ตอนที่ 101 : สู้กับหลงเหยียน ! ผู้ปลุกพลังระดับอีปิคลงมือ !
ตอนที่ 101 : สู้กับหลงเหยียน ! ผู้ปลุกพลังระดับอีปิคลงมือ !
หลงเหยียนพุ่งออกมา พลังอัดแน่นที่หมัดพร้อมเสียงตัดสายลมที่ดังขึ้น
ตูม !
เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมอากาศที่ระเบิดออกมารอบด้าน
ตำแหน่งเดิมที่มังกรอยู่นั้นเกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมา เศษดินกระจายไปทั่วทุกทิศทาง คลื่นอากาศระเบิดออกมาจนแม้แต่จ้าวฉือเฉิงและตงฟางไต้ซ่งที่อยู่ข้าง ๆ ก็ยังต้องยกมือขึ้นกันเอาไว้
พวกเขาไม่อาจจะเดินหน้าต่อได้ !
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจก็มีร่างขนาดใหญ่พุ่งออกมาภายใต้ฝุ่นและควันที่ตลบอบอวล
เลือดไหลออกมาทั่วทั้งตัว เขาหายใจหอบ นัยน์ตาแดงก่ำมองไปที่ชายชุดดำที่อยู่ไม่ห่างมากนัก
“B72 หน้ากากผีนี่ ฉันรู้จัก มันเป็นของไอ้ขยะตู้เฉิง ! แกเป็นใครกันแน่ ?”
“ในเมื่อแกกล้าปล่อยมังกรที่ฉันทุ่มแรงจับมันมา ฉันจะบดขยี้แกให้ตายจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก”
ตงฟางไต้ซ่งมองไปที่ชายชุดดำที่โผล่มา หน้ากากนี่ดูคุ้นตา พวกอัศวินรัตติกาลหลายคนพากันสวมหน้ากากนี้เพื่อปกปิดตัวตน
ชายคนนี้ก็เป็นอัศวินรัตติกาลเหมือนกัน แต่ทำไมถึงลงมือกับหลงเหยียน ?
ทว่าสายตาของจ้าวฉือเฉิงดูแปลกไป ทำไมชายคนนี้ถึงได้ดูคุ้นนัก ?
วาร์ป ?
ชายคนนี้เพิ่งใช้สกิล ‘วาร์ป’ รึเปล่า ?
รูปร่างและบุคลิกก็ดูคุ้น ๆ
“B72 ? หน้ากากของตู้เฉิง ? เขาถูกหลินลั่วฆ่าไป รึว่าเด็กนั่น.... ” จ้าวฉือเฉิงคาดเดาตนชายลึกลับตรงหน้า !
ความคิดในหัวเขาตีกัน จากนั้นจ้าวฉือเฉิงก็พูดขึ้นมา “หัวหน้าตระกูลตงฟาง ชายคนนี้เป็นสมาชิกของผู้พิทักษ์ เขาคือคนที่เชื่อใจได้ !”
“ผู้พิทักษ์...” ตงฟางไต้ซ่งกัดฟันแน่นพูดขึ้นมา “จ้าวฉือเฉิง ตราบใดที่นายช่วยฉันฆ่าพวกนอกรีต ตระกูลตงฟางจะร่วมมือกับกลุ่มผู้พิทักษ์ !”
“จริงเหรอ ?”
“ฉันไม่มีทางผิดคำพูด !” ตงฟางไต้ซ่งกัดฟันแน่นพูดขึ้น “บรรพชนรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่บ้าง เราแค่ต้องยื้อเวลาเอาไว้ 10 นาที ตอนนั้นบรรพชนก็คงมาถึงที่นี่แล้ว”
“ได้ !”
เมื่อได้ยินที่จ้าวฉือเฉิงตอบ หลินลั่วก็ใจสั่นขึ้นมาทันที
ดูเหมือนว่าจ้าวฉือเฉิงจะรู้ว่าเขาเป็นใคร
เรื่องที่เขาฆ่าตู้เฉิงนั้นมีไม่กี่คนที่รู้อย่างจ้าวฉือเฉิงและถังเฉิง
จนถึงตอนนี้อัศวินรัตติกาลก็คิดว่าตู้เฉิงนั้นตายด้วยฝีมือผู้พิทักษ์ ไม่ใช่ผู้ปลุกพลังหน้าใหม่ที่เพิ่งเรียนจบมัธยมมาและยังอายุไม่ถึง 18 ปี !
“คิดจะฆ่าฉันเหรอ ?” สายตาของหลงเหยียนสะท้อนความอาฆาตออกมา จิตสังหารพุ่งไปยังหลินลั่วที่ใส่หน้ากากผี
ถ้าหลงเหยียนคิดจะหนี งั้นมันก็ไม่ง่ายที่จะมีใครยื้อเขาไว้ได้
ถ้าอย่างนั้นฆ่า 3 คนตรงนี้ก่อน
กรร...
เขาคำรามออกมาพร้อมอากาศรอบตัวที่ระเบิดออก พลังของสายเลือดระเบิดออกมาจนสร้างพายุเล็ก ๆ ขึ้นมาตรงหน้า
“ฉันจะรับมือเอง !” จ้าวฉือเฉิงตะโกนออกมา ลมระเบิดออกมาจากตัว เขาเองก็พุ่งเข้าไปหาหลงเหยียน มีดในมือถูกฟันลงมา มันขยายตัวยาวกว่า 1 ม.แทงเข้าใส่หลงเหยียน
ตงฟางไต้ซ่งยกธนูขึ้นพร้อมลูกศรสีน้ำเงินเข้มปรากฏขึ้นมาในมือ
มีสายฟ้าปะทุออกมาพันรอบลูกศรดอกนี้ !
ตูม !
หลงเหยียนต่อยออกมา จ้าวฉือเฉิงหลบไปได้ด้วยพลังของเครื่องราง มีดในมือแทงเข้าที่ท้องน้อยของหลงเหยียนแต่สร้างแผลเล็ก ๆ ได้เท่านั้น
ตอนนั้นหลงเหยียนก็ระเบิดพลังออกมามากกว่าเดิม โจมตีเข้าใส่หัวของจ้าวฉือเฉิง !
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ หลงเหยียนคงเห็นแก่มิตรภาพเดิม ๆ กับจ้าวฉือเฉิงและยั้งมือกับอีกฝ่ายเอาไว้ ทว่าตอนนี้เมื่อมังกรหนีไปต่อหน้าต่อตาเขา จิตสังหารในใจก็ระเบิดออกมาจนเอาชนะเหตุผลทั้งหมดได้
เมื่อเห็นว่าเข่าของหลงเหยียนกำลังจะแทงเข้าที่หัวของจ้าวฉือเฉิง อยู่ ๆ ก็มีร่างหนึ่งโผล่มา
คั่นกลางระหว่างทั้งสองคนเอาไว้ ชายคนนั้นยกมือขึ้นชี้ไปที่หลงเหยียน
[ จิตสับสน ] !
“...”
สกิล [ จิตสับสน ] ถูกใช้ใส่หลงเหยียน มันทำให้พลังจิตของเขาสลายไป เขาถึงกับควบคุมตัวเองไม่ได้สักพัก
ทว่าไม่ถึง 1 วินาที จ้าวฉือเฉิงที่เป็นยอดนักฆ่าก็ใช้โอกาสนี้หลบการโจมตีของอีกฝ่ายไปได้ !
ในเวลาเดียวกันมีดในมือนั้นก็แทงเข้าที่หลังเอวของหลงเหยียน !
ฉึก !
น่าเสียดายที่กล้ามเนื้อที่ด้านหลังเอวของหลงเหยียนนั้นแน่น เขาจึงใช้กล้ามเนื้อหนีบมีดของจ้าวฉือเฉิงเอาไว้ได้!
ในตอนนั้นจ้าวฉือเฉิงได้แต่ทิ้งมีดในมือไปเพื่อหลบการตอบโต้จากหลงเหยียน เขาได้แต่ต้องดึงมีดอีกเล่มออกมาจากช่องเก็บของ !
“มาสู้กับนักรบแบบนี้มีแต่เสียเปรียบ...”
“ไอ้กระจอก ! แกทำได้แค่นี้แหละ !”
หลงเหยียนตะโกนอกมา เขาพอเดาออกแล้วว่าความแข็งแกร่งของคนที่สวมหน้ากากผีนั้นอยู่ระดับไหน
มันไม่ใช่ระดับเงินแน่ ๆ อีกฝ่ายมีดีแค่การใช้สกิลวาร์ปและสกิลควบคุม !
ก็แค่สายสนับสนุนไม่ก็ลอบโจมตี !
การที่จัดการกับผู้ปลุกพลังระดับเงินทั้ง 4 คนได้ในทันทีนั้นก็เพราะสกิลวาร์ปและสกิลควบคุมที่เลเวลสูง !
เขาพุ่งเข้าไปหาหลินลั่วเพื่อโจมตี ทว่าหลินลั่วกลับหายตัวไป
“วาร์ปอีกแล้ว ! บัดซบ !” หลงเหยียนสบถออกมาเสียงดังพร้อมระเบิดจิตสังหารออกมา
ความรู้สึกนี้ทำให้เขาอยากจะกำจัดทุกคนที่นี่ไปให้หมดซะเดี๋ยวนี้เลย
มือของตงฟางไต้ซ่งที่อยู่ไม่ไกลนักมีสายฟ้าปะทุออกมา สายฟ้าจำนวนมากอัดแน่นกันในมือของขา เขาดูราวกับเทพสายฟ้า
“ตายห่าไปซะ !”
“ลูกศรสายฟ้า !”
ตูม !
ในพริบตาสายฟ้าก็ได้เปลี่ยนเป็นงูสายฟ้าพุ่งทะลุร่างหลงเหยียนไปในทันที !
เสียง ‘ตูม’ ดังขึ้น การระเบิดนี้เพียงพอที่จะทำลายภูเขากว่าครึ่งลูกได้
“แค่ก แค่ก แค่ก...” เสียงไอดังอกมาจากกลุ่มควันพร้อมร่างของหลงเหยียนที่ค่อย ๆ ปรากฏต่อหน้าทุกคน
ตัวเขาโชกเลือด ตามตัวดำเพราะโดนเผา มันมีรูสีดำที่อก ชัดแล้วว่าเป็นรูที่เกิดจากลูกศรสายฟ้าตะกี้
ทว่าเขาก็ยังไม่ตาย !
กล้ามเนื้อรอบแผลกระตุกขดตัวไปมาราวกับกำลังจะฟื้นฟูตัวเอง แม้แต่เกล็ดมังกรที่ผิวก็ยังงอกขึ้นมาใหม่ด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
พลังชีวิตที่สูงนี้เพียงพอให้เขารอดจากการโจมตีนี้ไปได้ !
“บัดซบ ! เจ็บจริง ๆ ...โชคดีนะที่สายเลือดฉันทรงพลังพอ ถ้าฉันได้กินมังกรนั่นไป ฉันคงเป็นอมตะแน่ !”
“พวกเหี้ยเอ้ย !”
หลงเหยียนกัดฟันแน่น เขาไม่สนใจบาดแผลตามตัวและโจมตีเข้าใส่หลินลั่วอีกครั้ง !
“ฉันไม่เชื่อว่าพลังจิตแกจะมีใช้ไม่มีวันหมด ! ฉันจะฆ่าแกให้ได้ !”
“...” ตอนที่หลงเหยียนโจมตีออกมานั้น จ้าวฉือเฉิงก็ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตัวเอง เขากัดฟันและพุ่งเข้าไปขวาง...
เขารู้ดีว่าไมว่าจะเป็นตงฟางไต้ซ่งรึหลินลั่ว พวกนี้ก็ไม่น่าจะรับมือการต่อสู้ระยะประชิดกับหลงเหยียนได้
มีแค่เขาเท่านั้นที่พอรับมือไหว !
เมื่อเห็นว่าหลงเหยียนไม่ตาย ตงฟางไต้ซ่งก็ได้แต่กัดฟันพร้อมเอาลูกศรสีแดงออกมาจากช่องเก็บของ เขาใส่มันลงไปบนธนูอีกครั้ง !
“ลูกศรทมิฬ....”หลินลั่วพึมพำออกมาเบา ๆ ร่างของเขาหายไปจากจุดเดิม เขาอาศัยตอนที่หลงเหยียนโจมตีใช้มือขวายกมือขึ้นกำไปทางหลงเหยียน !
[ ระเบิดผิวหนัง ] !
ตูม !
อย่างที่คาดเอาไว้ ผิวบนตัวหลงเหยียนระเบิดออก ทว่ามันไม่ได้รุนแรงนัก ถึงอย่างนั้นก็มีรอยแตกตามตัวพร้อมเลือดสีแดงที่ไหลออกมาจากบาดแผลก่อตัวเป็นหมอกเลือดรอบตัว
“อึก....” หลงเหยียนกรีดร้องออกมา ผิวหนังทั่วตัวของเขามีแต่บาดแผล แต่มันกลับทำให้เขาคึกยิ่งกว่าเก่า
“ฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้บาดเจ็บสาหัสแบบนี้มานานแล้ว !”
“ฮ่าฮ่า...” เขาหัวเราะออกมาอย่างกับคนบ้า หมอกเลือดรอบตัวอัดแน่นตรงหน้ากลายเป็นหัวมังกรพุ่งเข้ากัดจ้าวฉือเฉิง
“...” จ้าวฉือเฉิงกระเด็นพร้อมกระอักเลือดออกมา
เมื่อเห็นว่าจ้าวฉือเฉิงนั้นถอยกลับไป หลงเหยียนที่ควรจะไล่ตามนั้นกลับหันกลับเพื่อหนีออกมา !
“ฉันจะกลับมาเอาคืนพวกแก ! ครั้งหน้าพวกแกสามคนต้องตาย !”
“แค่ก แค่ก แค่ก...”
“อะไรกัน...” จ้าวฉือเฉิงลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบากและถามขึ้นมา
อีกฝ่ายกำลังจะชนะแล้วแท้ ๆ แล้วทำไม....
“บรรพชน ? !” เสียงที่แสดงถึงความแปลกใจของตงฟางไต้ซ่งดังขึ้น จ้าวฉือเฉิงรีบหันกลับไปมองทันที
เขาเห็นว่าบนท้องฟ้าเหนือเมืองปิ้นไห่นั้นมีร่างหนึ่งกำลังบินมาทางพวกเขารวดเร็วอย่างกับดาวตก ร่างนั้นได้มาถึงตรงหน้าพวกเขาในเวลาไม่กี่วินาที
หลินลั่วมองไปที่อีกฝ่าย ชายแก่คนนี้มีหนวดและผมขาว สวมชุดสีดำและมีพลังอันแข็งแกร่งแผ่ออกมา
ตงฟางไต้ซ่งเรียกอีกฝ่ายว่าบรรพชน รึว่านี่จะเป็นบรรพชนของตระกูลตงฟาง ผู้ปลุกพลังระดับอีปิค...ที่อยู่มานานถึง 100 ปี ตงฟางอู๋เยว่ ?
หลังจากที่ตงฟางอู๋เยว่มาถึง เขาก็เดินเข้าไปหาตงฟางไต้ซ่ง เขามองไปที่ศพของตงฟางเหอพร้อมกับมุมปากที่กระตุก
“พวกขยะ !”
“ฝีมือใคร ?”
ตงฟางไต้ซ่งรีบตอบกลับ “บรรพชน ! มันเป็นฝีมือของหลงเหยียนจากกลุ่มอัศวินรัตติกาล !”
“หลงเหยียน ?” ตงฟางอู๋เยว่ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เขามองร่างที่กำลังหนีไป เขารู้ทันทีว่านี่คงเป็นชื่อของอีกฝ่าย
“อัศวินรัตติกาล ? โลภมากไม่ดูตัวเอง !” เขาพึมพำออกมา จากนั้นแค่ก้าวออกมาสั้น ๆ เขาก็เดินทางไปได้ไกลกว่า 100 ม.
หลังจากที่ก้าวอีกก้าว เขาก็เดินทางไปได้อีก 100 ม.
เขาไล่ตามหลงเหยียนไป !
“...” เมื่อเห็นตงฟางอู๋เยว่ลงมือ หลินลั่วก็ต้องอึ้ง
นี่มันความสามารถแบบไหนกัน ?
ก้าวละ 100 ม. ?
หดมิติ ?
“ไปกันเถอะ !” ตอนที่หลินลั่วคิดอยู่นั้น เสียงของจ้าวฉือเฉิงก็ดังขึ้นมา