บทที่ 17 กล้าที่จะต่อสู้
บทที่ 17 กล้าที่จะต่อสู้
“เจ้าเองนั่นแหละที่ดูสิทำเรื่องดีอะไรไว้!” แม่เฒ่าจี้โกรธจนเสียงแหบพร่า
เหมาจื่อปิดหน้าจึงเห็นครอบครัวรองและซานเป่าที่ร้องไห้โฮ นางรีบวิ่งไปอุ้มซานเป่า
“ลูกรักของแม่ ซานเป่า ใครรังแกเจ้า?”เหมาจื่ออุ้มซานเป่าปัดฝุ่นออกจากตัวเขาและส่งสายตาอย่างบ้าคลั่ง
ซานเป่ากลัวจนเงยหน้าขึ้นมองจี้เฉียนคุนเงียบกริบราวกับคนใบ้
เหมาจื่อคิดในใจ
ลูกชายคนรองไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในบ้านทำไมวันนี้ถึงมาลงโทษซานเป่า
แม่เฒ่าจี้พูดด่าเหมาจื่อ“เจ้าดูสิ ซานเป่าพูดอะไร ซานเป่าด่าต้าหยากับเอ้อร์หยาว่าเป็นขโมยบอกว่าบ้านรองขโมยของของพวกเจ้า เจ้าปากเสีย ไม่สั่งสอนหลานชายให้ดี ต่อๆ ไปใครจะแต่งงานกับหลานชายข้า ข้าจะตีเจ้าให้ตาย”
เหมาจื่อยิ้มแห้งๆ
ที่แท้ซานเป่าเอ่ยคำพูดของนางกับสามีออกไป
ใบหน้าร้อนผ่าว
เหมาจื่อยังคิดไม่ออกว่าจะแก้ตัวอย่างไร หวังจื่อก็อุ้มลูกชายออกมาดูตื่นเต้นดวงตาเรียวเล็กของนางเบิกกว้าง ปากก็เหมือนกับระฆังแตก
“โอ๊ยหวั่นฟู๋ ห้ามเลียนแบบซานเป่านะลูก แม้ว่าจะแยกบ้านกันแล้วแต่ก็เป็นคนตระกูลจี้ทำให้สองสาวเสียชื่อเสียงมันมีประโยชน์อะไรหรือ พี่สะใภ้”
ตอนนี้บ้านรองแยกออกไปแล้วงานหนักทั้งหมดตกอยู่กับบ้านใหญ่และบ้านสาม
ก่อนหน้านี้หวังจื่อมักจะประจบประแจงเหมาจื่อแต่ตอนนี้นางก็มีลูกชายแล้วจึงรู้สึกว่าตัวเองมีอำนาจทุกเรื่องต้องแข่งกับเหมาจื่อ
เห็นทีนี่เป็นโอกาสเหมาะที่จะเหยียบย่ำ
ใบหน้าของเหมาจื่อขาวแล้วก็เขียว เขียวแล้วก็ขาว
“พี่สะใภ้ทำไมไม่บอกว่าเจ้าทำอะไรหายไป”เซี่ยชิงหยาดูเหมือนจะดูละครวันนี้นางมาเพื่อเตือนสติเหมาจื่อ
“ต่อมาก็คือต้องให้เด็กๆ รู้ว่าเมื่อเจอกับการใส่ร้ายป้ายสีแบบนี้ต้องกล้าที่จะต่อสู้”
“ใช่อะไรหายไป?”หวังจื่อก็ตั้งใจฟัง
ใบหน้าของเหมาจื่อยิ่งเศร้าจะอธิบายยังไงดี
บ้านเก่าของตระกูลจี้เป็นบัญชีร่วมเงินที่ได้ก็ต้องส่งให้พ่อแม่เงินเก็บส่วนตัวเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดถึง
“เป็นเงินที่แม่เก็บไว้ให้เราแต่งงานถูกคนขโมยไป ข้าไม่ได้ตั้งใจจะกล่าวหาว่าบ้านรองเป็นคนขโมยเป็นพ่อแม่ของข้าที่พูดออกมา”ซานเป่าที่เงียบมาตลอดออกมาแก้ต่าง
ดวงตาเล็กๆ ของหวังจื่อเบิกกว้าง
“พี่สะใภ้เงินของเจ้ามาจากไหนไม่ใช่เงินเก็บส่วนตัวใช่ไหม ร้านค้าในเมืองเจ้าบอกว่าไม่เคยได้กำไรแต่ข้าว่าเจ้าเอาเงินกำไรไปใส่กระเป๋าตัวเองหมดแล้ว”
“เจ้าพูดอะไร นั่นเป็นเงินที่ทางบ้านของข้าให้มา”เหมาจื่อหน้าแดง
หวังจื่ออุ้มลูกไว้ในอ้อมอกหัวเราะเยาะ“ใครๆ ก็รู้ว่าบ้านของเจ้าจน พี่น้องของเจ้าต่างก็ไปกู้เงินดอกเบี้ยจนโดนทวงหนี้ถึงหน้าบ้าน… อ๋อข้าเข้าใจแล้วเงินที่ได้จากร้านค้าในเมืองเจ้าเอาไปเก็บเป็นเงินส่วนตัวและยังส่งไปให้ทางบ้านของเจ้าอีก”
“เจ้าบ้าไปแล้ว!”เหมาจื่อร้องออกมา
เหมือนถูกเหยียบหางนางกระโดดขึ้นเตรียมจะกระโจนเข้าใส่หวังจื่อ“เงินของข้าเป็นเจ้าเอาไปใช่ไหมคืนเงินมา”
หวังจื่อหลบแล้วผลักหวันฟู๋เข้าไปในอ้อมอกของแม่เฒ่าจี้
ต่อจากนั้นเหมาจื่อกับหวังจื่อก็ทะเลาะวิวาทกัน
“สะใภ้ใหญ่ สะใภ้สาม”แม่เฒ่าจี้ร้องขึ้น
ลูกชายคนโตและลูกชายคนที่สามรีบวิ่งออกมา
พวกเขารีบแยกภรรยาของตัวเองออก แต่เหมาจื่อกับหวังจื่อทะเลาะกันอย่างหนักผมของเหมาจื่อถูกหวังจื่อดึงออกไปเป็นจำนวนมากเสื้อผ้าของหวังจื่อก็ถูกเหมาจื่อฉีก
พ่อเฒ่าจี้ก็เดินออกมาใบหน้าเคร่งเครียดมองไปที่จี้เฉียนคุน
“บ้านรองเจ้ามาทำไมอีก!”
แม่เฒ่าจี้รีบเดินไปดึงชายเสื้อของพ่อเฒ่าจี้เล่าเรื่องราวทั้งหมดอย่างรวบรัด
จี้เฉียนคุนไม่แสดงสีหน้าใดๆ กับคำพูดของแม่เฒ่าจี้เพียงเอ่ยเบาๆ“แม้ว่าต้าหยา เอ้อร์หยาจะเป็นเด็กผู้หญิงแต่ชื่อเสียงก็สำคัญถ้าไม่ห้ามซานเป่าพูด พรุ่งนี้ข่าวลือก็จะแพร่สะพัดว่าพวกนางเป็นขโมย”
"อืม ลูกคนโตยังไม่สั่งสอนซานเปาอีกหรือ ไม่งั้นน้องชายคนรองของเจ้าคงระบายความไม่พอใจในใจไม่ออกแน่ อีกอย่าง ซานเป่าก็เป็นฝ่ายผิดก่อน" พ่อเฒ่าจี้กวาดตามองลูกชายคนโต
“ท่านพ่อฮือฮือ…”ซานเป่าเริ่มร้องไห้ก่อน
จี้จินต้ามองจี้เฉียนคุนอย่างลำบากใจ"น้องชาย ดูสิ ซานเป่ายังเด็ก แค่เป็นเด็กน้อย..."
“พี่ใหญ่ไม่รู้หรือว่าวาจาของคนร้ายแรงแค่ไหน ยังจำเรื่องของท่านป้าใหญ่ได้ไหม”จี้เฉียนคุนพูดอย่างอ่อนโยน “ถ้าไม่สั่งสอนตอนเด็กโตขึ้นก็จะเสียคน”
จี้จินต้ามองไปที่แววตาเยือกเย็นของจี้เฉียนคุนรู้สึกขนลุก
ในตระกูลของพวกเขาเคยมีป้าใหญ่คนหนึ่ง เพียงแค่นั่งเกวียนไปกับผู้ชายในหมู่บ้านเดียวกัน ก็ถูกคนปากมากในหมู่บ้านนินทา แล้วป้าใหญ่คนนั้นก็ผูกคอตาย
“ข้าจะตีให้ตาย เจ้าบ้าพูดจาหยาบคายแบบนี้ไปเรียนรู้มาจากใคร”
จี้จินต้าถีบไปที่ก้นซานเป่าแล้วดึงกางเกงลงตีอย่างหนักหน่วง“ปั๊บๆ”
ซานเป่าร้องไห้เสียงดังน้ำตาและน้ำมูกไหลพราก
ต้าหยา เอ้อร์หยาต่างก็ลืมตาโต
“พี่โดนตีก้นเจ็บนะ…”เอ้อร์หยาใจอ่อน
“ตอนเราโดนตีเขายังหัวเราะเลย เราไม่หัวเราะก็ดีแล้ว”ต้าหยาพูดอย่างเย็นชา
เซี่ยชิงหยาได้ยินเสียงกระซิบของเด็กทั้งสองดูเหมือนเอ้อร์หยาจะชอบกินและใจดีง่ายต่อการสะสมคะแนนพลังปรารถนาแต่ต้าหยานี่ดูยาก
ซานเป่าโดนตีจนร้องไห้ไม่ออก จี้จินต้าจึงหยุดมือ
เหมาจื่อกลัวจนไม่กล้าร้องไห้แต่หวังจื่อยังไม่หยุด ตะโกนขึ้น“ท่านพ่อพี่สะใภ้มีเงินเก็บส่วนตัวต่อจากนี้ร้านค้าไม่ให้พวกเขาเป็นคนดูแลควรให้พวกเราบ้านสามดูแลไม่เช่นนั้นเงินที่พวกเขาเก็บไว้ไม่รู้เท่าไหร่ไม่ยุติธรรม”
“ท่านพ่อ!”จี้จินต้าก็รู้สึกขุ่นเคือง
ซานเปาก็โดนตีไปแล้ว แต่ร้านนี้ยังจะให้ครอบครัวที่สามดูแลอีกหรือ?
แม่เฒ่าจี้มองจี้จินต้าด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง ตลอดหลายปีที่ผ่านมาพวกเขาเก็บเงินไว้ นางก็ทำเป็นไม่เห็นเพราะตระกูลใหญ่มีหลานชายสามคน
ตอนนี้เรื่องถูกเปิดเผยบ้านสาม ก็มีหวันฟู๋ ถ้าไม่แบ่งปันก็ดูไม่เหมาะสม
“งั้นครึ่งเดือนสลับกันดูแล”
หวังจื่อยิ้มแก้มปริ
ไม่เพียงแต่จะได้ไปพักที่ร้านค้าในเมืองแต่ยังได้ลิ้มรสชีวิตเป็นนายหญิงร้านค้าอีกด้วย
แต่เหมาจื่อรู้สึกอึดอัดร้องเสียงหลง“แล้วเงินของข้าล่ะ!”
“อาจจะเป็นหนูขโมยไปก็ได้ พี่สะใภ้เก่งกาจขนาดนั้นไปขอแม่กับพี่สาวมาใหม่สิ”หวังจื่อพูดประชดประชันอย่างเจนจัด
“เป็นเจ้าที่ขโมย!”
"พูดบ้าอะไร ในบ้านก็มีแค่ข้าคนเดียวหรือไง พ่อแม่น้องสาวสามีก็อยู่ด้วย ทำไมไม่สงสัยทุกคนล่ะ"
ทั้งคู่ทะเลาะกันยืดยาว
เซี่ยชิงหยากับจี้เฉียนคุนพาเด็กๆ กลับบ้านแล้ว
“ต่อไปนี้ถ้าคนอื่นใส่ร้ายป้ายสีพวกเจ้า ถ้าจัดการเองไม่ได้ต้องกลับมาบอกพ่อแม่ วันนี้เขาอาจจะบอกว่าเจ้าขโมยลูกท้อพรุ่งนี้ก็อาจจะบอกว่าเจ้าขโมยทองคำหรือเงิน”
เสียงของเซี่ยชิงหยาอ่อนโยนแต่หนักแน่น
ต้าหยากับเอ้อร์หยาจำภาพซานเป่าโดนตีเพราะพูดจาหยาบคายไม่เคยลืม