บทที่ 15 อำนาจแห่งความปรารถนา
บทที่ 15 อำนาจแห่งความปรารถนา
เช้าวันนี้เซี่ยชิงหยา เดินทางกลับบ้านด้วยเกวียนบรรทุกฝ้ายสองกระสอบใหญ่เมื่อป้าหยุนหลานเห็นก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ไปด้วยกันกับนางไปยังหมู่บ้านเซี่ยงไห่
ทั้งสองเดินทางไปด้วยกันเป็นเวลาสองเคอ
ระหว่างทางป้าหยุนหลานยังช่วยนางเข็นเกวียน
เมื่อมาถึงที่ทำฝ้ายแม้กระทั่งป้ายบอกทางก็ไม่มีคนทั่วไปคงหาไม่เจอ
"หยุนเอ้อร์ตัน หยุนเอ้อร์ตัน..."
"ป้าอย่าเรียกชื่อเล่นของข้าเลยถ้าลูกชายของข้ารู้ต้องหัวเราะจนฟันหลุด"
ชายวัยกลางคนเดินออกมาศีรษะเต็มไปด้วยฝ้ายสีขาวสวมแขนยาวเขาคือ หยุนซานหลานชายของหยุนหลาน
มองผ่านประตูที่เปิดอยู่เห็นภายในกำลังทำฝ้ายมีทั้งเตียงไม้และม้วนไหมสำหรับทำฝ้าย
"ข้าหางานมาให้นี่คือลูกสะใภ้ในหมู่บ้านของข้ามาทำฝ้ายสองผืน หนักสิบสองจินช่วยลดราคาหน่อยนะ" ป้าหยุนหลานพูดเสียงดังไม่ได้ให้โอกาสญาติของนางได้พูด
"ได้ๆ ให้คนอื่น 80 เหวินต่อผืนแต่เนื่องจากเป็นคนหมู่บ้านเดียวกันกับป้า ข้าลดให้สองผืน 150เหวินลด10 เหวิน"หยุนซานเองก็เป็นคนใจกว้าง
เซี่ยชิงหยาก็พยักหน้าไม่ต้องต่อรองราคาเอง
"ใช้ข้าวแทนได้ไหม เป็นข้าวเก่าได้ไหม"
"ได้คิดตามราคาในเมือง150 สิบเหวินพอดี"
เซี่ยชิงหยาก็คำนวณในใจอย่างเงียบ ๆ
ข้าวที่ครอบครัวจี้แบ่งให้พวกนางนั้นเป็นข้าวเก่าบางส่วนยังมีมอด เวลาหุง นางรู้สึกไม่ดีต้องค่อยๆ แยกข้าวออกดูว่ามีมอดไหม
ดีกว่าเอาไปแลกข้าวใหม่
อย่างนี้จ่ายด้วยข้าวเก่าให้หยุนซานไปเลยยังประหยัดแรงในการขนส่งไปแลกข้าวในเมือง
พูดจบเซี่ยชิงหยาก็จ่ายเงินมัดจำไป 50 เหวินส่วนที่เหลือค่อยจ่ายตอนมารับผ้าห่มประมาณหกเจ็ดวันก็จะทำเสร็จ
ในทางกลับเนื่องจากไม่ต้องเข็นเกวียนป้าหยุนหลานและเซี่ยชิงหยาก็คุยกันอย่างสนุกสนาน
"ภรรยาเฉียนคุน ป้าไม่ได้รับประโยชน์จากปลาเค็มไปเปล่าๆ ตรงนี้ประหยัดเงินไป 10 เหวิน อีกทั้งข้ารับรองว่าหยุนซานทำฝ้ายได้นุ่มและฟูขึ้นแน่นอน"
"ขอบคุณท่านป้าเจ้าค่ะ เรายังเพิ่งแยกบ้าน ข้าต้องเรียนรู้จากท่านป้า เฉียนคุนก็บอกให้ข้ามาขอความช่วยเหลือจากป้า ป้าเป็นคนใจดีชอบช่วยเหลือผู้อื่น ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่ข้าคิดจริงๆ"
เซี่ยชิงหยาพูดด้วยน้ำเสียงหวาน
เช้าวันนี้เมื่อได้ยินพวกนางคุยกันเรื่องครอบครัวในบริเวณบ้านของป้าหยุนหลานนางก็ไม่โกรธเพราะนางจำได้ว่ามีหญิงคนหนึ่งช่วยนางพูดหลายคำตอนที่นางไปทวงของที่บ้านเก่า
ในหมู่บ้านเวลาว่างก็มักจะพูดคุยเรื่องบ้านโน้นบ้านนี้
แต่บรรดาสตรีผู้ใหญ่เหล่านั้นก็เป็นคนดีมีคุณธรรม
ป้าหยุนหลานเห็นว่าเซี่ยชิงหยาเป็นคนฉลาดใบหน้ายาวเรียวของนางก็พลันบานสะพรั่งด้วยรอยยิ้ม"ข้าเป็นคนอยู่ตัวคนเดียวพวกเจ้าไม่ได้ดูถูกข้าก็ดีแล้วมีอะไรให้ข้าช่วยเหลือแค่บอกมาเถอะ"
เซี่ยชิงหยารู้ว่าป้าหยุนหลานเป็นหญิงม่ายคงเคยโดนคนในหมู่บ้านเหยียดหยามมาบ้าง
นางรีบปลอบใจ"ป้าพูดอะไรอย่างนั้นป้าอยู่คนเดียวแต่จัดการบ้านเรือนได้อย่างเรียบร้อย ทุกคนต่างชอบไปมาหาสู่ที่บ้านป้าแถมลูกชายสองคนของป้าก็เรียนรู้ฝีมือทำงานหาเงินอย่างซื่อสัตย์หลายคนต่างอิจฉาป้า"
"ฮ่าฮ่าฮ่าข้าไม่มีดีอย่างที่เจ้าพูดหรอก"ป้าหยุนหลานหน้าแดงเรื่อรีบบอกอย่างกระตือรือร้น"เอาล่ะบ้านข้ามีต้นกล้าเยอะพวกเจ้าเพิ่งแยกครอบครัวเอาไปปลูกบ้างไหม"
"ขอบคุณเจ้าค่ะ"
"แล้วก็ปีที่แล้วเก็บเกี่ยวข้าวได้ฟางข้าวไว้เยอะพวกเจ้าแยกครอบครัวได้ไก่ เป็ด ห่านเอาไปรองรังบ้างสิ"
"ขอบคุณเจ้าค่ะ"
ความใจดีของป้าหยุนหลานที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทำให้เซี่ยชิงหยาอึ้งไปเล็กน้อย
อาจจะเป็นเพราะคำชมของเซี่ยชิงหยาเข้าไปถึงใจของป้าหยุนหลานก็เป็นได้
ทั้งสองพูดคุยกันไปโดยไม่รู้ตัวก็เดินมาถึงทางแยกเข้าหมู่บ้านของตัวเองแล้วจึงแยกทางกันป้าหยุนหลานยังหันหลังกลับมามองเซี่ยชิงหยาและบอกให้นางไปเอาต้นกล้าและฟางข้าวที่บ้านของนาง
เซี่ยชิงหยาก็รับปาก
ขณะนั้นเซี่ยชิงหยายินเสียงดังขึ้นในใจ
"พลังปรารถนา +1!"
เกิดอะไรขึ้น?ดวงตากลมโตของเซี่ยชิงหยาเบิกกว้างมองไปที่ตราประทับมังกรบนฝ่ามือของตนหรือว่า...หรือว่านางจะเปิดวังมังกรได้แล้ว?
นางพยายามกลั้นความดีใจเอาไว้รีบกลับไปที่บ้านอย่างใจจดใจจ่อ
ต้าหยาติดตามจี้เฉียนคุนโดยมอบไม้และเครื่องมือให้เขา
เพียงครึ่งวันก็ได้สร้างเพิงหลังเล็กๆ บนเตาไฟและล้อมรั้วไปครึ่งวงกลมแล้ว
เมื่อเห็นเซี่ยชิงหยากลับมาต้าหยาก็หลบไปด้านข้างอยากจะแสร้งทำเป็นไม่เห็นแต่จี้เฉียนคุนหันหัวไปเห็นเซี่ยชิงหยาก็พูดว่า"แม่กลับมาแล้ว"
"แม่!"ต้าหยาจึงเรียกขึ้นแต่ใบหน้ายังเคร่งขรึมไม่ค่อยจะสนิทสนม
"แม่!"เสียงที่ดังกว่านั้นดังขึ้น
ปรากฏว่าเอ้อร์หยานั่งก้นลู่กำลังดูมด เมื่อเห็นเซี่ยชิงหยากลับมาก็รีบปัดดินออกจากก้นวิ่งไปหาเซี่ยชิงหยาเงยหน้าเล็กๆ ขึ้นมาพูดว่า"ลูกชิ้นแป้งกับเนื้อไก่อร่อยมาก เที่ยงเรากินอะไรกัน"
เอ้อร์หยามองด้วยความจริงใจมุมปากมีของเหลวใสๆ
ต้าหยารีบไปปิดปากเอ้อร์หยาไม่ให้น้ำลายไหลออกมา
ก่อนหน้านี้เอ้อร์หยาชอบร้องขอให้แม่หาของกิน แม่ก็มักจะเตะนางด่าว่านางอ้วนเหมือนหมูเนื้อของนางก็ขายไม่ได้พูดจาหยาบคายสารพัด
เซี่ยชิงหยาเห็นต้าหยาซึ่งยังคงระแวงตนก็ยื่นมือไปลูบหัวต้าหยา
แต่ต้าหยาแข็งทื่อเหมือนหนอนที่แข็งเป็นน้ำแข็งสัมผัสแบบนี้ไม่น่าประทับใจเลย
นางจึงยื่นมือไปลูบใบหน้าเนื้อนุ่มของเอ้อร์หยาพยายามทำให้ใบหน้าของตนดูอ่อนโยน"เที่ยงเรากินซุปเต้าหู้กับกระดูกเอ้อร์หยากับพี่ไปซื้อเต้าหู้ที่หมู่บ้านกันนะ"
พูดจบเซี่ยชิงหยาก็หยิบเงินสองเหวินใส่ในมืออวบๆ ของเอ้อร์หยา
"เต้าหู้เก่า 1 เหวิน เงินที่เหลือหนึ่งเหวิน เอ้อร์หยากับพี่ซื้อเมล็ดทานตะวันกินแต่ห้ามกินหมดนะไม่งั้นจะกินซุปเต้าหู้กับกระดูกไม่หมด"
"อือ!ซุปกระดูก ซุปกระดูก!"เอ้อร์หยายิ้มจนตาหยี
"พลังปรารถนา+1!"
เสียงในหัวดังขึ้นอีกครั้ง
ริมฝีปากของเซี่ยชิงหยาอดไม่ได้ที่จะยกขึ้น
พลังปรารถนาคือค่าความไว้วางใจสินะงั้นก็มีเพียงเอ้อร์หยาเท่านั้นที่ให้ค่าความไว้วางใจ ต้าหยาจะให้บ้างไหม?
เซี่ยชิงหยามองไปที่ใบหน้าเรียบเฉยของต้าหยาใจเย็นลงในทันที ชีวิตก่อนของนางกับลูกๆ แย่มากต้าหยาก็เป็นเด็กที่จำความได้ดูท่าพลังปรารถนาของต้าหยาคงไม่ง่ายที่จะได้มา
แล้วสามีล่ะ?
เซี่ยชิงหยามองจี้เฉียนคุนอย่างลึกลับ
เขาช่วยทำงานเร่งรีบแต่ตนเองไม่เคยได้ค่าความไว้วางใจจากเขาแสดงว่าแม้ว่าเขาจะเชื่อฟังแต่ก็ไม่ได้ไว้ใจตนเองและไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากตนเอง
ฮึ!!
ข้อมูลไม่เคยโกหก
เมื่อลูกสาวสองคนไปซื้อเต้าหู้แล้วเซี่ยชิงหยาแกล้งเตะไม้ของจี้เฉียนคุนไปข้างๆและยังส่งเสียงฮึดฮัดออกมาจากจมูกอีกด้วย
"เกิดอะไรขึ้น?หรือว่าพี่สะใภ้กับน้องสะใภ้มาหาเรื่อง?"
ดวงตาดำขลับของจี้เฉียนคุนในตอนนี้ดูแวววาวราวกับมีน้ำตาคลอพร้อมด้วยความสงสัย
เซี่ยชิงหยานึกถึงคำพูดของหญิงสาวที่บ้านป้าหยุนหลานที่บอกว่าเมื่อคืนจี้เฉียนคุนไปวุ่นวายที่บ้านเก่าความโกรธจึงหายไปเกือบหมด นางบอกว่า"เส้นทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน จี้เฉียนคุนเจ้าต้องเชื่อใจข้า ข้าจะเป็นแม่ที่ดีจะเป็นภรรยาที่ดี"
"อืม...อืม!"จี้เฉียนคุนตอบรับอย่างไม่เต็มใจ
ในใจของเขานึกว่าขอเพียงอย่าโกรธเรื่องลูกชายก็พอ
ไม่งั้นเขาคงต้องกลับไปนอนที่ทำงานเหมือนเดิม!