ตอนที่แล้วตอนที่ 15 จักรวรรดิโบราณฉางเย่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17 ผู้เยาว์นามว่าหลี่เหิงเซิง

ตอนที่ 16 คนต้องกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง


ตอนที่ 16 คนต้องกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง

"ศิษย์น้องลู่!"

หลี่เหิงเซิงแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

"ลู่เฉียวเฉียว?"

จ้าวขุนเขาทั้งหกคนก็หันไปมองลู่เฉียวเฉียว พวกเขาไม่คิดเลยว่าในเวลานี้ ลู่เฉียวเฉียวจะเลือกจากไปกับคนของจักรวรรดิโบราณฉางเย่

"เป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด" ฉู่ฉางคงยิ้มแล้วพูดว่า "ในแดนโบราณเต๋าซานแห่งนี้ เจ้าเป็นแค่ศิษย์รับใช้ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แดนโบราณเต๋าซานจะยอมเสียทรัพยากรมาบ่มเพาะเจ้าได้อย่างไร แต่ถ้าเจ้ามาที่จักรวรรดิโบราณฉางเย่ของพวกข้า มันจะไม่เหมือนกัน"

"เจ้าจะได้เป็นนักบุญศักดิ์สิทธิ์ของจักรวรรดิโบราณฉางเย่ของข้า และเราจะมีทรัพยากรมากมายมาบ่มเพาะเจ้า"

ในเวลานี้ สีหน้าของเจียงหู่กับฉงอวิ๋นเหนียงก็ดูน่าเกลียดมาก

ลู่เฉียวเฉียวจะไปจักรวรรดิโบราณฉางเย่

พวกเขาทั้งสองฝ่ายต่างก็แย่งชิงลู่เฉียวเฉียวไม่สำเร็จ

"ศิษย์น้องลู่ เจ้าไปกับพวกเขาไม่ได้ คำพูดของเผ่าพันธุ์ภูติผีเชื่อถือไม่ได้ พวกเขาเจ้าเล่ห์เพทุบาย เลวทรามต่ำช้า ถ้าเจ้าไปกับพวกเขา ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาจะทำอะไรกับเจ้า!" หลี่เหิงเซิงเดินเข้าไปจับมือของลู่เฉียวเฉียว น้ำเสียงสั่นเทา "กลับไปกับศิษย์พี่ วันนี้มีจ้าวขุนเขาทั้งหกคนอยู่ที่นี่ ไม่มีใครพาเจ้าไปได้"

"วันนี้ศิษย์พี่จะยอมสละชีวิต ก็จะปกป้องเจ้า!"

แต่หลังจากที่พูดจบ ดวงตาของลู่เฉียวเฉียวกลับมีความแน่วแน่ ยกมือขึ้น สะบัดมือออกจากมือของหลี่เหิงเซิงอย่างแรง

"ศิษย์พี่หลี่" ลู่เฉียวเฉียวหันไปมองหลี่เหิงเซิง "ท่านอย่าโง่นักเลย"

"ข้า..." หลี่เหิงเซิงมองลู่เฉียวเฉียวตรงหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ราวกับว่านางกลายเป็นคนละคน

"กลับไป?"

"กลับไปทำไม?"

"กลับไปที่ยอดเขาว่านไจ่ เพื่อเป็นศิษย์รับใช้ต่อไป จากนั้นทำงานที่ไม่มีวันสิ้นสุด ทุกเดือนได้ทรัพยากรสำหรับฝึกฝนเพียงเล็กน้อย แล้วก็พยายามไต่เต้าขึ้นไปอย่างยากลำบากแบบนั้นหรือ?"

"หรือว่าท่านอยากให้ข้ากลับไป แล้วโดนตระกูลเรียกตัวกลับ แล้วก็แต่งงานกับบุตรชายคนที่สองของตระกูลไห่ที่เลวทรามผู้นั้น?"

หลี่เหิงเซิงกำลังจะพูด แต่พอพูดออกมา หลี่เหิงเซิงก็พบว่าบนใบหน้าที่ดูเย็นชาของลู่เฉียวเฉียวในเวลานี้ กลับมีน้ำตาไหลออกมา

น้ำตาหยดนี้ทำให้หลี่เหิงเซิงพูดไม่ออก

"ศิษย์พี่หลี่ ช่วงนี้ข้าเข้าใจอะไรบางอย่าง"

"นั่นก็คือ ถ้าไม่มีพลัง ก็จะโดนคนรังแก กฎเกณฑ์ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงนี้ ใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย ถ้าข้ามีพลัง ข้าก็ไม่ต้องแต่งงานกับบุตรชายคนที่สองของตระกูลไห่..."

"ถ้าข้ามีพลัง วันนี้ข้าก็ไม่ต้องซ่อนตัวอยู่ข้างหลังท่านอย่างหวาดกลัว เมื่อเผชิญหน้ากับกุ่ยซิ่วทั้งสองฝ่ายนี้"

"ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ถึงจะทำในสิ่งที่อยากทำได้ ใช่ไหม?" ลู่เฉียวเฉียวฝืนยิ้ม "เหมือนกับศิษย์พี่หลี่ ถ้าท่านแข็งแกร่งพอ ท่านก็คงจะไม่หลบเลี่ยงคำถามที่ข้าถามท่าน… ใช่ไหม?"

คำพูดนี้ทำให้หัวใจของหลี่เหิงเซิงสั่นสะเทือน

ใช่แล้ว ถ้าเขามีพลัง ทำไมเขาถึงไม่กล้าแม้แต่จะพูดคำว่าชอบ เมื่อเผชิญหน้ากับลู่เฉียวเฉียว

ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับนาง?

"หวังว่าจ้าวขุนเขาทุกท่านจะอนุญาต" ลู่เฉียวเฉียวหันไปมองจ้าวขุนเขาทั้งหกคน จากนั้นก็โค้งคำนับอย่างนอบน้อม

ทุกคนมองหน้ากัน ครู่หนึ่งก็ไม่รู้จะพูดอะไร

"ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว พวกเราก็จะไม่ขัดขวาง แต่หวังว่าเจ้าจะดูแลตัวเองให้ดี" เสื้อผ้าของซวีมู่ไห่โบกสะบัด "ในอนาคต ถ้าเจ้าทำร้ายเผ่าพันธุ์มนุษย์ ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน"

"เอาล่ะ นักบุญศักดิ์สิทธิ์ พวกเราไปได้แล้ว" ฉู่ฉางคงยิ้มแล้วพูดออกมา

ลู่เฉียวเฉียวมองไปที่ฉู่ฉางคง "แม้ว่า… ข้าจะไม่รู้ว่าทำไมพวกท่านถึงต้องพาข้ากลับไป แต่ข้าอยากให้ท่านสัญญากับข้าเรื่องหนึ่ง"

"ไม่เคยมีใครกล้าเรียกร้องให้ข้าทำอะไร แต่ข้าจะละเว้นนักบุญศักดิ์สิทธิ์อย่างเจ้า ลองพูดมาให้ข้าฟังก่อนก็แล้วกัน" รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่ฉางคงก็หายไป ในดวงตาของเขาก็มีความไม่อดทนอยู่บ้าง

"หลังจากที่พวกเราไปแล้ว จักรวรรดิโบราณฉางเย่ของท่านห้ามลงมือกับศิษย์พี่หลี่"

ก่อนหน้านี้ ลู่เฉียวเฉียวเห็นจิตสังหารในดวงตาของฉู่ฉางคงที่มองหลี่เหิงเซิง จิตสังหารนั้นราวกับมองมดตัวเล็กๆ และอยากจะเหยียบให้ตาย

หลี่เหิงเซิงกลืนน้ำลาย ในเวลานี้ อารมณ์ของเขาซับซ้อนมาก

ก่อนหน้าเป็นเขาที่บอกว่าจะปกป้องลู่เฉียวเฉียว แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นลู่เฉียวเฉียวที่ต้องมาปกป้องเขา

"ถ้าข้ารู้ว่าพวกท่านลงมือกับศิษย์พี่หลี่ ข้าจะตายต่อหน้าท่านทันที ทำให้พวกท่านไม่ได้อะไรเลย" น้ำเสียงของลู่เฉียวเฉียวเย็นชา แต่มีความแน่วแน่ที่อธิบายไม่ได้ ทำให้ผู้คนไม่สามารถสงสัยในคำพูดของลู่เฉียวเฉียวได้

"ได้ ข้าสัญญากับเจ้า" ฉู่ฉางคงยักไหล่ "แค่มดตัวเล็กๆ แบบนี้ ข้าก็ขี้เกียจฆ่าอยู่แล้ว"

"งั้นพวกเราไปเถอะ" ลู่เฉียวเฉียวสูดหายใจเข้าลึกๆ

อานู่ยื่นมือออกมา วางไว้บนพื้น ลู่เฉียวเฉียวก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ยืนอยู่บนฝ่ามือของอานู่

"เฉียวเฉียว..." ในเวลานี้ หลี่เหิงเซิงทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาเรียกชื่อเล่นของลู่เฉียวเฉียวอย่างร้อนรน

การจากลาครั้งนี้ ไม่รู้ว่าจะได้พบกันอีกเมื่อไหร่?

เด็กสาวที่อยู่ในใจของเขามานาน วันนี้ต้องจากลากันแบบนี้งั้นหรือ?

"ศิษย์พี่" ลู่เฉียวเฉียวหันไปมองหลี่เหิงเซิง "ชะตาชีวิตของพวกเรา ตราบใดที่ยังอยู่ในมือของพวกเรา พวกเราก็จะได้พบกันอีกครั้ง หวังว่าวันที่พวกเราพบกันอีกครั้ง ท่านจะให้คำตอบที่แน่วแน่กับข้า"

"อานู่ ไปเถอะ" ฉู่ฉางคงเหลือบมองจ้าวขุนเขาทั้งหกคน จากนั้นก็หันหลังกลับ เดินจากไปพร้อมกับอานู่

มองดูแผ่นหลังของลู่เฉียวเฉียวที่ค่อยๆ หายไป ในเวลานี้ หลี่เหิงเซิงรู้สึกเหมือนหัวใจของเขากำลังแตกสลาย

เลือดหลั่งรินอยู่ภายใน…

แต่คำพูดของลู่เฉียวเฉียวกลับดังก้องอยู่ในใจของหลี่เหิงเซิง

หลี่เหิงเซิงเริ่มเข้าใจโลกใบนี้แล้ว

ถ้าคนไม่กำหนดชะตาชีวิต ก็จะถูกชะตาชีวิตเล่นตลก

สำหรับการจากไปของคนจากจักรวรรดิโบราณฉางเย่ จ้าวขุนเขาทั้งหกคนไม่ได้ลงมือใดๆ

อย่างแรกคือจักรวรรดิโบราณฉางเย่ไม่ได้ทำร้ายศิษย์ของพวกเขา อย่างที่สองคือยักษ์อานู่ตนนั้นดูน่ากลัวมาก พวกเขาลงมือไปก็อาจจะไม่ได้เปรียบ แถมยังอาจจะถูกคนของตำหนักหมิงซิ่งกับตึกสิบหยินฉวยโอกาส

ยิ่งไปกว่านั้น จ้าวขุนเขาทั้งหกคนต่างก็กังวลเรื่องหนึ่ง

เรื่องใหญ่ขนาดนี้เกิดขึ้น ทำไมถึงไม่เห็นเสวี่ยเฉียนไป๋มา?

เสวี่ยเฉียนไป๋น่าจะรู้ตัวแล้ว

แม้ว่าจะปล่อยคนของจักรวรรดิโบราณฉางเย่ไปได้ แต่เจียงหู่กับฉงอวิ๋นเหนียงจากตำหนักหมิงซิ่งกับตึกสิบหยินอยากจะจากไปง่ายๆ แบบนั้น มันก็คงจะไม่ง่ายนัก

"ดูเหมือนว่าทุกคนจากแดนโบราณเต๋าซานจะเลือกเล่นงานคนที่อ่อนแอกว่า" เจียงหู่สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แปลกไป เขายิ้มแล้วเยาะเย้ยว่า "ไม่คิดเลยว่า แดนโบราณเต๋าซานก็เป็นกลุ่มคนที่ชอบกลุ้มรุมเหมือนกัน"

"แดนโบราณเต๋าซานของพวกเราจะทำอะไร ยังไม่ถึงตาพวกเจ้ามาวิจารณ์" ซวีมู่ไห่หัวเราะเยาะ จากนั้นจ้าวขุนเขาสองคนก็ปกป้องศิษย์เหล่านั้น ส่วนอีกสี่คนก็เดินเข้าไปใกล้ๆ

ศิษย์ของแดนโบราณเต๋าซานหลายร้อยคนที่อยู่โดยรอบก็ค่อยๆ ล้อมเข้าไป

สงครามกำลังจะปะทุขึ้น

แดนโบราณเต๋าซาน

บนยอดเขาเฉียนเสวี่ย(พันหิมะ)

ที่นี่เป็นยอดเขาหิมะเพียงไม่กี่แห่งในแดนโบราณเต๋าซาน อากาศแปรปรวน อุณหภูมิหนาวเย็นจนน่ากลัว ปกติแล้วแทบจะไม่มีใครอยากจะมาที่นี่

ภายในศาลาหิมะบนยอดเขา

เสวี่ยเฉียนไป๋นั่งอยู่ที่นี่ บนโต๊ะหินมีกระดานหมากล้อมวางอยู่ ตรงข้ามมีชายร่างใหญ่หนวดเคราสีแดงนั่ง เขากำลังมองกระดานหมากด้วยสีหน้ากังวล

เขาเริ่มเกาหัวเกาหู

"เจ้าแพ้อีกแล้ว" เสวี่ยเฉียนไป๋พูดอย่างใจเย็น "ฉู่ป้า เจ้าแพ้มาห้ากระดานแล้ว สิ่งที่ข้าต้องการ เจ้าควรจะให้ข้าได้แล้ว"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด