ตอนที่ 122 กินของเขา แต่พูดใส่ร้ายเขา (อ่านฟรี)
ตอนที่ 122 กินของเขา แต่พูดใส่ร้ายเขา
ทะเลโอสถชุดนี้ต้องมียาหลิงหยางอย่างน้อย 100,000 เม็ด
แม้แต่ผู้อาวุโสของสถาบันปราบมารยังตกตะลึงในความมีน้ำใจของซูอัน ความร่ำรวยนี้คู่ควรที่จะได้เป็นบุคคลสำคัญจากราชสำนักจริงๆ
แดนเหนือตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย นอกจากสำนักปราบมารแล้วไม่ค่อยมีกลุ่มผู้เก่งกาจมากนัก นักเรียนส่วนใหญ่ในสถาบันปราบมารยังไร้พื้นฐาน ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางปฏิเสธยาอายุวัฒนะที่มีคนยื่นให้เช่นนี้
เหล่านักเรียนหยิบยาเม็ดแล้วเอ่ยขอบคุณตามๆ กัน
“ขอบคุณคุณชาย”
“ขอบคุณคุณชายสำหรับรางวัล”
นักเรียนหญิงหลายคนตกตะลึงกับรูปลักษณ์ที่ใจกว้างนี้
“คิคิ คุณชายท่านนี้หล่อมาก!”
“รุ่นพี่หญิงอย่าคิดเรื่องนี้เลย ท่านไม่เห็นหรือว่าคนที่นั่งถัดจากคุณชายคือนักบุญหญิง?”
“ก็จริง...แต่เขาหล่อมากอยู่ดี!”
เมื่อฟังเสียงอุทานของนักเรียนหญิงหลายคนที่อยู่ข้างๆ เซียวเย่าจึงแค่นเสียงเย้ยหยันและเก็บยามาด้วย
อาจารย์พูดถูก ยาที่ศัตรูมอบให้นั้นไม่มีค่าใช้จ่าย จงใช้ให้เกิดประโยชน์
เมื่อนึกถึงเหยียนเหล่า หัวใจของเขามีความเจ็บปวดอีกครั้ง
แข็งแกร่ง ต้องแข็งแกร่ง!
มีเพียงความแข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะสามารถแก้แค้นได้!
ทันใดนั้นปรากฏร่างที่สูงใหญ่กำยำร่างหนึ่งบินมาจากระยะไกล
“เรียนคุณชาย มีผู้ปลูกฝังมารระดับต่ำสองคนแอบเข้าใกล้เรือเซียน แต่ข้าน้อยจับพวกเขาได้แล้ว” ถูเซิ่งหนานโยนกระสอบทั้งสองใบไปที่ด้านข้างของซูอันซึ่งอยู่บนเวที จากนั้นรายงานต่อซูอันด้วยความเคารพ
ปากกระสอบถูกเปิดออกและภายในนั้นมีร่างสองร่างที่อยู่ในระดับผันวิญญาณ มีพลังมารจางๆ บนร่างกายและไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นผู้ปลูกฝังมาร
ผู้อาวุโสที่อยู่บนเวทีอดหัวเราะเยาะไม่ได้
ผู้ปลูกฝังมารระดับต่ำที่โง่เขลากล้าโจมตีเรือเซียน คิดว่าเรือเซียนสามารถถูกโจมตีได้ง่ายๆ หรือ
“นั่นคือเซียวเฟิงกับเซียวหาน!” เซียวเย่าลุกขึ้นยืนพร้อมดวงตาเบิกกว้าง
สองคนนี้เป็นคนของตระกูลเซียวที่หนีเอาชีวิตรอดมาทางเหนือ ดังนั้นพวกเขาไม่มีทางเป็นผู้ปลูกฝังมารเด็ดขาด!
“ผู้ปลูกฝังมารเหล่านี้กระทำสิ่งชั่วร้ายมากมาย ดังนั้นฆ่าทิ้งซะ” ซูอันโบกมือสั่ง
เมื่อถูเซิ่งหนานได้ยินคำสั่ง นางลงมือทันที มือใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังเวทบีบทั้งสองคนไว้
“หยุดนะ!” เซียวเย่าลืมระวังตัวและตะโกนด้วยความร้อนใจ
แต่ถูเซิ่งหนานไม่หยุดจนกว่าจะได้รับคำสั่งจากคุณชายเท่านั้น
ฟุบ!
เสมือนแตงโมระเบิด เซียวเฟิงเซียวหานกลายเป็นฝุ่นในสายลม ไม่สามารถแม้แต่จะร้องไห้ออกมาด้วยซ้ำ
เซียวเย่าตกตะลึง ร่างกายสั่นสะท้าน
“น้องชายคนนี้จะพูดอะไรกับข้าหรือ?” ซูอันมองไปยังทิศทางของเซียวเย่า
นักเรียนและผู้อาวุโสคนอื่นก็อดจ้องมองตามไม่ได้
“นักเรียนคนนี้รีบนั่งลงซะ!” อธิการบดีเฒ่าตะโกน
รุ่นพี่อู๋ดึงแขนเสื้อของเซียวเย่าด้วยความประหม่าพลางกระซิบว่า “รุ่นน้อง รีบนั่งลงเถอะ”
“พวกเขาไม่ใช่ผู้ปลูกฝังมาร!” เซียวเย่ากำหมัดแน่นและพูดเสียงลอดไรฟัน
“เกรงว่านี่เป็นครั้งแรกที่น้องชายได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้” ซูอันยิ้มน้อยๆ โดยไม่โกรธที่ถูกโต้แย้งเลย “ผู้ปลูกฝังมารเหล่านี้กระทำความชั่วมากมาย ทั้งข่มเหงสตรี ปล้นสะดม ฆ่ายกครัวและทำสิ่งชั่วร้ายทุกรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องแสดงความเมตตาเลย น้องชาย ในอนาคตเจ้าจะเข้าใจเอง รีบนั่งลงเถอะ”
“ซูอัน!” เซียวเย่าตะโกนเสียงดัง ดวงตาของเขาแดงก่ำ “เจ้ามันคนเสแสร้ง ข้าอยู่ที่นี่แล้ว เจ้าหยุดแสร้งทำเป็นคนดีมีคุณธรรมซะ เจ้าฆ่าล้างตระกูลเซียวของข้า จับท่านพ่อของข้าไว้และสังหารอาจารย์ข้าด้วย เจ้าเลวกว่าผู้ปลูกฝังมารเหล่านั้น!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมาจึงเกิดความโกลาหลขึ้นในจัตุรัส
การฆ่าล้างตระกูล ไม่ว่าเกลียดชังหรือมีความแค้นใดๆ ก็ตาม ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถทำสิ่งที่โหดร้ายเช่นนี้ได้
นักเรียนหญิงบางคนปกป้องซูอันทันที “อย่าใส่ร้ายสิ คุณชายท่านนี้ไม่ใช่คนเช่นนั้น!”
“คนที่ชื่อเซียวเย่า อย่าใส่ร้ายคนอื่น!”
“แล้วพวกเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าคุณชายไม่ได้ทำ?” นักเรียนชายที่อยู่ข้างๆ เอ่ยถามพวกนาง
“เฮอะ คุณชายรูปงามและใจกว้าง เขาจะเป็นคนเลวได้อย่างไร”
“...”
“ฆ่าล้างตระกูลเซียว?” ซูอันคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตระหนักได้ทันที “โอ้ เจ้าเป็นทายาทของตระกูลเซียวแห่งชิงโจวนี่เอง เหตุผลง่ายมาก…เพราะตระกูลเซียวสมรู้ร่วมคิดกับผู้ปลูกฝังมาร ความวุ่นวายในชิงโจวได้คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ข้าในฐานะผู้ตรวจการของราชสำนักจะทนต่อการดำรงอยู่ของตระกูลขยะในต้าซางได้หรือ!” เขายืนขึ้นและมองลงไปที่เซียวเย่าซึ่งดูโกรธเกรี้ยวและดื้อรั้น “แม้ว่าน้องชายจะเป็นทายาทตระกูลเซียว แต่เนื่องจากได้เข้าร่วมสถาบันปราบมารแล้ว อาจไม่มีอุดมการณ์ร่วมกับตระกูลของเจ้า ดังนั้นอย่าทำผิดพลาดอีกเด็ดขาด”
มู่ฉยงอีแสดงท่าทีเข้าใจเช่นกัน
ผู้ที่สามารถถูกยอมรับจากไฟสวรรค์เจิ้งชี่ได้จะเป็นคนโหดร้ายได้อย่างไร สาเหตุเพราะตระกูลเซียวสมรู้ร่วมคิดกับผู้ปลูกฝังมารนั่นเอง
สมควรถูกทำลายจริงๆ
นักเรียนคนอื่นได้ยินแล้วพยักหน้าเห็นด้วย
มิหนำซ้ำพวกเขาเพิ่งได้รับผลประโยชน์จากซูอัน โดยธรรมชาติแล้วหัวใจจึงเอนเอียงไปทางซูอัน
“ข้าเพิ่งเห็นผู้ชายคนนี้กินยาหลิงหยาง เฮอะ เขากินยาของคนอื่นแล้วยังพูดใส่ร้ายแบบหน้าตาเฉย” นักเรียนหญิงอีกคนมองเซียวเย่าด้วยความรังเกียจ
ทันใดนั้นทุกคนก็เห็นด้วยกับนาง
“เซียวเย่าคนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ปลูกฝังมารจริงหรือ”
“นั่นสิ แต่สองคนนั้นมีพลังมารติดตัวไม่ใช่หรือ”
“ชิ เขายังมีหน้ามากล่าวหาคุณชายอีก”
แม้แต่รุ่นพี่อู๋ก็ไม่กล้าพูดแทนเซียวเย่า พวกชายอ้วนถึงขั้นขยับออกห่างด้วยกลัวว่าจะเดือดร้อนหากอยู่ใกล้เซียวเย่า
คำก่นด่าทุกคำแทงทะลุหัวใจของเซียวเย่า ความอบอุ่นของสถาบันในอดีตถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ
เมื่อมองรอยยิ้มมุมปากของซูอันที่เหมือนการเยาะเย้ยถากถาง เขาจึงกัดฟันกรอด
“ซู! อัน!”
“พอแล้ว!” การแสดงออกของซูอันค่อยๆ เย็นชา “อย่าสร้างปัญหาอีก เนื่องจากเจ้าออกจากตระกูลเซียวแล้ว ข้าจะไม่ถือสาเรื่องในอดีตอีก แต่ถ้าเจ้าต้องการล้างแค้นให้คนในตระกูลที่สมรู้ร่วมคิดกับผู้ปลูกฝังมาร…” เปลวไฟสีขาวบริสุทธิ์จำนวนหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของซูอัน “ก็อย่าโทษที่ข้าใจร้าย”
“นั่นคือไฟสวรรค์เจิ้งชี่!” อธิการบดีเฒ่าตะโกนเสียงดัง
หากไฟสวรรค์เจิ้งชี่ยอมรับ แน่นอนว่าท่านโหวซูผู้นี้มีความชอบธรรมจริงๆ มิฉะนั้นนักบุญหญิงคงไม่กระตือรือร้นนัก
บัดนี้พวกนักเรียนมองเซียวเย่าด้วยสายตาประหลาดขึ้นเรื่อยๆ
เพราะท่านโหวซูเป็นคนดี ดังนั้นเซียวเย่าควรจะผิดปกติ
เซียวเย่าอ้าปากค้างด้วยความไม่เชื่อ เพราะด้วยนิสัยของซูอันจะขัดเกลาไฟสวรรค์เจิ้งชี่ได้อย่างไร ไม่มีทาง!
เมื่อเห็นว่าเซียวเย่ากำลังจะพูดอีก ผู้อาวุโสในสถาบันจึงผลักเขาด้วยฝ่ามือจนเขากระเด็นห่างออกไปหลายร้อยเมตร ก่อนจะร่วงลงด้านหลังฝูงจน จากนั้นจึงสั่งว่า “รีบลากตัวน่าอับอายนี้ออกไป!”
รุ่นพี่อู๋รีบลุกขึ้นแล้วแบกเซียวเย่าขึ้นมาและจากไปด้วยความรวดเร็ว
จากนั้นผู้อาวุโสแสดงรอยยิ้มประจบประแจงให้ซูอัน “ขออภัยท่านโหว พวกเราประมาทในการรับสมัครนักเรียนจนเลือกคนแบบนี้เข้ามาได้”
ท่านโหวผู้นี้เป็นบุคคลสำคัญของราชสำนัก หากสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในวันนี้ได้ ในอนาคตก็อาจมีประโยชน์ต่อตน
“ไม่เป็นไร” ซูอันพยักหน้าด้วยความใจดี ความเย็นชาในดวงตาของเขาลดลง
หากเซียวเย่าพูดเรื่องเลวร้ายของเขาอีกสองสามคำ เขาสามารถฆ่าเซียวเย่าในนามของพันธมิตรปราบมารได้โดยตรง
น่าเสียดายที่เขาต้องรักษาภาพลักษณ์เวลาอยู่ในสถาบันปราบมาร
ส่วนเซียวเย่าผู้มีตราประทับวิญญาณสีม่วงอ่อนย่อมหนีไม่พ้น
เนื่องจากเซียวเย่าก่อปัญหา การบรรยายจึงจบลงด้วยความเร่งรีบ
มู่ฉยงอีก็เอ่ยขอโทษซูอันโดยบอกว่านางบกพร่องในหน้าที่เอง
……