บทที่ 8 ใช้เงินเหมือนน้ำ
บทที่ 8 ใช้เงินเหมือนน้ำ
เจ้าของร้านขายซาลาเปาเป็นหญิงร่างท้วม ผิวพรรณเอิบอิ่มเพียงแค่เห็นรูปร่างหน้าตา ก็รู้แล้วว่าซาลาเปาของนางน่าจะอร่อยไม่เบา
เที่ยงวันกำลังจะผ่านไปซาลาเปาเนื้อของนางยังขายไม่หมดกำลังกังวลใจอยู่จู่ๆ ก็มีหญิงสาวร่างเล็ก ตัวผอม เดินเข้ามา
“แม่ค้าซาลาเปาขายยังไงเจ้าคะ?” เสียงใสๆ ดังขึ้น
เจ้าของร่างเดิมของเซี่ยชิงหยาเพิ่งอายุ 22 ปีวัยนี้ในยุคปัจจุบัน ยังเป็นนักศึกษาจบใหม่เลย
“น้องสาวเพิ่งมาซื้อซาลาเปาที่ร้านข้าใช่ไหม? ครั้งแรกข้าลดให้นะ ซาลาเปาเนื้อสามเหวินซื้อห้าลูกข้าแถมหนึ่งลูก”
แม่ค้าเป็นนักธุรกิจสายตาเฉียบคม คิดหาเหตุผลได้ทันที
ถ้าลูกค้าอยากซื้อก็ต้องเริ่มต้นจากห้าลูกขึ้นไป
“ข้าซื้อสิบลูกแถมให้ข้าสี่ลูกนะเจ้าคะ”เซี่ยชิงหยาตั้งใจจะซื้อเยอะอยู่แล้วพี่ชายทั้งสี่คนทำงานหนักมาทั้งวันคนละสองลูก ต้องซื้อสิบลูก
“นี่ๆแถมสี่ลูกไม่ได้หรอกข้าขายขาดทุนแน่ๆแถมแค่สองลูกก็พอแล้ว”
“ไม่ขาดทุนหรอก ข้าไม่เคยซื้อที่นี่มาก่อน นี่เป็นครั้งแรกก็ซื้อสิบลูกแสดงว่าข้าไว้ใจพี่สาว ครอบครัวข้าเยอะหลังจากนี้จะมาซื้อที่นี่ตลอด”
“พี่สาวแถมสี่ลูกไม่ได้หรอก”
หลังจากต่อรองกันไปมา
เซี่ยชิงหยาใช้เงิน 28 เหวินซื้อซาลาเปาเนื้อสิบลูกได้แถมสามลูก และขนมปังนึ่งที่หน้าตาไม่ค่อยดีอีกหนึ่งอัน และแป้งที่แม่ค้าลืมไปไม่ได้นำไปนึ่งอีกหนึ่งก้อน
เพราะนางค้นกระเป๋าไปทั่วมีเงินอยู่แค่ 28 เหวินเท่านั้น
หน้าแม่ค้าเครียดแต่ก็ยอมขายเพราะถ้าปล่อยไว้ซาลาเปาเนื้อที่เหลือจะขายไม่หมดส่งผลต่อชื่อเสียงของร้าน
ชาติที่แล้วเซี่ยชิงหยาเพื่อที่จะเก็บเงินค่าเล่าเรียนนางใช้เงินอย่างประหยัด
เปรียบเหมือนเป็ดป่าบินผ่านหน้านางก็ต้องดึงขนจากมันมาทำเสื้อกันหนาว
หน้าโรงฆ่าสัตว์
เสียงฆ่าหมูดัง “โอ๊กๆ”เซี่ยชิงหยาใช้เวลาแค่หนึ่งวินาทีเพื่อภาวนาในใจ ขอให้สิ่งนี้ไม่เป็นบาป ต่อจากนั้นก็รู้สึกดีใจในที่สุดก็มีรายได้เข้ามาแล้ว
“น้องสาวกลับมาแล้ว หมูที่ฆ่าไปเป็นหมูตัวเล็กสามตัวรวมกันได้ 418 จินแกะสองตัว ได้แค่ 83 จินเนื้อหมูขายจินละ 9 เหวินเนื้อแกะขายจินละ 21 เหวิน หมูกับแกะยังไม่ได้ฆ่าคิดว่าจะรอให้เจ้ากลับมาชั่งใหม่ก็ได้”
เซี่ยเกาจ้าน จ้องมองด้วยแววตาเฉียบคมพร้อมกับขนคิ้วหนากล่าวว่า
“พี่ใหญ่พวกเราเป็นพี่น้องกันไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นทุกคนช่วยพี่จดจำ ข้าจะไม่ไว้ใจพวกเราได้ยังไง”เซี่ยชิงหยาหัวเราะพร้อมกับหยิบซาลาเปาเนื้อที่ห่อด้วยกระดาษมันออกแบ่งให้กับพี่น้อง
คนละสองอันส่วนนางเองหนึ่งอัน
เหลืออีกสี่อันนางนำไปห่อด้วยกระดาษมันอีกชั้นซ่อนไว้ในอ้อมอกเพื่อนำกลับไปให้เด็กๆ
“น้องสาวไส้หมูเหรอ?”เซี่ยเกาเซิ่งพี่ชายคนที่สองหิวมาทั้งเช้ากัดซาลาเปาลงไปกัดได้ไส้หมูที่หนานุ่มและมีน้ำซุปไหลออกมาเต็มปาก
“หอมมากเลยได้ยินมาว่าซาลาเปาเนื้อในเมืองอร่อยมาก”เซี่ยเกาเถียนน้องชายคนที่สามทานอย่างรวดเร็ว
เซี่ยเกาจ้าน ได้ยินแล้วก็หยุดปากที่กำลังจะกัดซาลาเปายัดซาลาเปาใส่กลับไปในอ้อมอกของเซี่ยชิงหยาใบหน้าเคร่งขรึมพูดว่า
“ซื้อของดีๆ แบบนี้ทำไม เอาไปคืนเถอะพวกเจ้าเพิ่งแยกบ้านต้องใช้เงินเยอะแยะ”
เซี่ยชิงหยาทำเป็นไม่พอใจกล่าวว่า“วันนี้ถ้าไม่มีพวกพี่ พวกเราจะไม่ได้ส่วนแบ่งถึงสองในสาม ข้าเองก็ไม่ได้เป็นคนไม่รู้จักบุญคุณ ซาลาเปาเนื้อพวกนี้พวกพี่กินเถอะ พี่ใหญ่ทำแบบนี้จะให้พี่สอง น้องสาม น้องสี่ กินไม่ลงนะ”
ใช่แล้วพี่ชายคนอื่นๆ เริ่มรู้สึกน้อยใจเงยหน้ามองพี่ใหญ่
พวกเขากินไปแล้ว
ตอนนี้จะกินก็ไม่ได้ ไม่กินก็ไม่ได้
เซี่ยชิงหยาหยิบซาลาเปาเนื้อยัดเข้าไปในปากของเซี่ยเกาจ้าน
เซี่ยเกาจ้านก็ไม่ปฏิเสธกัดซาลาเปาลงไป
“หอมมาก!”
ซาลาเปาเนื้อที่น้องสาวซื้อหอมมาก
พี่น้องสี่คนตระกูลเซี่ยช่วยเซี่ยชิงหยาคำนวณเงิน แม้พี่ชายสามคนจะอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ แต่ก็เรียนรู้การคำนวณจากน้องเล็กเซี่ยเกาอวี่ จนได้ข้อสรุปว่ามีเงินทั้งหมด 5 ตำลึงกับ 4 เฉียน 22เหวิน (ตำลึง = 1,000 เหวิน, เฉียน = 100 เหวิน) ซึ่งเซี่ยชิงหยาก็คำนวณได้ตรงกัน
ตอนฆ่าหมูฆ่าแพะ พี่น้องทั้งสี่ก็อาสาไปขอเท้าแพะที่แทบไม่มีเนื้อกับกระดูกมาให้เซี่ยชิงหยาโดยไม่ต้องให้นางเอ่ยปาก
เซี่ยชิงหยาอยากได้เครื่องในหมู แต่ก็ต้องซื้อ แถมยังต้องเสียเวลาทำความสะอาดอีก นางจึงตัดสินใจไม่ซื้อ เพราะตอนนี้ยุ่งมาก
นางใช้เงิน 122 เหวินซื้อเนื้อหมูสองชิ้น ราคาแพงกว่าตอนขาย เพราะเนื้อหมูที่ขายจะมีเลือดและกระดูกปนอยู่ด้วย เนื้อหมูสามชั้นราคา 15 เหวินต่อชั่ง ส่วนเนื้อแดงราคา12 เหวินต่อชั่ง
เซี่ยชิงหยามอบเนื้อหมูสามชั้นหนักแปดชั่งให้พี่น้องสี่คน พร้อมกล่าวว่า "เอาไปให้พ่อกับแม่นะ ก่อนหน้านี้ข้าทำตัวไม่ดี ทำให้ท่านเสียใจ ตอนนี้เพิ่งแยกบ้านเลยยังยุ่งๆ เดี๋ยวว่างเมื่อไหร่จะกลับไปเยี่ยม" พี่น้องตระกูลเซี่ยจึงรับไว้
อีกชิ้นเป็นเนื้อหมูสามชั้นหนักสามชั่ง นางใส่ไว้ในตะกร้าหลัง เพื่อจะเอาไปให้ลูกสาวที่บ้านกิน พร้อมกับกระดูกใหญ่สองท่อน ทำให้ตะกร้าหนักขึ้น
เนื่องจากเวลาเหลือน้อย เซี่ยเกาอวี่จึงพาเซี่ยชิงหยาไปซื้อหนังสือหนึ่งเล่มกับพู่กันสองด้าม หนังสือ "อักษรพันคำ" ราคา 5 เฉียน ส่วนพู่กันราคา 80 เหวินต่อด้าม
เซี่ยเกาอวี่แนะนำให้เซี่ยชิงหยารอซื้อกระดาษกับหมึก เพราะตอนเขาหัดเขียนตัวอักษรใหม่ๆ ก็ใช้น้ำแล้วเขียนบนกระดานไม้ เพื่อประหยัดเงิน เซี่ยชิงหยาก็เห็นด้วย
เนื่องจากครอบครัวจี้เล่นไม่ซื่อตอนแบ่งสมบัติ เช่น ไก่และเป็ดที่ได้ก็ผอมแห้ง ผ้าห่มที่ได้ก็เก่า ดำ และแข็ง เซี่ยชิงหยาจึงซื้อสำลีเพิ่มอีกยี่สิบสี่ชั่ง ใช้เงินไป 1 ตำลึง 8 เฉียน ซื้อผ้าสำหรับทำผ้าห่มและเข็มด้ายอีก 5 เฉียน
ตอนนี้เซี่ยชิงหยามีเงินเหลืออยู่ 2 ตำลึง 3 เฉียนกับ 40 เหวิน นางไม่กล้าใช้เงินอีกแม้แต่เหวินเดียว
"พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม พี่สี่ วันนี้ทำให้เสียเวลาพวกพี่แล้ว เดี๋ยววันหลังข้าจะไปเยี่ยมพวกพี่อีกที เกวียนนี่ขอข้ายืมก่อนได้ไหม" เซี่ยชิงหยามองสำลี 24 ชั่งที่ซื้อมาและตะกร้าที่เต็มไปด้วยของ
"น้องสาม ไปส่งนางหน่อยก็ดีนะ ซื้อของมาเยอะขนาดนี้ เดี๋ยวมีคนมาจ้องเอาได้ พวกเราสามคนกลับบ้านก่อน เดี๋ยวพ่อแม่กับเมียจะห่วง" เซี่ยเกาจ้านว่า
เซี่ยเกาเถียนได้แต่ยอมรับ เพราะเขาไม่มีเมียมาคอยห่วง
พี่น้องสามคนตระกูลเซี่ยคุยกันตลอดทาง
"ข้าว่าน้องสาวเปลี่ยนไปนะ ดูเหมือนจะสนิทกับครอบครัวเรามากขึ้น นี่ก็เป็นสิ่งที่พ่อแม่หวังมาตลอด"
"อืม ก่อนหน้านี้ไปหานางทีไร ก็ไม่เคยได้รับการต้อนรับที่ดีเลย"
"น้องสาวเปลี่ยนไปจริงๆ ข้ารู้สึกว่านางจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในบรรดาพี่น้องเรา" เซี่ยเกาอวี่พูดขึ้นเบาๆ
อีกด้านหนึ่ง หลังจากเซี่ยเกาเถียนไปส่งเซี่ยชิงหยาที่บ้านและขนสำลีไปวางไว้หน้าบ้านของนางแล้ว เขาก็เข็นเกวียนกลับบ้านในแสงอาทิตย์ยามเย็น พี่ใหญ่กำชับไว้ว่าห้ามอยู่ที่บ้านน้องสาวนาน เดี๋ยวนางจะต้องเสียเงินเสียทอง
"น้องสาม ระวังตัวด้วยนะ!" เซี่ยชิงหยาตะโกนบอกพร้อมโบกมือให้
เมื่อเตรียมตัวจะเข้าบ้าน นางกลับพบว่าในบ้านเงียบสงัด ไม่มีแม้แต่ไฟ แม้แต่ของที่เคยกองเต็มบ้านตอนแยกครอบครัว ก็เหลือเพียงหม้อไหชามเก่าๆ ที่ใช้การไม่ได้ ไก่ เป็ด ห่าน ก็หายไปหมด
เด็กหญิงสองคนเดินกลับบ้านมาจากที่ไกลๆ
"พี่สาว หัวพี่แตก เลือดไหลอยู่เลย"
"ไม่เจ็บหรอก ข้าแค่โกรธที่เขาขโมยของในบ้านเราไป ถ้าข้าโตแล้วก็คงจะดี..."
เซี่ยชิงหยายืนอยู่หน้าประตู เมื่อเห็นบาดแผลน่ากลัวบนหน้าผากของลูกสาวคนโต และเลือดที่ไหลเป็นทางเหมือนตะขาบไต่เต็มใบหน้าเด็ก สติของนางก็ขาดผึง
นางตะโกนด้วยความโกรธ "ใครทำลูก?"