ตอนที่แล้วตอนที่ 102 : [ กลยุทธ์สต็อกโฮล์ม ]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 104 : รอบชิง ! หลินลั่ว v มู่หรงเสวี่ยเหิน !

ตอนที่ 103 : มังกรซาดิสต์ ?


ตอนที่ 103 : มังกรซาดิสต์ ?

“บ้าน่า ! มันยอมทำสัญญาทาสจริง ๆ !” จ้าวฉือเฉิงเบิกตากว้างด้วยความเหลือเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า

ตลอด 300 ปีที่ผ่านมา เพราะการรุกรานจากโลกอื่น จำนวนประชากรมนุษย์จึงลดลงจาก 1 หมื่นล้านคนเหลือไม่ถึง 1 พันล้านคน

มันมีไม่ถึงหมื่นคนที่ปลุกพลังกลายเป็นผู้ปลุกพลัง แม้ว่าจะมีผู้ปลุกพลังที่มีมังกรเป็นสัตว์เลี้ยง ทว่านี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่

ทุกวันนี้ในโลก ในหมู่ผู้ปลุกพลังในประเทศและต่างประเทศ มันมีมังกรมากกว่า 10 ตัว แต่ทุกตัวต่างก็ทำสัญญาเท่าเทียมกันทั้งหมด !

ไม่คิดเลยว่าเขาจะเห็นข้อยกเว้นกับตาตัวเองเช่นนี้

มังกรกลับขอร้องทำสัญญากับผู้ปลุกพลัง  มันไม่ใช่สัญญาเท่าเทียมรึสัญญาสัตว์เลี้ยง แต่กลับเป็นสัญญาทาส !

จากวันนี้ไป มังกรตรงหน้าหลินลั่วจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของหลินลั่วแต่เพียงผู้เดียว !

ทุกอย่างเกี่ยวกับมันรวมถึงชีวิตจะถูกควบคุมโดยหลินลั่ว มันต้องทำตามที่หลินลั่วต้องการให้ทำ !

แม้ว่าเขาจะให้มันไปตายก็ตาม !

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหลังจากที่ผู้ปลุกพลังตายไป สัตว์เลี้ยงทั่ว ๆ ไปจะเป็นอิสระ มันจะขึ้นอยู่กับสัตว์เลี้ยงว่าจะเอายังไงกับชีวิตมันต่อ

สำหรับสัญญาทาส เมื่อเกิดอะไรขึ้นกับผู้ปลุกพลัง งั้นมังกรก็จะตายไปพร้อมกับเขาด้วย นี่คือข้อจำกัด !

“มังกรนี่คงไม่มีนิสัยชอบความซาดิสต์หรอกนะ...”

“กรร...” เมื่อทำสัญญาเสร็จ มังกรก็คำรามออกมาด้วยความตื่นเต้นและนั่งยอง ๆ ไปตรงหน้าหลินลั่ว

“อยากให้ฉันขึ้นไปขี่แกงั้นเหรอ ?”

“กรร...”

หลินลั่วกระโดดขึ้นหลังมังกร จากนั้นมังกรก็กางปีกออกบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว

ถึงมันจะเกิดมาได้ไม่ถึงครึ่งเดือน ทว่าเพราะมันกินผลึกมังกรหลังเหล็กเข้าไป อัตราการเติบโตจึงเร็วกว่ามังกรทั่วไป

การได้ขี่มังกรแบบนี้ก็ทำให้หลินลั่วตื่นเต้นไปด้วย

“แกเคยใช้ชื่อยมทูตนิ แกยังอยากใช้ชื่อนั้นอยู่รึเปล่า ?”

ควับ...

มังกรส่ายหน้า มันบอกชัดแล้วว่าไม่ชอบชื่อนี้

“งั้น...” หลินลั่วคิดสักพัก “ตั้งชื่อน่ะง่าย แกตัวสีดำ งั้นเรียกแกว่ามังกรดำรึเห่ยหลงก็แล้วกัน แกไม่ต้องใส่ใจกับชื่อมากหรอก”

มังกรดำคำรามออกมาด้วยความตื่นเต้นและกระพือปีกเร็วยิ่งกว่าเก่า !

[ ชื่อ - มังกรดำ (เห่ยหลง)

เผ่า - มังกร/มังกรไฟ

เพศ - เมีย

เลเวล – 22

แรง – 458

ร่างกาย – 585

ความเร็ว – 694

สติปัญญา – 558

สกิล 1 - ลมหายใจมังกร Lv.1 – สามารถพ่นไฟออกมาจากปากและจมูกได้ สร้างควมเสียหายให้กับเป้าหมายตรงหน้า

สกิล 2 – เกล็ดมังกร (ติดตัว) Lv.1 – มีเกล็ดที่หนาทั่วตัว เพิ่มพลังป้องกันกายภาพและเวทย์อย่างมาก มีความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองที่สูง

สกิล 3 – เวทย์มังกร (ยังไม่ปลุก)

สกิล 4 – ร่างมังกร (ติดตัว) Lv.1 – ร่างกายของมังกรสามารถดูดซับพลังธาตุเข้ากับร่างกายตัวเองเพื่อยกระดับร่างกายตัวเองและเร่งการเติบโต

สกิล 5 - รอบรู้ (ยังไม่ปลุก)

สกิล 6 – บิน (ติดตัว) Lv.1 – มังกรพึ่งปีกของตัวเองบินไปมาในอากาศได้อย่างอิสระ สามารถทำเรื่องยาก ๆ ในอากาศได้  ]

“สเตตัสมันสูงจริง ๆ !” หลินลั่วอุทานออกมา

ค่าสเตตัสของมังกรนี่เหนือกว่ามอนสเตอร์ทุกตัวที่เขาเคยเจอมา ยิ่งกว่านั้นเห่ยหลงก็เลเวลแค่ 22 มันยังเป็นมังกรเด็กอยู่เลย ค่าสเตตัสทั้งสี่อย่างของมันสูงกว่า 400 หน่วยทั้งนั้น

ถ้ามันโตเต็มวัยแล้ว ค่าสเตตัสของมันคงน่าตกใจกว่านี้แน่ะ !

“ไม่แปลกเลยที่ทำไมตงฟางเหอถึงถูกมองว่าเป็นอัจฉริยะอันดับ 1 ของเมืองปิ้นไห่ เขาเลยไม่เห็นหัวใคร ถ้ามีมังกรอยู่ด้วย เขาก็สามารถยึดทุกอย่างที่ต้องการมาได้ !”

“น่าเสียดายแทน...” หลินลั่วส่ายหน้า

ไม่ว่ามังกรจะแกร่งแค่ไหน ทว่าสุดท้ายมันก็ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าของ

“แล้วค่อยกลับไปที่เมือง แกจะกลับไปที่เมืองตอนนี้ไม่ได้...”

ตงฟางเหอเพิ่งตาย ถ้าเขาขี่มังกรนี่กลับไปที่เมืองปิ้นไห่ ไม่รู้เลยว่าตระกูลตงฟางจะแค้นเขาแค่ไหน

ตอนที่หลินลั่วบินอยู่บนฟ้ากับมังกรนั้น จ้าวฉือเฉิงที่อยู่ที่พื้นก็เอามือถือออกมาโทรอยู่หลายสาย สุดท้ายก็มีคนรับสายสักที “จ้าวฉือเฉิง เป็นยังไงบ้าง ? เจอมังกรแล้วรึยัง ?”

จ้าวฉือเฉิงมองไปที่มังกรที่บินอยู่เหนือหัวและพูดขึ้น “หัวหน้า คุณคงไม่รู้ว่าผมมองอะไรอยู่ ?”

“ฟังนะ ผมไม่ได้ล้อเล่น ผมไม่ได้ฝันไป มันคือความจริง !”

ไม่กี่วินาทีต่อมา เสียงที่แสดงถึงความตะลึงของกั้วโฉวยี่ก็ดังขึ้นมาจากปลายสาย

“นายว่าไงนะ ? ตงฟางเหอที่เป็นอัศวินมังกรถูกหลงเหยียนจากอัศวินรัตติกาลฆ่างั้นเหรอ ?”

“บรรพชนของตระกูลตงฟาง ตงฟางอู๋เยว่ออกไปไล่ล่าหลงเหยียน ?”

“หลินลั่วทำสัญญากับมังกรนั่น ?”

“มังกรนี่คงไม่ได้ปัญญาอ่อนไปแล้วหรอกนะ ?”

จ้าวฉือเฉิงยื่นโทรศัพท์ให้ห่างหูและพูดขึ้นพร้อมยิ้มแห้ง ๆ “หัวหน้า ผมก็ยังไม่อยากจะเชื่อ ทว่าตอนนี้มังกรมันบินอยู่เหนือหัวผมเลย ไม่เชื่อจะส่งภาพให้ดู หัวหน้าอยากได้กี่ภาพล่ะ ?”

“ไม่จำเป็น ! นายรีบกลับมาก่อน...” กั้วโฉวยี่รีบพูดขึ้นมา “ไม่สิ ! อย่าเพิ่งกลับมา !”

“ตงฟางเหอถูกฆ่า ตระกูลตงฟางก็น่าจะแค้นใจอยู่แล้ว ถ้าหลินลั่วกลับมาพร้อมกับมังกร ตระกูลตงฟางคงคลั่งแน่ ๆ !”

“นายพาเขาไปที่ฐาน B17 ที่ภูเขาเหล็กดำก่อน ! ให้มังกรไปหลบอยู่ที่นั่นก่อน !”

“เข้าใจแล้ว !”

หลังจากที่หลินลั่วกลับลงมาที่พื้น จ้าวฉือเฉิงก็รีบเข้าไปบอกข้อเสนอนี้ทันที

“ภูเขาเหล็กดำ ?” หลินลั่วยังจำที่นี่ได้

ภูเขาเหล็กดำนั้นเคยมีสายธารแร่จำนวนมาก แต่มันถูกขุดมากว่า 100 ปีแล้ว มันเหลือแต่เหมืองร้าง

ภูเขาส่วนมากเป็นโพรงด้านใน แต่เมื่อหลายสิบปีก่อน ภูเขาเหล็กดำนี้ถูกพวกอันเดตยึดเอาไว้ มันมีผู้ปลุกพลังไม่กี่คนที่ไปเก็บเลเวลกันที่นั่น

ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นฐานของผู้พิทักษ์

เมื่อคิดถึงถ้ำในภูเขาเหล็กดำ หลินลั่วก็คิดว่ามันน่าจะใช้ซ่อนมังกรได้ “ได้”

จ้าวฉือเฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าแปลก ๆ “ฉันคิดว่านายจะไม่ตกลงซะอีก”

“ทำไมล่ะ ?” หลินลั่วยิ้มออกมา “ผมไม่ใช่เด็กทั่ว ๆ ไป หลอกผมไปจะได้อะไร อีกอย่างถ้าตอนนี้ผมเอามังกรกลับไปที่เมือง มันก็เท่ากับหาเรื่องตายชัด ๆ”

“ไปกันดีกว่า ฐาน B17 อยู่ไกลจากที่นี่ !”

หลังจากที่จ้าวฉือเฉิงและหลินลั่วออกจากที่นั่นไป ตงฟางอู๋เยว่ก็มาถึงที่นั่น

ร่างของเขาราวกับภูตผีที่โผล่มาตรงหน้าตงฟางไต้ซ่ง

“บรรพชน  !” ตงฟางไต้ซ่งและตงฟางหวงไท่ที่บาดเจ็บหนักรีบลุกขึ้นมาทำความเคารพ ทว่าสายตาพวกเขาก็ยังมองไปด้านหลังตงฟางอู๋เยว่

เขาไม่ได้มาพร้อมกับศพของหลงเหยียน ทว่ากลับมาพร้อมแขนที่มีเลือดไหลออกมา ตงฟางไต้ซ่งคุ้นแขนนี้ดี มันคือแขนของหลงเหยียนที่เกือบจะฆ่าพวกเขาได้ !

ตงฟางอู๋เยว่โยนแขนนั้นไปที่ศพของตงฟางเหอและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “มันใช้หุ่นเชิดหนีไปได้ !”

ทั้งสองคนรับรู้ถึงจิตสังหารจากสายตาของตงฟางอู๋เยว่ พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรออกมา

“เกิดอะไรขึ้น พูดมาให้ละเอียด”

“ครับ บรรพชน !” ตงฟางไต้ซ่งรีบพูดขึ้นมา “เราได้รับรายงานเมื่อ 1 ชม.ก่อน บอกว่าเจอร่องรอยของมังกรที่ถูกอัศวินรัตติกาลและผู้พิทักษ์ล้อมเอาไว้

หลังจากที่สู้กัน ผู้พิทักษ์ได้ช่วยมังกรไว้แต่นั่นทำให้มังกรหนีไป ผมยังไม่รู้ว่ามันหนีไปที่ไหน ! ”

“หลงเหยียนนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก เขาฆ่าพวกเรากับผู้พิทักษ์ไปหลายคน...”

“พวกขยะ !” ตงฟางอู๋เยว่สบถออกมา เขาเดินไปที่ศพตงฟางเหอและก้มลงไปตรวจสอบดูดี ๆ

ลูกศรที่ปักที่อกของตงฟางเหอถูกทำลายไปในพริบตา !

“พวกขยะ ! แค่ปกป้องเหอเอ๋อยังทำไม่ได้ !”

“...” ตงฟางไต้ซ่งลังเลและพูดขึ้นมา “เราจะแก้แค้นให้กับเหอเอ๋อ หลงเหยียนนั่น...”

“หุบปาก !” ตงฟางอู๋เยว่ฮึดฮัดออกมา “เหอเอ๋อไม่ใช่แค่ลูกของแก แต่ยังเป็นอัศวินมังกรเพียงคนเดียวของตระกูลตงฟางด้วย !”

“บัดซบ ! เขากลับต้องมาตาย ตระกูลตงฟาง...”

“แกเอาศพเหอเอ๋อกลับไปก่อน ยังไม่ต้องฝัง แช่แข็งเอาไว้ รอจนกว่าฉันจะกลับไป !”

ตงฟางไต้ซ่งได้แต่พึมพำออกมา “บรรพชน คุณจะ...”

“ไปหาเพื่อนเก่า !” ตงฟางอู๋เยว่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “เหอเอ๋อเป็นอัศวินมังกรของตระกูลตงฟาง ถึงเขาจะตายไป ทว่าเขาก็ยังเป็นอัศวินมังกรของตระกูลตงฟางอยู่ดี !”

“ฉันจะหาคนใช้ทักษะค้นหาด้วยสายเลือด เขากับมังกรทำสัญญาเท่าเทียมกันโดยจิตโลก ทั้งสองมีหัวใจและสายเลือดเดียวกัน !”

“ใช้ศพของเหอเต๋อตามหาร่องรอยของมังกร !”

“ได้ครับ !”

หลังจากที่ตงฟางอู๋เยว่พูดจบ เขาก็ก้าวออกไป ไม่กี่วินาทีร่างของเขาก็หายไปจากสายตา

“พี่ใหญ่ เราจะทำยังไงดี..”

หลังจากที่ตงฟางอู๋เยว่จากไปแล้ว ตงฟางหวงไท่ถึงได้กล้าเงยหน้าขึ้นมาถามกับตงฟางไต้ซ่ง

“กลับบ้านก่อน !” ตงฟางไต้ซ่งกัดฟันแน่นและพูดขึ้น “มังกรหายตัวไป ฉันไม่รู้ว่าจะมีสักกี่คนที่ออกไปตามล่ามัน”

“ไม่ว่าจะเป็นอัศวินรัตติกาลรึผู้พิทักษ์หรือตระกูลไหน ๆ พวกนั้นต้องทุ่มเงินเพื่อตามหาตัวมังกรแน่ ๆ”

“ยังไงซะมันก็เป็นแค่มังกรเด็ก ตราบใดที่จับมังกรได้ งั้นก็มีโอกาสสูงที่จะสยบมังกรได้ !”

“มังกรนั่นเป็นคู่หูของเหอเอ๋อ ห้ามใครเอามันไป !”

“เรามีศพของ...เหอเอ๋อ ภายใต้สายเลือดของอัศวินมังกร เรามีโอกาสสูงกว่าที่จะหาตัวมังกรเจอ”

“ถึงมันจะตาย ทว่าตระกูลตงฟางก็ควรได้ศพของมัน !”

“พี่ใหญ่...ฉันเข้าใจแล้ว !”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด