บทที่ 192
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 192
หุ่นยนต์ต่อสู้สองตัวที่ข้าดัดแปลงสำหรับการทดลองมีจุดประสงค์เพื่อทดสอบความสามารถในการต่อสู้ แต่ข้าไม่ได้คาดคิดว่าพวกเขาจะได้เจอกับไอ้ไซด์สไวป์ทันทีเช่นนี้
เป็นเหตุให้เขาไม่ได้ทำการทดสอบอะไรเลย กลับกลายเป็นว่าหุ่นยนต์ต่อสู้ทั้งสองตัวกลับได้รับความเสียหายที่นี่
ซุนเฉิงไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะไอ้หมอนั่น ไซด์สไวป์ ทำให้เขาเหลือทางเลือกเดียวคือ "หนี"
"บ้าเอ้ย ไซด์สไวป์มันมาโผล่บนโลกได้ยังไงกันเนี่ย..."
เขารีบมุ่งหน้าไปยังทางออกของฐาน ใบหน้าของซุนเฉิงเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด
หลังจากหลอมรวมข้อมูลความทรงจำของเฟรนซี่ แจ๊ส และแบล็คเอาท์แล้ว ไซด์สไวป์จึงกลายเป็นนักรบออโต้บอตส์ที่ซุนเฉิงกลัวมากที่สุด
เขาไม่สามารถต่อสู้ได้ ต่อให้เขาจะเปลี่ยนร่างเป็นร่างพร้อมรบก็ยังไม่มีโอกาสเลย!
แม้จะมีปืนใหญ่พลาสม่าติดตั้งอยู่ แต่ซุนเฉิงก็แค่พอมีพละกำลังต่อสู้กับนักรบออโต้บอตส์อย่างบัมเบิ้ลบีได้บ้างเท่านั้น
แต่นั่นเป็นเพียงภายใต้สถานการณ์ปกติ!
ในดาวเคราะห์ไซเบอร์ตรอน ระหว่างสงครามกลางเมืองที่ยาวนานหลายล้านปี แม้ว่านักรบดีเซปติคอนและออโต้บอตส์ส่วนใหญ่จะมีความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดที่น่าทึ่ง แต่แท้จริงฝ่ายออโต้บอตส์ส่วนใหญ่นั้นทรงพลังมากกว่าหากเป็นในด้านระยะประชิด
ส่วนทางด้านซุนเฉิงเน้นไปอีกด้านทางหนึ่ง
ด้วยพลังของปืนใหญ่พลาสม่าที่ติดตั้งใหม่ มันทําให้เขาสามารถสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับคู่ต่อสู้อย่างบัมเบิลบีได้
แต่กับไซด์สไวป์เป็นข้อยกเว้น
ไซดสไวป์คือนักรบออโต้บอตส์ที่เก่งในการต่อสู้ กล้าหาญและไม่ประมาท กระตือรือร้นในการต่อสู้ แม้ว่าเขาจะเชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนและอาวุธต่าง ๆ แต่เขากลับเลือกที่จะเพิ่มความคล่องตัวและความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดขึ้นมาอีก
ซุนเฉิงไม่มีทางสู้เลยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับไซด์สไวป์
หากถูกอีกฝ่ายจับได้ ความเร็วของซุนเฉิงก็คงไม่เพียงพอที่จะหนีเขาไปได้
หากไซด์สไวป์เข้าใกล้ ใบมีดมีดสามเหลี่ยมคู่คงจะแทงทะลุเกราะจักรกลของซุนเฉิงได้อย่างง่ายดาย
ในขณะนี้เอง ซุนเฉิงถูกคู่ต่อสู้ควบคุมสถานการณ์ไว้ทั้งหมดแล้ว!
"ตู้ม!"
ไม่นานหลังจากนั้น เสียงระเบิดดังก้องจากด้านหลัง และซุนเฉิงก็รู้ว่ามันเกิดจากระเบิดที่เขาเพิ่งวางไว้
แต่เขารู้ดีว่า แม้แรงระเบิดอาจทําให้ทางเดินบางส่วนพังทลายลง แต่มันก็คงได้แค่บังคับให้ไซด์สไวป์เปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่นเท่านั้น
ในระหว่างการก่อสร้างครั้งแรกโดยกองทัพสหรัฐ ภายในฐานทัพได้รับการออกแบบให้มีทางเดินที่เชื่อมต่อถึงกันหลายทาง และทางเดินหลักก็กว้างขวางพอที่จะรองรับร่างแปลงของไซด์สไวป์ ทำให้เขาเปลี่ยนร่างกลายเป็นรถและพุ่งไล่ตามซุนเฉิงไปได้ตลอดทาง
ตอนนี้เนื่องจากตําแหน่งของเขาถูกล็อคโดยไซดสไวป์ ด้วยความคล่องแคล่วของไซด์สไวป์ มันคงจะตามเขาทันในไม่ช้าแน่
"แม่งเอ๊ย!"
เพื่อความปลอดภัย ซุนเฉิงได้ให้วิศวกรดีเซปติคอนขุดเส้นทางหลบหนีใหม่สองเส้นทางหลังจากเข้าควบคุมฐานปล่อยขีปนาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐที่ถูกทิ้งร้าง
มีทางเดินลับอยู่สองทาง หนึ่งในนั้นอยู่ฝั่งตรงข้ามของฐานทัพ และมีความยาวกว่ายี่สิบกิโลเมตร วิศวกรต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการขุดมันออกมา และนั่นคือทางที่ซุนเฉิงกําลังมุ่งหน้าไปในตอนนี้
อาจกล่าวได้ว่าถ้าเขาไปถึงสถานที่นั้นและแปลงร่างกลับเป็นโดรนได้ เขาก็สามารถหลบหนีการไล่ล่าของไซด์สไวป์ได้เป็นแน่แท้
ทว่ากว่าจะไปถึงที่นั่น เขาจะต้องใช้เวลาถึงสองนาที
ในทางกลับกัน ทางอีกด้านหนึ่งนั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ทางเข้าอยู่ภายในห้องปฏิบัติการหมายเลข 1 และทางเดินมีความยาวน้อยกว่าสองกิโลเมตร ซึ่งมันจะนําไปสู่ฐานปล่อยยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์
ใช่ มันเป็นฐานปล่อยเดียวกับที่ไอรอนไฮด์ใช้เพื่อผ่านเข้ามาตอนเข้าฐานทัพ
ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าซุนเฉิงจะให้วิศวกรขุดทางเดิน จนมีทางออกที่ซ่อนอยู่นั้นอยู่ที่ไหนสักแห่งบนผนังของฐานปล่อยขีปนาวุธ
ความคิดของเขาแล่นไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยควาไม่นแน่นอน
แกนหลักได้เปิดใช้งานฟังก์ชันการสแกนอย่างเต็มที่ มันกําลังเต้นเป็นจังหวะอย่างรุนแรงเมื่อไซด์สไวป์เข้าใกล้มากขึ้น
ตอนนี้เอง ซุนเฉิงต้องจึงเปลี่ยนจากทางปลอดภัยที่เขาเตรียมไว้ล่วงหน้า เพราะเขารู้ว่าไซด์สไวป์จะตามเขาทันภายในสองนาที
ทว่าในตอนนี้ เขายังไม่สามารถตรวจสอบความปลอดภัยของเส้นทางอื่นได้
การระเบิดครั้งก่อนได้ทําลายอุปกรณ์เฝ้าระวังทั้งหมดที่เขาตั้งไว้นอกฐานปล่อยยิงขีปนาวุธ
ในตอนนี้ ซุนเฉิงไม่สามารถระบุสถานการณ์ภายนอกได้ เขาจึงกังวลว่าอาจจะมีการซุ่มโจมตีอยู่ด้านนอก เพราะไอรอนไฮด์สามารถบุกเข้าฐานทัพผ่านทางฐานปล่อยที่เขาเพิ่งก่อสร้างมาได้
หลังจากลังเลอยู่เพียงสิบกว่าวินาที ซุนเฉิงก็ต้องตัดสินใจ เขาโบกมือปล่อยทีมสอดแนมขนาดเล็กออกไปและสั่งให้พวกมันบินไปที่ฐานปล่อย
ในขณะเดียวกัน เขาก็รีบวิ่งไปยังห้องปฏิบัติการที่ 1
ไซด์สไวป์มาถึงเร็วกว่าที่คาดไว้ พอซุนเฉิงเพิ่งไปยังที่ตั้งของห้องปฏิบัติการ เขาก็ได้ยินเสียงคํารามของเครื่องยนต์ทันที
เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นรถสปอร์ตเชฟโรเลตสีเทาเงินพุ่งตรงมาหาเขาจากอีกฟากหนึ่งของทางเดิน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณยี่สิบเมตร
สีหน้าของซุนเฉิงเปลี่ยนไปทันที เขารีบเรียกปืนใหญ่พลาสม่ายกมือขึ้นเล็งและยิงปืนออกไป
"ปัง..."
แรงระเบิดที่พุ่งเข้าใส่นั้นทําให้รถสปอร์ตเชฟโรเลตกระโดด ขึ้น หลบการโจมตีของเขาด้วยความว่องไวและแปลงร่างกลางอากาศ
"เหอะ ไอ้เจ้าพวกดีเซปติคอน ส่งมัดแฟล็ปคืนมาซะ..."
เมื่อรู้สึกถึงความกดดันที่ใกล้เข้ามา ใบหน้าของซุนเฉิงก็แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เขายกมือขึ้นและยิงสองนัดติดต่อกัน จากนั้นกลิ้งลงบนพื้นอย่างรวดเร็วถึงทางเข้าห้องปฏิบัติการและรีบเข้าไปข้างในทันที
"จะดูซิว่าแกจะหนีไปไหนได้...."
ไซด์สไวป์ยังคงหลบกระสุนปืนใหญ่ของซุนเฉิงอย่างช่ำชอง เหวี่ยงใบมีดสามเหลี่ยมสองใบออกไป ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยแสงสีแดงเลือด เขารีบตามซุนเฉิงเข้าไปในห้องปฏิบัติการทันที
ซึ่งทันทีที่เขาเข้าไปในห้องปฏิบัติการที่กว้างขวาง ไซด์สไวป์ก็หรี่ตามองทันที
ซุนเฉิงไม่จำเป็นต้องคิดอะไรแล้ว เขาได้วิ่งอย่างสุดกําลังไปยังอีกด้านหนึ่งของห้องปฏิบัติการแล้วสร้างระยะห่างระหว่างพวกเขาพอสมควร
"มาดูกันว่าแกจะไปที่ไหนได้!"
ไซด์สไวป์ถือใบมีดในมือขวาของเขาด้วยรอยยิ้มเย็น
ชา เลือกที่จะไม่แปลงร่างกลับเป็นร่างรถของเขา
ไซด์สไวป์เคลื่อนไหวอย่างไหลลื่นราวกับสวมรองเท้าสเก็ตน้ำแข็ง แสดงให้เห็นเลยว่าความเร็วในร่างต่อสู้ของเขาเทียบเท่ากับความเร็วของเขาในร่างรถยนต์
"แม่งเอ๊ย..."
เสียงสายลมพุ่งไล่ตามอยู่ข้างหลัง เขาไม่ต้องการให้แกนหลักเตือนเขา ซุนเฉิงก็รู้ดีถึงอันตรายที่เขากําลังเผชิญอยู่
พอไม่อาจควบคุมตัวเองได้ เขาจึงสบถออกมา ชีวิตของเขากำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย เขาไม่สนใจเรื่องการใช้พลังงานแล้ว เขาจึงหันหลังกลับพร้อมยกมือขึ้นและยิงสองนัดออกไป แต่พบว่าเขาไม่อาจหยุดการเข้าใกล้ของไซด์สไวป์ได้เลย
ซุนเฉิงกัดฟันและเรียกวิศวกรดีเซปติคอนอีกสองตนจากมิติว่างเปล่า เหวี่ยงพวกเขาออกไป
จากนั้นตัวเขาเองก็พุ่งเข้าไปในทางเดินที่ซ่อนอยู่ในตอนท้ายของห้องปฏิบัติการที่ 1 ด้วยพละกำลังทั้งหมดของเขา
ทันทีที่ซุนเฉิงเรียกวิศวกรดีเซปติคอนสองตนจากมิติว่างเปล่า สติของพวกเขาก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง
พวกเขายังไม่ได้ลืมตาและตอบสนองด้วยซ้ำ ก็ได้เสียงแค่นอย่างเย็นชา
พวกเขาหันศีรษะโดยสัญชาตญาณ เห็นใบมีดสามเหลี่ยมสองใบปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา
ก่อนที่พวกเขาจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ไซด์สไวป์ก็พุ่งเข้าใส่วิศวกรของดีเซปติคอนทั้งสองอย่างรวดเร็ว
รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาเหลือบมองวิศวกรครู่หนึ่งแล้วโยนทิ้งไป
ไซด์สไวป์มองย้อนกลับไปที่ทางเข้า ซึ่งซุนเฉิงได้หายตัวไปอย่างรวดเร็วแล้ว เขารีบเร่งตามล่าต่อพร้อมกับพึมพำกับตัวเองอย่างภูมิใจว่า "ให้ตายสิ ข้านี้ช่างแข็งแกร่งจริง ๆ !"
__________