ตอนที่ 35: หนึ่งพันเหรียญทอง
ตอนที่ 35: หนึ่งพันเหรียญทอง
ทวยเทพสูงสุดของโลกใบนี้นามฉานซินเต้ากู่เคยบอกว่าการพูดดีสามารถคลี่คลายปัญหาได้ร้อยละ 50 ส่วนการใช้เงินสามารถคลี่คลายปัญหาได้ร้อยละ 90
หากพูดดีพร้อมกับใช้เงินก็สามารถคลี่คลายปัญหาได้ถึงร้อยละ 9999
เช้าวันต่อมา หวังยวนได้รับข้อความจากมังกรท่องโลกหลังจากออนไลน์ "พี่หนิว นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด พวกเรามานั่งจับเข่าคุยกันดีหรือไม่?"
หวังยวนไม่ประหลาดใจแต่อย่างใดเมื่อเห็นข้อความจากมังกรท่องโลก
เพราะมันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กจนโต
เมื่อใดก็ตามที่คนอันธพาลเหล่านั้นอยากรังแกเขา เขาก็จะทำการพลิกสถานการณ์ ไม่ช้าคนอันธพาลเหล่านั้นก็มีสภาพไม่ต่างจากมังกรท่องโลกตอนนี้
หากฝืนทนอยู่ต่ออีกสักพัก เรื่องราวก็มีแต่จะแย่ลง
คนอันธพาลย่อมไม่มีวันรู้สึกผิดเพียงเพราะคุณยอมอดทน แต่คุณจะประสบความสำเร็จหากเกิดการยินยอม
ความอดทนไร้ที่สิ้นสุดแย่ยิ่งกว่าการให้เขาเอาอิฐมาฟาดหัว
ถึงอย่างไรค่าใช้จ่ายในการรังแกคนชั่วย่อมสูงกว่าการรังแกคนซื่อสัตย์ค่อนข้างมาก
คนดีสมควรเป็นผู้หันปากกระบอกปืน
“มานั่งจับเข่าคุยกัน คุณห้ามโกหกตอแหลเหมือนเมื่อวานอีก” หวังยวนตอบอย่างสงบ
“…”
ใบหน้าของมังกรท่องโลกมืดมน
“มันต้องมีวิธีแก้ปัญหาสำหรับเรื่องนี้” มังกรท่องโลกสะกดกลั้นคำสบถขณะเอ่ยคำอีกครั้ง
ดังที่อวิ๋นจงอีเฮ่อว่า สมาคมมังกรดำกับหวังยวนจะเสียเวลามากกว่านี้ไม่ได้
หวังยวนตัวคนเดียว ดังนั้นไม่ว่าจะเล่นแบบไหนก็สามารถฆ่าเวลาด้วยการดักรอที่จุดคืนชีพทุกวันพร้อมกับไล่ล่าสมาคมมังกรดำทั่วทั้งเมืองได้
แต่ในฐานะกิลด์ขนาดใหญ่ สมาคมมังกรดำอยากเพิ่มเลเวล ซึ่งผู้เล่นในกิลด์ต้องการเพิ่มเลเวลเช่นกัน
ดังคำกล่าวว่าหากไม่พายไปข้างหน้าก็จะถูกกระแสน้ำพัดไปด้านหลัง
การแข่งขันระหว่างกิลด์ค่อนข้างมากกว่าการแข่งขันระหว่างผู้เล่นด้วยกันค่อนข้างมาก
หากผู้เล่นจากสมาคมมังกรดำไม่ได้เพิ่มเลเวลเป็นเวลาหนึ่งวัน กิลด์อื่นก็จะเริ่มไล่ตามทัน หากไม่ทำอะไรเลยเป็นเวลาสามวัน ใครบางคนย่อมกระตือรือร้นที่จะเข้ามาท้าทาย
หากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ อาณาเขตของสมาคมมังกรดำอาจจะถูกกิลด์อื่นแย่งชิงไป
นี่คือความจริงที่สมาคมมังกรดำต้องเผชิญ
มันไม่ใช่แค่พวกเขากลัวว่าจะออกไปบนท้องถนนเพียงเพราะถูกหวังยวนสังหารเท่านั้น
ดังนั้น เรื่องนี้จะต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด
“คุณบอกทีว่าจะแก้ไขปัญหายังไง? ฉันถูกตามล่าโดยคนจากกิลด์ของคุณ ทำเอาฉันกลัวแทบตาย! คุณสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ด้วยการใช้เพียงคำพูดเหรอ?” หวังยวนเอ่ยคำราวกับตกเป็นเหยื่อ
“หา?”
มังกรท่องโลกแทบกระอักโลหิตเมื่อเห็นข้อความที่ส่งมาจากหวังยวน
ชายผู้นี้หน้าไม่อายเกินไปหรือไม่? ใครกำลังตามไล่ใครกันแน่?
เพียงไม่กี่ชั่วโมงของเมื่อวานนี้ หวังยวนสังหารผู้เล่นจากสมาคมมังกรดำไปมากกว่าหนึ่งร้อยคน แถมตัวเขายังถูกฆ่าไปถึงสามครั้ง
แต่ตอนนี้หมอนี่ถึงกับบอกว่าถูกเขาตามล่าจนรู้สึกหวาดกลัว
แม้จะเคยเจอคนหน้าไม่อายมาบ้าง แต่ยังไม่เคยเจอใครที่หน้าไม่อายเท่านี้มาก่อน
แม้จะพูดไม่ออก แต่มังกรท่องโลกยังคงตอบตามตรง "บอกราคามา"
เขาตระหนักได้ว่าหากมาลองนึกย้อนให้ดี คนที่ถูกฆ่าบนถนนเมื่อวานนี้ก็มีเขารวมอยู่ในนั้นด้วย
"อ๋อ นั่นน่ะสินะ!"
หวังยวนเอ่ยคำด้วยความโล่งอก "สมกับเป็นลูกพี่จากกิลด์ขนาดใหญ่ มีเหตุมีผลเหลือเกิน! ถ้าอย่างนั้น คุณหามาหนึ่งพันเหรียญทองทีสิ"
“หนึ่งพันเหรียญทอง? คะ... คุณพูดจริงเหรอ?”
ทันทีที่หวังยวนเอ่ยคำเช่นนี้ มังกรท่องโลกแทบกระโดดตัวลอย
“มีอะไรหรือเปล่าลูกพี่?”
เมื่อเห็นมังกรท่องโลกมีท่าทีเช่นนี้ ผู้เล่นคนอื่นจากสมาคมมังกรดำตกตะลึงจนคิดว่ามังกรท่องโลกฝันร้ายเหมือนทุกครั้ง
“มันต้องการหนึ่งพันเหรียญทองจากฉัน!” มังกรท่องโลกกัดฟัน
“อะไรนะ? หนึ่งพันเหรียญทองเหรอ? หมอนี่บ้าไปแล้วเหรอ?”
ทุกคนตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของมังกรท่องโลก
ตามอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการของสกุลเงินในเกมปัจจุบัน หนึ่งเหรียญทองมีค่าเท่ากับหนึ่งพันหยวน
ต่อให้ซื้อทองจากหน้าร้าน ราคาก็อยู่ที่ประมาณเก้าร้อยหยวน
หนึ่งพันเหรียญทองก็อยู่ที่เกือบหนึ่งล้าน
เล่นเกมแบบฉบับเกรียนไม่พอ ยังจะมารีดไถจากผู้คนอีกหนึ่งล้าน หมอนี่มันไม่เคยเห็นเงินหรือกำลังเพ้อฝันอยู่กันแน่?
"เป็นอะไร?"
เมื่อเห็นน้ำเสียงของมังกรท่องโลก หวังยวนจึงเอ่ยคำอย่างใจเย็น
“พี่หนิว คุณหน้าเงินเกินไปหน่อยหรือเปล่า?” มังกรท่องโลกเอ่ยคำด้วยใบหน้ามืดมน
"หน้าเงินเหรอ?" หวังยวนหัวเราะแล้วเอ่ยคำ "ฮิฮิ กิลด์ของคุณลงทุนไปเท่าไหร่? สมาคมมังกรดำยึดครองทรัพยากรในเมืองพายุฟ้าคะนองจนถึงตอนนี้ไปมากแค่ไหน? พวกคุณตั้งราคาสูงเวลาจะเข้าจุดฝังศพเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?"
หวังยวนคิดอย่างรอบคอบมาแล้วถึงได้กล้าขอหนึ่งพันเหรียญทอง
ในฐานะกิลด์ขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองพายุฟ้าคะนอง สมาคมมังกรดำยึดครองจุดเกิดทรัพยากรกับพื้นที่เก็บเลเวลทั้งหลายในเมืองพายุฟ้าคะนองเอาไว้
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นไกล เอาแค่จุดฝังศพที่ประตูเมืองเป็นตัวอย่างก็ได้ ค่าเข้าแต่ละครั้งอยู่ที่หนึ่งเหรียญทอง ต่อให้มีผู้เล่นเนโครแมนเซอร์ค่อนข้างน้อย แต่ก็ยังมีผู้คนนับพันอยู่ในเมืองหลัก รายได้จากจุดฝังศพเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำเงินได้หลายสิบเหรียญทองต่อวัน
สมาคมมังกรดำใช้ประโยชน์จากผู้เล่นคนอื่น หวังยวนจึงใช้ประโยชน์จากสมาคมมังกรดำกลับบ้าง
มันคือวัฏจักรแห่งฟ้าดิน
หนึ่งพันเหรียญทอง สำหรับสมาคมมังกรดำยังเรียกว่าเงินได้อีกหรือ?
"นี่..."
มังกรท่องโลกพูดอะไรไม่ออก
“หากคุณคิดว่าราคาของฉันสูงเกินไป เช่นนั้นก็มารอดูได้เลย ทันทีที่กิลด์อื่นมาช่วงชิงจุดเกิดทรัพยากรของคุณเข้า มันอาจจะไม่จบที่หนึ่งพันเหรียญทองอีกต่อไปก็ได้” หวังยวนส่งข้อความอีกครั้ง
ประโยคนี้ทำให้มังกรท่องโลกเงียบ
“เงินสดแปดแสนหยวนเป็นไง?” มังกรท่องโลกเอ่ยถามหลังจากลังเลสักพัก
มังกรท่องโลกต้องเติมหนึ่งล้านถึงจะได้หนึ่งพันเหรียญทอง หากนำเหรียญทองไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดให้หวังยวน ต่อให้เป็นตั๋วขายทองหน้าร้าน แต่เงินที่ได้รับหลังจากหักค่าธรรมเนียมแล้วจะอยู่ที่ราวแปดแสนเท่านั้น
หากโอนเงินแบบออฟไลน์ มังกรท่องโลกสามารถประหยัดได้สองแสนหยวน แถมหวังยวนยังได้เงินสดอีกด้วย
ผู้เล่นมืออาชีพมักเล่นเกมเพื่อเปลี่ยนให้มันเป็นเงิน
ธุรกรรมเงินสดเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดสำหรับผู้เล่นมืออาชีพในการสร้างรายได้
ทว่าหวังยวนเอ่ยคำอย่างหนักแน่น "ไม่! ฉันต้องการแค่เหรียญในเกมเท่านั้น!"
ล้อกันเล่นใช่ไหม การซื้อขายสกุลเงินในเกมแลกเปลี่ยนในเกมก็เพื่อจะเล่นเกมไม่ใช่หรือไง
ในความเป็นจริง การโอนส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์จำนวนมากโดยไม่ทราบแหล่งที่มา ขอเพียงมังกรท่องโลกตลบหลังด้วยการกล่าวหาว่าเป็นการขู่กรรโชกทรัพย์ เมื่อนั้นหวังยวนจะต้องใช้เวลาอยู่ในคุกอย่างน้อยแปดถึงสิบปี
เหตุใดถึงต้องเดิมพันอิสรภาพตัวเองกับความมีมนุษยธรรมของคนอย่างมังกรท่องโลกด้วยเล่า
นอกจากนี้หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน เงินทั้งหมดก็จะกลายเป็นเศษกระดาษ
ตอนนี้หวังยวนมีอาหารและน้ำที่กักตุนไว้อย่างเพียงพอ ดังนั้นจึงไม่ต้องการเงินในโลกจริงมากนัก แทนที่จะขอเงินสด สู้ขอสกุลเงินในเกมโดยตรงยังดีเสียกว่า
หากมีเหรียญในเกมที่เพียงพอ หวังยวนย่อมสามารถสำรองทรัพยากรที่แท้จริงได้
"ต้องการสกุลเงินในเกมงั้นเหรอ?"
มังกรท่องโลกถึงกับไปไม่เป็น
กระบวนการความคิดของหวังยวนช่างยากจะเข้าใจเหลือเกิน
ไม่ใช่ว่าเกมไม่มีระบบการเติมเงิน ซึ่งเหรียญในเกมก็มีราคาถูกลงทุกวัน แล้วการสะสมเหรียญในเกมจะไปมีประโยชน์อะไร?
"ต้องเป็นสกุลเงินในเกมเท่านั้น!" หวังยวนทวนซ้ำ
"เข้าใจแล้ว!"
มังกรท่องโลกถอนสายตาขณะโอนเหรียญทองหนึ่งพันเหรียญให้หวังยวนอย่างไม่เต็มใจ "ฉันโอนเงินให้แล้ว ตอนนี้พี่หนิวก็ไม่มีอะไรติดค้างกับพวกฉันแล้วใช่ไหม?"
“ขอเพียงพวกคุณไม่มาหาเรื่องฉัน ฉันก็จะไม่หาเรื่องพวกคุณอย่างแน่นอน” หวังยวนเอ่ยคำ
“ไม่ต้องห่วง! มีแต่ไอ้พวกหลานชายเท่านั้นที่จะไปหาเรื่องคุณ” มังกรท่องโลกตบอกแล้วสาบาน
ล้อกันเล่นหรือไง โดนไปครั้งเดียวก็อายแทบแทรกแผ่นดินหนีแล้ว
ตอนนี้มังกรท่องโลกไม่กล้าเคลือบแคลงสงสัยว่าหวังยวนสามารถทำลายกิลด์ของพวกเขาด้วยตัวคนเดียวได้หรือไม่
…
"เป็นไงบ้าง?" เมื่อเห็นคิ้วของมังกรท่องโลกคลายลง ผู้เล่นจากสมาคมมังกรดำที่อยู่ในค่ายวอริเออร์จึงมารวมตัวรอบมังกรท่องโลก
“ไม่ต้องห่วง! นับจากนี้พวกเราสามารถออกไปเดินบนท้องถนนได้แล้ว”
มังกรท่องโลกลุกขึ้นขณะเดินไปยังจุดคืนชีพ ดูเหมือนว่าการที่สามารถเดินไปบนท้องถนนได้ถือเป็นเรื่องดีที่สุดในชีวิตแล้ว
ทันทีที่ก้าวออกจากจุดคืนชีพ ร่างอันคุ้นเคยที่ถือกระบี่กับโล่กลับยืนขวางอยู่ตรงประตู
มังกรท่องโลกหวาดกลัวขณะคลานกลับเข้าจุดคืนชีพ
“พี่หนิว เกิดอะไรขึ้น? โครงกระดูกของคุณยังอยู่เลย”
“อ้าวโทษที ลืมบอกพวกมันน่ะ!” หวังยวนหัวเราะขณะเรียกเสี่ยวไป๋กลับมา
ขณะมองไปทางที่เสี่ยวไป๋หายไป มังกรท่องโลกแตะคอด้วยความรู้สึกหวาดกลัวที่ยังคงอยู่
เขาลอบสาบานในใจว่าจะไม่ไปหาเรื่องชายผู้นี้อีกในอนาคต