บทที่ 200: วิญญาณมุ่งสู่ทะเล (ตอนที่ 2)
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 200: วิญญาณมุ่งสู่ทะเล (ตอนที่ 2)
"การปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์แล้วสินะ?"
จิตวิญญาณของซุนเฉิงถึงกับสั่นไหวเมื่อเขาได้รับข่าวว่าการปรับปรุงอาร์คันเกลสค์นั้นเสร็จสิ้นแล้ว
"ขอรับนายท่าน แม้ว่าจะใช้เวลามากกว่าเวลาที่คาดไว้หนึ่งวัน แต่ขั้นตอนแรกของการปรับปรุงเรือดำน้ำก็เสร็จสมบูรณ์ และสามารถเดินทางได้ทุกเมื่อ!"
ตรงหน้าซุนเฉิง เฮเฟสตัสผู้ซึ่งมีแสงสีฟ้าในดวงตาของเขาดูหรี่ลงอย่างเห็นได้ชัด น้ำเสียงของเขาดูประจบสอพลอมาก
ดีเซปติคอนส์มีระบบลำดับชั้นที่เข้มงวด ดีเซปติคอนส์ระดับสูงใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงดีเซปติคอนส์ระดับล่างอย่างน่าเวทนา การทำร้ายและฆ่ากันถือเป็นเรื่องปกติ
ดังนั้นดีเซปติคอนระดับต่ำทุกตัวตั้งแต่เกิดจึงมุ่งมั่นที่จะคว้าทุกโอกาสที่จะปีนขึ้นไป แม้จะอยู่ภายใต้การปกครองของเมกะทรอน แต่ชะตากรรมของพวกเขาก็เป็นได้แค่คนงานเหมือง เป็นทหารที่ถูกส่งไปตาย และเป็นทาส
"ทำได้ดีมาก!"
ซุนเฉิงพยักหน้ายินดี เผยให้เห็นว่าเขายอมรับเฮเฟสตัสและความพยายามของพวกเขา
สาเหตุที่เขาไม่ได้ยึดเรื่องศักดิ์ฐานะของดีเซปติคอน ก็เพราะเขาไม่ใช่สิ่งมีชีวิตจักรกล เขามีจิตวิญญาณของมนุษย์อยู่ มันทำให้เขาไม่ได้มีความคิดร้ายกาจและไม่มีความสนใจที่จะทำสิ่งเลวร้ายต่อวิศวกรพวกนี้
ซึ่งเรื่องลำดับชั้นที่เข้มงวดของดีเซปติคอนก็ได้สร้างประโยชน์ให้แก่เขามากมายเช่นกัน…
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดกับเฮเฟสตัสที่กำลังรอคอยอย่างใจจดใจจ่อว่า "ข้าพอใจในความจงรักภักดีของเจ้า เมื่อการดัดแปลงเรือดำน้ำเสร็จสมบูรณ์แล้ว ข้าจะให้โอกาสเจ้า โอกาสที่จะแข็งแกร่งขึ้น ตอนนี้เฮเฟสตัส จงพาข้าไปดูสัตว์ประหลาดอันแสนยิ่งใหญ่ของข้าเร็วเข้า!"
"ขอรับ นายท่าน!"
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงคำสัญญาที่ว่างเปล่า แต่มันก็ทำให้เฮเฟสตัสเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ทำให้ร่างกายกลของเขาถึงกับสั่นสะท้าน
หลังจากโค้งตัวแล้ว เขาก็ก้าวถอยหลังอย่างเคารพ เดินแนะนำซุนเฉิงปไพลางขณะที่พวกเขาเดินผ่านภายในของเรือดำน้ำอาร์คันเกลสค์ ซึ่งเสร็จสิ้นขั้นตอนการปรับปรุงขั้นแรกแล้ว
เพียงหนึ่งสัปดาห์ต่อมา หลังจากการปรับปรุงโดยทีมวิศวกรดีเซปติคอน เรือดำน้ำนิวเคลียร์ขีปนาวุธระดับไต้ฝุ่นรุ่นเก่านี้คล้ายเกิดขึ้นใหม่
แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในของเรือดำน้ำเพียงเล็กน้อย แต่มันก็มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ภายในที่ค่อนข้างคับแคบอย่างมาก
ห้องสมุด โรงยิม ห้องว่ายน้ำ ห้องพักผ่อนและหอพักทหารที่เคยให้บริการภายในเรือดำน้ำของกองทัพเรือรัสเซีย ได้ถูกนำออกไป จนมันเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในเรือมากกว่า 370 ตารางเมตร
ด้วยความที่โละของพวกนี้ที่อยู่ในเรือดำน้ำออก การเปลี่ยนแปลงขนาดนี้จึงสามารถอธิบายได้เลยว่าเป็นการยกเครื่องใหม่ทั้งหมด
อุปกรณ์ที่ติดตั้งก่อนหน้านี้เกือบทั้งหมดถูกรื้อถอนไป บางส่วนถูกแทนที่ด้วยอุปกรณ์ใหม่ที่วิศวกรขโมยมาจากคลังสินค้าในอู่ต่อเรือเซเวโรดวินสค์ ซึ่งอุปกรณ์ใหม่พวกนี้ส่วนใหญ่มีไว้สำหรับใช้กับเรือดำน้ำ "ชั้นโบเร" สองลำที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างที่อู่ต่อเรือ...
ส่วนประกอบหลักของอุปกรณ์เรือดำน้ำได้รับการออกแบบโดยวิศวกรของเขาเอง โดยใช้วัสดุที่เขาไปขโมยมา
หลังจากการปรับปรุงพื้นที่ อุปกรณ์ภายในของเรือดำน้ำจึงได้ลดลงสี่ถึงห้าเท่าเมื่อเทียบกับสภาพเดิม
นอกจากนี้ ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่ติดตั้งใหม่ยังเหนือกว่าอุปกรณ์เดิมมากกว่าสามเท่า
ซึ่งนอกจากอุปกรณ์แล้ว อีกหนึ่งอย่างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือระบบพลังงานของเรือดำน้ำ
ระบบพลังงานดั้งเดิมบนอาร์คันเกลสค์คือเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์น้ำแรงดันสูง OK-650 (VM -5) สองเครื่อง ในสายตาของเฮเฟสตัสและตนอื่น ๆ พวกเขาคิดว่าเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์พวกนี้ที่ได้รับการออกแบบโดยวิศวกรโซเวียตในทศวรรษที่ 1970 และ 1980 นั้นล้าสมัยและไม่พอให้เอามาใช้สักนิด
ข้อเสนอเดิมของพวกเขาคือเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ขับเคลื่อนแบบพลังน้ำแบบซุปเปอร์แมกเนติก หากใช้มัน พวกเขาก็จะสามารถขับเคลื่อนเรือดำน้ำที่มีน้ำหนัก 20,000 ตันด้วยความเร็วใต้น้ำมากกว่าร้อยนอต
เฮเฟสตัสและตนอื่น ๆ วางแผนที่จะแทนที่เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์น้ำแรงดันสูง OK -650 (VM -5) สองเครื่องบนเรือดำน้ำลำนี้ด้วยอุปกรณ์ขับเคลื่อนหัวฉีดน้ำของพลังน้ำแบบซุปเปอร์แมกเนติกสองเครื่อง ทำให้ไอ้เจ้าสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวตนนี้สามารถทำความเร็วได้มากกว่าสองร้อยนอตใต้น้ำ เร็วกว่าตอร์ปิโดเสียอีก
ทว่าการจะทำให้มันมีแรงผลักดันแบบซุปเปอร์แมกเนติกนั้น วิศวกรของเขาจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีการผลิตมันขึ้นมา
แต่การผลิตเครื่องผลักดันแบบซุปเปอร์แมกเนติกต้องใช้อุปกรณ์หลายอย่าง ในทางทฤษฎีหากมีทรัพยากรเพียงพอ การผลิตเครื่องผลักดันเพียงเครื่องเดียวก็ต้องใช้วิศวกรอย่างน้อยสามสิบตนทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเป็นเวลากว่ายี่สิบวันแล้ว
ดังนั้นพวกเขาจึงมีแต่ต้องเอาเรื่องนี้ไปอยู่ในส่วนการปรับปรุงขั้นที่สองแทน
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เฮเฟสตัสและตนอื่น ๆ ได้อุทิศความพยายามไปกับการเปลี่ยนเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์น้ำแรงดันสูง OK -650 (VM -5) สองเครื่องบนเรือดำน้ำอาร์คันเกลสค์
เป็นเวลากว่าสามวันติดต่อกันแล้ว ที่วิศวกรดีเซปติคอนทั้งสี่คนทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยกับเครื่องปฏิกรณ์เหล่านี้ จนทำให้เครื่องนี้ที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในทศวรรษที่ 1980 เหมือนได้รับการต่ออายุใหม่
หลังจากการปรับปรุงเครื่องปฏิกรณ์ทั้งสอง ต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนกว่า 90% ก็ทำให้พลังงานของมันเพิ่มขึ้นจาก 380MW เป็น 535MW นอกจากนี้อายุการใช้งานของเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ยังได้รับการยืดออกไปเกือบ 30%
แม้ว่าเหล่าวิศวกรจะสับสนกับคำสั่งของซุนเฉิงที่จะใช้พลังงานล้ำค่าจำนวนมากเพื่ออัปเกรดอุปกรณ์ที่ล้าสมัยนี้
แต่ความพยายามของพวกเขาส่งผลให้สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลที่เคยอ่อนแอและโดนดูถูก ตอนนี้มีความเร็วเหมือนวิญญาณใต้น้ำลึกอย่างแท้จริง มันมีความเร็วมากกว่าสี่สิบสองนอตไปแล้ว
มันในยามนี้คล้ายดั่งวิญญษณแห่งท้องทะเลไปแล้ว!
เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจสอบสภาพของอาร์คันเกลสค์ที่เพิ่งปรับปรุงมา ซุนเฉิงก็เดินไปตามกำแพงของเรือดำน้ำ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจ
เหตุผลที่เรียกมันว่าวิญญาณแห่งท้องทะเล ไม่ใช่สัตว์ประหลาดแห่งท้องทะเลที่น่าสะพรึงกลัวเหมือนในอดีตก็มีสาเหตุอยู่
ถึงประสิทธิภาพที่ของอาร์คันเกลสค์ที่ปรับปรุงใหม่จะโดดเด่นขึ้นมาก แต่ก็มีเรื่องหนึ่งที่ไม่สามารถเมินเฉยได้เลย นั่นคือระบบอาวุธของมันยังคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร
ในฐานะที่มันเป็นถึงเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ มันก็ควรจะเป็นเรือดำน้ำที่มีอาวุธที่สามารถปลูกฝังความกลัวไปทั่วโลกได้สิ แต่ตอนนี้มันว่างเปล่าไปหมด…!
ใช่แล้วล่ะ!
หลังจากเรือดำน้ำนี้จอดที่ท่าเทียบเรือในอู่ต่อเรือเซเวโรดวินสค์ อาร์คันเกลสค์และเรือดำน้ำอีกลำก็ไม่มีกระสุนอยู่เลย แถมหัวรบนิวเคลียร์ที่บรรทุกอยู่ในเรือดำน้ำ ซึ่งมีศักยภาพที่จะทำลายโลกก็ได้ถูกย้ายไปยังคลังแสงเสียแล้ว
ในช่วงเวลาที่วุ่นวายหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต อาวุธนิวเคลียร์จำนวนมากได้สูญหายไปในตลาดมืด ทำให้เกิดความหวาดกลัวไปทั่วโลกเป็นเวลาเกือบสองทศวรรษ
หลังจากประธานาธิบดีคนใหม่ของรัสเซียอย่างวลาดิเมียร์ได้รับอำนาจ เขาก็ได้เสริมสร้างการปกป้องและจัดการคลังแสงนิวเคลียร์ของประเทศใหม่
ดังนั้นหากซุนเฉิงต้องการเอา P-39 ขีปนาวุธปล่อยใต้น้ำที่ออกแบบมาสำหรับเรือชั้นไต้ฝุ่น เขาจะต้องสร้างเรื่องอันใหญ่โตในรัสเซียขึ้น
ไม่รู้เลยว่าตัวเขาคนเดียวจะสามารถทำสิ่งที่เขา บาริเคด ออนสลอตและโบนครัชเชอร์ร่วมกันสำเร็จไหม หรือมันจะเป็นแค่การยั่วยุรัสเซียเท่านั้น…ซุนเฉิงไม่อาจรู้ได้เลย
ดังนั้นเขาจึงเลิกสนใจเรื่องอาวุธชั่วคราว ไว้ค่อยหาอันอื่นมาแก้ขัดทีหลัง
ขณะที่กำลังรู้สึกเศร้าใจ ตัวซุนเฉิงก็เดินเตร็ดเตร่ไปรอบ ๆ เรือดำน้ำอย่างพอใจนิดหน่อย ยิ่งเขาดูมันมากเท่าไร เขาก็ยิ่งพอใจมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจสอบแล้ว เขาจึงยกย่องเหล่าทีมวิศวกรและกล่าวถึงเฮเฟสตัส กับวิศวกรตนอื่น ๆ รอบตัวเขา
"ทำได้ดีมาก! ผลลัพธ์จากการทำงานของเจ้าทำให้ข้าพึงพอใจอย่างมาก เมื่อการปรับปรุงขั้นที่สองเสร็จสิ้น ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าสามคนในการปรับปรุงแกนหลักของเจ้า ดังนั้นวิศวกรของข้า จงทำงานให้ข้าต่อไปและแสดงให้ข้าเห็นถึงความสามารถของเจ้าเสีย!"
เมื่อพูดจบ เขาก็ไม่ได้สนใจกลุ่มวิศวกรอีกต่อไป ทว่าใบหน้าของพวกเขาล้วนเบิกบานไปด้วยความสุข
ซุนเฉิงมองไปยังบางส่วนเรือดำน้ำ ซึ่งถูกรื้อถอนออกไปโดยการดัดแปลงของวิศวกร จากนั้นเขาก็ตัดสินใจเรื่องหนึ่งได้…
"เจ้าคือสิ่งมีค่าของค่าแล้ว เจ้าต้องมีชื่อใหม่ งั้นจากนี้ไป ข้าจะเรียกเจ้าว่า 'ภูตผี’ แล้วกัน!"