เจ้าหน้าที่หมายเลข 83 [ฟรี]
ตอนที่ 83
ชีลด์!
ภายในสำนักงานของเลขานุการที่เปิดเครื่องปรับอากาศตลอดทั้งปี ฟิวรี่ และ ฮิลล์ กำลังนั่งหารือวิธีแก้ปัญหาของคนที่ชอบ ‘สร้างเรื่อง . . .’ อยู่
ซึ่งคนที่ ‘สร้างเรื่อง’ นี้มันก็ไม่ใช่ใครนอกจาก โทนี่ สตาร์ค ที่ประกาศว่าตัวเองคือ ไอรอนแมน เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ผ่านมาผ่านการแถลงการณ์แบบถ่ายทอดสด!
"จากการสังเกตการณ์ก่อนหน้านี้ โทนี่ สตาร์ค เป็นคนที่เห็นแก่ตัว หลงตัวเอง เอาแต่ใจ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าการประกาศว่าตัวเองคือไอรอนแมนออกไปจะทำให้เกิดปัญหาตามมามากมายก็ตาม"
ฮิลล์ถือเอกสารยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานมองไปยังฟิวรี่ที่กำลังยืนหันหลังให้กับเธอและกำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง
"นอกจากนี้การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของเขายังทำให้หุ้นของสตาร์คอินดัสตรีส์ ซึ่งร่วงลงมากกว่า 50 จุดในตอนแรกทะยานขึ้นสู่ราคาหุ้นเดิม และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ฟิวรี่ก็ค่อย ๆ หันหลังกลับมาพร้อมกับกระพริบตาที่มีอยู่ข้างเดียวของเขาและถามขึ้นมาเบา ๆ ว่า "คุณหมายความว่านี่มันก็อยู่ในแผนการของเขาด้วยหรอ?"
"ฉันคิดว่า . . . มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้"
ทันใดนั้นสำนักงานก็ตกอยู่ในความเงียบทันที
ฟิวรี่เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกับเอามือไขว้กันบนโต๊ะ หลังจากพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งเขาก็พูดขึ้นมาว่า "โอเค ฉันรู้แล้ว คุณออกไปก่อน"
"ค่ะ!" ฮิลล์พยักหน้าและหันหลังเดินออกมาจากสำนักงาน
หลังจากเลขาของตัวเองเดินจากไปฟิวรี่ก็ยังคงนั่งอยู่ในท่าเดิม หลังจากผ่านไปสองสามนาทีเขาก็เอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักและหยิบเอกสารฉบับหนึ่งออกมา
บนหน้าปกของเอกสารถูกเขียนคำโต ๆ เอาไว้ว่า ‘การก่อตั้งอเวนเจอร์ส (AVENGERS INITIATIVE)’!
เมื่อมองดูเอกสารฉบับนี้ดวงตาของฟิวรี่ก็ค่อย ๆ จริงจังขึ้น "ดูเหมือนว่าถึงเวลาที่จะต้องไปเยี่ยมลูกชายของฮาเวิร์ดแล้ว . . . "
. . . . . .
ที่ตั้ง : วอชิงตัน ดี.ซี. ไทรสเคลเลี่ยนสำนักงานใหญ่ของชีลด์
ระยะเวลา : วันที่สามหลังจากโทนี่ สตาร์คประกาศว่าตัวเองคือไอรอนแมน
ลีออนแต่งกายด้วยชุดลำลอง จัดระเบียบเสื้อผ้าที่ยับให้เรียบร้อย จากนั้นหยิบกระเป๋าเดินทางเดินเข้าไปในสำนักงานใหญ่ของชีลด์ด้วยท่าทางสบาย ๆ
หลังจากทักทายผนักงานต้อนรับหญิงด้วยรอยยิ้ม ลีออนก็เดินตรงผ่านทางเชื่อมระหว่างอาคารไปยังแผนกวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสถาบันฝึกสอนชีลด์
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พบกับฟิตซ์ที่กำลังทำการทดลองอยู่ในห้องทดลองที่คุ้นเคย . . .
ฟิตซ์ที่สวมแว่นป้องกันดวงตาและกำลังพิมพ์ข้อมูลบางอย่างลงคอมพิวเตอร์หยุดชะงักเล็กน้อยพร้อมกับหันไปมองด้านข้างและเห็นลีออนที่กำลังยืนมองเขาอยู่มันก็ทำให้เขาอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้
"ไงลีออน! นายกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ภารกิจเป็นไงบ้าง? ที่โรมาเนียสนุกไหม? นายเคยไปที่ทำเนียบรัฐสภามาแล้วหรือยัง . . . "
เมื่อฟิตซ์ได้เปิดปากพูดคำพูดของเขามันก็รัวออกมาราวกับปืนกล พร้อมกับคำถามมากมายที่ถาโถมใส่ลีออน
ลีออนรีบโบกมืออย่างรวดเร็วเพื่อขัดจังหวะการพูดของฟิตซ์ "ใจเย็นก่อนเพื่อน . . . นายถามฉันรัวแบบนี้จนฉันไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดีเลยเนี้ย . . . "
"ฮ่าฮ่า จริงด้วยแหะ . . . " ฟิตซ์ที่รู้ว่าตัวเองพูดเร็วไปก็เกาหัวอย่างเขินอาย
ลีออนเดินเข้าไปโอบไหล่ของฟิตซ์และพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ปะ! พวกเราไปดื่มกาแฟกันดีกว่า ในระหว่างนี้ฉันจะเล่าประสบการณ์สุดระทึกให้นายฟังเอง . . . "
"โอเค!"
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็มาที่ร้านกาแฟของชีลด์ ดื่มกาแฟและเริ่มรำลึกความหลังด้วยกัน . . .
ในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ซิมมอนส์ที่รู้ข่าวการกลับมาของลีออนก็รีบตามมาร่วมวงด้วยอย่างรวดเร็ว
ลีออนแบ่งปันประสบการณ์บางอย่างที่เขาเจอมาในศูนย์วิจัยใต้ดินกับคู่หูนักวิทยาศาสตร์ทั้งสองคน ซึ่งทำให้พวกเขาอุทานด้วยความตกใจครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้พวกเขาทั้งสองคนที่ยังไม่เคยออกไปภาคสนามต่างมองไปที่ลีออนด้วยความอิจฉา
ในขณะเดียวกันฟิตซ์ก็เริ่มจะทนความอยากรู้อยากเห็นภายในใจของตัวเองไม่ไหวอีกต่อไป และถามขึ้นมาดัง ๆ ว่า "ถึงอย่างนั้นก็เถอะลีออน มันเกิดอะไรขึ้นกับกระเป๋าเดินทางของนาย? คันธนูที่ฉันสร้างให้มันมีปัญหาอะไรหรือเปล่า??"
เมื่อได้ยินคำถามของฟิตซ์ลีออนก็ผงะเล็กน้อยก่อนที่จะหยิบกระเป๋าเดินทางขึ้นมาวางบนโต๊ะและพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มว่า "ไม่มีแน่นอน! ธนูที่นายสร้างมันสุดยอดมาก ส่วนเจ้าสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าอันนี้มันคือถ้วยรางวัลที่ฉันได้มาจากโรมาเนีย . . . "
"ห๊ะ?! ถ้วยรางวัล?" ฟิตซ์และซิมมอนส์แสดงสีหน้าสงสัยขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
"ฟิตซ์ อันที่จริงแล้วที่ฉันมานายวันนี้นอกจากมาทักทายแล้ว ฉันยังมีอะไรบางอย่างให้นายช่วยฉันหน่อย"
"ได้สิไม่มีปัญหา!"ฃ
หลังจากได้ยินคำตอบของฟิตซ์ลีออนก็เปิดกระเป๋าเดินทางของเขาออกเผยให้สิ่งที่อยู่ด้านใน
"นี่คือ . . . ?"
ฟิตซ์มองเห็นแท่งสีดำที่วางอยู่ด้านในอย่างเงียบ ๆ ในกระเป๋าเดินทางของลีออนซึ่งมันดูคล้ายกับอาวุธไฮเทค?
เมื่อมองไปที่สายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของคู่หูนักวิทยาศาสตร์ลีออนก็อธิบายขึ้นมาว่า "นี่คือโลหะ อดาแมนเที่ยม มันคืออดาแมนเทียมที่ผสมกับโลหะที่ไม่มีใครรู้จัก!"
"อดาแมนเทียม?!"
ชื่อของอดาแมนเทียมทำให้ฟิตซ์และซิมมอนส์อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
ซิมมอนส์หันไปมองรอบ ๆ ครู่หนึ่งและเห็นว่าไม่มีใครรสนใจเธอก็กระซิบขึ้นมาเบา ๆ ว่า "มันมีเพียงแค่กองทัพอเมริกาและพันมิตรแค่ไม่กี่ประเทศไม่ใช่หรอที่มีเทคโนโลยีลับที่ใช้สังเคราะห์เจ้าโลหะพวกนี้ขึ้นมา? ถ้าหากฉันจำไม่ผิดที่โรมาเนียไม่ได้มีเทคโนโลยีลับพวกนี้อยู่ . . . "
เมื่อเผชิญหน้ากับข้อสงสัยของคู่หูนักวิทยาศาสตร์ ลีออนก็ลังเลเล็กน้อยและไม่รู้ว่าเขาควรเล่าเรื่องของบริษัทร็อกซอนให้สองคนนี้ฟังดีไหม
เมื่อเห็นความลังเลบนใบหน้าของลีออนซิมมอนส์ก็ตระหนักได้ทันทีว่ามันมีลับลมคมในมากกว่านั้นและพูดขึ้นมาทันทีว่า "นายไม่จำเป็นต้องพูด เรื่องนี้เป็นความลับพวกเราเข้าใจ"
"ใช่พวกเราเข้าใจ!" ฟิตซ์พยักหน้ายืนยันเพื่อไม่ทำให้ลีออนอึดอัดเช่นกัน
ลีออนที่เห็นว่าเพื่อนของตัวเองเข้าใจเหตุผลของเขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าขอบคุณให้พวกเขาทั้งสองคน "ขอบคุณนะ!"
"ไม่เป็นไร พวกเราเป็นเพื่อนกันนิ . . . "
หลังจากทำความเข้าใจกันเล็กน้อยฟิตซ์ก็กลับไปที่หัวข้อของอดาแมนเทียมสีดำและถามว่า "ถ้าอย่างนั้นนายต้องการให้ฉันช่วยอะไร?"
"ฉันต้องการให้นายลองดูว่าสามารถเปลี่ยนเจ้าสิ่งนี้ให้กลายเป็นอาวุธได้ไหม!"
. . .
หลังจากมอบอดาแมนเทียมสีดำให้กับฟิตซ์ ลีออนก็มองดูเวลาที่ข้อมือเล็กน้อยและเตรียมตัวจะไปหาฟิวรี่ ในขณะที่ลีออนกำลังจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ ทันใดนั้นฟิตซ์ก็รีบหยุดลีออนเอาไว้ก่อนและบอกข่าวที่น่าสนใจให้ลีออนฟังว่า "ในเมื่อนายไปโรมาเนียตั้งนาน แสดงว่านายจะยังไม่รู้เรื่องสำคัญเมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม . . . "
"หืม? เรื่องอะไร?"
"ตอนนี้พวกเราสามารถเรียกตัวเองว่า ‘ชีลด์’ ได้อย่างเต็มปากเต็มคำโดยไม่ต้องใช้ชื่อแผนกที่ยาวเป็นหางเว่าได้แล้ว!"
เมื่อได้ยินคำพูดของฟิตซ์ลีออนก็ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย "มันควรเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว . . . "
ภายใต้ชื่อที่ยามเหยียดของชีลด์ก่อนหน้านี้ทำให้มีเจ้าหน้าที่หลายคนได้ร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าชื่อแผนกมันยาวเกินไป โดยหวังว่าเบื้องบนจะเปลี่ยนให้มันสั้นลงและกระชับมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รุ่นเก่าบางคนที่นำโดยโคลสันได้ตัดสินใจย่อชื่อของแผนกลงให้กลายเป็น ‘ชีลด์’ เหมือนในปัจจุบัน!
ซึ่งผู้บริหารระดับสูงก็คิดว่าชื่อนี้เหมาะสมดี เป็นเหมือนกับเกราะป้องกันของโลก . . .
ดังนั้นหลังจากที่ฟิวรี่พยักหน้าเห็นด้วย ชื่อที่ยาวเหยียดก่อนหน้านี้จึงกลายเป็น ‘ชีลด์’ อย่างเป็นทางการ!
ทำให้หลังจากนี้เมื่อเจ้าหน้าที่ออกไปปฏิบัติภารกิจและต้องรายงานตัวเองพวกเขาก็ไม่ต้องพูดชื่อที่ยาวเหยียดจนไม่มีใครอยากจำอีกต่อไป และเรียกได้อย่างเต็มปากว่าตัวเองมาจาก ‘ชีลด์’ เมื่อบวกกับข่าวที่โทนี่ สตาร์คได้ประกาศว่าตัวเองคือ ‘ไอรอนแมน’ เมื่อไม่กี่วันก่อนหัวใจของลีออนก็สั่นไหวเล็กน้อยและอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองไปบนท้องฟ้าพร้อมกับถอนหายใจเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าโลกกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ตามอย่างที่มันควรจะเป็น . . .
โปรดติดตามตอนต่อไป …