บทที่ 11 หอมฉุย!
บทที่ 11 หอมฉุย!
เซี่ยชิงหยาเดินเข็นรถเข็นกลับบ้านใต้แสงจันทร์ที่เย็นเยียบใจของนางกลับรู้สึกเบิกบานเป็นอย่างยิ่ง
เหมือนกับปลดปล่อยความอึดอัดที่คั่งค้างมานานออกไปจะไม่ให้รู้สึกมีความสุขได้อย่างไร
ลูก ๆ ของนางก็ดูตื่นเต้นกว่าปกติ
“หนูแอบเอาข้าวจากถุงข้าวของย่ามาใส่ถุงข้าวของเราหลายกำมือ ข้าวของเรามีมอด ข้าวของย่าเป็นข้าวใหม่แล้วก็ฟักทองที่บ้านเราได้ส่วนที่ไม่ดีหนูเลยไปแลกกับย่าได้ฟักทองที่อ้วนกลมๆ”
เอ้อร์หยาพูดพร่ำเพรื่อไม่หยุด
ต้าหยาที่มักจะดูนิ่งๆ ก็ยิ้มออกมา “หนูเอาเก้าอี้ขาพิการไปแลกกับเก้าอี้ดีๆ ของย่ามา”
ทันใดนั้น พวกนางก็มาถึงบ้านหินหน้าบ้านแล้ว
เซี่ยชิงหยาได้รับความช่วยเหลือจากลูกสาวทั้งสองคน เข็นรถเข็นเข้าไปในบ้าน จุดตะเกียง
จากนั้น นางก็เริ่มนับของดีที่นางเอาออกมาจากบ้านหลังเก่า
นางหยิบเอาเนื้อหมูรมควันสีแดงสดออกมาเนื้อติดมัน ดูแล้วรู้ทันทีว่าเป็นเนื้อดีส่วนของมันวาวระยิบระยับแค่คิดว่าเอามาผัดกับต้นหอมก็ชวนน้ำลายสอแล้ว
ยังมีกุ้งแห้งอีกหนึ่งถุงเป็นสินค้าที่ผลิตจากฟาร์มกุ้งของบ้านจี้โดยทั่วไปจะนำไปขายเก็บไว้ในบ้านเพียงเล็กน้อยเซี่ยชิงหยาเอาทั้งหมดมาได้
นอกจากนี้ยังมีของกระจุกกระจิกอีกมากมาย
แป้งไข่เป็ดของเหมาจื่อ สาหร่ายทะเลแห้ง โอ่งผักดอง… เซี่ยชิงหยายังคงหยิบของออกมาเรื่อยๆ
ลูกสาวทั้งสองคนมองตาค้าง ต้าหยาคิ้วขมวดเล็กน้อยด้วยความกังวล “ย่าจะรู้ไหมว่าของหายไปแล้วพรุ่งนี้จะกลับมาแย่งไปอีกไหม”
เซี่ยชิงหยาตบไหล่ของต้าหยา ยิ้มด้วยความมั่นใจ “ไม่แน่นอนวันนี้เราเอาของพวกนี้มาก็อยู่ใต้ตาชาวบ้านในหมู่บ้านพวกนางไม่เห็นทันทีถ้ามาพูดทีหลังก็แปลว่าพวกนางตั้งใจมาหาเรื่อง”
ต้าหยาพยักหน้าเบาๆเหมือนเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง
นางมั่นใจว่าถึงย่าจะกลับมาแย่งก็คงไม่ได้อะไรดีๆ ไปจากแม่แน่ๆ
แม่เปลี่ยนไปมากจริงๆ!
“อ้อนี่คือซาลาเปาไส้เนื้อที่แม่ซื้อจากเมืองมาให้พวกเจ้าวันนี้”
เซี่ยชิงหยาหยิบถุงกระดาษมันออกมาจากอกเพราะต้าหยาบาดเจ็บนางเลยโมโหลืมเอาขนมปังไส้เนื้อออกมายังถือไปทะเลาะกับคนอื่นอยู่
ผ่านไปครึ่งวันขนมปังไส้เนื้อก็อุ่นอยู่แค่ด้วยอุณหภูมิร่างกายของนาง
ตอนนี้ฟ้ามืดแล้วกลัวลูกๆ หิวเลยเอามาให้พวกนางกินรองท้องก่อน
“มีเนื้อจริงๆ เหรอ?”
เอ้อร์หยามือเล็กๆ รีบคว้าขนมปังไปพร้อมกับเสียงกลืนน้ำลาย “อึก”
ต้าหยาไม่ยอมรับ หน้าเล็กๆ ยังคงยับยู่ยี่นางรู้อยู่แก่ใจว่านี่คือเงินที่ได้จากการขายหมูกับแกะถ้าไม่ขายเลี้ยงไว้จนถึงปีใหม่จะได้ทำขนมปังไส้เนื้อได้กี่ชิ้นกันนะ
นางไม่ยอมถูกซื้อด้วยความเมตตาเล็กๆ น้อยๆ หรอก
“พี่มันหอมมากขนมปังไส้เนื้อของย่าให้พวกเราแค่ดม หนูรับประกันว่าอร่อยกว่าของย่าเยอะ”มือเล็กๆ ของเอ้อร์หยากุมขนมปังจนเป็นรอยดำไปหมดแต่ครึ่งหนึ่งก็หายเข้าไปในท้องของนางแล้ว
เซี่ยชิงหยาเห็นมือสกปรกของลูกสาวก็รู้สึกกระตุกตา
ก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองในใจว่ามือนางแค่เลอะฝุ่นไม่สกปรกหรอกกินไปไม่เป็นไรแต่ต่อไปต้องฝึกให้พวกนางชินกับการล้างมือ ก่อนกินข้าว
“มาๆกินเถอะ”เซี่ยชิงหยายัดขนมปังเข้าไปในปากของต้าหยา
ต้าหยาจึงยอมรับมากัดเบาๆ
ขนมปังไส้เนื้อจากเมืองหอมจริงๆ เหมือนที่เอ้อร์หยาบอก
ขณะที่ลูกสาวทั้งสองกำลังกินเซี่ยชิงหยาถามขึ้น “ต้าหยาเงินของเจ้าไม่ได้โดนแย่งไปใช่ไหม?”
ต้าหยาหลังตึง
ดวงตากลมโตสีดำราวกับลูกองุ่นจ้องมองเซี่ยชิงหยา ซาลาเปาเนื้อเกือบจะร่วงหล่นลงมาจากปาก
ขายหมูกับแกะไปแล้วต่อไปก็จะมาหลอกเอาเงินคืน
มันช่างเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งหมด
“ไม่ๆ แม่ไม่ได้อยากถามเงินแค่ถามว่าไม่ได้โดนแย่งไปใช่ไหมแค่นั้นเอง”เซี่ยชิงหยารีบอธิบาย ลูกสาวคนนี้ไวต่อความรู้สึกมากในขณะที่ลูกสาวคนเล็กยังคงกินต่อไป
เอ้อร์หยาเหมือนสัมผัสได้ว่าเซี่ยชิงหยากำลังมองนางก็เงยหน้าขึ้นดวงตากลมโตมองแม่มือเล็กๆ จับชายเสื้อของแม่พูดอย่างน่าสงสาร“แม่หนูยังหิว”
เซี่ยชิงหยาลูบขนมปังไส้เนื้อที่เหลืออยู่ในกระเป๋า
ก่อนจะยื่นขนมปังให้เอ้อร์หยานางอดทนไม่ไหวต้องเช็ดมือสกปรกของลูกสาว
คราวนี้ขนมปังยังคงสีขาวสะอาดเมื่อเข้าไปในท้องของเอ้อร์หยา
เซี่ยชิงหยาก็เดินออกไปทำกับข้าวทันทีไม่งั้นอยู่กับต้าหยาเวลาที่ลูกสาวมองนางก็รู้สึกเหมือนถูกสงสัยว่าคิดไม่ดี
ทรมานจริงๆ!
ด้านนอกเตาเผาที่เพิ่งก่อสร้างมีสองช่อง
เป็นเตาสองหัวทั้งซ้ายและขวาสามารถจุดไฟพร้อมกันได้ทั้งต้มข้าวและผัดทำพร้อมกันได้
เซี่ยชิงหยาหยิบหม้อขึ้นไปตั้ง
ตอนแบ่งบ้านได้หม้อมาหนึ่งใบนางยังแอบเอามาอีกใบพอดีสองใบ
ไหนๆ ก็มีวังมังกรไม่ต้องกลัวไม่มีเงิน เซี่ยชิงหยาก็จัดเต็มต้มข้าว
อีกด้านหนึ่งใส่น้ำลงในหม้อต้มเนื้อสามชั้นที่มีหนัง
เนื่องจากของในบ้านไม่ครบนางก็เอามะเขือเทศแห้งที่พี่น้องตระกูลเซี่ยส่งมาให้มาแช่น้ำและปรุงน้ำจิ้มแบบง่ายๆแค่เต้าเจี้ยวกับน้ำมันงาและกุ้งบดเพื่อเพิ่มความอร่อย
ล้างหม้อเหล็กขนาดใหญ่ใส่น้ำมันหมูลงไปเอาเนื้อด้านที่มีหนังไปทอดในน้ำมันจนเป็นสีน้ำตาลเข้มจากนั้นหั่นเป็นชิ้นๆเรียงในชามจากนั้นก็เอามะเขือเทศแห้งที่แช่น้ำและผัดให้หอมมาวางด้านบน
“ซู๊ด..” เสียงของเอ้อร์หยาดูดน้ำลายดังมาก
ตาโตสีเขียวจ้องมองชาม
ร่างเล็กๆของนางดูเหมือนพร้อมจะกระโจนเข้าไปแย่งชิงเนื้อ
“เอ้อร์หยารอให้สุกก่อนแล้วค่อยกินตอนนี้ยังไม่สุกกินแล้วท้องจะปวดเอ้อร์หยาอยากปวดท้องไหม?”เซี่ยชิงหยาลูบมืออวบๆ ของลูกสาว
เอ้อร์หยาส่ายหน้าแต่สายตายังคงมองไม่เลิก
เซี่ยชิงหยารู้ว่าเอ้อร์หยาดื้อรั้นเรื่องอาหารแต่ก็ไม่ได้ขึ้นมาแย่ง นางรีบเอาน้ำมันหมูผัดมะเขือเทศแห้งไปนึ่งในหม้อข้าว
จากนั้นก็เตรียมอาหารจานที่สอง
เอ้อร์หยายืนพิงกรอบประตูมองการกระทำของเซี่ยชิงหยานางพึมพำ“วันเกิดของเอ้อร์หยาใช่ไหม?”
เซี่ยชิงหยางงไป
แต่ก่อนจะมีแค่ตอนวันเกิดของลูกๆ สองคนที่เจ้าของร่างเดิมจะ “ใจดี”ให้ลูกๆ กินไข่คนละฟอง
พูดถึงแล้วแม่เฒ่าจี้ก็ไม่ได้รังแกบ้านรองมากนัก ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของร่างเดิมที่เอาของที่ขโมยมาจากบ้านเก่าไปให้พ่อแม่เลี้ยง ไม่พูดให้ถูกคือไปให้บ้านคนซื้อ
“วันนี้ไม่ใช่วันเกิดของเอ้อร์หยาแต่ต่อไปนี้เอ้อร์หยาอยากกินอะไรก็บอกแม่ได้ แม่ทำได้แม่จะทำให้เอ้อร์หยากิน”เซี่ยชิงหยายังคงทำงานต่อไป
ก่อนหน้านี้เอาของทะเลที่ได้มาจากวังมังกรมาทำอาหารเมื่อวานกินแค่ปลาเล็กๆ
ตอนนี้นางเอาเปลือกหอยที่เหลือมาล้างให้สะอาดส่วนใหญ่เป็นหอยลาย
ล้างหอยลายแล้วลวกด้วยน้ำร้อน
หอยเปลือกทำอาหารง่ายที่สุดแค่ต้มน้ำให้เดือดเปลือกมันก็เปิดออกแสดงว่าสุกแล้ว
“สุกแล้ว สุกแล้วเอ้อร์หยากินได้แล้วใช่ไหม?”เอ้อร์หยาจ้องมองไม่เลิก
เซี่ยชิงหยาอดขำไม่ได้หยิบหอยลายสองตัวให้เอ้อร์หยา“ตัวหนึ่งให้พี่อีกตัวให้เจ้าลองชิมก่อนแบบนี้ไม่อร่อยเดี๋ยวแม่จะทำให้อร่อยกว่านี้”
"อร่อย อร่อยจริง ๆ" เอ้อร์หยา นั่งกินหอยทะเลด้วยแก้มป่อง เหมือนกับกระรอกน้อย ๆ ที่กำลังขบเคี้ยว
แต่ของที่เตรียมไว้ให้ต้าหยากลับไม่ได้แตะต้อง นางกระโดดไปมา หยิบมาส่งให้ต้าหยา
เซี่ยชิงหยากำลังล้างต้นหอมที่ได้มาจากบ้านเก่า ใช้น้ำมันที่ใช้ทอดหนังหมูมาทอดต้นหอมด้วย จากนั้นก็เทใส่ในชามใหญ่ที่มีหอยทะเลอยู่
กลิ่นหอมฟุ้งกระจาย
ผ่านไปยังเตาไฟ หนึ่งในนั้นเซี่ยชิงหยามองออกไปข้างนอกห่างไกล คล้ายมีคนเดินเข้ามา