ตอนที่ 20 หอว่านซู
ตอนที่ 20 หอว่านซู
หลังจากเข้าไปในตระกูลเหยียนแล้ว หลี่ฉางชิงจึงรู้ว่าตระกูลใหญ่เป็นอย่างไร
ขนาดนี้ แทบจะเทียบเท่ากับพระราชวังต้องห้ามแล้ว
แม้ว่าชาติก่อนจะเคยเห็นบ้านของตระกูลใหญ่ในทีวี แต่การเห็นกับการเดินเข้ามาสัมผัสด้วยตัวเองนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
มีคนรับใช้มากมายกำลังยุ่งอยู่ ตึกต่างๆ มากมาย แกะสลักอย่างประณีต สวยงาม และหรูหรา!
หลี่ฉางชิงเดินไปสักพัก ข้ามสะพานบ้าง เดินอ้อมลานบ้านบ้าง เดินผ่านสวนบ้าง
เขาหลงทางเสียแล้ว…
คนรับใช้หลายคนเห็นหลี่ฉางชิง พวกเขาแสดงสีหน้าอยากรู้อยากเห็น แต่ไม่มีใครเข้ามาถาม
เพราะพวกเขาเห็นเรื่องแบบนี้จนชินแล้ว
คงเป็นคนโง่ที่ไม่รู้มาจากไหน อยากจะเข้ามาในตระกูลเหยียนเพื่อหาโอกาส
ถ้าเดินไปมั่วๆ เดี๋ยวก็โดนหน่วยลาดตระเวนของตระกูลเหยียนโยนออกไปอยู่ดี
"ขอถามหน่อย..." หลี่ฉางชิงเห็นคนรับใช้คนหนึ่งเดินผ่านไป กำลังจะถาม แต่คนรับใช้นั้นไม่ได้หันกลับมา รีบเดินจากไป
"รีบร้อนขนาดนี้เชียว ชีวิตในตระกูลเหยียนนี่รีบร้อนขนาดนี้เลยเหรอ?" หลี่ฉางชิงพูดไม่ออกอยู่บ้าง
ในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะดังมาแต่ไกล
เห็นเด็กหนุ่มหลายคนที่สวมชุดสีเหลืองเดินมาจากไม่ไกล เด็กหนุ่มเหล่านี้ดูมีชีวิตชีวา บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ดูจากเสื้อผ้าของพวกเขา หลี่ฉางชิงเดาว่าพวกเขาน่าจะเป็นคนของตระกูลเหยียน
เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าสุดดูหยิ่งยโส มีคนสามคนเดินอยู่ข้างๆ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความประจบสอพลอ
คนอื่นๆ ก็แสดงความเคารพเด็กหนุ่มคนนี้
"ขอถามหน่อย" หลี่ฉางชิงคิดว่าการถามพวกเขาน่าจะไม่มีปัญหา พวกเขาคุ้นเคยกับตระกูลเหยียน ต้องรู้ว่าตำราของตระกูลเหยียนอยู่ที่ไหนสินะ?
แต่พอหลี่ฉางชิงพูดจบ เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าสุดก็ขมวดคิ้ว มองหลี่ฉางชิง ในดวงตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ
"หลบไป อย่าขวางทาง มาจากไหน ไม่รู้จักกาลเทศะ ไสหัวไป" เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าสุดโบกมืออย่างไม่อดทน
"ยืนโง่อยู่ทำไม พี่เซิงให้เจ้าหลบ เจ้าหูหนวกหรือไง? ถ้าทำให้พี่เซิงฝึกฝนช้า เจ้ารับผิดชอบไหวหรือ?" คนที่เดินอยู่ข้างๆ เด็กหนุ่มคนนั้นก็พูดจาตำหนิหลี่ฉางชิง
ทุกคนต่างก็แย่งกันพูด หน้าแดงก่ำ กลัวว่าจะไม่ได้รับความสนใจจากพี่เซิงคนนี้
ไอ้เวรเอ๊ย! เด็กน้อยในตระกูลเหยียนนี่หยิ่งยโสกันหมดเลยเหรอไงวะ?
สิ่งนี้ทำให้หลี่ฉางชิงนึกถึงบุตรชายที่ไม่เอาไหนของเขาในชาติก่อน เหมือนกันไม่มีผิด!
ไร้มารยาทสิ้นดี!
หลี่ฉางชิงพับแขนเสื้อขึ้น เตรียมจะสั่งสอนเด็กหนุ่มที่หยิ่งยโสคนนี้
แต่พอจะลงมือ หลี่ฉางชิงก็นึกขึ้นได้
เวรเอ๊ย! ไม่ได้ๆๆๆๆ
เด็กพวกนี้เป็นผู้ฝึกยุทธ
แม้ว่าดูเหมือนการบ่มเพาะจะธรรมดา แต่พวกเขาก็เป็นผู้ฝึกยุทธ ส่วนเขาเป็นแค่คนธรรมดา ถ้าลงมือไป เขาก็คงจะโดนซ้อม
"ทำไม? เจ้าอยากจะลงมืองั้นเหรอ?" เห็นหลี่ฉางชิงพับแขนเสื้อขึ้น รูม่านตาของเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าสุดก็มีแสงเย็นชา
"หา?" หลี่ฉางชิงได้แต่แกล้งทำเป็นตกใจ "ลงมืออะไร? ข้า... อากาศมันร้อน ข้าก็เลยพับแขนเสื้อขึ้น"
"ฮ่าๆๆ" คำพูดนี้ทำให้เด็กหนุ่มหลายคนหัวเราะออกมา
ทำให้หลี่ฉางชิงรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง
เขาเป็นผู้ใหญ่สองชาติแล้ว กลับโดนเด็กน้อยหลายคนหัวเราะเยาะ!
"ไปๆๆ ไม่ต้องสนใจเขา" ทุกคนหัวเราะ เดินจากไป
หลี่ฉางชิงได้แต่ถอนหายใจ บอกตัวเองว่าอย่าโกรธ
"ท่านมาที่ตระกูลเหยียนมีธุระอะไรงั้นเหรอ? หลงทางหรือเปล่า? ท่านอยากจะหาใคร ตอนนี้ข้าว่างพอดี ข้าพาท่านไปได้"
ขณะที่หลี่ฉางชิงกำลังหลับตาสงบอารมณ์ จู่ๆ ก็มีเสียงใสๆ ดังขึ้นข้างๆ เขา
หลี่ฉางชิงลืมตาขึ้น พบว่ามีเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา
หลี่ฉางชิงจำได้ว่าเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนนี้ก็อยู่ในกลุ่มนั้นเช่นกัน เพียงแต่เขายืนอยู่ท้ายแถว ดูเหมือนจะชอบอยู่คนเดียว อละไม่ค่อยถูกกับคนอื่น
"เหยียนหานโจว เจ้ายังชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านอีกนะ เรื่องของตัวเองยังจัดการไม่ได้ ยังมีอารมณ์มาสนใจคนอื่น สมควรแล้วที่เจ้าจะโดนไล่ออกจากตระกูลเหยียน"
เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าสุดหันกลับมามองเยาะเย้ย
"พี่เซิง ไม่ต้องสนใจเขา คงรู้แล้วว่าตัวเองไม่มีหวังอยู่ต่อ เขาจึงยอมแพ้"
"อัจฉริยะในอดีต! ฮ่าๆ ตอนนี้แม้แต่ตระกูลเหยียนก็ยังอยู่ไม่ได้" บางคนถึงกับผิวปากใส่เด็กหนุ่มที่ชื่อเหยียนหานโจว
ได้ยินคำเยาะเย้ยของพวกเขา คิ้วของเหยียนหานโจวก็ขมวดเข้าหากัน แต่ไม่ได้พูดอะไร
หลี่ฉางชิงรู้สึกประหลาดใจกับจิตใจของเหยียนหานโจว เด็กหนุ่มอายุสิบสองสิบสามปี กลับอดทนได้ขนาดนี้
"ท่านลุง ท่านมาหาใครงั้นหรือ?" เหยียนหานโจวถามด้วยรอยยิ้ม "บางทีข้าอาจจะช่วยท่านได้"
"ข้าอยากจะหาที่อ่านตำรา" หลี่ฉางชิงพูดถึงจุดประสงค์ของการมา
"ที่อ่านตำรา?" เหยียนหานโจวตกตะลึง
"ในตระกูลเหยียนของพวกเจ้า ที่ไหนมีตำราเยอะที่สุด?" หลี่ฉางชิงเปลี่ยนวิธีถาม
"ที่ที่มีตำราอเยอะที่สุด แน่นอนว่าต้องเป็นหอว่านซู(หมื่นตำรา)" เหยียนหานโจวตอบโดยไม่คิด
"งั้นรบกวนเจ้าพาข้าไปที่หอว่านซูหน่อยได้ไหม?"
รู้ว่ามีที่ที่มีตำราเยอะจริงๆ หลี่ฉางชิงก็รู้สึกคาดหวัง
"ข้าสามารถท่านลุงไปได้" เหยียนหานโจวพูดด้วยรอยยิ้มแห้งๆ "แต่หอว่านซูเป็นสถานที่สำคัญของตระกูลเหยียน ข้างในไม่ใช่แค่มีตำรามากมาย แม้แต่ภาพวาดล้ำค่าหลายชิ้นก็ยังเก็บไว้ที่นั่น แม้แต่คนในตระกูลเหยียนของพวกเราก็ยังไม่มีสิทธิ์เข้าไป"
"ถ้าท่านลุงอยากจะเข้าไป คงจะเป็นไปไม่ได้" เหยียนหานโจวพูดตามตรงกับหลี่ฉางชิง
"ไม่รู้ว่าป้ายหยกนี้เข้าไปได้ไหม?" หลี่ฉางชิงหยิบป้ายหยกที่เหยียนป๋อเทาให้เขาออกมา
เมื่อเห็นป้ายหยกนั้น สีหน้าของเหยียนหานโจวก็เปลี่ยนไป
"คารวะต้ากงเฟิง!" เหยียนหานโจวก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว โค้งคำนับอย่างนอบน้อม
"ต้ากงเฟิง?" หลี่ฉางชิงมองป้ายหยกในมือด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดเลยว่าป้ายหยกนี้จะเป็นป้ายหยกของต้ากงเฟิง
แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ไม่สำคัญ หลี่ฉางชิงสนใจว่าป้ายหยกนี้จะทำให้เขาเข้าไปในหอว่านซูได้ไหม
"งั้นข้าเข้าไปในหอว่านซูได้ไหม?" หลี่ฉางชิงยื่นมือออกไป พยุงเหยียนหานโจวขึ้น
"ได้ขอรับ แน่นอนว่าได้!" เหยียนหานโจวรีบพูด "ตำแหน่งของต้ากงเฟิงในตระกูลเหยียนของพวกเรา เป็นรองเพียงแค่ประมุขตระกูล แน่นอนว่ามีสิทธิ์เข้าไปในหอว่านซู ผู้เยาว์จะพาท่านไปขอรับ"
พูดจบ เหยียนหานโจวก็ทำท่าเชื้อเชิญ
"ขอบคุณมาก" หลี่ฉางชิงยิ้มเอ่ยออกมา
ในเวลานี้ เหยียนป๋อเทากำลังอ่านจดหมายอยู่ในห้องทำงาน
เนื้อหาในจดหมายทำให้เหยียนป๋อเทาขมวดคิ้ว ราวกับว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
"มันคืออะไรกันแน่?" เหยียนป๋อเทาวางจดหมายลง พึมพำกับตัวเอง
ในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ
"ท่านประมุข" เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น
"ท่านผู้อาวุโสสามใช่ไหม? มีเรื่องอะไร เข้ามาพูดสิ" เหยียนป๋อเทาพูดอย่างใจเย็น
ประตูเปิดออด ผู้อาวุโสสามของตระกูลเหยียนเดินเข้ามาจากข้างนอก พูดด้วยความดีใจ "คนเบื่องล่างรายงานมาว่า ป้ายหยกต้ากงเฟิงปรากฏขึ้น น่าจะเป็นท่านผู้อาวุโสหลี่ฉางชิงมาที่ตระกูลเหยียนของพวกเรา"