ตอนที่ 48 ตามหา
ตอนที่ 48 ตามหา
ซ่งลุ่ยได้ยินฮงเหมยพูดเช่นนั้น เขาก็รู้สึกยิ้มในใจอย่างเบิกบาน ฮงเหมยหนอฮงเหมย คิดไม่ถึงเธอก็มีวันมาขอร้องฉัน ! มันช่างรู้สึกฟินจริง ๆ !
เวลาโดนคนขอร้องทีไร มันทำให้รู้สึกฟินทุกที โดยเฉพาะเธอ ฮงเหมย เวลาเธอมาขอร้องฉัน มันยิ่งรู้สึกฟิน !
ตอนนี้ซ่งลุ่ยกำลังตะโกนมันขึ้นในใจที่แสนจะเงียบงันของตัวเอง แต่ใบหน้าที่แสดงออกยังคงแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ดวงตาทั้งสองข้างค่อย ๆ เหลือบมองไปที่ฮงเหมย จากนั้นเขาก็เบือนหน้าหนีใส่เธออีกครั้ง
เมื่อฮงเหมยเห็นเขาทำกับตัวเองแบบนั้น ใจเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโมโห: ฉันฮงเหมยคนนี้เป็นใครกัน ! ตัวฉันเองเป็นลูกน้องอันดับหนึ่งของท่านประธานจางเชียวนะ ตอนนั้นฉันถึงกับยอมก้มหัวขอร้องนายขนาดนั้น นายกลับกล้ามาปฏิเสธฉันคนนี้ ! เฮอะ ฉันก็ไว้หน้านายแล้วนะ ! แต่เมื่อเธอคิดย้อนกลับไป แม้ว่าตัวเธอเองจะเป็นคนโปรด แต่สุดท้ายก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แบบนั้นท่านประธานจางจะมาคิดพึ่งพาตัวเองได้ยังไง
เธอยังคิดว่าในใจของประธานจางยังคิดว่าเธอเป็นผู้หญิง ไม่อาจพึ่งได้เหมือนพวกผู้ชาย แม้ว่าตัวเองจะติดตามสั่งสมประสบการณ์ร่วมกับท่านประธานจางมาหลายปีก็ตาม แต่จากท่าทีของประธานจาง เห็นได้ชัดว่าเขาคิดจะชุบเลี้ยงซ่งลุ่ยเพื่อเอามาแทนที่ตัวเอง เฮ้อ แล้วแบบนี้ตัวเองจะทำยังดีล่ะ ! แถมความไม่ชัดเจนของการเอาใจแบบนี้กำลังใกล้เข้ามาแล้วด้วย !
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮงเหมยก็กัดฟันตัวเอง ถ้าไม่เห็นแก่อนาคตของแก ฉันจะปล่อยให้แกไปตาย ฮงเหมยถอนหายใจออกมายาว ๆ เฮ้อ ต่อไป ฉันก็คงได้แต่อดทน !
ฮงเหมยจัดการอารมณ์ของตัวเองและยังจัดการกับคำพูด ขณะที่ฮงเหมยอยู่ในอ้อมแขนของซ่งลุ่ย เธอเงยหน้าขึ้น และพูดกับซ่งลุ่ยว่า "เมื่อกี้ฉันไม่ได้ตั้งใจมาขัดจังหวะนาย เพราะเรื่องก่อนหน้านี้ที่ท่านประธานจางฝากให้ฉันบอกกับนายน่ะ เรื่องนั้นพวกเราลงทุนมากเกินไป ฉันกลัวว่าตัวเองจะลืม ถึงยังไงพวกเราก็ต่างทำงานให้ท่านประธานจางใช่ไหมล่ะ"
"ถ้าทำเรื่องของเขาออกมาแย่ พวกเราแค่เดินออกไปก็ทำไม่ได้แน่ และถ้าพูดอีกอย่างฉันเองก็หนีเอาตัวรอดไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นนายคิดว่าเวลาไหนควรทำยังไงก็ทำเลยนะ ได้ใช่ไหมล่ะ"
ที่จริงเมื่อครู่ซ่งลุ่ยไม่ได้โกรธเลยสักนิด เขาแค่อยากจะสัมผัสกับความรู้สึกที่ถูกฮงเหมยขอร้องตัวเองสักพักเท่านั้น เมื่อกี้ท่าทางของฮงเหมย ไม่รู้ว่าเธอคิดว่าตัวเองเล่นแรงเกินไปรึเปล่า เมื่อคิดให้ละเอียดเกี่ยวกับการกระทำทั้งหมดของตัวเองเมื่อครู่ ถ้าเปลี่ยนเป็นตัวเอง เขาก็คงรับท่าทีแบบนั้นไม่ไหวเหมือนกัน
ตอนที่ฮงเหมยเตรียมจะขอโทษอย่างจริงจังนั้น ฮงเหมยก็พูดสิ่งเหล่านั้นออกมาก่อน มันอดไม่ได้ที่จะทำให้ซ่งลุ่ยมองว่าฮงเหมยนั้นเป็นคนมีความสามารถ ดูเหมือนการที่เธอมาถึงตำแหน่งนี้ก็คงไม่ใช่เพราะการพึ่งพาความสามารถปลอม ๆ พวกนั้น การที่เธอสามารถอดกลั้นอารมณ์นี้ไว้ได้ มันทำให้ตัวเองอยากจะยกนิ้วให้เธอเลยจริง ๆ !
ซ่งลุ่ยเห็นว่าไหน ๆ ฮงเหมยก็พูดออกมาแล้ว และมันยังเป็นการสร้างบันไดให้กับตัวเองได้เดินลงมา ถ้าตัวเองยังฝืนทำแบบนี้ต่อไป มันก็เหมือนกับการที่เขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับเธอ แต่ตัวเขาเองจะตอบตกลงได้อย่างไร ตอนนี้เขายังต้องคิดให้ดี ๆ ก่อน และจะทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังควบคุมเธออยู่ไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังต้องทำให้มันออกมาเป็นธรรมชาติมากที่สุด ดังนั้นก่อนที่เขาจะพูดออกมา มันต้องถูกเรียบเรียงให้ดีซะก่อน
ขณะที่ซ่งลุ่ยกำลังเรียบเรียงคำพูดของตัวเอง เขาก็แสดงท่าทางเข้าใจออกมาอย่างฉับพลัน จากนั้นเขาแสดงสีหน้าขอโทษออกมา และพูดกับฮงเหมยอย่างเป็นธรรมชาติ "ยังไงก็เป็นฮงเหมยที่มองการณ์ไกล ! ไม่เหมือนกับฉัน ที่คิดอย่างครึ่ง ๆ กลาง ๆ อย่างกับพวกสัตว์ เมื่อกี้เป็นฉันเองที่ทำตัวเย็นชาใส่เธอ ! "
"ต้องขอโทษจริง ๆ ดูเหมือนฉันต้องหาเวลาตอบแทนเธอให้ดี ๆ บ้างแล้ว เธอว่าฉันพูดถูกไหม ส่วนจะตอบแทนยังไงนั้น เธอรู้ใช่ไหม ฮิฮิฮิ" เมื่อพูดจบ เขาก็หัวเราะแบบแปลก ๆ ให้กับฮงเหมย
ฮงเหมยเห็นซ่งลุ่ยแสดงท่าทางแบบนั้นออกมา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ใจของเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขยะแขยง ไม่มีความรู้สึกกระตือรือร้นเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว บาทีเธออาจรู้สึกขยะแขยงซ่งลุ่ยจริง ๆ !
แค่ความคิดครึ่ง ๆ กลาง ๆ งั้นหรอ ไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมประธานจางถึงมองเขาด้วยสายตาเห็นค่าแบบนั้น ถ้าให้ประธานจางมาเห็นท่าทางของซ่งลุ่ยในตอนนี้ เขาจะต้องเห็นตัวตนของซ่งลุ่ย และเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขาแน่ !
การแสดงของซ่งลุ่ยสร้างปัญหาให้กับฮงเหมย ในตอนนั้นเธอไม่มีอารมณ์มาเล่นกับเขาอีกต่อไป อย่างน้อยตอนนี้เธอก็ไม่มีแล้ว หวังว่าต่อไปคงมีละมั้ง ตอนนี้ฮงเหมยเพียงอยากคุยเรื่องที่ประธานจางมอบหมายให้ชัดเจนและสมบูรณ์ จากนั้นเธอก็จะรีบเดินจากไป เพราะตอนนี้ตัวเองไม่อยากจะเห็นท่าทีแบบนั้นของเขาอีกต่อไป !
เมื่อคิดถึงจุดนี้ เป็นธรรมดาที่ฮงเหมยจะลุกขึ้นมาจากอ้อมแขนของซ่งลุ่ย และกลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ อีกครั้ง เธอพูดกับซ่งลุ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง "ตอนนี้นายฟังให้ดีนะ ฉันจะทวนสิ่งที่ท่านประธานจางบอกอีกครั้ง นายจะต้องตั้งใจฟังมัน ถ้าไม่ทำแบบนั้นแล้ว อย่ามาบ่นว่าฉันพูดไม่ชัดเจนนะ ! "
เมื่อซ่งลุ่ยเห็นฮงเหมยออกไปจากอ้อมแขนแล้วยืนขึ้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ เมื่อกี้เธอยังทำหน้าตาหว่านเสน่ห์ใส่เขาอยู่เลย ทำไมตอนนี้เธอถึงเปลี่ยนไปเคร่งขรึมได้ขนาดนี้ล่ะ ตัวเองได้เห็นเทคนิคการแปลงโฉมหน้าที่ยอดเยี่ยมของผู้หญิงอีกแล้ว ! ครั้งที่แล้วก็ทำให้ตัวเองแปลกใจไปครั้งหนึ่ง !
เป็นความสมบูรณ์แบบที่สุดยอด ! แม่งโคตรสุดยอดจริง ๆ ! แต่ถ้าพูดอีกอย่าง หรือว่าหลังจากที่ฮงเหมยพูดจบ เธอก็จะไม่ทำกับตัวเองแล้วหรอ ลองดูท่าทีของฮงเหมยก่อนก็แล้วกัน ซ่งลุ่ยไม่สามารถบอกได้ว่าเหตุผลคืออะไร แต่ซ่งลุ่ยสัมผัสได้ว่าเธอหมายความว่าแบบนี้ แบบนี้ก็ดี ลดปัญหาให้ตัวเองได้เยอะ !
ซ่งลุ่ยมองสีหน้าของฮงเหมยที่นั่งอยู่ ตอนนี้ตัวเองจะทำเป็นเล่นต่อไปอีกไม่ได้ จากนั้นเขาก็ปรับตำแหน่งการนั่งของตัวเองเล็กน้อย เขาเปลี่ยนเป็นท่านั่งตัวตรงขาทั้งสองข้างเกือบชิดกันแบบผู้ดีที่มีสง่าราศีทำ ในเวลาเดียวกัน เขาก็ทำหน้าจริงใจใส่ฮงเหมยเช่นกัน และเขายังไม่หยุดเพียงเท่านั้น ในใจของเขากำลังคิด เธอทำสีหน้าเคร่งขรึมแบบนั้นใส่ฉัน งั้นฉันเองก็ทำมันใส่เธอได้เช่นกัน จะให้ตัวเองสูญเสียความสง่างามไปไม่ได้ !
ฮงเหมยเองก็เห็นซ่งลุ่ยนั่งตัวตรงเหมือนกับตัวเอง ในตอนนั้นรูปร่างของเขาสูงขึ้นมาเล็กน้อย เธอกำลังคิด ดูเหมือนซ่งลุ่ยก็รู้แล้วว่าตัวเองกำลังหมายถึงอะไร งั้นก็ดี พอดี ฉันพูดจบจะได้หาเหตุผลและเดินออกไปเลย ฉันจะรอดู นายจะมีหน้ามาทำเป็นขอร้องอะไรฉันได้อีก ฉันจะรอดู นายจะขอร้องอ้อนวอนฉันยังไง !
แม้ว่าใจของฮงเหมยจะคิดแบบนี้ก็จริง แต่ปากของเธอเหมือนจะยังไม่หยุดพูด เมื่อเห็นซ่งลุ่ยนั่งตัวตรง จากนั้นเธอก็อ้าปากพูดกับซ่งลุ่ยอีก "ท่านประธานจางให้ฉันมาบอกนายว่า เรื่องของการเก็บค่าเช่านี้ นายจะเจอปัญหาบ้าง แต่มันจะยุ่งยากมาก พวกมันจะเป็นเพียงปัญหาเล็ก ๆ แค่นั้น ไม่ต้องรีบร้อนร้องขอความช่วยเหลือจากทางบริษัท เพราะทางบริษัทไม่ใช่ที่กำจัดขยะ ! "
หลังจากฮงเหมยพูดจบ เธอก็จ้องเขม็งไปที่ซ่งลุ่ย แน่นอนตอนนี้เธอมองเห็นปัญหาบางอย่างจากการแสดงออกทางสีหน้าของซ่งลุ่ย ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สงสัยอะไร แต่ถ้าเขามีปัญหา นั่นก็ถึงตาที่เธอจะเป็นฝ่ายควบคุมเขาบ้างล่ะ ! เธอจะทำให้เขาต้องเสียใจที่กล้ามาขัดใจเธอ !
ทางฝั่งของซ่งลุ่ย หลังจากฟังที่ฮงเหมยพูดจบ ตอนนั้นเขาก็แสดงสีหน้าครุ่นคิดออกมา แต่เดิมเขาคิดว่าที่ประธานจางตั้งใจให้ตัวเองทำเรื่องมากมายเหล่านี้ แต่เขากลับให้ฮงเหมยมาพูดกับตัวเองเพียงแค่นี้เนี่ยนะ
ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาทั้งสองข้างเผยให้เห็นถึงความสงสัย เขาถามฮงเหมยว่า "พูดจบแล้วงั้นหรอ ท่านประธานจางให้คุณมาพูดแค่เนี้ย อะไรมันจะจบเร็วขนาดนี้ ไม่ใช่แล้วมั้ง มันควรจะยาวกว่านี้อีกหน่อยซิ เธอกำลังพลาดอะไรไปรึเปล่า ! "
ฮงเหมยได้ยินซ่งลุ่ยพูดแบบนั้น เธอจึงแกล้งทำเป็นตอบกลับแบบโมโห "ทำไม แม้แต่ฉัน นายก็ไม่เชื่อแล้วหรอ ถ้านายไม่เชื่อที่ฉันพูด นายก็ไปถามท่านประธานจางด้วยตัวเองเลยซิ ! "