ตอนที่แล้วบทที่ 73 มีแม้กระทั่งกลิ่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 75 ขุนนางหนุ่ม

บทที่ 74 ปลาคาร์ฟ


ในคืนที่เงียบสงบ เสียงกรีดร้องอย่างกะทันหันดังไปทั่วท้องฟ้า

ชูเหลียงคว้ากระบี่และรีบรุดมายังที่เกิดเหตุ ที่นั่นเขาพบหญิงสาวสองคนในคฤหาสน์ที่เบียดเสียดกัน ตื่นตระหนกและร้องไห้

ชูเหลียงรีบปลอบใจทั้งสอง "อย่าตกใจไป ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว มันเกิดอะไรขึ้น"

"มีเงาอยู่ตรงนั้น.." หนึ่งในแม่บ้านชี้ไปที่ต้นไม้นอกสนาม "มันหายไปเหมือนลมกระโชกแรง มันน่ากลัวมากเจ้าค่ะ"

"พวกท่านทั้งสองคนกลับไปที่ห้องเถอะ ข้าจะไปดูเอง" ชูเหลียงกล่าวและรีบเร่งไปยังจุดที่แม่บ้านชี้

เขาปลดปล่อยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์และพบว่ามีชี่ปีศาจจางๆ ในอากาศ

ชูเหลียงตามร่องรอยของชี่มาถึงลานบ้านอย่างรวดเร็ว ที่นั่นเขาเห็นร่างที่สดใสและมีสีสันที่โดดเด่นแม้ในความมืดซึ่งอธิบายได้ว่าเหตุใดสาวๆ จึงสังเกตเห็นมันได้ง่าย

เมื่อได้เสียงชูเหลียงเข้ามาใกล้ ร่างนั้นก็ตื่นตัวมันหันหลังอย่างรวดเร็วและรีบพุ่งไปไกลทันที มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่น่าทึ่งมาก

ชูเหลียงรีบตามไปทันที

อย่างไรก็ตาม ร่างนี้เคลื่อนไหวอยู่ในอากาศเหมือนปลาที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำ มันแกว่งไปทางซ้ายและขวาได้อย่างง่ายดายและดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากแรงต้านเลย ความเร็วของมันน่าทึ่งมาก มันบินเร็วมากทีเดียว

แม้ว่าชูเหลียงจะไล่ล่าด้วยความเร็วเต็มที่ แต่เงานั้นก็ยิ่งห่างออกไปในพริบตา

สิ่งมีชีวิตชนิดนี้มีความเร็วเทียบเท่ากับเซียวหน้าคนที่เขาเคยพบในอดีต และแม้กระทั่งผู้ฝึกฝนในระดับแกนทองคำอาจพบว่ามันยากที่จะตามทัน ชูเหลียงได้ใช้เครื่องรางวิญญาณแมวไปแล้วในตอนนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เหลือตัวช่วยใดๆ แล้ว

อย่างไรก็ตาม ชูเหลียงในปัจจุบันแตกต่างจากชูเหลียงในอดีต เขามีเครื่องมือเวทมนตร์ใหม่ในคลังอาวุธของเขา

ชูเหลียงยกมือขึ้น กระตุ้นพลังในใบไม้เขียว แสงสีเขียวระเบิดออกมา เขาเหยียบพรมใบไม้ใบใหญ่และก้าวไปขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าชูเหลียงไม่ได้ควบคุมมันได้เต็มที่ แต่เขาก็ทำมันดีขึ้นกว่าครั้งแรกๆ ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลมาก เขาจึงคิดว่าน่าจะลองดู แม้ว่าเขาจะยังไม่มั่นใจเต็มร้อย แต่เขาก็ไม่สามารถดูปีศาจหนีไปต่อหน้าต่อตาได้

ด้วยวิธีนี้ เท้าที่สดใสเหยียบแสงสีเขียวและหายวับไปทันที

ปีศาจตัวนี้ดูเหมือนจะตกใจกับความเร็วที่ฉับพลันของชูเหลียง มันหันไปและเห็นชูเหลียงเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว ใจของมันตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด มันพยายามหลบหนีด้วยการเคลื่อนไหวที่บ้าคลั่งมากขึ้น

หลังจากการไล่ล่าในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขามาถึงฝั่งใต้ แม่น้ำเฉินหนานนอกเมืองหนานเหมิน กระแสน้ำที่เชี่ยวกรากและความลึกที่ดูเหมือนไม่มีก้นบึ้งของมันจะสร้างอุปสรรคอย่างมากให้กับชูเหลียง หากปิศาจตัวนี้ตัดสินใจกระโดดลงน้ำ ชูเหลียงคงไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเขาขาดทักษะที่เกี่ยวกับน้ำ

เวลานี้ชูเหลียงกําลังเข้าใกล้ปีศาจตัวนี้ เขาเกือบจะจําเงาของมันได้ มันคล้ายกับผู้หญิงที่สง่างามมาก

ปีศาจร้ายตัวนี้เร็วดั่งลม เร็วดั่งสายฟ้า มันกระโดดขึ้นสูงและพร้อมที่จะกระโดดลงไปในน้ำ

ในช่วงเวลาที่สําคัญนี้ ชูเหลียงก็มีความดีๆ

"ไปเลย!" เขาตะโกน

ชูเหลียงหมุนหงายหลังตีลังกากลางอากาศและลงพื้นอย่างสง่างาม ใบไม้ยักษ์ที่เคยอยู่ใต้เท้าของเขายังคงพุ่งบินไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเดิมมาก ในชั่วพริบตา มันก็วางตัวเองอยู่ใต้ปีศาจตัวนั้นแล้ว

ชูเหลียงสร้างรอยประทับอีกอันหนึ่งทันทีและเปิดใช้งานรูปแบบการป้องกันของใบไม้!

วิ้งง

ใบไม้ยักษ์สีเขียวขดอยู่รอบปีศาจตัวนี้และห่อมันไว้คล้ายบ๊ะจ่างลอยที่อยู่กลางอากาศ

ชูเหลียงยกมือขึ้นอีกครั้งและค่อยๆ เรียกมันกลับมา

"เห้อ" ชูเหลียงส่งเสียงเหนื่อยหอบ

หนีไม่พ้นหรอกถ้าอยู่ในนั้น

ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาต้องการใช้สำหรับการป้องกัน.. ดูจะทำหน้าที่ในการผนึกได้ดีกว่าเสียอีก..

เขาค่อยๆ พาบ๊ะจ่างลูกใหญ่ลูกนี้กลับไปที่คฤหาสน์หลี่พลางครุ่นคิดถึงสิ่งที่ใบไม้ยักษ์นี้จะทำได้

...

ชูเหลียงและหลินเป่ยพบกันที่ห้องใต้หลังคาของคฤหาสน์หลี่ โดยแต่ละคนจับได้ 1 คน

"ว้าว เครื่องมือพันธนาการใหม่หรือ" หลินเป่ยตะโกนด้วยความประหลาดใจ ดวงตาของเขาจ้องมองที่บ๊ะจ่างขนาดใหญ่ที่ชูเหลียงนำมาในมือ

"ก็ไม่เชิงว่าเป็นเครื่องพันธนาการหรอก.." ชูเหลียงพูดเสียงเบา

จากนั้นเขาก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้หลินเป่ยฟังสั้นๆ ก่อนนำบ๊ะจ่างลงพื้น

ชูเหลียงและหลินเป่ยเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและค่อยๆ แผ่ใบเขียวออก

ด้วยแสงสีเขียว ใบไม้ค่อยๆ คลี่ออก เผยให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่งดงาม ผิวของเธอขาวเหมือนหิมะ ผมยุ่งเหยิง ดวงตาของเธอส่องแสงแห่งความโกรธ แก้มที่พองตัวทําให้ความโกรธของเธอดูรุนแรงขึ้น

"คนเลว!" หญิงสาวตะโกนทันทีที่เห็นชูเหลียง พอหันไป หลินเป่ยก็เพิ่มคําสบประมาทอีกประโยคหนึ่งว่า "คนเลวโรคจิต"

อย่างไรก็ตาม ชูเหลียงและหลินเป่ยก็ต้องตกใจ

"หลิวเสี่ยวยู่เอ๋องั้นหรือ"

ชื่อของเธอยังคงอยู่ในความทรงจําของพวกเขา

พวกเขาได้เห็นสาวสวยมากความสามารถหลายคนแสดงลีลาท่าเต้นและขับร้องในการคัดเลือกในวันนั้น อย่างไรก็ตาม สาวใสซื่อคนนี้ซึ่งร้องและเต้นไม่ชำนาญแต่กลับประทับใจพวกเขามาก พวกเขาจำเธอได้ดี

"รู้จักข้าหรือ" หญิงตัวเล็กมองไปรอบๆ และถามด้วยความกลัว

"เราเห็นเจ้าตอนคัดเลือก เจ้าเป็นปีศาจงั้นหรือ" ชูเหลียงพูดพลางขมวดคิ้ว "แรงจูงใจของเจ้าคืออะไร เหตุใดต้องมาสร้างความวุ่นวายในคฤหาสน์ของตระกูลหลี่"

"ข้ามาหาพี่สาวของข้า!" หลิวเสี่ยวยู่เอ๋อตะโกน

"พี่สาวหรือ โปรดเล่ามาให้ละเอียด" หลินเป่ยเอ่ยถาม

เด็กหญิงตัวเล็กๆ มองเขาแล้วมองชูเหลียงอีกครั้ง

เธอขมวดคิ้วและถาม “หากข้าบอก จะปล่อยข้าไปหรือไม่”

“แม่นางหลิวเสี่ยวยู่เอ๋อ ช่วงนี้เจ้ามาที่สวนหลี่เจียจวงบ่อย แม้ว่าจะสร้างปัญหาเล็กน้อย แต่เจ้าก็มิได้ทําร้ายใคร หากเจ้าสัญญาว่าจะไม่มาอีก เราจะไม่สร้างปัญหาให้เจ้า” ชูเหลียงกล่าว "แต่ไม่ว่าเหตุผลที่เจ้าจะเป็นเพราะเหตุใด ข้าหวังว่าเจ้าจะอธิบายให้ชัดเจน"

"ไม่ยุติธรรม" ผู้บ่มเพาะที่ปลอมตัวเป็นผีกล่าว เขาพลิกตัวอย่างแรงและยกคอขึ้นบ่น "ข้าก็ไม่เคยทำร้ายใครเหมือนกัน ทำไมข้าถึงได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกัน พวกท่านควรมัดเธอเหมือนข้าก่อนสอบปากคํามิใช่หรือ"

"เงียบเลย!" หลินเป่ยเตะผู้บ่มเพาะ "เจ้าคิดว่าพวกข้าใจร้ายเช่นนั้นเลยหรือ เจ้าคิดว่าเราเป็นโจรร้ายหรืออย่างไรกัน"

เมื่อพูดจบหลินเป่ยก็ยิ้มมองหลิวเสี่ยวยู่่เอ๋อแล้วพูดว่า "เจ้าตัวเล็ก เจ้าพูดต่อ ไม่ต้องกลัว"

"อืม.." หญิงสาวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอมองหน้าหลินเป่ยแล้วมองหน้าชูเหลียงอีกครั้ง เหมือนกําลังตัดสินว่าพวกเขาเป็นคนดีหรือคนเลว หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เริ่มพูด "พี่สาวของข้าและข้าเดิมเป็นครอบครัวคาร์ฟแห่งแม่น้ําบอมแบ็ก..."

"หือ.. ปลาคาร์ฟหรือ.." ชูเหลียงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วลูบคาง แม่น้ำบอมแบ็กแม่น้ำข้างเมืองหยุนหัวที่ข้าไปกำจัดผึ้งพิษนี่

หลิวเสี่ยวยู่เอ๋ออธิบายต่อ “เมื่อก่อนเรามีความสุขมากในแม่น้ํานั่น แต่มักมีคนเลวคอยมารบกวนชีวิตที่สงบสุขของเรา พี่สาวของข้าได้ฝึกฝนเวทมนตร์แต่พวกเราก็เป็นเพียงปลาตัวเล็กๆ ที่ไม่มีร่างอื่นเช่นในตอนนี้

อยู่มาวันหนึ่ง พี่สาวของข้าได้พาข้าออกเที่ยว เรามาถึงแม่น้ำเฉินหนาน และในทันใดก็ถูกสายน้ำพัดม้วนเข้าไปในถ้ำที่ก้นแม่น้ำ

"ในนั้นเราพบองุ่นสีอำพันต้นหนึ่ง มันมีลูกองุ่นสุกสองลูก ลูกใหญ่มันเพิ่มพลังเวทมนตร์ให้ห้าร้อยปี และลูกเล็กเพิ่มพลังเวทมนตร์ได้สามร้อยปี พี่สาวข้าให้องุ่นลูกใหญ่แก่ข้า และเมื่อข้าทานมันข้าก็มีฤทธิ์ในการกลายเป็นมนุษย์เช่นนี้"

"เราสองคนมีความสุขมาก ตอนนี้ข้าแปลงร่างได้แล้ว เราก็ตั้งใจจะเล่นบนฝั่ง พี่สาวของข้าบอกข้าว่าตั้งใจจะพาเราผ่านแม่น้ำเฉินหนานไปยังเมืองหนานเหมินเพื่อที่เราจะสามารถสํารวจได้มากขึ้น”

"แต่ขณะที่เรากำลังจะออกจากถ้ำ ปีศาจเต่าตัวใหญ่ตัวหนึ่งก็อยากจะกลืนกินเรา เราวิ่งหนีและพลัดหลงกันออกมา ฉันบังเอิญเข้าไปในคฤหาสน์น้ำที่ปีศาจปลาชั้นสูงทิ้งไว้และมีวิญญาณปลาหลงเหลืออยู่...

"มันคือวิญญาณปลาบิน และมันได้หลอมรวมเข้ากับร่างของข้า ตั้งแต่นั้นมาข้าก็เรียนรู้ที่จะว่ายน้ำได้เร็วมาก"

"อืม..." ชูเหลียงพึมพํากับตัวเอง

เขาอดไม่ได้ที่จะตกใจกับข่าวที่เพิ่งได้ยิน พี่น้องสองคนนี้เป็นปลาคาร์ฟ เพียงแค่เดินทางออกจากบ้าน พวกเขาก็ได้พบกับของสมบัติล้ำค่าระหว่างการเดินทาง

หลิวเสี่ยวยู่เอ๋อกล่าวต่อว่า "ข้าจําคำพี่สาวของข้าที่บอกว่าจะมายังเมืองหนานเหมินได้ ข้าจึงคิดว่าข้าสามารถหาเธอเจอได้ที่นั่น"

"แต่เมืองนั้นมีคนมากมายจนข้าไม่กล้าเข้าไป แต่เมื่อข้าผ่านคฤหาสน์นี้ข้าสังเกตเห็นเกล็ดของพี่สาวของข้าอยู่นอกประตูคฤหาสน์และได้กลิ่นของเธอ..

"ข้าคิดว่าเธออาจจะอยู่ที่นี่ ดังนั้นข้าจึงเข้ามาหาเธอ..

"แต่สถานที่แห่งนี้ใหญ่เกินไป ข้าพยายามหาเธอมาหลายวันแต่ก็หาไม่เจอ.. จนถูกเจ้าจับตัวในวันนี้.." หลิวเสี่ยวยู่เอ๋อกระซิบด้วยสีหน้าน้อยใจ

"ข้าเข้าใจแล้ว" ชูเหลียงพยักหน้าพูด "พรุ่งนี้ข้าจะถามดูว่ามีใครเคยเห็นพี่สาวของเจ้าหรือไม่ แต่เจ้าห้ามแอบเข้ามาตอนกลางคืนอีกเด็ดขาด มันจะทําให้คนกลัว"

หลิวเสี่ยวยู่เอ๋อมองชูเหลียงและหลินเป่ยอย่างขี้ขลาด "ท่านจะช่วยข้าจริงๆ หรือ"

"แน่นอน" หลินเป่ยตบหน้าอกตัวเองไปพลางรับรองไปพลาง "พี่ชายคนนี้ชอบช่วยเหลือเด็กหญิงที่หายตัวไปอยู่แล้ว!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด