บทที่ 85 เลือดขึ้นหน้า
หลินเฉียนเฟิงเป็นผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเขตแดนลึกลับ ขณะที่เขาโจมตีด้วยความโกรธเกรี้ยว ปราณกรงเล็บห้ารอยก็พุ่งทะยานตัดผ่านอากาศอย่างรวดเร็ว!
เพียงรับรู้ถึงกลิ่นอายปราณกรงเล็บอันแข็งแกร่งที่ฟาดฟันเข้าใส่ตน หลัวเฉิงก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาลจนรู้สึกหายใจลำบาก
แววตาของหลินเฉียนเฟิงที่มองไปยังหลัวเฉิง ประหนึ่งว่าเขาต้องการจะหลั่งเลือดของหลัวเฉิงให้นองเสียตรงนี้!
ทันใดนั้น ขณะที่กรงเล็บทั้งห้ากำลังจะบรรลุถึง ร่างหลัวเฉิงก็ไหวหายวับไปจากพื้นที่ตรงนั้นอย่างฉับพลัน
บูม!
กรงเล็บนั้นกระแทกเข้าที่พื้นอย่างรุนแรง จนเกิดรอยแตกลึกขนาดใหญ่ปรากฏบนพื้นมาตรว่ายาวกว่าสามจั้ง!
“อะไรกัน!”
หลินเฉียนเฟิงอุทานแล้วเหลือบสายตามองไปโดยรอบ ก่อนพบว่าหลัวเฉิงยืนอยู่ข้างหลังของชายชราชุดดำ โดยไร้ซึ่งบาดแผลแม้แต่น้อย!
“เจ้าเป็นใครข้าไม่รู้ แต่วันนี้พวกเจ้าทั้งคู่ต้องตายที่นี่!”
ในแววตาหลินเฉียนเฟิงขณะนี้แสดงออกถึงความบ้าคลั่งเป็นที่สุด เขาไม่รอช้าพลันปาดมือฟาดกรงเล็บเข้าใส่โม่หลินและหลัวเฉิงอย่างแรงอีกครั้ง หมายมั่นจะหั่นทั้งคู่ให้เป็นชิ้นๆ!
ทว่า สีหน้าของโม่หลินกลับไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย เขาเพียงยกมือขึ้นข้างหนึ่งแล้วโบกสะบัดนิ้วมือทันที
ฟึบ!
ปราณลำแสงสีเขียวสายหนึ่งปรากฏจากปลายนิ้วมือ พุ่งเข้าปะทะกับปราณกรงเล็บหลินเฉียนเฟิงจนแตกกระจายในทันใด
หลัวเฉิงแสดงสีหน้าประหลาดใจ แม้ตัวเขาจะรู้ว่าโม่หลินนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ไม่คิดว่าจะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ กระทั่งสามารถเอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเขตแดนลึกลับด้วยการโจมตีเพียงนิ้วเดียว!
“ช่วยข้าสังหารพวกมันเสีย!”
ความโกรธแค้นที่ปะทุในใจหลินเฉียนเฟิงทำให้เขาสูญเสียการควบคุม เขาจ้องยังหลัวเฉิงด้วยแววตาดุร้ายดุจเดียวกับสัตว์ป่ามิมีผิด ครั้นสิ้นสุดเสียงคำรามอันกึกก้อง ร่างเขาก็ไว้กายเข้าหาหลัวเฉิงทันที
“ฆ่า!”
“ผู้ใดก็ตามที่ริอาจหาญกล้าเป็นศัตรูกับตระกูลหลิน พวกมันเหล่านั้นต้องถูกสังหารให้สิ้น!”
ในเมืองฉีซาน ตระกูลหลินมิเคยเกรงกลัวผู้ใด ครั้นสิ้นเสียงสั่ง ปรมาจารย์หลายคนที่มีฝีมือสูงส่งของตระกูลหลินก็รีบปรี่เข้าหาหลัวเฉิงและโม่หลินอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของโม่หลินเริ่มแสดงให้เห็นถึงความรำคาญยิ่ง ในมือของชายชราร่างผอมคนนี้ก็ปรากฏปราณสีเขียวเข้มอันดุร้าย เมื่อเห็นว่าหลายร่างกำลังเข้าโจมตี เขาก็โบกมือสะบัดอีกทีอย่างเรียบง่าย
บูม!
ปราณฝ่ามือและปราณกระบี่ที่ทะยานเข้าหาพลันแตกกระจาย เหล่าปรมาจารย์ของตระกูลหลินไม่มีเวลาแม้แต่จะโหยหวนความเจ็บปวดด้วยซ้ำ เนื่องจากร่างพวกเขาถูกปราณสีเขียวเข้มฉีกกระชากละเอียดจนกลายเป็นหมอกโลหิตคละคลุ้งไปทั่วอาณาบริเวณ!
ฉัวะ!
หลินเฉียนเฟิงซึ่งอยู่ด้านหลังของเราปรมาจารย์เหล่านั้นเล็กน้อย ก็ถูกปราณสีเขียวเข้มซัดกระเด็นปลิวไปหลายจั้ง มือขวาเขาถูกบดขยี้จนกลายเป็นละอองโลหิตกระเซ็นไปทั่วพื้นที่โดยรอบ!
เสียงการต่อสู้บนถนนที่ดังโครมครามเมื่อครู่ ก็พลันเงียบสงัดลงอย่างน่าพิศวงใจยิ่ง
ผู้คนโดยรอบต่างตกตะลึงกับฉากที่เห็นเบื้องหน้า แววตาพวกเขาสั่นไหวด้วยความหวาดกลัวขณะมองโม่หลิน
ปรมาจารย์ระดับสูงหลายคนของตระกูลหลิน รวมถึงปรมาจารย์สามคนในขั้นเขตแดนลึกลับ ถูกปราณฝ่ามือของชายชราผู้นี้จนกลายเป็นละอองโลหิตในชั่วพริบตา!
พลังอะไรกันที่มหาศาลได้ถึงปานนี้ ชายชราผู้นี้มีความแข็งแกร่งในขั้นใดกัน!
“ฆ่า!”
เลือดในกายของหลัวเฉิงเดือดพล่านด้วยความตื่นเต้น เขากระชับกระบี่แน่นแล้วพุ่งเข้าหาคนของตระกูลหลินทันที
วันนี้ไม่ว่าใครหน้าไหนของตระกูลหลินที่กล้าขวาง เขาจะสังหารให้สิ้น!
ฉัวะ! ฉัวะ!
ปราณกระบี่ส่องแสงเจิดจรัสพร้อมกับเลือดสีแดงฉานที่สาดกระเซ็น สองคนจากตระกูลหลินจำต้องตายขณะยังไม่ทันได้ตอบโต้ด้วยซ้ำ
“ไอ้เจ้าขยะนี่ เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!”
“กุดหัวมันให้ได้!”
สองคนของตระกูลหลินที่อยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหนึ่ง มองยังหลัวเฉิงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า สิ้นวาจาสองร่างนั้นก็พลันไหวกายพุ่งเข้าหาหลัวเฉินทันที
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหลัวเฉิง เขาไม่ได้หวาดหวั่นต่อสองคนเบื้องหน้านี้เลย เขานึกถึงเนื้อหาของเคล็ดวิชาทลายสวรรค์สี่กระบวนในใจ แล้วเริ่มร่ายรำกระบี่ยาวในมือพลัน
เคร้ง! ฉัวะ!
อาวุธในมือทั้งสองถูกฟาดกระเด็นหลุดไป พร้อมกับสองศีรษะที่สะบั้นขาดกระเด็น ขณะที่เลือดพุ่งออกมาจากลำคอประดุจน้ำพุ
ระหว่างที่โม่หลินกำลังต่อสู้ แล้วเห็นว่าหลัวเฉิงกำลังเลือดขึ้นหน้าจนรีบวิ่งเข้าหาปรมาจารย์ของตระกูลหลินอย่างไม่มีหวั่นเกรงแม้แต่น้อย
“หลัวเฉิง! ควบคุมตัวเองเข้าใจร้อนเกินไปแล้ว!”
“เจ้าเด็กนี่น่ะหรือที่ทำให้ตระกูลหลินของเราประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ เช่นนั้นก็รีบสังหารมันซะ!”
“ฆ่า!”
เมื่อเห็นว่า หลัวเฉิงกล้าบุกเข้ามาเพียงลำพัง ปรมาจารย์ของตระกูลหลินก็แสดงความโกรธจนดวงตาพวกเขาแดงก่ำ แล้วรีบพุ่งเข้าหาหลัวเฉิงเช่นเดียวกัน
สีหน้าของหลัวเฉิงยังคงไม่เปลี่ยน เมื่อสักครู่นี้ปรมาจารย์ของตระกูลหลินที่อยู่ในขั้นเขตแดนลึกลับถูกสังหารโดยฝ่ามือของโม่หลิน ซึ่งตอนนี้คนของตระกูลหลินที่เหลืออยู่อย่างมากก็คงมีความแข็งแกร่งเพียงแค่ระดับหนึ่งหรือสองของขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์เท่านั้น
เคร้ง! ฉัวะ!……
กระบี่ยาวในมือของหลัวเฉิงยังคงทอประกายแสงสว่างเยือกเย็น คราใดที่เขากวัดแกว่งมัน คนของตระกูลหลินจะต้องถูกฟันขาดเป็นสองท่อนอย่างน่าสยดสยอง
“แทง! ฟัน! ฟัน! หลบหลีก! เลือกเป้าหมาย! เคลื่อนย้ายกาย! แทง!” หลัวเฉิงท่องกระบวนท่าไปพลางขณะฟาดฟัน
เขาไม่ได้มองคนเหล่านี้ว่าเป็นคู่ต่อสู้ด้วยซ้ำ เขาเห็นเป็นเพียงหุ่นไม้ซ้อมกระบี่เท่านั้น ตอนนี้ทุกการออกกระบวนท่ากระบี่ของเขา เริ่มราบรื่นพริ้วไหวยิ่งขึ้นซึ่งแตกต่างจากตอนแรกนัก