บทที่ 66 มากมาย (5)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 66 มากมาย (5)
“โฆษณาเหรองั้นเหรอ?”
โฆษณา? เขากำลังพูดถึงโฆษณาที่มักมีอยู่ในทีวีหรือ YouTube กันนะ? ต้องขอบคุณความคุ้นชินที่เขามักทำเป็นประจำเลย คังวูจินจึงสามารถรักษาหน้านิ่งแบโป๊กเกอร์ไว้ได้ แต่ภายในใจเขามันแทบเสียสติไปแล้ว
เขาจะได้ทำโฆษณางั้นเหรอ?
มันค่อนข้างน่าตกใจมากที่มีโฆษณา ซึ่งมีแต่เหล่าคนดังได้แสดงกัน มาเสนอต่อเขา สำหรับวูจินเขานั้นประหลาดใจมาก แต่ว่าอะไรแบบนี้มันถือว่าเป็นเรื่องปกติของวงการ โลกนี้น่ะขับเคลื่อนตามเทรนด์
ซึ่งสิ่งที่ตอบสนองต่อเทรนด์เหล่านี้ได้เร็วที่สุดก็คืออุตสาหกรรมโฆษณา
ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่หรืออุตสาหกรรมบันเทิง ถ้าประชาชนมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อของพวกนี้ พวกเขาก็จะกระโดดเข้าใส่ทันที ตัวอย่างเช่น แม้ว่าจะไม่ใช่คนดัง แต่ก็มีหลายกรณีที่คนที่กำลังเป็นนิยมช่วงนั้นได้มาถ่ายโฆษณา กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ สิ่งนี้เป็นเหมือนข้อพิสูจน์ให้เห็นว่าในปัจจุบัน คังวูจินได้รับความนิยมในหมู่มวลชนเป็นอย่างมาก
แต่เดี๋ยวก่อน ทำไมต้องเป็นแฮมเบอร์เกอร์เล่า?
เมื่อความอยากรู้อยากเห็นของคังวูจินเกี่ยวกับเรื่องแฮมเบอร์เกอร์ได้เกิดขึ้น รถที่หยุดก่อนหน้านี้ก็เริ่มเคลื่อนที่ ชเวชองกุนที่นั่งอยู่บนที่นั่งผู้โดยสารก็หันไปและเริ่มอธิบาย
“ฉันคิดว่าเดี๋ยวมันก็จะมา แต่ข้อเสนอนี้ดูจะมาเร็วกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย นายเองก็น่าจะรู้ใช่ไหมว่าทำไมมันเป็นแฮมเบอร์เกอร์?”
ทันใดนั้น คังวูจินก็นึกถึงคำพูดของรองหัวหน้าพัค
“อา คำพูดของรองหัวหน้าพัคสินะครับ”
"ถูกต้องแล้ว คำพูดที่รองหัวหน้าพัคบอกว่าเขาชอบแฮมเบอร์เกอร์ และวิธีที่นายกินในฉากห้องสอบสวน นั่นแหละเลยทำให้แบรนด์สนใจในตัวนาย”
“งั้นเหรอครับ?”
“หลังจากออกอากาศ ยอดขายแฮมเบอร์เกอร์ก็พุ่งสูงขึ้นมาก ฉันได้รับโทรศัพท์เมื่อวานนี้ แต่กะบอกนายวันนี้เพื่อให้ประหลาดใจไง รู้สึกเป็นไงมั้ง? รับดีลโฆษณาภายในสองเดือนนับตั้งแต่เปิดตัว? มันทำลายสถิติเลยนะรู้ไหม?”
เขาเองก็ไม่รู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่มันรู้สึกตื่นเต้นมาก วูจินพยายามอย่างหนักที่จะซ่อนความตื่นเต้นในใจของเขาไว้
“ครับ ประหลาดใจมากเลย”
“ฮ่า ๆ ถ้าอย่างนั้นนายก็ควรจะทำหน้ามีความสุขมากกว่านี้หน่อยนะ โฆษณาครั้งนี้เป็นแบรนด์ใหญ่เสนอมา พวกเขากำลังวางแผนทั้งโฆษณาทางทีวีทั่วไปและแบบ YouTube เลย เราจะต้องคุยเรื่องราคาระหว่างการประชุมกัน แต่ดูจากขนาดแล้ว มันน่าจะให้เงินดีเลยทีเดียว”
“คือว่าถ่ายแค่ครั้งเดียวเหรอครับ?”
"ใช่แล้วล่ะ โดยปกติแล้ว โฆษณาจะเป็นดีลแบบถ่ายครั้งเดียว ส่วนต่อจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับพวกเขาแล้ว ว่าจะตัดสินใจขยายสัญญาหรือลงนามแบบข้อตกลงระยะยาว”
คังวูจินพยักหน้าช้า ๆ จากนั้นชเวชองกุนก็เปิดสมุดโน้ตของเขาพลางยิ้มกว้างออกมา
“แล้วคิดว่าไง? ฉันว่าเราควรรับโอกาสนี้เอาไว้ มันเป็นข้อตกลงที่ดีมาก แถมเราดูจะไม่ได้เสียเปรียบอะไรด้วย คิดว่าไง?”
ก็จริง แค่ไปถ่ายโฆษณามันจะมีอะไรแย่ได้กัน? รับประกันมีแต่ความสำเร็จด้วย
"ถ้างั้นฝากด้วยนะครับ"
"อืม! จะว่าไปมันก็น่าทึ่งมากเลยนะ บอกตามตรง กระทั่งฮเยยอนก็ไม่ได้ลงโฆษณาเร็วขนาดนี้ เรามารีบไล่ตามฮงฮเยยอนกันเถอะ โอ้ อย่าบอกเรื่องนี้กับเธอเชียวล่ะ”
“เข้าใจแล้วครับ ว่าแต่รูปแบบเป็นยังไงเหรอครับ?”
"รูปแบบเหรอ? อ๋อ วิธีถ่ายทำ? ฉันได้ยินสั้น ๆ มาระหว่างโทรคุยกัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยึดบทของรองหัวหน้าพัคเอาไว้ ลองนึกภาพรองหัวหน้าพัคกำลังเพลิดเพลินกับแฮมเบอร์เกอร์อย่างสบายใจดูสิ”
ก็ดูเข้ากันอยู่ คังวูจินพยักหน้าภายในใจ แค่เลียนแบบตัวละครที่เคยแสดงก็ง่ายแล้ว หลังจากนั้นไม่นาน ชเวชองกุนก็พลิกหน้ากระดาษในสมุดของเขาและเริ่มสรุปอีกครั้ง
“มีข้อเสนอมากมาย ตั้งแต่รายการวาไรตี้โชว์และคำขอสัมภาษณ์จากสื่อต่าง ๆ แต่ฉันปฏิเสธไปหมดแล้ว นายไม่จำเป็นต้องไปปรากฏในทุกรายการ ถ้านายไปรับบทเล็กบทน้อย มันก็คงได้อยู่แหละ แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ของนาย การทำอะไรแบบนั้นมันไม่เป็นประโยชน์หรอก”
"ผมก็รู้สึกแบบเดียวกันเลยครับ"
ในขณะที่วูจินแสร้งทำเป็นรู้ว่าชเวซองกุนกำลังพูดอะไรอยู่ แต่อันที่จริงแล้ว...เขาไม่รู้อะไรเลย เขาไว้ใจให้ชเวชองกุนผู้เป็นมืออาชีพมาจัดการเรื่องนี้แทนจะดีกว่า
“แต่ถึงอย่างนั้นนะ ฉันก็ได้จัดเตรียมการถ่ายแบบนิตยสารสองสามที่ไว้แล้ว มันสามารถถ่ายทำได้อย่างรวดเร็วเลย และมีกำหนดการบางอันของ ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’ ด้วยนะ ถึงตัวละครของรองหัวหน้าพัคจะเสียชีวิตหลังจากตอนที่ 4 แต่จากข้อมูลของ PD ซง ตัวละครนี้ก็จะยังคงปรากฏตัวในตอนต่อไปเป็นภาพย้อนอดีต”
ขณะที่วูจินพยักหน้า ชเวชองกุนก็ปิดสมุดของเขาและพูดเสริมว่า
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คงจะมีบทความมากมายที่เป็นเรื่องของนาย แต่ถึงมันจะมีบทความเพิ่มขึ้นมา มันก็คงไม่สำคัญอะไรนักหรอก เพราะทางทีมประชาสัมพันธ์ของเรากำลังเตรียมเผยแพร่เรื่องของนายจำนวนมากไว้แล้ว”
เขากล่าวพร้อมเผยรอยยิ้มอันนุ่มลึกบนใบหน้า
“ในเมื่อ ‘ผู้เชี่ยวชาญนิติจิตวิทยา’ จบลงแล้ว เราก็รีบมาประชาสัมพันธ์กันเถอะ จะได้ดึงความสนใจให้มันไปถึงขีดสุด”
หลังจากนั้นเอง
อย่างที่ชเวชองกุนพูดไม่มีผิด เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน บทความมากมายเกี่ยวกับคังวูจินก็เริ่มปรากฏขึ้น ก่อนหน้านี้เนื้อหาบทความหรือข่าวส่วนใหญ่ล้วนเกี่ยวข้องกับ ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’ หรือเป็นเรื่องของรองหัวหน้าพัค แต่ตอนนี้มันเป็นข่าวที่เป็นเรื่องของคังวูจินเท่านั้น
จาก ‘สปอร์ตเดย์' ของ PD ยุนบยองซอน ไปจนถึงเพลงฮิตติดหูของ ‘สำนักงานนักสืบ‘ และ ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’ ทุกคนก็จึงเริ่มสงสัยแล้วว่างานต่อไปของคังวูจินจะคืออะไร
『[ดาราคนนี้] ชิปน้ำเงินแห่งชุงมูโร + คังวูจินดาวรุ่งพุ่งแรง งานถัดไปยังคงไม่มีข่าว…เมื่อไหร่ที่เขาจะมีการตัดสินใจ?』
ด้วยเหตุนี้ ความอยากรู้อยากเห็นจากทั้งสื่อมวลชนและสาธารณชนถึงงานต่อไปของคังวูจินกับแผนงานในอนาคตจึงได้เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งประจวบกับที่ไม่มีข่าวลือเรื่องเขาเลย ไม่มีแม้แต่ข่าวซุบซิบบันเทิงที่ดาราปกติทั่วไปมีกัน
ทำให้ทุกคนในวงการบันเทิงต่างรู้สึกสงสัย
โดยปกติแล้ว เมื่อเด็กใหม่เปล่งประกาย ก้าวต่อไปของพวกเขาย่อมเห็นกันได้ชัดเจน ทว่าคังวูจินผู้ซึ่งสร้างแรงกระเพื่อมได้มากกว่าหน้าใหม่ทั่วไปกลับยังคงนิ่งเงียบไม่เป็นข่าวใหญ่โต ทั้งที่สังกัดเขามีคนแค่สองคนเองนะ
『ภาพยนตร์? ละคร? ไม่มีข่าวงานไหนอยู่เลย เหล่าแฟน ๆ มากมายต่างก็อยากรู้อยากเห็นถึงดาวรุ่งที่พุ่งแรงแต่กลับเงียบงันอย่าง 'คังวูจิน‘ 』
ซึ่งแหล่งที่มาของข่าวและบทความส่วนใหญ่ก็คือ ชเวชองกุน แรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้นนั้นยิ่งใหญ่มหาศาลมาก จนแทบทุกที่ในอินเทอร์เน็ตต่างพูดคุยกันเรื่องนี้ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ทุกอย่างกำลังหมุนไปในทิศทางที่ชเวชองกุนต้องการ
ถึงเวลาปล่อยให้มันโตเองแล้ว
และหนึ่งวันก็ผ่านพ้นไปเช่นนั้น เช้าวันใหม่ที่สดใสมาถึง วันพุธที่ 27 ในวันนั้น คังวูจินได้ลงนามในสัญญาอย่างเป็นทางการกับผลงานสองชิ้นที่เขาได้พูดคุยกันก่อนหน้านี้
ช่วงเช้า เขาไปเซ็นสัญญาบทบาทนักแสดงรับเชิญใน ‘พ่อค้ายาเสพติด’
“อ่า ดูแลตัวเองด้วยนะคุณวูจิน ขอบคุณจริง ๆ ขอบคุณมากเลยจริง ๆ คุณช่วยชีวิตฉันไว้เลย!”
“ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ คุณผู้กำกับ”
“อืม เห็นทีฉันคงต้องพยายามให้หนักขึ้นแล้วสิ แต่จะว่าไป ช่วงนี้คุณคงได้รับความสนใจเยอะเลยสินะ?”
“เพราะทุกคนแค่กำลังสนใจผมเท่านั้นแหละครับ”
“ไม่ ไม่เลย มันเป็นเพราะคุณเก่งมากต่างหาก ฉันดูตอนที่ 4 ของ ‘นิติจิตวิทยาเสเพล’ และว้าวเลย การแสดงของคุณน่าทึ่งมาก ยังไงก็เถอะ ฉันจะจัดตารางการถ่ายทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ช่วงระหว่างนี้คุณลองทำความคุ้นเคยกับบทดูนะคะ”
"เข้าใจแล้วครับ"
“เรามีตารางงานที่เร่งพอควร ถ้าคุณไม่พร้อมก็ไม่เป็นไรนะ ถ้าคุณลืมบทพูดหรือบางช่วงไป เราสามารถตัดและเอาไปใส่ใหม่ได้ตลอดเวลาเลย”
นอกจากนี้ เพราะ ‘พ่อค้ายาเสพติด’ ได้ผ่านการถ่ายทำมาครึ่งทางแล้ว การแนะนำตัวและการอ่านบทกับนักแสดงคนอื่นจึงถูกข้ามไป ด้วยเหตุนี้ตัวละครรับเชิญจึงใช้เวลาถ่ายทำแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น
ต่อมา ในบ่ายวันเดียวกันนั้นเอง
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเลยนะคะที่จะได้เซ็นสัญญากับนักแสดงทันทีก่อนเริ่มถ่ายทำ”
คังวูจินได้เซ็นสัญญากับนักเขียนดาวรุ่ง ลีวอลซอน สำหรับเรื่อง ‘รักน้ำค้างแข็ง’ แล้ว
“มันเป็นครั้งแรกสำหรับผมด้วยเช่นกันครับ”
“น่าแปลกใจมากเลยนะคะ คุณดูนิ่งมากเลย แต่ทำไมตอนแสดงคุณถึงแสดงได้หลายอารมณ์ขนาดนั้นกันล่ะคะเนี่ย? ทั้งยังรู้ภาษามืออีก มีแต่เรื่องน่าประหลาดใจมากเลย”
นักเขียนลีวอลซอนมีน้ำเสียงนุ่มนวลกว่าช่วงพบกันครั้งแรกอยู่พอสมควร เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะเธอตอนนั้นกังวลเกี่ยวกับบทบาท ‘ชายลึกลับข้างบ้าน’ ซึ่งมันต้องใช้ภาษามือ แต่คังวูจินกลับปรากฏตัวราวกับดาวหางและแก้ไขข้อกังวลเหล่านั้นไปจนหมด
“น่าเสียดายจัง ฉันอยากทำงานกับคุณให้นานกว่านี้ แม้ว่าครั้งนี้จะเป็นแค่บทบาทสมทบ แต่ไว้ในอนาคตถ้าเราพบกันใหม่ฉันจะหาบทใหญ่ ๆ ให้นะคะ”
หลังจากข้อสรุปสัญญาผ่านไปราบรื่นและคังวูจินก็ออกไปแล้ว แต่นักเขียนลีวอลซอนกับผู้บริหารของแผนกละคร KBC ยังคงอยู่ในห้อง พวกเขาทั้งหมดเริ่มชมเชยคังวูจินกัน
“ถ้าคังวูจินยังคงทำแบบนี้ต่อไป เขาคงจะไปถึงจุดสูงสุดในเวลาไม่นานแน่”
"ใช่ไหมล่ะ? นอกเหนือจากท่าทางที่ดูเย็นชาเล็กน้อยแล้ว เขาก็ไม่มีข้อบกพร่องอะไรเลย คุณไม่คิดอย่างนั้นเหรอครับ คุณนักเขียน?”
“ถ้าคุณลองดูประวัติเขานะ การถ่ายทำแต่ละเรื่องของเขามันน่าทึ่งมาก ชนะรางวัลใหญ่กับเรื่อง ‘สำนักงานนักสืบ’ และมีละครสุดฮิตอย่าง ‘นิติจิตวิทยาเสเพล’ ที่เรตติ้งเกิน 20% ไปแล้ว ที่ฉันต้องเสนอบทบาทสมทบให้เขา เพราะเห็นเขาต้องการแบบนี้ แต่ที่จริงฉันต้องการเสนอบทบาทใหญ่ ๆ ให้เขาต่างหาก...”
“คุณกำลังคิดว่า เขาไปร่วมกับโปรเจคใหญ่โดยที่เราไม่รู้งั้นเหรอ?”
“อาจจะเป็นอย่างนั้น คงมีคนได้ตัวเขาก่อนที่ฉันจะลงมือแน่ แต่ถึงยังไง ก็ปล่อยข่าวออกไปตอนนี้เลย ด้านของวูจินก็คงต้องการให้มีการประกาศข่าวโดยเร็วที่สุดเช่นกันนั้นแหละ”
ตั้งแต่ดึก ข่าวใหม่เกี่ยวกับคังวูจินก็ดังขึ้นมาทันที
『[คุยข่าวดารา] ‘พ่อค้ายาเสพติด’ ผู้กำกับคิมโดฮีกล่าวว่า ‘นักแสดงคังวูจินได้ช่วยละครของเราเอาไว้’』
ซึ่งมันก็มีข่าวที่เกี่ยวกับทั้ง ‘พ่อค้ายาเสพติด’ และ ‘รักน้ำค้างแข็ง’
『จากนักเขียนพัคอึนมีสู่นักเขียนลีวอลซอน? 'คังวูจิน‘ นักแสดงดาวเด่นร่วมงานใหม่กับนักเขียนดาวรุ่งลีวอลซอนในบทบาทรอง!』
สื่อและความคิดเห็นของคนดูต่างผสมปนเปกันไป
-ว้าว!! ย้ายจากนักเขียนดาวรุ่งคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งทันทีเนี่ยนะ?
- 555 โคตรสุด! เอาเรื่องเขามาเพิ่มอีก แค่นี้ยังไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของฉันหรอก
- แต่มันค่อนข้างน่าผิดหวังแฮะ… จากสถานะปัจจุบันของคังวูจิน เขาน่าจะได้รับมากกว่าแค่บทบาทรองหรือบทบาทสมทบนะ...
- ↑เห็นด้วย ถึงเขาจะเป็นหน้าใหม่ แต่ด้วยความดังในตอนนี้ของเขา อย่างน้อยควรเป็นบทบาทสนับสนุนไหม?
-รับบทเป็นตัวประกอบเหรอ? 555 ไหงพวกนาเยอาแต่หมกมุ่นอยู่กับคังวูจินเล่า? ยังไงเขาก็เป็นแค่หน้าใหม่ คิดยังไงถึงหวังว่าเขาจะได้บทบาทสนับสนุน?
- นั่นก็จริงแฮะ ฮ่า ๆ พูดตามตรงนะ การที่เขาได้รับบทบาทเล็กน้อยจากลีวอลซอน ถัดจากพัคอึนมีก็ถือว่าน่าทึ่งแล้วนะ
- ฉันอยากเห็นมากกว่านี้ …ฉันอยากเห็นคังวูจินแสดงนำ! โยนเขาลงในเรื่องแนวรอมคอมเลย!
ทั้ง ‘ความผิดหวัง’ และ ‘ความประทับใจ’ ต่างผสมปนเปกันไป ไม่ว่าเป็นแบบไหน ตอนนี้ก็มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ ไม่ใช่แค่ในสื่อเท่านั้น แต่ทั่วทั้งวงการบันเทิง รวมถึงบริษัทบันเทิงโปรดักชั่นเฮาส์และบริษัทภาพยนตร์ก็ร่วมวงด้วย...
『[รายการเด่นพิเศษ] จากการเปิดตัวของเขา เขาสามารถจับใจคนมากมาย เหตุผลที่อนาคตของหน้าใหม่ ‘คังวูจิน‘ ได้ถูกคาดหวังไว้เป็นพิเศษ...』
ชื่อของคังวูจินยามนี้เป็นที่รู้จักกันถ้วนหน้า
เช้าวันรุ่งขึ้น วันพฤหัสบดีที่ 28
เป็นเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์นับตั้งแต่ตอนที่สี่ของ ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’ สิ้นสุดลง แต่นิติจิตวิทยาเสเพลก็ยังคงเป็นที่นิยมทั่วอินเทอร์เน็ต ในขณะนี้ คังวูจินกำลังเดินทางไปยังบีดับเบิลยูเอนเตอร์เทนเมนต์
“……”
คังวูจินมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไร้อารมณ์ เพราะต้องแสร้งทำตามอุปนิสัยที่เขาวางเอาไว้ แต่ภายในใจ เขาค่อนข้างมีความสุขมาก
‘ฉันได้รับค่าตัวอีกแล้ว! แถมเร็ว ๆ นี้ฉันจะได้รับข้อเสนอโฆษณาอีก ฉันมีหลายโปรเจกต์เรียงรายกันเลย ถ้างั้นฉันจะมีรายได้มากขึ้นใช่ไหม? นี่ฉันกำลังจะย้ายไปโซลสินะ’
ความสุขของเขาเกิดจากเรื่องเหล่านี้ที่กำลังผ่านเข้ามา เขาอยากจะเต้นรำด้วยความสุข แต่เขาทำไม่ได้ เพราะมีจางซูฮวานและฮันเยจุงอยู่ในรถตู้ เขาต้องทำเป็นนิ่งและเย็นชาเข้าไว้
‘เฮ้อ ชักง่วงแล้วสิ วันนี้มีกำหนดการอะไรอีกนะ? ถ่ายภาพและประชุมนิดหน่อย บางทีฉันควรพักผ่อนสักหน่อยก่อนไปจะดีไหมนะ?'
ชเวชองกุนไม่ได้อยู่ในรถตู้ อาจจะอยู่ที่บริษัท ตามที่จางซูฮวานบอกมา ฮงฮเยยอนตอนนี้กำลังยุ่งอยู่กับตารางงานและเรื่องของบริษัท ส่วนทางด้านวูจินก็กำลังมุ่งหน้าไปยังสังกัดของเขา ดังนั้นอีกไม่นานพวกเขาคงจะได้พบกัน
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
เมื่อมาถึงบีดับเบิลยูเอนเตอร์เทนเมนต์ จางซูฮวานก็มุ่งหน้าไปที่ห้องน้ำ ส่วนฮันเยจุงก็ตรงไปที่ทีมประชาสัมพันธ์ วูจินทักทายพนักงานที่ดูกำลังยุ่งด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
‘อืม แค่นี้น่าจะพอดีแล้ว’
เมื่อชมตัวเองแล้ว คังวูจินก็มุ่งหน้าไปที่ห้องทำงานของซีอีโอ
-ครืดด!
ประตูเปิดออกทันที สถานการณ์ภายในห้องทำงานของซีอีโอได้ประจักษ์อยู่ต่อหน้าเขา สิ่งแรกที่เขาเห็นคือชเวชองกุน ผู้นั่งอยู่ที่โต๊ะตรงกลาง เมื่อเห็นวูจิน ชเวซองกุนก็ยิ้มออกมา
“อ่า วูจิน นายก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?”
"สวัสดีครับ"
จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นฮงฮเยยอนนั่งอยู่ข้าง ๆ ชเวซองกุน เธอสวมหมวกสีขาว บางทีเธอคงจะยังไม่ได้ไปหาช่างแต่งหน้ากระมัง
“ดีใจที่ได้เห็นหน้าคุณนะ ฉันกำลังจะไปแล้วพอดี”
ฮงฮเยยอนสวมหมวกหรือไม่สวมหมวก ก็ดูน่าทึ่งในสายตาของวูจินอยู่ดี
‘วันนี้ความงามของฮงฮเยยอนก็ระเบิดระเบ้อเช่นเคยเลย ช่างเป็นการเริ่มต้นวันที่ดีจริง ๆ ’
ทว่าเขาไม่อาจแสดงความรู้สึกที่แท้จริงของเขาออกมาได้ คังวูจินจึงตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบไป
"สวัสดีครับ"
ปัญหาคือ...
'หือ?'
ในฝั่งตรงข้ามของฮงฮเยยอน มีหมีตัวหนึ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่สิ ไม่ใช่หมี เป็นผู้ชายต่างหาก เป็นคนที่มีรูปร่างใหญ่โต ด้วยเหตุนี้ วูจินจึงหัวเราะคิกคัก
‘เขาตัวใหญ่มากเลยแฮะ ร่างกายของเขาดูเหมือนคิมแดยังเลย…เดี๋ยวก่อน ยังไงนะ?'
คังวูจินเมื่อสบตากับชายคนนั้น เขาก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“!!!”
ได้ไงกัน?
"วูจิน"
ร่างหมีที่ว่าคือคิมแดยัง เขานั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน ตาไม่ได้ฝาดด้วย ทำไมเขาถึงนั่งอยู่ตรงนั้นได้ล่ะ? และเขาก็ยิ้มออกมา คังวูจินแทบจะตบแก้มของตนเพื่อเรียกสติกลับมา
'ไอ้เวรนี้! ทำไม ทำไม ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้!'
ในขณะนั้นเอง ความคิดของวูจินก็หยุดนิ่งไป ทั้งหมดที่เขาทำคือจ้องไปที่คิมแดยังด้วยใบหน้าว่างเปล่า ในตอนนั้นเอง ฮงฮเยยอนผู้นั่งอยู่ตรงข้ามกับคิมแดยังก็ร่วมวงพูดคุยทันที
“เขาเป็นเพื่อนคุณตอนนั้นไม่ใช่เหรอ? คนที่มากับคุณวูจินในการออดิชั่น ‘สุดยอดนักแสดง’ ฉันจำหน้าเขาได้นะ”
‘ไม่นะ ได้โปรดลืมมันไปทีเถอะ’ อูจินปรารถนาอย่างยิ่งจากใจ แต่ฮเยยอนกลับยิ้มแย้ม พูดกับแดยังอย่างยินดี
“ในวันออดิชั่น คุณบอกฉันว่าคุณวูจินเคยทำงานออกแบบใช่ไหม? ใช่ไหมคะ?”
"ใช่ครับ ผมบอกไปแบบนั้น ผมแสดงได้ประมาณ 15 วินาที คุณจำได้ด้วยเหรอครับ?"
"ไม่ค่ะ จำไม่ได้"
"โอ้ ผมเข้าใจแล้วล่ะครับ ฮ่าฮ่าฮ่า ขอบคุณนะครับ”
แกจะขอบคุณเธอทำซากอะไรเล่า? แล้วก็อย่าหัวเราะสิเฮ้ย! ทำไมแกถึงขอบคุณเธอในสถานการณ์แบบนี้กัน? คังวูจินมีแรงกระตุ้นที่ไม่อาจต้านทานได้ อยากตบหลังศีรษะของแดยังเสียเหลือเกิน เขาอยากทำจริง ๆ แต่มันเป็นไปไม่ได้
‘ฉันควรจะออกไปไหม? ฉันสามารถอธิบายเรื่องนี้ทีหลังได้ใช่ไหม?’
คิมแดยังรู้นิสัยที่แท้จริงของวูจิน ทั้งภายในและภายนอก มันไม่มีประโยชน์เลยที่จะเสแสร้งต่อหน้าเขา แต่ว่ามันดันไม่มีเวลาที่จะอธิบายเนี่ยสิ วูจินเริ่มรู้สึกสับสน แต่เขาก็ต้องรักษาใบหน้าอันนิ่งเฉยเอาไว้ก่อน
ทว่าช่วงเวลานี้มันคือช่วงเวลาอันแสนวิกฤต
ถ้าคิมแดยังรู้ว่าเขาทำให้ความเข้าใจผิดมันบานปลายขนาดไหน ชเวชองกุนและฮงฮเยยอนจะคิดยังไงเล่า จากนั้นเอง
"หือ? วูจิน? นายจะไม่คุยกับเพื่อนของนายหน่อยเหรอ?”
ชเวชองกุนพูดกับวูจินที่เงียบงันไป ความคิดที่ชะงักงันของวูจินได้เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่ง ชเวชองกุนรู้ทุกอย่างแล้วใช่ไหม? รู้ว่าทุกอย่างที่เขาทำไปมันเป็นแค่การหลอกลวง? หรือยังกันนะ? เขาไม่อาจแน่ใจได้เลย แต่สำหรับตอนนี้ วูจินก็ทักทายแดยองด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
ซึ่งมันก็เป็นความจริง เพราะนี้เป็นครั้งแรกที่เจอกันนับตั้งแต่พวกเขาวิ่งพล่านกันทั่วสวนสาธารณะ ซึ่งทางด้านคิมแดยังก็สังเกตเห็นน้ำเสียง ท่าทางและบรรยากาศของวูจิน
‘เกิดอะไรขึ้นกับเขากัน? ทำไมถึงทำตัวจริงจังขนาดนี้?'
เขาดูแตกต่างจากคังวูจินแบบปกติอย่างสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้ คิมแดยังจึงขมวดคิ้วเล็กน้อย
“อืม นั่นสินะ”
“ว่าทำไมนายถึงมาที่นี่เหรอ?”
“ไม่ต้องสนใจหรอกน่า แล้วนายล่ะ?”
"นายก่อนเถอะ ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
“……”
น้ำเสียงของเขาดูเคร่งขรึมจนดูไม่น่าเชื่อ ณ จุดนี้เอง คิมแดยังเริ่มมั่นใจแล้ว วูจินมีบางอย่างผิดปกติไป ดวงตาของเขาเฉียบคม สีหน้าของเขาเย็นชามากขึ้น
ทำไมล่ะ?
นี่มันไม่ใช่นิสัยของวูจินเลยนะ
จากนั้นเอง
‘เป็นไปได้ไหมว่า...แกจะ?’
เมื่อตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง คิมแดยังก็เปลี่ยนสายตาจากวูจินไปยังเทพธิดาฮงฮเยยอน และจากนั้นไปยังชเวชองกุน หลังจากมองดูอย่างรวดเร็ว เขาก็กลับไปมองที่วูจิน เพียงไม่กี่วินาทีที่สบตากัน จากนั้นคิมแดยังก็ดูจริงจังขึ้นมาก
"วูจิน"
เขาลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและก้าวไปหาวูจินที่กำลังผงะอยู่ อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ ไอ้เจ้าคนชอบกวนประสาท แต่คิมแดยังไม่หยุดและวางมือบนไหล่ของวูจิน
จากนั้นเขาก็พูดอย่างกระอักกระอ่วนว่า “นายดูร่าเริงขึ้นมากเลยนะ”
ทั้งฮงฮเยยอนและชเวชองกุนต่างก็แทบจะพูดออกมาพร้อมกัน
“นั่น…ร่าเริงสำหรับนายเหรอ?”
"ร่าเริง? ขึ้นมาก?...เอาจริงดิ? นั่นอะนะ?"
ในทางกลับกัน คังวูจิน...
“……?”
แม้สายตาจะจ้องมองไปยังคิมแดยังตรงหน้า แต่จิตใจของเขากลับเต็มไปด้วยคำถาม ต่อจากนั้นเอง
-วิ๊ง
คิมแดยังสบตากับวูจิน เขาแอบขยิบตาข้างขวาราวกับจะพูดว่า ‘ฉันทำได้ดีใช่ไหม?’ วูจินหลับตาลงด้วยความโกรธ
‘อย่าทำอย่างนั้นสิ ไอ้เวรนี้! อย่าทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงไปกว่านี้สิเฮ้ย!'
*****