ตอนที่แล้วตอนที่ 17 ผู้เยาว์นามว่าหลี่เหิงเซิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 19 เช้าวันใหม่ที่แสนสบาย

ตอนที่ 18 ซวีมู่ไห่มาแล้ว


ตอนที่ 18 ซวีมู่ไห่มาแล้ว

เมื่อพูดคำนี้ออกมา ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ตกใจ

ทุกคนมองหน้ากัน พวกเขาเข้าใจจากแววตาของกันและกันแล้วว่า ทำไมกุ่ยซิ่วสามฝ่ายถึงต้องแย่งชิงลู่เฉียวเฉียว

มันก็เพราะแผ่นป้ายอันนั้น!

จากนั้นหลี่เหิงเซิงก็เล่าเรื่องที่เหลือ

"เอาล่ะ เจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ" หลี่จื้อลุกขึ้นยืน เรียกศิษย์คนหนึ่งมา "ไปส่งศิษย์น้องผู้นี้หน่อย"

"ศิษย์น้อง เชิญทางนี้" ศิษย์คนนั้นพูดอย่างสุภาพ

"รบกวนศิษย์พี่แล้ว" หลี่เหิงเซิงหันหลังกลับ เดินจากไปพร้อมกับศิษย์คนนั้น

รอจนกระทั่งหลี่เหิงเซิงจากไป หลี่จื้อก็สูดหายใจเข้าลึกๆ "ป้ายหยกฉีซาน ไม่คิดเลยว่าป้ายหยกฉีซานชิ้นที่สามจะปรากฏขึ้น ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาถึงแย่งชิงลู่เฉียวเฉียวอย่างเอาเป็นเอาตาย แบบนี้ ทุกอย่างก็อธิบายได้แล้ว"

"อธิบายไม่ได้" จ้าวขุนเขาร่างอ้วนคนนั้นขมวดคิ้ว "การปรากฏตัวของป้ายหยกฉีซานไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยาก สิ่งที่ข้าไม่เข้าใจก็คือ หลี่เหิงเซิงผู้นี้บอกว่าพัสดุนั้นบิดาของเขาส่งมา ทำไมป้ายหยกฉีซานถึงอยู่ที่บิดาของเขา"

คนอื่นๆ ก็รู้สึกแปลกๆ เช่นกัน

"มันแปลกตรงไหน" ในเวลานี้ ซวีมู่ไห่ยิ้มแล้วพูดว่า "ป้ายหยกฉีซานนี้ก่อนหน้านั้นต้องอยู่ในมือของเหยียนตงเฉิน ต่อมาเหยียนตงเฉินถูกข้าไล่ล่า กลัวว่าข้าจะหาป้ายหยกฉีซานเจอ จึงซ่อนป้ายหยกฉีซานไว้ในพัสดุของสำนักคุ้มกันชางหยวนก็เป็นไปได้"

"บังเอิญพัสดุใบนั้นส่งมาให้ศิษย์ของแดนโบราณเต๋าซานของพวกเรา ป้ายหยกฉีซานจึงปรากฏขึ้นในมือของหลี่เหิงเซิง ต่อมาก็ถึงมือลู่เฉียวเฉียวโดยบังเอิญ"

"ข้าคิดว่า… ลู่เฉียวเฉียวคงจะกลั่นป้ายหยกฉีซานโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อป้ายหยกฉีซานถูกกลั่น กุ่ยซิ่วที่อยู่ใกล้ๆ คงจะสัมผัสได้ จึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น" ในเวลานี้ ซวีมู่ไห่อธิบายให้ทุกคนฟัง

ฟังสิ่งที่ซวีมู่ไห่พูด ดูเหมือนจะมีเหตุผล ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าจะคิดอย่างไร ตอนนี้ก็มีเพียงคำอธิบายนี้เท่านั้นที่สมเหตุสมผล

ทุกคนจึงยอมรับคำอธิบายนี้

ก่อนที่จะมา พวกเขาได้สืบประวัติของหลี่เหิงเซิงแล้ว

หลี่ฉางชิง แม้ว่าจะเป็นช่างวาดภาพ แต่ก็ตกอับมาก ไม่มีพรสวรรค์ ไม่มีอะไรน่าสนใจ

นอกจากคำอธิบายของซวีมู่ไห่ พวกเขาก็คิดคำอธิบายอื่นไม่ออกจริงๆ

"เดิมทีพวกเขาอยากจะแย่งชิงป้ายหยกฉีซาน แต่ป้ายหยกฉีซานถูกลู่เฉียวเฉียวกลั่นไปแล้ว พวกเขาจึงได้แต่พาลู่เฉียวเฉียวไป"

"ป้ายหยกฉีซานเป็นของเจ้าเมืองฉีซาน เขาเคยมอบป้ายหยกฉีซานสามชิ้นให้กับคนอื่น ผู้ที่ถือป้ายหยกฉีซานสามารถกลั่นป้ายหยกฉีซาน แล้วไปหาเจ้าเมืองฉีซานเพื่อขอให้เจ้าเมืองฉีซานลงมือให้หนึ่งครั้ง"

"ป้ายหยกฉีซานสองชิ้นแรกถูกคนใช้ไปแล้ว คือหุบเขาหมอเทวะกับอิ๋นเฟิงฉีแห่งอาณาจักรเป่ยหาน ป้ายหยกฉีซานสองชิ้นนั้นเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาโดยตรง"

"ส่วนชิ้นที่สามนี้ ถูกเก็บไว้นานมาก แต่ถูกตึกสิบหยินหาเจอ เพียงแต่มีข่าวลือว่าตอนนี้เจ้าเมืองฉีซานกำลังเก็บตัวบ่มเพาะอย่างสันโดษ ถ้าอยากจะหาเขา อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งปี"

จ้าวขุนเขาร่างอ้วนคนนั้นยิ้มแห้งๆ "ถ้าอิทธิพลอื่นๆ ในดินแดนรกร้างรู้ว่าจักรวรรดิโบราณฉางเย่ได้ป้ายหยกฉีซานมา ในช่วงเวลาหนึ่งปีนี้ ลู่เฉียวเฉียวคงจะโดนลอบสังหารนับครั้งไม่ถ้วน"

"มีข่าวลือว่าเจ้าเมืองฉีซานบ่มเพาะจนถึงขอบเขตตี้เสินเซียน(เซียนเดินดิน) แล้ว ถ้าเขาลงมือ คนที่สามารถต้านทานได้มีเพียงไม่กี่คน ศัตรูเก่าของจักรวรรดิโบราณฉางเย่ต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อแย่งชิงป้ายหยกฉีซานชิ้นนี้กลับมาอย่างแน่นอน"

เห็นทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ซวีมู่ไห่ก็หาวออกมา ยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน "พวกเจ้าคุยกันต่อเถอะ ข้าจะกลับไปนอนที่ยอดเขามู่ไห่(ชื่นชมสมุทร) ของข้า วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว"

พูดจบ เขาก็ไม่สนใจคนอื่น เดินจากไปโดยตรง

สำหรับความแปลกประหลาดของซวีมู่ไห่ ทุกคนเห็นจนชินแล้ว จึงไม่ได้สนใจ ตอนนี้พวกเขาสนใจเรื่องของป้ายหยกฉีซานมากกว่า

ในเมื่อป้ายหยกฉีซานปรากฏขึ้น พวกเขาก็ต้องรายงานเรื่องนี้

น่าเสียดายที่เจ้าสำนักไม่อยู่

พวกเขาก็ไม่ได้รีบร้อน ถ้าจักรวรรดิโบราณฉางเย่จะลงมือ มันก็คงจะไม่ใช่ตอนนี้ เจ้าเมืองฉีซานกำลังเก็ยตัวบ่มเพาะอย่างสันโดษ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหนึ่งปีกว่าจะออกจากการบำเพ็ญเพียร

นั่นก็คือ ภายในหนึ่งปีนี้ จักรวรรดิโบราณฉางเย่ไม่สามารถขอให้เจ้าเมืองฉีซานทำอะไรได้…

หลี่เหิงเซิงกลับมาที่ห้องของเขา เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ทำให้อารมณ์ของเขาไม่สงบ

เขาอยากจะแข็งแกร่งขึ้น

เขาอยากจะเป็นผู้แข็งแกร่ง วันหนึ่งจะได้พบกับลู่เฉียวเฉียวอีกครั้ง

นี่ก็เป็นคำสัญญาที่เขามอบให้กับลู่เฉียวเฉียว

แต่จะแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไร หลี่เหิงเซิงรู้ดีว่าคุณสมบัติของเขาธรรมดา

พยายามอย่างหนัก ในอนาคตอาจจะบ่มเพาะจนถึงจุดสูงสุดของขอบเขตโฮ่วเทียนได้ ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว

จุดสูงสุดของขอบเขตโฮ่วเทียน ย่อมถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้ว

แต่แบบนี้ยังไม่เพียงพอที่จะไปถึงระดับของลู่เฉียวเฉียว หลี่เหิงเซิงไม่รู้ว่าจักรวรรดิโบราณฉางเย่คืออะไร แต่หลี่เหิงเซิงรู้จักฉู่ฉางคง

อายุสิบเอ็ดขวบก็เป็นขอบเขตเสียนเทียนแล้ว

แววตาที่มองเขาเหมือนกับมองมดตัวเล็กๆ ที่สามารถเหยียบให้ตายได้ทุกเมื่อ จนถึงตอนนี้หลี่เหิงเซิงก็ยังลืมไม่ได้

ก๊อกๆๆ

ขณะที่หลี่เหิงเซิงกำลังคิดว่าจะทำอย่างไร จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นข้างนอก

"ผู้ใด?"

หลี่เหิงเซิงเดินไปเปิดประตู

เดิมทีคิดว่าเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องคนไหนที่รู้เรื่องวันนี้ แล้วมาปลอบใจเขา แต่พอเปิดประตู หลี่เหิงเซิงก็ตกตะลึง

คนที่อยู่หน้าประตูคือซวีมู่ไห่!

จ้าวขุนเขาแห่งยอดเขามู่ไห่!

ยิ่งไปกว่านั้น หลี่เหิงเซิงรู้ดีว่า ในบรรดาจ้าวขุนเขาทั้งสามสิบหกคนของแดนโบราณเต๋าซาน การบ่มเพาะของซวีมู่ไห่อยู่ในสามอันดับแรก

แม้ว่าซวีมู่ไห่จะดูไม่เอาไหน เสื้อผ้าก็ขาดรุ่งริ่ง แม้แต่บนยอดเขามู่ไห่ก็ยังมีคนไม่กี่คน แต่ซวีมู่ไห่เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่สามารถเข้าใจ "ตราประทับห้าขุนเขา" ถึงขั้นที่สี่ได้

เพียงเท่านี้ ซวีมู่ไห่ก็สามารถยืนหยัดอยู่เหนือคนอื่นได้

หลี่เหิงเซิงไม่คิดเลยว่าซวีมู่ไห่จะมาหาเขา

"จ้าวขุนเขามู่ไห่" หลี่เหิงเซิงรีบพูดอย่างนอบน้อม

"เจ้าชื่อหลี่เหิงเซิง?" ซวีมู่ไห่มองหลี่เหิงเซิงด้วยรอยยิ้ม

"ขอรับ ศิษย์ชื่อหลี่เหิงเซิง" หลี่เหิงเซิงพูด

"ข้ามาปรึกษาเรื่องหนึ่งกับเจ้า" ซวีมู่ไห่เดินเข้าไปในห้อง จากนั้นปิดประตู

"จ้าวขุนเขาโปรดพูด" หลี่เหิงเซิงรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง ซวีมู่ไห่มีเรื่องอะไร ถึงต้องมาปรึกษากับเขา?

เขาเป็นแค่ศิษย์รับใช้คนหนึ่ง

"มาที่ยอดเขามู่ไห่ของข้า และมาเป็นศิษย์สายตรงของข้า เจ้าเต็มใจไหม?" ซวีมู่ไห่มองหลี่เหิงเซิงอย่างจริงจัง

"หา?"

หลี่เหิงเซิงตกตะลึง

เป็น... เป็นศิษย์สายตรงของซวีมู่ไห่?

มันเกิดอะไรขึ้น?

ซวีมู่ไห่เมาสุรามาหรือเปล่า?

หรือว่าตอนกลางวันสู้กับกุ่ยซิ่วแล้วหัวกระแทกพื้น?

"จ้าวขุนเขามู่ไห่ ท่านล้อข้าเล่นใช่ไหม?" หลี่เหิงเซิงยังคงไม่อยากจะเชื่อ เรื่องนี้มันเหลือเชื่อเกินไป

แต่ซวีมู่ไห่กลับส่ายหน้า "ข้าไม่ได้ล้อเล่นกับเจ้า ตอบมาว่าเจ้าเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็พอ"

"ศิษย์เต็มใจขอรับ!"

โอกาสแบบนี้ ใครไม่เต็มใจก็โง่แล้ว

หลี่เหิงเซิงกำลังกังวลว่าจะพัฒนาตัวเองได้อย่างไร ซวีมู่ไห่ก็มาขอรับเขาเป็นศิษย์พอดี

ตามซวีมู่ไห่ การพัฒนาตัวเองยังยากอีกหรือไง?

ส่วนเหตุผลที่เลือกเขา หลี่เหิงเซิงย่อมไม่สนใจแล้ว!

"ดี รอข้าสักสองสามวัน นอกจากถามเจ้าแล้ว ข้ายังต้องถามคนอีกผู้หนึ่ง ถ้าเขาตกลง ข้าถึงจะรับเจ้าเป็นศิษย์ได้" ซวีมู่ไห่มองหลี่เหิงเซิงอย่างจริงจัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด