ตอนที่แล้วตอนที่ 1 : นักรบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3: มังกรสัตว์เลี้ยง

ตอนที่ 2 : เหตุผลของการปฏิเสธ


ช่วงเช้าเวลา 06.30 น. หยางเทียนลุกจากเตียงหลังจากที่จัดความเรียบร้อย เขาก็สวมเสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบสีขาว

เพื่อสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น หยางเทียนเขาจึงต้องหวีผมของเขา

พ่อแม่ของหยางเทียนกำลังจะไปทำงาน และอาหารเช้าก็พร้อมแล้ว หยางเทียนกินข้าวต้มของเขา ตามด้วยกินขนมปังหนึ่งชิ้นแล้วมุ่งหน้าออกไปที่ประตู

เมื่อเห็นลูกชายของพวกเขารีบวิ่งออกไปที่ประตูแบบนั้น หยางหลิน และ หวังฮงต่างก็ถอนหายใจ พวกเขารู้ว่าหยางเทียนกำลังจะไปไหน ซึ่งทำให้กลายเป็นข่าวดังไปทั่วเมือง!

เกือบทุกปีสถาบันการทหารต่างๆ จะเปิดรับสมัครเพื่อหาคนรุ่นใหม่ไฟแรงเข้าสู่สถาบันการศึกษาของตน

อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนเตรียมทหารนี้ในฐานะนักเรียนและกลายเป็นนักรบในท้ายที่สุด

มันเป็นเรื่องของโชคที่ในแต่ละปีมีเพียงพันคนที่ได้รับเลือก จากผู้สมัครจำนวนหลายหมื่นคน ดังนั้นโอกาสที่จะไม่ถูกเลือกจึงมีสูงมาก

โรงเรียนเตรียมทหารเฉินเหว่ย เป็นหนึ่งในสามโรงเรียนเตรียมทหารที่สำคัญในเมืองเทียนซง และพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ด้วยเหตุนี้จึงสามารถลงโฆษณาทางโทรทัศน์ได้ ในขณะเดียวกันนั้น สถาบันเตรียมทหารอื่นๆ ก็รับทรานส์ฮิวแมนที่กินแกนอสูรเข้าไปบ้างแล้ว

หลังจากออกจากบ้าน หยางเทียนได้โทรหาโจวห่าวและตกลงที่จะไปเจอกันที่ตรงทางเข้าของโรงเรียนเตรียมทหารเฉินเหว่ย จากนั้นพวกเขาก็ไปสัมภาษณ์ด้วยกัน

เทียนซงเป็นเมืองที่กว้างใหญ่มาก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 500 ตารางกิโลเมตร หลังจากที่หยางเทียนวางสาย เขาก็ขึ้นรถบัส และเดินทางไปโรงเรียนเตรียมทหารเฉินเหว่ย

ครึ่งชั่วโมงต่อมา หยางเทียนก็มาถึงทางเข้าหลักของโรงเรียนเตรียมทหารเฉินเหว่ย

ทันทีที่ลงจากรถบัส โจวห่าวก็เห็นเขาในทันที

“หยางเทียน ฉันมาถึงก่อนนายสิบนาที ฉันลงทะเบียนให้นายแล้ว และก็ได้หมายเลขมาแล้ว” โจวห่าวส่งหมายเลขดังกล่าวให้หยางเทียนในขณะที่เขาพูด

‘’ขอบใจนะ’’ หยางเทียนกล่าวขอบคุณ และรับหมายเลขไปด้วยความเต็มใจ

“เราเป็นพี่น้องกันนิไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก” โจวห่าวต่อยเข้าไปที่หยางเทียนเบาๆ ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “เมื่อคืนนี้นายกับฉินเฟยได้ทำอะไรหรือเปล่า? พวกเราทุกคนก็เรียนจบกันแล้ว โอกาสข้างหน้าอาจมีไม่มากนัก”

หยางเทียนรู้ดีว่าโจวห่าวกำลังบอกเป็นนัยว่าอะไร เขายิ้มและตอบกลับไปว่า “ความก้าวหน้าของพวกเราไม่เร็วเท่ากับนายและหลีหยางหรอก เราแค่ไปเดินเล่นกันเมื่อคืน จากนั้นคนขับรถของเธอก็มารับกลับไป”

โจวห่าวส่ายหัวไปมา และมองไปที่หยางเทียน เขาคิดว่าหยางเทียนนั้นไร้เดียงสาเกินไป

ในขณะนั้นทั้งสองก็เข้าแถวรอเพื่อเข้ารับการทดสอบ

ที่นั่นมีผู้ปรารถนาที่จะเข้าร่วมการทดสอบมากมาย หยางเทียนรู้ได้ในทันทีว่าไม่ใช่เพียงเขาคนเดียวที่มีความฝันที่อยากจะเป็นนักรบ

ในวันนั้นมีผู้เข้าร่วมการทดสอบกว่าพันคน และในที่สุดหยางเทียน และโจวห่าวก็ได้เข้าทดสอบในเวลาเที่ยงพอดี

กระบวนการทดสอบนั้นง่ายมาก ขั้นแรกคือการตรวจเลือด จากนั้นสแกนร่างกายเพื่อหาอาการบาดเจ็บหรือโรค และสุดท้ายคือการทดสอบความแข็งแกร่ง ความทนทานของร่างกาย

ตลอดการทดสอบ ร่างกายของหยางเทียน และโจว ห่าวไม่พบความผิดปกติใดๆ

หลังจากนั้นเป็นการทดสอบความแข็งแกร่ง และความทนทานของร่างกาย

หยางเทียนยืนอยู่หน้าเครื่องทดสอบ และทุ่มเทอย่างกำลังอย่างเต็มที่เพื่อโจมตีเครื่องทดสอบ ขณะที่เขาทำเช่นนั้นมีเสียงดังกึกก้อง และมีตัวเลขปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วเหนือเครื่องทดสอบ

230 กิโลกรัม!

เมื่อดูคะแนนสอบแล้ว โจวห่าวซึ่งยืนอยู่ข้างๆ เขา ก็ยิ้มและตบไปที่ไหล่ของหยาง เทียนก่อนจะพูดว่า “หยางเทียน ฉันไม่คิดว่านายจะแข็งแกร่งเท่าฉัน แต่จะยังไงก็ตามไม่ใช่เล่นๆเลยนะนายน่ะ!”

หยางเทียนพยักหน้า “อย่าดูถูกกันแบบนั้นซิ เห็นแบบนี้ฉันก็ฝึกอยู่ทุกวันนะ”

ค่าพละกำลังของโจวห่าวคือ 233 กิโลกรัม

เมื่อเทียบกับบันทึกการทดลองก่อนหน้านี้ ทั้งสองมีความแข็งแกร่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย ผลคะแนนที่บันทึกก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าผู้เข้ารับการทดสอบทำคะแนนได้เฉลี่ยที่ 195 กิโลกรัม

ตัวบันทึกผลจากเครื่องทดสอบบันทึกผลลัพธ์ของหยางเทียน และโจวห่าวอย่างรวดเร็ว เมื่อพิจารณาจากอายุของพวกเขาแล้ว ช่างน่าประทับใจมากที่พวกเขาสามารถบรรลุผลดังกล่าวได้

ถัดไปคือการทดสอบความทนทานของร่างกาย

การทดสอบนี้ง่ายมาก พวกเขาต้องสะพายเป้หนักๆ และวิ่งไปตามเส้นทางภายในโรงเรียนเตรียมทหาร พวกเขาจำเป็นต้องวิ่งด้วยความเร็ว 100 เมตรต่อนาที ยิ่งวิ่งได้นานเท่าไรก็ยิ่งมีความอดทนมากเท่านั้น

หากอยู่ได้หนึ่งชั่วโมงพวกเขาจะผ่านไปด้วยคะแนน 60 คะแนน ทุก ๆ สิบนาทีหลังจากนั้น จะมีการเพิ่มอีก 5 คะแนน ไปเรื่อยๆจนกว่าจะวิ่งต่อไปไม่ไหว

เมื่อหยางเทียน และ โจวห่าวมาถึงยังสถานที่ทดสอบ พวกเขาได้เห็นผู้คนมากมาย บ้างก็เพิ่งจะเริ่มทดสอบซึ่งดูแล้วไม่มีท่าทางที่จะกังวลใดๆ ในขณะที่คนอื่นที่เริ่มวิ่งมานานแล้วมีอาหารหอบอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นแล้วทุกคนก็ยังคนฝืนที่จะวิ่งต่อไปถึงแม้ว่าสีหน้าจะดูหมดแรงแล้วก็ตาม

“เริ่มการทดสอบได้!”

หลังจากที่สะพายเป้หนักๆขึ้นบนหลัง หยางเทียน และโจวห่าวก็เริ่มออกวิ่ง

ก่อนถึงเวลาหนึ่งชั่วโมง หยางเทียนรู้สึกถึงขาของเขาที่เริ่มหนักอึ้งและเริ่มอืดลงในทุกๆที กระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่ที่หลังนั้นเริ่มให้ความรู้สึกหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ

“ไม่มีทาง! ฉันจะต้องได้คะแนนมากกว่านี้! และกลายเป็นนักรบให้ได้!” หยางเทียนพูดกับตัวเองพลันกัดฟันอดทนก้าวขาต่อไป

และในที่สุดเวลาก็ผ่านไป 1 ชั่วโมง ซึ่งทำให้เขานั้นได้ 60 คะแนนไปในที่สุด

น้ำหนักของเป้สะพายหลังได้รับการปรับปรุงอย่างพิถีพิถันเพื่อให้คนส่วนใหญ่สามารถทนต่อมันได้

ประมาณหนึ่งชั่วโมง นั่นหมายความว่าผู้สมัครส่วนใหญ่จะถูกคัดออกในช่วงนั้น

60 คะแนนงั้นเหรอต่ำเกินไป

'ฉันต้องเป็นนักรบให้ได้!'

ด้วยคำพูดนี้ในหัวของเขา หยางเทียน’กัดฟันและอดทน

1 ชั่วโมง 10 นาที , 65 คะแนน

1 ชั่วโมง 20 นาที , 70 คะแนน

2 ชั่วโมง 10 นาที , 95 คะแนน!

หยางเทียนไม่สามารถเดินต่อได้มากกว่านี้แล้ว ขณะนั้นเองตัวเขาก็ล้มลงกับพื้นเสียงดังกึกก้อง

โจวห่าวเสร็จสิ้นการทดสอบก่อนหยางเทียน เพียง 10 นาที และเขาก็อดที่จะตกใจไม่ได้และรีบวิ่งไปหาหยางเทียนในทันที ในขณะเดียวกันนั้นหน่วยปฐมพยาบาลก็มาถึงหยางเทียน และเริ่มปฐมพยาบาลในทันที

ในไม่กี่นาทีถัดมาหยางเทียนก็เริ่มรู้สึกตัวในที่สุด

“เฮะ เฮะ..เฮะ!” หยางเทียนหัวเราะเบา ๆ เมื่อเห็นใบหน้าที่เป็นกังวลของโจว ห่าว

หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบหยางเทียน และโจวห่าวก็มารอผลลัพท์กันอย่างใจจดใจจ่อ

เวลา 19.00 ในที่สุดผลลัพท์ก็ถูกประกาศ

“เป็นไปได้ยังไง! คะแนนของฉันสูงกว่าของนาย, แล้วทำไมนายถึงได้รับเลือก, แต่ของฉันไม่ถูกเลือก? ทำไมกัน? มันเกิดอะไรขึ้น…”

เมื่อทั้งสองได้รู้ผลลัพธ์แล้ว หยางเทียนก็ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาได้เห็น

ซึ่งก็เพราะว่า โจวห่าวได้รับจดหมายจากโรงเรียนเตรียมทหารเฉินเหว่ยว่าผ่านการทดสอบ

ในขณะที่ หยางเทียนนั้นได้รับจดหมายปฏิเสธ โดยมีเนื้อหาว่า

[ขออภัย คุณไม่เหมาะที่จะเป็นนักรบ]

เพียงแค่ประโยคสั้นๆ ก็ทำให้ความฝันของหยางเทียนพังทลายไปในทันที

เพื่อที่จะเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเฉินเหว่ยหลังจากที่เขาเรียนจบมัธยมปลาย หยางเทียนได้ตื่นขึ้นทุกวันก่อนรุ่งสางเพื่อฝึกร่างกายของเขา สามปีผ่านไปเหมือนหนึ่งวัน และถึงแม้สภาพอากาศเลวร้ายก็ไม่หยุดยั้งความตั้งใจของเขาได้

เขาเข้ารับการทดสอบเหล่านี้ด้วยความมั่นใจเต็มร้อย ทั้งที่เป็นอย่างนั้น ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นอยู่นอกเหนือความคาดหมายและความเข้าใจของ หยางเทียน

“หยางเทียน อย่าตื่นเต้นเกินไป ครั้งนี้ถึงจะทำไม่ได้ แต่มันก็มีครั้งหน้าเสมอ! ในอนาคตเมื่อฉันได้เป็นนักรบและได้รับแกนอสูร ฉันจะช่วยให้นายก้าวขึ้นเป็นทรานส์ฮิวแมน และนายก็จะได้เข้าร่วม โรงเรียนเตรียมทหารที่ อื่น ๆได้ …”

โจวห่าวเข้าใจว่าหยางเทียนรู้สึกอย่างไรและพยายามปลอบใจเขา

ครู่ต่อมา หยางเทียนก็สงบลงในที่สุด เขาก็พูดกับ โจวห่าว ว่า “ไปกันเถอะ! ฉันจะกลับมาปีหน้า! ในตอนนี้ฉันอาจจะยังเด็กอยู่ แต่ฉันไม่เชื่อว่าฉันจะทำมันไม่ได้!”

ทั้งสองเพิ่งออกจากประตูหลักของโรงเรียนเตรียมทหารเฉินเหว่ย และได้สังเหตุเห็นชายหนุ่มคนหนึ่ง

เขายิ้มมาที่หยางเทียน ในขณะที่เดินมาหาเขา

“หยางเทียน ที่นายไม่ได้รับเลือก! นายรู้ไหมว่าทำไม?” ชายหนุ่มหยุดอยู่ตรงหน้าหยางเทียนและมองเขาขณะที่เขาพูดด้วยท่าที่ที่ไม่เป็นมิตร

หยางเทียน และโจวห่าวรู้ได้ในทันทีว่าคนคนนี้ คือซุนยู ซึ่งเป็นคนที่มอบดอกไม้ให้กับฉินเฟยที่หน้าโรงเรียนเมื่อวานนี้

“แกเป็นคนทำอย่างงั้นเหรอ?” หยางเทียน ได้พูดขึ้นพลันกัดฟันแน่น

ซุนยูหัวเราะ "แน่นอน! ผลคะแนนของแกไม่ได้แย่จริงๆ! ในการทดสอบเหล่านี้ที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่าหมื่นคน ผลลัพธ์ของแกอาจพูดได้ว่าอยู่ในร้อยอันดับแรก แต่ว่าก็น่าเสียดาย! ปลาตีนอย่างนายหวังกินเนื้อหงส์ ความใฝ่ฝันของแกที่จะได้อยู่กับฉินเฟยนะเหรอ ขอบอกเลยว่าแกนะเป็นเพียงแค่ตั๊กแตนตัวต่ำในดิน แกจะไม่มีวันกลายเป็นนกอินทรีบนท้องฟ้า!”

“แม่งเอ้ย!” ซุนยูเพิ่งจะด่าเสร็จไม่ทันไร หยางเทียนก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนใส่และชกหน้าเข้าไปที่หน้าซุนยู

อย่างไรก็ตาม หมัดของหยางเทียนไปได้ไม่ถึงครึ่งทาง ซุนยูก็ใช้มือรับและเบี่ยง ผลักเขาออกไปอย่างง่ายดาย

แม้ว่าแรงผลักนี้จะดูไม่มากนัก แต่หยางเทียนก็ล้มลงกับพื้น

“ฝีมือแกห่างไกลเกินกว่าที่จะสู้กับนักรบระดับหนึ่งอย่างฉัน” ซุนยูมองลงไปที่หยางเทียนที่ยังคงอยู่บนพื้นขณะที่เขาพูดอย่างเยาะเย้ย “ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉันอยากเห็นแกอับอาย และถูกปฏิเสธโดยตระกูลฉิน ฉันคงฆ่าแกไปนานแล้ว ที่ผ่านมาหัดรู้จักที่ต่ำที่สูงซะบ้าง เด็กน้อย มีอะไรอีกมากมายที่แกยังไม่เข้าใจ!”

เมื่อซุนยูพูดจบ เขาก็ดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าเสื้อ และเช็ดมือก่อนที่จะขว้างไปที่หยางเทียน จากนั้นเขาก็หันหลังและเดินจากไป

หยางเทียนลุกขึ้น และกัดฟันแน่นขณะที่เขามองดูซุนยูจากไป เขาสาบานกับตัวเองอย่างเงียบๆ ว่าสักวันหนึ่งเขาจะแก้แค้นคนคนนี้และตอบแทนเขาสำหรับความอัปยศนี้อย่างสาสม

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด