ตอนที่ 2 ลูกหลานที่ไร้ความสามารถ
ตอนที่ 2 ลูกหลานที่ไร้ความสามารถ
ศิษย์หลายคนของตระกูลลู่ จ้องมองฉากมหัศจรรย์นี้อย่างว่างเปล่า ราวกับว่าพวกเขาสติหลุดไปแล้ว
มีเพียงผู้อาวุโสบางคนของตระกูลลู่เท่านั้นที่พอจะมีภูมิต้านทานเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขามองไปที่ร่างของชายหนุ่มที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าด้วยความเคารพถึงขีดสุด
"แคะ แคะ..." จู่ๆ ลู่ถงก็ไอสองครั้งอย่างรุนแรง และมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา ซึ่งมีเศษเนื้อบางส่วนปกออกมาด้วย
เมื่อลู่ซวนเห็นสิ่งนี้ เขาก็รีบไปช่วยประคองลู่ถงเอาไว้
"จากนี้ไป ตระกูลลู่จะ...เหลือเจ้า..." จู่ๆ ดวงตาของลู่ถงก็เบิกกว้าง และเขาก็พูดอย่างอ่อนแรง
อาการบาดเจ็บของลู่ถงสาหัสมากและเขาเกือบจะบั้นปลายชีวิตแล้ว หากเขาไม่อดทนเพราะกลัวว่าตระกูลลู่จะถูกทำลาย เขาคงเสียชีวิตไปนานแล้ว
ในขณะนี้ ลู่ถงใช้กำลังจนหมด หลังจากพูดถ้อยคำสุดท้าย เขาก็คอพับ และหลับใหลไปตลอดกาล
"ท่านปู่!!!" ลู่ซวนคำราม แต่เขาทำได้เพียงมองดูปู่ของตนที่ตายไปต่อหน้า โดยไม่มีหนทาช่วยใดๆ
…
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ตระกูลลู่เริ่มโด่งดังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งทำให้หลายๆ คนถอนหายใจ สมเป็นตระกูลที่มีมรดกมายาวนาน แม้จะถดถอยก็ยังไม่สามารถสบประมาทได้
แต่ในเวลานี้ ตระกูลลู่กำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้า
ขณะนี้ตระกูลหลูกำลังจัดงานศพให้กับผู้อาวุโสสูงสุด และเหล่าศิษย์ที่เสียชีวิตในการต่อสู้ งานศพนี้ยิ่งใหญ่มาก และไม่มีการหย่อนยานใดๆ
แม้ว่าสถานการณ์ฝนปัจจุบันของตระกูลหลูจะไม่ดีนัก และการจัดงานศพเช่นนี้เป็นเรื่องยาก แต่ก็ไม่มีใครคัดค้านในเรื่องนี้
ท้ายที่สุดแล้ว หากไม่มีผู้อาวุโสสูงสุด และศิษย์เหล่านั้นที่ต่อสู้เสี่ยงชีวิตเพื่อตระกูลลู่ พวกเขาคงไม่ได้มายืนอยู่ที่นี่
ขณะนี้ลู่ซวน และผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลลู่กำลังเฝ้าห้องไว้ทุกข์ในชุดป่านสีขาว ทุกคนดูหดหู่มาก
“นายน้อย ทำไมท่านไม่เชิญบรรพบุรุษออกมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งนี้ ผู้อาวุโสสูงสุดจะตายไปได้อย่างไร และตระกูลเราก็อาจไม่ต้องสูญเสียศิษย์ไปเป็นจำนวนมากถึงขนาดนี้” ผู้อาวุโสหนึ่งจ้องมองไปที่ลู่ซวน แล้วพูดขึ้น
หัวใจของลู่ซวนก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวก เขากำหมัดแน่น หวังว่าจะตัวเขาที่นอนอยู่ในโลงศพแทนปู่ของตน
“พี่ใหญ่ เราไม่สามารถตำหนิเสี่ยวซวนสำหรับเรื่องนี้ได้ ท้ายที่สุดแล้ว เราทุกคนก็รู้ถึงสถานการณ์ของบรรพบุรุษ เราใช้เขาเป็นไพ่ตายมาหลายปีแล้ว ความรู้สึกผิดนั้นท่วมท้นจนยากจะนับไหว” เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผู้อาวุโสสามรีบพูดขึ้น
แม้ว่าผู้อาวุโสหนึ่งจะโกรธ แต่เขาก็รู้ด้วยว่าไม่สามารถตำหนิในลู่ซวนในเรื่องนี้ได้ ท้ายที่สุดเมื่อผู้นำตระกูลคนก่อนซึ่งเป็นพ่อของลูซวนจากไป เขาได้เน้นย้ำว่าร่างของบรรพบุรุษไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้อีก
ทุกคนหยุดพูด แต่หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
สถานการณ์ของตระกูลลู่แตกต่างจากตระกูลอื่น พวกเขาไม่ใช่แค่ตระกูลที่สืบสายโลหิตเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วเป็นสำนักที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
เมื่อถึงจุดสูงสุด ว่ากันว่าศิษย์ของตระกูลลู่กระจายตัวไปทั่วโลก แสดงให้เห็นถึงศักดิ์ศรีของสำนักใหญ่ ปราบปรามทั้งเก้าสวรรค์สิบดินแดน
ผู้นำตระกูลลู่ทุกคนถือได้เป็นเจ้าสำนักสวินเต๋า และผู้อาวุโสหลักล้วนเป็นผู้สืบทอดของตระกูล ลู่
พูดตามหลักเหตุผลแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่สำนักที่ค่อนข้างพิเศษเช่นนี้จะพัฒนาและเติบโต แต่ตระกูลลู่ของพวกเขาเป็นข้อยกเว้น
นั้นก็เป็นเพราะบรรพบุรุษของตระกูลลู่ ของพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังอย่างยิ่ง เขาทรงพลังจนไม่มีใครเทียบได้ เมื่อปีนขึ้นไปบนจุดสูงสุดของโลก และกวาดล้างไปทั่วโลก!
น่าเสียดาย เนื่องจากอุบัติเหตุบางอย่าง ตระกูลลู่จึงอ่อนแอลงเรื่อยๆ และตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงหดหัวอยู่ในเมืองเล็กๆ ในดินแดนตงหวงเท่านั้น
........
“ติ๊ง โฮสต์ต้องการเปิดระบบหรือไม่ ถ้าใช่ กรุณาตอบรับด้วย”
“ติ๊ง เนื่องจากโฮสต์เสียชีวิตแล้ว จึงไม่สามารถตอบรับได้”
“ติ๊ง ทำการฟื้นคืนชีพ แต้มบุญไม่เพียงพอ การฟื้นคืนชีพล้มเหลว”
“ติ๊ง ตรวจพบ โฮสต์ยังคงมีเสี้ยววิญญาณศักดิ์สิทธิ์เหลืออยู่ ทำการฟื้นคืนวิญญาณศักดิ์สิทธิ์”
“ติ๊ง วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของโฮสต์กำลังฟื้นคืนชีพ..”
“ติ๊ง วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของโฮสต์ฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ”
ลู่ซุนค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างสับสนเล็กน้อย คราวนี้เขารู้สึกเหมือนหลับลึกไปนาน และจิตใจของเขากำลังสับสนวุ่นวาย
“นี่…ข้ายังไม่ตายเหรอ?” ลู่ซุนพึมพำกับตัวเอง
“โฮสต์ได้ตายไปแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงวิญญาณเท่านั้น และไม่ถือว่าเป็นการฟื้นคืนชีพที่แท้จริง หากโฮสต์ต้องการฟื้นคืนชีพโดยสมบูรณ์ และปรากฏตัวในโลกอีกครั้ง ก็จะต้องจ่ายแต้มบุญจำนวนหนึ่ง” เสียงของระบบดังขึ้น ลู่ซุนอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอยู่ในใจครู่หนึ่ง
หลังจากนั้น ได้มีการแนะนำเกี่ยวกับระบบเข้ามาในจิตใจของเขาซึ่งทำให้ความทรงจำที่ถูกผนึกไว้เป็นเวลานานได้ตื่นขึ้น
ไม่มีใครรู้ว่าลู่ซุนซึ่งครั้งหนึ่งเคยปกครองโลก จริงๆ แล้วเขาคือนักเดินทางข้ามมิติ เขาเดินทางมายังโลกนี้เมื่อหลายปีก่อน แม้ว่าเขาไม่ได้รับตัวช่วยใดๆ แต่เขาก็อาศัยความรู้ที่สั่งสมมาจากชาติที่แล้วเพื่อไปให้ถึงจุดสูงสุดได้ทีละก้าว
น่าเสียดายที่กาลเวลานั้นโหดร้าย และเขาก็ไม่สามารถต้านทานเวลาที่ผ่านไป และครอบครองความเป็นอมตะได้
แต่ตอนนี้ด้วยการปรากฏตัวของระบบนี้ ดูเหมือนว่าลู่ซุนจะมองเห็นความเป็นไปได้ที่จะพาตัวเองไปได้ไกลกว่าเดิม
“จะหาแต้มบุญได้อย่างไร?” ลู่ซุนถามสิ่งที่เขาอยากรู้มากที่สุดตอนนี้
“นี่ถือเป็นระบบบรรพบุรุษที่ทรงพลังที่สุดในโลก มีจุดมุ่งหมายเพื่อปลูกฝังบรรพบุรุษที่ทรงพลังที่สุด ตราบใดที่ลูกหลานของโฮสต์แสดงความเคารพด้วยใจ แต้มบุญที่สอดคล้องกันก็จะถูกมอบให้ ยิ่งลูกหลานมีความกตัญญูมากเท่าไร โฮสต์ก็จะยิ่งได้รับแต้มบุญมากขึ้นเท่านั้น” ระบบกล่าวอย่างน่าเชื่อถือ
“ต้องเป็นลูกหลานของข้าเท่านั้นเหรอ? คนอื่นทำไม่ได้?” ลู่ซุนขมวดคิ้ว และพูด
ข้อจำกัดนี้มากเกินไปจริงๆ แม้ว่าเขาควรจะมีลูกหลานหลายคน แต่ถ้าต้องพึ่งพาลูกหลานของตนเพียงอย่างเดียว ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรกว่าเขาจะได้ฟื้นคืนชีพ
“คนอื่นก็สามารถทำได้ แต่แต้มบุญที่ได้รับนั้นจะน้อยกว่าลูกหลานของโฮสต์มาก” ระบบตอบข้อสงสัยของลู่ซุน
“ดี ไม่ว่าขายุงจะเล็กแค่ไหน มันก็ยังคงมีเนื้อ” ลู่ซุนพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ พร้อมรอยยิ้มเล็กน้อยบนริมฝีปาก
หลังจากที่ลู่ซุนสื่อสารกับระบบได้สักพัก เขาก็รู้สึกตัว และเริ่มตรวจสอบสถานการณ์โดยรอบ
ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างสุสานที่มีเอกลักษณ์ซึ่งมีสมบัติมากมายนับไม่ถ้วนอยู่ในนั้น
สมบัติของข้า พวกเจ้าจะได้ประโยชน์แล้ว!
หืม?
เกิดอะไรขึ้น?
ที่นี่... ดูเหมือนจะไม่ใช่สุสานใหญ่ของข้า ทำไมมันซอมซ่อเช่นนี้?
หรือว่าจะมีคนปล้นสุสานของข้า? มีใครบางคนขุดกระดูกของข้าขึ้นมาเหรอ?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ จิตใจของลู่ซุนก็เต็มไปด้วยความโกรธ และเปล่งจิตสังหารออกมา
เกี๋ยว!
มีบางอย่างดูเหมือนจะผิดปกติ
เขาได้วางกับดักมากมาย และซ่อนความลับต่างๆ ในสุสาน ไม่มีใครในโลกนี้ยกเว้นลูกหลานของเขาที่จะสามารถถอดรหัสมันได้
ในไม่ช้า ลู่ซุนก็ค้นพบบางสิ่งที่ผิดปกติยิ่งกว่าเดิม
ทำไมข้างนอกถึงมีเสียงร่ำไห้? มีใครตายงั้นรึ? ตอนนี้ พวกเจ้าไปอยู่ไหนกันหมด
ทำไมร่างอมตะที่ไม่มีวันทำลายได้ของข้าจึงดูขาดสารอาหาร ยังกับคนขี้โรคเช่นนี้?
ทำไมพลังโกลาหลอันไร้ที่สิ้นสุดในร่างกายของข้าซึ่งเพียงพอที่จะทำลายล้างโลกทั้งใบได้จึงเหลือเพียงแค่นี้?