บทที่ 10 เลือกที่จะไม่ให้อภัย
บทที่ 10 เลือกที่จะไม่ให้อภัย
คนที่เริ่มพูดเป็นคนแรกคือเหมาจื่อภรรยาของลูกชายคนโต
บ้านลูกชายคนโตได้รับเงินจากพ่อเฒ่าจี้ไปเปิดร้านเล็กๆในเมืองส่วนใหญ่จะไม่อยู่บ้านพอดีวันนี้กลับมาก็ร่วมมือกับหวังจื่อทำเรื่องแบบนี้
เหมาจื่อมีใบหน้ากลมเวลาพูดมุมปากก็จะยิ้มดูมั่นใจราวกับความจริงเป็นอย่างที่นางพูดอย่างไม่ต้องใส่ใจ
“ยืมของ? ยืมไก่เป็ดห่านยี่สิบตัวพร้อมกันเลยเหรอ”
เซี่ยชิงหยาพูดตรงๆ
ไม่ให้เหมาจื่อมีโอกาสหลอกลวงชาวบ้าน
ทันใดนั้นคนในหมู่บ้านก็เริ่มฮือฮาอีกครั้ง
“โอ้โหยายจี้ บ้านลูกชายคนโตปากดีจริงๆนี่คือการปล้นชัดๆเลยใช่ไหม”
“ใช่ นางพูดว่ายืมแต่คนของบ้านลูกชายคนรองไม่อยู่บ้าน ถ้าข้าไปเอาเงินสิบตำลึงจากบ้านนางก็ได้ใช่ไหมพอนางเจอก็อ้างว่ายืม”
“ถูกต้องเหมือนที่นายอำเภอพูด‘เอาของคนอื่นโดยไม่บอกก็คือขโมย’”
หน้าของเหมาจื่อเปลี่ยนสีไปมา
ชาวบ้านเกือบจะเขียนคำว่า“ขโมย”ลงบนหน้าผากของนางแล้ว
นางเลยต้องพยายามยิ้มฝืนๆพูดว่า“ต้าเป่า เอ้อร์เป่า ซานเป่า กลับมาบ้านครั้งนี้ก็อยากกินไก่เป็ดห่านที่ปู่ย่าเลี้ยงเลยเอามาเยอะหน่อย น้องสะใภ้เราเป็นครอบครัวเดียวกันอย่าพูดกันแบบนี้ ข้าซื้อแป้งไข่เป็ดจากเมืองมาให้ด้วยทาหน้านุ่มเนียนราคาสองเหวินต่อกล่องเดี๋ยวข้าเอามาให้นะ”
ชาวบ้านก็เริ่มพึมพำกัน
เรื่องนี้เรื่องใหญ่แต่ก็ทำให้เป็นเรื่องเล็กได้
เพราะว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแม้จะแยกบ้านก็เหมือนกับกระดูกที่หักแล้วแต่ยังเชื่อมต่อกันอยู่
หวังจื่อเห็นกระแสเปลี่ยนก็รีบพูดแทรก“ใช่ล่ะพี่สะใภ้นางมีลูกชายสามคนเป็นลูกหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลจี้ เอาไก่เป็ดจากบ้านนางไปกินสักสองสามตัวไม่เป็นไรหรอก”
เซี่ยชิงหยาหัวเราะเยาะ“ซื้อของให้ตัวเองได้ แต่เลี้ยงลูกไม่ได้เหรอ ต้องขโมยไก่เป็ดห่านมาเลี้ยงลูกหัวแก้วหัวแหวนของเจ้า หรือลูกสาวของข้าไม่ต้องกิน”
เหมาจื่อมองหวังจื่อด้วยสายตาที่ร้ายกาจ
หวังจื่อยังกอดลูกไว้แน่นด้วยความน้อยใจ พึมพำว่า “ไม่ใช่พี่สะใภ้ใหญ่บอกให้ไปเอาของที่บ้านเขากลับมาหรอกหรือ ยังบอกว่าเขาไม่กล้าโวยวาย ตอนนี้ยังมาโทษข้าอีก”
ถึงจะพูดเบา ๆ แต่ชาวบ้านต่างก็ตั้งใจฟัง จึงได้ยินคำพูดนี้ชัดเจน ในฝูงชนมีเสียงด่าเหมาจื่อจำนวนมาก
เหมาจื่อเอามือปิดคอตัวเอง รู้สึกหายใจไม่ออก
ในที่สุดพ่อเฒ่าจี้ก็ออกมาควบคุมสถานการณ์ “ลูกสะใภ้ใหญ่เพิ่งกลับจากเมือง ไม่รู้เรื่องการแบ่งสมบัติ เกิดความเข้าใจผิดนิดหน่อย ลูกสะใภ้รอง เอาของกลับไป เรื่องนี้ถือว่าจบแล้ว ทุกคนแยกย้ายกันเถอะ”
เซี่ยชิงหยาพอใจกับคำพูดนี้
นางจูงลูกสาวสองคนไว้ข้างละคน ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านเก่า นางได้กำชับพวกเขาแล้ว
เอาเยอะ ๆ ก็ไม่เป็นไร!
ประมาณครึ่งเค่อ เซี่ยชิงหยาจึงเข็นรถออกมา
บนรถเข็นเต็มไปด้วยไก่ เป็ด ห่าน ที่ถูกมัดรวมกัน ไก่ เป็ด ห่าน วันนี้ถูกย้ายไปหลายที่ ตกใจจึงเบียดกัน ส่งเสียงร้อง “กุ๊ก ๆ ก๊าบ ๆ”
ยังมีผ้าห่มแข็ง ๆ เกือบดำ และเสื้อเก่า ๆ อีกด้วย
“โต๊ะนี้ก็แบ่งให้พวกเราด้วย” ต้าหยาออกแรงยกโต๊ะเล็ก ๆ ออกมา
“ยังมีข้าว ฟักเขียว ฟักทอง เป็นของบ้านข้าทั้งนั้น!” เอ้อหยาไม่ยอมพลาดของกินแม้แต่น้อย ยังหยิบกุ้งแห้งมาหนึ่งถุง กองไว้บนรถเข็นทั้งหมด
ชาวบ้านยังไม่ทันแยกย้ายกันไป พอเห็นของเยอะขนาดนี้ก็ด่ากันใหญ่
“เอาของไปเยอะขนาดนี้ยังบอกว่าขอยืม โอ๊ย ไม่รู้จักอายเลย แม้แต่โจรก็ยังไม่ขโมยของในบ้านจนไม่เหลือแม้แต่ขน”
“ใช่ ๆ ดีนะที่ครอบครัวเฉียนคุนยังใจแข็ง”
“ไม่อยากแบ่งให้ลูกชายคนที่สองก็ไม่ต้องแบ่ง เอามาเอากลับไปเหนื่อยเปล่า ๆ”
คนในครอบครัวจี้หน้าเสียกันหมด
พ่อเฒ่าแม่เฒ่าจี้ทั้งสอง ต่างก็รู้สึกละอายใจจนไม่กล้าออกมา
หวังจื่อตบก้นลูกชายจนเด็กร้องไห้“อ๊าอ๊า”นางรีบพูดว่า“ไอ้เด็กเน่านี่คงอึแหงๆเดี๋ยวข้าไปเปลี่ยนผ้าอ้อม”
จากนั้นก็รีบหนีไป
“ข้าลืมไปว่าหม้อยังอยู่บนเตาไฟ”เหมาจื่อก็เตรียมจะหนีไปด้วย
เซี่ยชิงหยายืนขวางไว้
“พี่สะใภ้หัวของต้าหยาเป็นพี่สะใภ้ทำรึเปล่า”เสียงของเซี่ยชิงหยาดูน่ากลัวเหมือนจะแทะเล็มออกมาจากซอกฟันเป็นเสียงที่กัดฟันพูด
ผมของเหมาจื่อเปียกชุ่ม นางไม่เคยคิดว่าเซี่ยชิงหยาจะยุ่งยากแบบนี้เลย
นางบิดมือพูดว่า“เป็นเด็กนี่ล้มชนข้า ข้าบอกให้นางลุกขึ้นไม่รู้ทำไมถึงล้ม”
“งั้นพี่สะใภ้ยอมรับว่าผลักเด็กรึเปล่า”เซี่ยชิงหยาพูดเสียงเรียบ
“ก็นับว่าใช่ล่ะแต่ข้าไม่ได้ตั้งใจ”เหมาจื่อเหงื่อออกไม่หยุด
“ได้งั้นพี่สะใภ้ไปขอโทษต้าหยาสิ แม้ว่าพี่สะใภ้จะเป็นผู้ใหญ่แต่เลือดของต้าหยาก็ไม่ได้ไหลฟรีๆ การขอโทษของพี่สะใภ้ก็คุ้มค่าแล้ว”เซี่ยชิงหยาพูด
เหมาจื่อไม่คิดว่าคำพูดของนางจะถูกเซี่ยชิงหยาพูดจนหมด
ใช้สถานะของผู้ใหญ่มาเกทับก็ไม่ได้ผล
พ่อเฒ่าแม่เฒ่าจี้รู้สึกละอายใจจนส่งสัญญาณให้นางหลายครั้งให้รีบจบเรื่องนี้ เหมาจื่อไม่มีทางเลือกเลยต้องไปขอโทษต้าหยา
“ต้าหยา ป้ามีลูกชายสามคนแต่ก็รักเจ้าเหมือนลูกสาวตัวเอง ก่อนนี้แม่ของเจ้าตีเจ้า ป้าก็พยายามห้ามนางอยู่ตลอดครั้งนี้ ป้าไม่ได้ตั้งใจจะผลักเจ้าจริงๆ”
เหมาจื่อพูดไปพร้อมกับยื่นมือไปจับมือเล็กๆของต้าหยา
แต่ต้าหยากลับซ่อนมือไว้ด้านหลัง
ดวงตาสีดำแดงเหมือนจะมองทะลุทุกอย่างในอดีตเวลาที่ถูกตี ป้าใหญ่ยิ่งพูดให้แม่ตีหนักขึ้น
ปากของป้าใหญ่หวาน ใบหน้าก็ยิ้มแต่ใจกลับดำ
“ไม่ ต้าหยาไม่ให้อภัย”
“ป้ายอมรับผิดแล้ว ยังจะให้ป้าทำยังไงอีก?”
“เจ้าขอโทษแล้ว แต่นางจะให้อภัยหรือไม่นั้นอีกเรื่องนึง คนที่เสียเลือดมากมายก็คือต้าหยาที่น่าสงสารของเรา” เซี่ยชิงหยาพูดพลางมองท้องฟ้าที่มืดลงแล้ว ก็เข็นรถเข็น “ต้าหยา เอ้อร์หยา กลับบ้านกินข้าวกัน”
คิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็หยิบของในอกออกมา
“ใช่แล้ว พี่สะใภ้ เมื่อกี้ท่านบอกจะให้ผงไข่เป็ดข้า ข้าเห็นในห้องท่านก็เลยเอามาแล้ว ไม่เลว ข้าชอบมาก ครั้งหน้ามีของดีแบบนี้อย่าลืมเอามาฝากข้าอีกนะ” ดวงตาของเซี่ยชิงหยาฉายแววเจ้าเล่ห์
เหมาจื่อได้รับชื่อเสียงที่ดีในหมู่คนแล้ว นางต้องทำให้มันเป็นจริง
ของฟรี ไม่เอาได้ไง
หน้าของเหมาจื่อซีดเผือด นางแค่พูดไปอย่างนั้น ไม่ได้ตั้งใจจะให้จริงๆ
ผงไข่เป็ดนี้ นางเองก็ยังยอมซื้อปีละกล่องเท่านั้น เพิ่งซื้อก็เอากลับมาอวดที่บ้านเก่า ไม่คิดว่าเซี่ยชิงหยาจะฉวยโอกาสเอาไป
ตอนนี้ นางคิดถึงเงินส่วนตัวที่ซ่อนไว้ในรูหนูใต้เตียง
นางรีบแหวกฝูงชนกลับไปดู
เห็นรูหนูที่ว่างเปล่า นางกรีดร้องแล้วก็สลบไป
มีคนซ่อนตัวอยู่ในที่มืด กำถุงเงินแน่น มุมปากยกขึ้น
“แม่ แม่เป็นอะไรไป?”
“นังโง่ แกทำให้เสียหน้ามาก ทำไมไม่สลบก่อนหน้านี้ หรือไม่ก็รอก่อน ดันมาสลบตอนนี้”
“สะใภ้ใหญ่ ยังไม่ไปทำกับข้าวอีก!”
บ้านเก่าตระกูลจี้ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายแม้จะอยู่หลังประตูที่ปิดสนิทก็ตาม