บทที่ 22 การเปลี่ยนแปลงของเซียวเฟิง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เว่ยฉางเทียนที่มีใบหน้าเขียวช้ำได้นั่งอยู่บนรถม้า ข้างกายเขามีแม่ไก่ที่ถูกมัดด้วยเชือกแน่นหนา
“คุณชาย ข้าว่าซวีชิงหว่านคงมีเจตนาไม่ดีแน่ๆ!”
เสียงของหวังเอ้อร์จากทางด้านหน้า “ที่ท่านมองนางเป็นโชคดีของนาง แต่นางกลับไม่เห็นค่า! ข้าว่าพาตัวนางไปเลยจะดีกว่า!”
“พา พา พา! เจ้ารู้แต่จะพาไป!”
เว่ยฉางเทียนบ่นด้วยความโมโห “ถึงพวกเราจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่ทำอะไรก็ช่วยใช้สมองบ้างได้ไหม?”
“อ๊ะ? ขอโทษขอรับ คุณชายอย่าโกรธ...”
หวังเอ้อร์รู้สึกเสียใจมาก เขาคิดในใจว่าคุณชายสอนตนเองมาตลอดว่า ไม่ว่าจะใช้มีดหรือเชือก ขอแค่พาคนมาบนเตียงได้ก็เป็นวิธีที่ดี
ทำไมเมื่อเร็วๆ นี้ถึงกลายเป็นใช้สมองแทน?
แต่เขาก็ไม่กล้าถาม นิ่งเงียบไปสักพัก ก่อนจะนึกขึ้นได้และลองถามดู:
“จริงสิ คุณชาย เรื่องล่องเรือในเทศกาลไหว้พระจันทร์จัดการเรียบร้อยแล้ว แต่ดูเหมือนคนมาร่วมสนุกจะเยอะมาก”
“ต้องเตือนล่วงหน้าไหม... เอ่อ ข้าหมายถึง ท่านมีแผนอะไรไหม?”
“อืม...”
เว่ยฉางเทียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างช้าๆ “เวลานั้นให้วางผู้เชี่ยวชาญไว้รอบเรือ ดักซุ่มรอคำสั่งจากข้า ที่เหลือไม่ต้องห่วง”
“และอีกอย่าง ไปสืบดูว่าซวีชิงหว่านต้องการเงินมากขนาดนั้นทำไม”
“รับทราบขอรับคุณชาย”
หวังเอ้อร์ตอบรับเสียงหนึ่งแล้วไม่พูดอะไรอีก เว่ยฉางเทียนหันไปมองแม่ไก่ที่ถูกมัดในท่าทางแปลกๆ
เชือกพันรอบปีกไก่ รอบคอไก่ และรัดแน่นที่หน้าอกไก่...
“น้องไก่...ขอโทษด้วยนะ”
……
“ปัง! ปังปังปัง!”
ขณะที่เว่ยฉางเทียนจ้องตาแม่ไก่อยู่ ด้านบนเขาเตี้ยข้างหมู่บ้านโฮ่วชิว เซียวเฟิงกำลังต่อยและเตะศพเสือปีศาจ
เสือปีศาจตัวนี้ดูจากรูปร่างแล้วน่าจะมีอายุการบำเพ็ญไม่น้อยกว่า 30 ปี ปกติไม่ควรปรากฏในป่าเตี้ยนี้
แต่เนื่องจากพระเอกอยู่ที่นี่ ก็ต้องมีมอนสเตอร์ให้เก็บเลเวล
ดังนั้นชัดเจนว่ามันถูกจัดมาโดยสวรรค์เพื่อส่งหัวให้เซียวเฟิง
“ปัง!”
ดินเปื้อนเลือดปีศาจไปแล้ว เซียวเฟิงต่อยลงอีกที ทำให้หัวเสือปีศาจระเบิด เลือดและสมองกระจายจนเด็กหญิงข้างๆ หน้าซีดเผือด
มองดูเงาคนนั้นที่ยังคงต่อยอยู่ เธอก็พูดด้วยเสียงสั่นเครือ “พี่เซียว พี่เซียว มัน...มันตายแล้ว…”
“อืม?”
เสียงนั้นปลุกเซียวเฟิงจากฝันร้าย เขาหยุดการกระทำและมองศพเสือปีศาจตรงหน้า หายใจหอบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะได้สติ
“อิงเอ๋อ ข้า…”
เขาหันหัวไปปลอบโยนเด็กหญิงที่ตกใจ
แต่เธอกลับถอยหลังไปโดยอัตโนมัติ ทำให้เขาหยุดชะงัก สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“อิงเอ๋อ ขอโทษ ข้าไม่อยากให้เป็นแบบนี้…”
“พี่เซียว…”
อิงเอ๋อที่มีน้ำตาในดวงตา ลังเลสักพักก่อนจะกล้าเดินไปข้างหน้า ใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเลือดที่เปื้อนตัวเซียวเฟิง
“พี่เซียว ข้า...ข้าไม่กลัว…”
เหมือนกับพยายามให้กำลังใจตัวเอง เด็กหญิงพูดซ้ำๆ ว่า “ข้าไม่กลัว”
แต่น่าเสียดาย ความกลัวในใจไม่สามารถปกปิดได้ด้วยคำพูด
ที่สำคัญ เธอยังไม่รู้ว่ากลัวเลือดหรือกลัวคนตรงหน้ามากกว่า
น่ากลัวจริงๆ
พี่เซียวเขาเป็นอะไรไป...
…….
สายลมอ่อนๆ พัดผ่านเนินเขา กลิ่นคาวเลือดตลบอบอวล
เซียวเฟิงก้มมองใบหน้าที่ขาวซีดเพราะความกลัวของเด็กสาว สองมือกำหมัดแน่น
เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไรไป?!
ในวันที่ถูกเว่ยเซียนจือโจมตี เขาคิดว่าตัวเองคงต้องตายแน่ แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเองอยู่ในหมู่บ้านโฮ่วชิว
ไม่เพียงแต่บาดแผลจะหายไปอย่างลึกลับ พลังภายในยังเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุดของขั้นเจ็ด เกือบจะก้าวเข้าสู่ขั้นหก
เดิมทีนี่ควรเป็นเรื่องดี แต่หลังจากนั้นเขากลับรู้สึกไม่สบายใจ ปกติยังพอทนได้ แต่ถ้าเห็นเลือดก็จะกลายเป็นคนโหดร้ายจนเกือบจะเสียสติแบบเมื่อครู่...
เซียวเฟิงพยายามหาคำตอบแต่ก็ไม่พบว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง สุดท้ายก็คิดว่านี่อาจเป็นแผนร้ายของตระกูลเว่ย
แต่ทำไมตระกูลเว่ยถึงไม่ฆ่าเขาเสียเลย?
ทำเรื่องอ้อมค้อมเพื่ออะไร?
คิดไม่ออก
เซียวเฟิงคิดว่าถ้าอยากรู้ความจริง ต้องกลับไปที่ตระกูลเว่ยอีกครั้ง
“อิงเอ๋อ…”
คิดถึงตรงนี้ เขาจับมือน้อยๆ ของเด็กสาวเบาๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เมื่อข้าหายดีแล้ว ก็ถึงเวลาต้องไปแล้ว”
“อ๊ะ!”
อิงเอ๋อเงยหน้าขึ้น ความกลัวถูกลืมเลือนทันที “พี่เซียว พี่จะไปแล้วหรือ?”
“อืม”
เซียวเฟิงพยักหน้า มองไปยังทิศทางของเมืองหลวง “มีบางอย่างที่ข้าต้องไปทำความเข้าใจ”
“พี่เซียว…”
อิงเอ๋อมองเซียวเฟิงด้วยเสียงสั่นเครือ “แล้ว...แล้วพี่จะกลับมาไหม?”
เซียวเฟิงยิ้มเล็กน้อย “เด็กโง่ ถ้าเจ้าไม่ทิ้งข้า ข้าก็จะไม่ทิ้งเจ้า”
“……”
แสงแดดส่องผ่านใบไม้ตกลงบนศีรษะของเด็กสาว อิงเอ๋อหน้าแดงทันที จับผ้าเช็ดหน้าพูดด้วยเสียงอาย “งั้นข้าจะกลับไปทำอาหารให้พี่ เมื่อวานนี้ปู่พึ่งซื้อหมูมา...”
“ไม่ต้อง ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
เซียวเฟิงปล่อยมือเล็กๆ แล้วเดินไปยังศพเสือปีศาจ ดาบสีดำชักออกมาครู่เดียว เขาก็เอาหินปีศาจขนาดเท่าไข่ออกมาจากหัวของเสือปีศาจ
“สิ่งนี้แลกเป็นเงินได้มาก เก็บไว้รอข้ากลับมา”
“……”
“พี่เซียว ข้าจะรอพี่!”
เสียงเรียกที่เต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ก้องอยู่ในป่า แต่อึดใจเดียวเซียวเฟิงก็หายไป
ไม่นานหลังจากที่เขาจากไป กลุ่มสายลับของตระกูลเว่ยก็มาถึงหมู่บ้านโฮ่วชิว
……
“ท่าน เคยเห็นคนนี้ไหม?”
ที่หน้าหมู่บ้านโฮ่วชิว ชายร่างใหญ่ยกภาพวาดขึ้นมา ในภาพวาดคือเซียวเฟิง
“นี่ไม่ใช่เซียวเฟิงยอดวีรบุรุษหรอกหรือ!”
ผู้ถูกถามตอบอย่างตื่นเต้น “แน่นอนว่าข้าจำได้!”
“อืม?”
สายลับมองหน้ากัน แต่ไม่มีใครแสดงอาการ “แล้วเขาตอนนี้อยู่ที่ไหน?”
“อยู่ที่บ้านของลุงหลิว”
“ไม่กี่วันก่อนวีรบุรุษเซียวเฟิงไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รับบาดเจ็บ เขาพักฟื้นที่บ้านของลุงหลิว...เอ่อ ท่านเป็นใคร? ทำไมถามเรื่องนี้?”
“ฮะฮะ”
หัวหน้าสายลับไม่ตอบ แต่ยิ้มแล้วส่งเงินเหรียญสองสามเหรียญให้ “พี่ชาย ขอทราบทางไปบ้านลุงหลิวได้ไหม?”
“อ๋า! ข้ามองว่าท่านไม่ใช่คนเลวแน่ เป็นเพื่อนของคุณชายเซียวใช่ไหม!”
“เดินตรงไป เห็นต้นไม้โบราณเลี้ยวซ้าย หลังแรกคือบ้านของลุงหลิว!”
“ขอบคุณพี่ชายมาก”
“ขอบคุณอะไร...อา...พวกท่าน...”
“ปั๊ง!”
แสงวาบผ่าน ชายที่พูดล้มลงกับพื้น ดวงตาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
ถ้าดูใกล้ๆ จะเห็นรอยเลือดเล็กๆ บนคอของเขา แต่แปลกที่ไม่มีเลือดไหลออกมาแม้แต่นิดเดียว
“พี่สี่ ไปจัดการศพนี้”
หัวหน้าสายลับเก็บดาบสั้นที่เคลือบยาพิษ ย่อกายเปิดนิ้วของชายคนนั้น เอาเหรียญกลับมา
“พี่สาม กลับไปบอกที่สำนักงานเรียกคน พี่สอง ไปกับข้ารักษาการณ์ที่บ้านลุงหลิว”
เขาเอื้อมมือแตะเปลือกตาของชายที่ล้มลง
“พี่ชาย ขอโทษด้วย”