาไม่ต้องไปแล้ว ท่านผู้อาวุโสฉางชิงมาแล้วล่ะขอรับ"

"ต้ากงเฟิง?" ซวีมู่ไห่มองเหยียนป๋อเทาด้วยความประหลาดใจ ตระกูลเหยียนเล็กๆ แบบนี้ แต่สามารถหลอกล่อผู้แข็งแกร่งเช่นนี้มาเป็นกงเฟิงได้?

ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ งั้นตระกูลเหยียนไม่ต้องทะยานขึ้นฟ้าหรอกหรือ?

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาถามเรื่องนี้ ซวีมู่ไห่ลุกขึ้นยืน ปัดเสื้อผ้าที่ไม่สะอาดของเขา

ในตอนนี้เอง หลี่ฉางชิงก็เดินเข้ามา

การพบกันครั้งแรก ซวีมู่ไห่จะอธิบายความรู้สึกของเขาอย่างไรดี

อือ… ดูเป็นคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง

เหมือนกับบัณฑิตที่ไม่มีความทะเยอทะยาน ซวีมู่ไห่รู้สึกว่าเขาดูทั่วๆ ไป ไม่เหมือนกับผู้เชี่ยวชาญที่ไร้เทียมทาน แม้แต่บนร่างกายของหลี่ฉางชิง เขาก็ยังไม่รู้สึกถึงปราณวิญญาณแม้แต่น้อย

แดนโบราณเต๋าซานก็มีช่างวาดภาพที่แข็งแกร่งเช่นกัน ซวีมู่ไห่รู้สึกถึงแรงกดดันจากปราณวิญญาณของพวกเขา นั่นคือความรู้สึกที่ผสานเข้ากับสวรรค์และปฐพี ทำให้สวรรค์และปฐพีมีเพียงเขา

แต่หลี่ฉางชิงกลับไม่มีเลย ราวกับปุถุชน?

ส่วนหลี่ฉางชิง เมื่อเห็นซวีมู่ไห่ครั้งแรก

ความรู้สึกของเขาก็คือ แดนโบราณเต๋าซานนี่มันยากจนจริงๆ!

จ้าวขุนเขาแต่งตัวเหมือนขอทาน เสื้อผ้าก็ไม่ได้ซักมานานแล้วกระมัง?

แม้แต่จ้าวขุนเขายังลำบากขนาดนี้ บุตรชายของเขาจะกินอิ่มนอนหลับที่แดนโบราณเต๋าซานหรือเปล่า?

คงจะผอมแห้งแรงน้อยไปแล้วใช่ไหม?

ซวีมู่ไห่คนนี้ดูไม่เหมือนจ้าวขุนเขาเลย ถ้าบอกว่าเขาเป็นผู้อาวุโสแปดถุงของพรรคกระยาจก หลี่ฉางชิงคงจะเชื่อมากกว่า

"หลี่ฉางชิง" หลี่ฉางชิงเดินเข้าไปใกล้ ประสานมือคารวะ

"ซวีมู่ไห่" เมื่อเห็นหลี่ฉางชิงทักทายก่อน ซวีมู่ไห่ก็รีบพูดอย่างสุภาพ

แม้ว่าหลี่ฉางชิงจะดูไม่เหมือนผู้เชี่ยวชาญ แต่ซวีมู่ไห่ก็ยังคงสุภาพ

ไม่ต้องพูดถึง งานแกะสลักไม้ที่หลี่ฉางชิงมอบให้ตระกูลเหยียนก่อนหน้านี้ มันทำให้เขาตกใจมาก มันเป็นสมบัติล้ำค่าที่เกินกว่าความรู้ของเขา

แค่เหยียนตงเฉินที่อยู่ในขอบเขตเสียนเทียน เข้าไปในร้านวาดภาพฉางชิง เขาก็ถูกฆ่าตายในทันที เรื่องแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาๆ จะทำได้อยู่แล้ว

"ยินดีที่ได้รู้จัก ยินดีที่ได้รู้จัก" หลี่ฉางชิงรีบพูดว่า "ได้ยินว่าท่านเป็นจ้าวขุนเขาของแดนโบราณเต๋าซาน บุตรชายของข้าก็เป็นศิษย์ของแดนโบราณเต๋าซาน ท่านก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโสในสำนักของเขา บุตรชายของข้าดื้อรั้น ทำให้ท่านจ้าวขุนเขาต้องลำบากแล้ว"

"ท่านสุภาพเกินไปแล้ว" เมื่อเห็นหลี่ฉางชิงสุภาพขนาดนี้ ซวีมู่ไห่ก็รู้สึกประหลาดใจ

นี่ถือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่พูดจาดีที่สุด และซวีมู่ไห่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เขารีบพูดอย่างสุภาพว่า "หลี่เหิงเซิงเป็นศิษย์ที่ดีในแดนโบราณเต๋าซาน ไม่คิดเลยว่าจะเป็นบุตรชายของท่านผู้อาวุโสฉางชิง ข้าเพิ่งรู้เรื่องนี้ ข้าจึงมาเยี่ยมเยียน"

"ไม่ต้องสุภาพ เชิญนั่ง" หลี่ฉางชิงรีบเชิญซวีมู่ไห่นั่งลง

เหยียนป๋อเทาที่อยู่ข้างๆ เห็นว่าทั้งสองคนกำลังจะคุยกัน เขาก็เดินไปที่ประตูอย่างรู้กาลเทศะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด