ตอนที่ 95 : ตกรอบ ! ตงฟางเหอเปลี่ยนเป็นผู้หญิง !
ตอนที่ 95 : ตกรอบ ! ตงฟางเหอเปลี่ยนเป็นผู้หญิง !
“กลับมา ! กลับมาก่อน !” ที่เวทีประลอง ตงฟางเหอได้แต่ตะโกนโหวกเหวกโวยวายด่าทอมังกรและวิ่งไปที่ริมเวทีประลอง
กรรมการรีบวิ่งเข้าไปห้าม “ตงฟางเหอ ! อย่าออกไปไกลกว่านี้ ถ้าออกจากเวทีประลองไป จะถือว่านายแพ้ !”
เมื่อได้ยินที่กรรมการพูดมา ตงฟางเหอก็ต้องหยุดเท้า
ทันทีที่ตงฟางเหอหยุดเท้านั้น มังกรก็บินหนีออกไปจนเหลือแต่จุดสีดำเล็ก ๆ บนท้องฟ้า
“ห่าเอ้ย ! ไอ้มังกรเฮงซวย ! เฮงซวยเอ้ย !” ตงฟางเหอได้แต่สบถออกมาไม่หยุด
กรรมการที่อยู่ข้าง ๆ ทนไม่ไหวเลยต้องออกปากกล่อม “ตงฟางเหอ นายยังแข่งอยู่ รีบกลับไปสู้ได้แล้ว !”
“กลับไปสู้...” ตงฟางเหอสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้ดีว่าตอนนี้เขาไม่ใช่คู่มือของหลินลั่ว
แต่...เมื่อคิดถึงสิ่งที่หลินลั่วได้ทำลงไป ความแค้นในใจก็พรั่งพรูออกมาเอาชนะสติของเขาได้
เขาจะไม่ยอมแพ้ !
ถึงเขาต้องตาย เขาก็จะลากหลินลั่วตายไปพร้อมกับเขาด้วย !
เขาหันกลับไปจับหอกที่ปักอยู่ที่พื้นและพุ่งเข้าใส่หลินลั่ว
“มันเพราะแก ! เพราะแกทั้งนั้น ! ฉันจะฆ่าแก !”
ตูม !
ร่างของเขาระเบิดไฟสีทองออกมาตอนที่พุ่งเข้าหาหลินลั่ว
“สมกับเป็นอัศวินมังกร !”
“ถึงจะตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ ทว่าก็ไม่คิดจะยอมแพ้ !”
“ตงฟางเหอ !”
“เอาเลย เอาเลย ! ฉันฝากชีวิตไว้กับนายด้วย !”
“บัดซบ เหอเอ๋อ !” ตงฟางไต้ซ่งมองไปที่ลูกชายตัวเอง เขาหลับตาลงด้วยความสิ้นหวังและหันกลับ “กลับกันเถอะ !”
ตงฟางหวงไท่ถามขึ้นมาด้วยสีหน้าแปลก ๆ “พี่ใหญ่ การแข่งยังไม่จบเลย พี่...”
“มันจบแล้ว !” ตงฟางไต้ซ่งพูดขึ้นมาโดยไม่มีท่าทีลังเลแม้แต่น้อย “ตอนที่มังกรทิ้งเหอเอ๋อไป เขาก็ถือว่าแพ้แล้ว !”
“สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้ไม่ใช่รอเหอเอ๋อ แต่เป็นการไปเอาตัวมังกรของเขากลับมา !”
“แต่...” ตงฟางหวงไท่ถามขึ้นมาอีกครั้ง “พี่ใหญ่ พี่อยากได้โลกวิเศษไม่ใช่เหรอ ถ้าพี่...”
“โลกวิเศษ....ฮึ่ม !” ตงฟางไต้ซ่งฮึดฮัดออกมา “เหอเอ๋อน่ะต้องแพ้แน่ เราจะอยู่ที่นี่ต่อทำไม ?”
“นอกจากนี้ตราบใดที่เราเอามังกรกลับมาได้และทุ่มเทกับมันเพิ่ม ตระกูลตงฟางก็จะมีผู้ปลุกพลังระดับอีปิคเพิ่มอีกคนในเวลา 100 ปี !”
“ตราบใดที่มังกรโตเต็มวัย มันอาจจะมีผู้ปลุกพลังระดับตำนานกำเนิดขึ้นมาก็ได้ !”
“ถึงโลกวิเศษจะมีค่า ทว่ามันก็แค่ของที่เสียหาย ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่กว่าจะซ่อมมันให้กลับมาสมบูรณ์ได้...”
ตงฟางไต้ซ่งกัดฟันพูดขึ้นมา “นอกจากนี้เราก็ไม่มีโอกาสที่จะได้โลกวิเศษมาครองแล้ว !”
“กลับ !”
“.... ”
คนกว่าสิบคนพากันเดินไล่หลังตามตงฟางไต้ซ่งออกจากห้องรับรองไป
ในห้องรับรองอีกห้อง จ้าวฉือเฉิงได้เข้าไปกระซิบกับกั้วโฉวยี่ “หัวหน้า คนจากตระกูลตงฟางพากันออกจากห้องไป ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะกลับ”
“หือ ?” กั้วโฉวยี่ไม่ได้แปลกใจกับเรื่องนี้ “รู้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยยอมแพ้ สมกับเป็นตงฟางไต้ซ่ง !”
“ฉันว่า...พวกนั้นคงออกไปตามหามังกรกันแทน !” กั้วโฉวยี่พูดขึ้น “รีบออกคำสั่งไปยังผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ ให้พวกเขาหาตำแหน่งมังกรนั่นให้เจอ อย่างน้อย ๆ ก็อย่าให้คนตระกูลตงฟางหามันพบ !”
“ได้ครับหัวหน้า !”
ในห้องรับรองของตระกูลมู่หรง คนกว่าสิบคนพากันพูดคุยกันด้วยความตื่นเต้น
“ฮ่าฮ่า ตงฟางเหอกำลังจะแพ้ ! ตอนนี้เสวี่ยเหินมีโอกาสชนะสูง !”
“ไม่เลว ! เราพอรู้สกิลของหลินลั่วแล้ว สกิลส่วนมากเป็นสกิลควบคุมไวรัส แสงศักดิ์สิทธิ์ของเสวี่ยเหินนั้นต้านทานสกิลส่วนมากของเขาได้ !”
“อย่างมากสกิลวาร์ปของเขาก็รับมือยากอยู่บ้าง ถึงการโจมตีจะเฉียบคมแต่ก็ไม่อาจจะทลายการป้องกันของเสวี่ยเหินได้ !”
“เสวี่ยเหิน เสวี่ยเหิน คิดอะไรอยู่ ?”
มู่หรงเสวี่ยเหินที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่างเดินเข้ามาและพูดขึ้น “หัวหน้าตระกูล หนูอยากจะถามอะไรสักหน่อย”
หัวหน้าตระกูลมู่หรงนั้นเป็นลุงของมู่หรงเสวี่ยเหิน เขาพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “เสวี่ยเหิน ตอนนี้หลานไม่ต่างจากไข่มุกในมือบรรพชนเลย อยากถามอะไรก็ถามมาได้เลย !”
มู่หรงเสวี่ยเหินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “หนูหวังว่า....เราจะรอจนกว่าจะตัดสินแชมป์และรองแชม์ในวันพรุ่งนี้ !”
“หือ...ว่าไงนะ ?” มู่หรงเฉินฟู่แปลกใจ “เสวี่ยเหิน หลานบาดเจ็บงั้นเหรอ ?”
“ไม่” มู่หรงเสวี่ยเหินส่ายหน้าและพูดขึ้น “หนูคิดว่าเราจะได้มีเวลาตรวจสอบอีกหนึ่งคืน”
“นี่...” มู่หรงเฉินฟู่กัดฟันพูดขึ้น “ตราบใดที่ได้โลกวิเศษมาครอง งั้นลุงก็ยอม !”
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นและเดินออกไป
แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก....
ที่มุมของลานหอฝึกฝน ผู้ปลุกพลังที่นั่งอยู่พากันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
“สุดยอด ! น่าทึ่งจริงๆ ! สมควรแล้ว ฮ่าฮ่า สมควรแล้ว...”
“ไม่คิดเลยว่าการแข่งระหว่างผู้ปลุกพลังหน้าใหม่จะตื่นเต้นได้ขนาดนี้ !”
“ตอนแรกฉันมาเพื่อตรวจสอบการตายของตู้เฉิง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอกับการต่อสู้ที่ดุเดือดแบบนี้ !”
....
“กระจายข่าวออกไป รีบหามังกรให้เจอโดยเร็วที่สุด !”
“ครับ ! ผู้อาวุโส !”
....
แกร๊ก....
ที่เวทีประลอง
ปัง !
ตงฟางเหอกระเด็นออกไปอย่างแรง เกราะของเขามีรอยร้าว มันมีเลือดไหลออกมา
“บัดซบ ! ฉันไม่มีทางยอมแพ้หรอก !”
ตงฟางเหอคำรามออกมา เขาพยายามลุกขึ้นยืนและพุ่งเข้าใส่หลินลั่ว
หลินลั่วยังเหวี่ยงคทาไปมาอย่างต่อเนื่องพร้อมแผลบนตัวตงฟางเหอที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แค่เหวี่ยงคทา [ ระเบิดผิวหนัง ] ก็ถูกใช้ออกมา
“อ๊าก.... !”
“อ๊า...”
ครั้งนี้เกราะราคาเป็นล้านทองบนตัวตงฟางเหอกลับเสียหาย ความคงทนของมันลดลงเหลือ 0 ไม่อาจจะป้องกันการโจมตีได้อีก
เลือดไหลออกมาพร้อมตัวเขากระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร
“บัดซบ !”
“เหี้ยเอ้ย ! ฉันไม่มีทางที่จะยอมแพ้ !”
เขาพยายามจะลุกขึ้น แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้มากกว่านั้น
เมื่อเห็นแบบนั้น หลินลั่วก็ยกคทาในมือขึ้นอีกครั้งและใช้ [ ระเบิดผิวหนัง ] ออกมาอีกรอบ
ปัง !
การโจมตีนี้ถูกกันโดยโล่แสงสีเหลืองพร้อมเสียงระเบิดดังที่ดังขึ้นมา ค่ายกลของเวทีประลองเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง
ที่ริมเวทีประลอง ผู้ใช้ค่ายกลต้องประกบมือเข้าด้วยกันเพื่อประคองค่ายกลเอาไว้ สีหน้าของเขาถึงกับหม่นลง
กรรมการพุ่งไปที่ใจกลางเวทีประลองและประกาศออกมา “หลินลั่ว ตงฟางเหอหมดความสามารถที่จะสู้ต่อแล้ว นายชนะไปแล้ว !”
เมื่อได้ยินที่กรรมการพูด หลินลั่วก็ลดคทาในมือลง
“ฉันยังไม่แพ้ ! ฉันยังไม่แพ้ !” ตงฟางเหอพยายามจะลุกขึ้นอีกครั้ง เขาจับแขนกรรมการเอาไว้และตะโกนออกมา “บัดซบ ! ใครบอกให้แกมาขวาง ! ออกไปให้พ้น !”
“การต่อสู้ของฉันยังไม่จบ ! ฉันจะแพ้ไม่ได้ ! ฉันจะแพ้ไม่ได้ !”
“หลินลั่ว ! ฉันจะฆ่าแก ! ฉันจะฆ่าแกให้ได้ !”
เมื่อเห็นว่าตงฟางเหอยังดื้อด้าน สายตาของหลินลั่วก็สะท้อนความอาฆาตออกมา เขายื่นมือออกมาพร้อมกับหนอนตัวสีดำโผล่มาในมือ มันคือหนอนโรคห่า
หนอนโรคห่านั้นคือหนอนที่กำเนิดขึ้นหลังจากที่เขาแพร่เชื้อไวรัสใส่อสูรหมาหลายตัวตอนที่สู้กับตู้เฉิง เขายังเก็บมันเอาไว้อยู่
แค่คิด หนอนโรคห่าก็ลอยไปตกที่ตัวตงฟางเหอและมุดเข้าไปในตัวตงฟางเหอ
“ฉันอยากเห็นเหมือนกันว่าเราสองคนใครจะตายก่อน...”
เมื่อเห็นว่าตงฟางเหอยังทำตัวอย่างกับคนบ้า กรรมการก็คิ้วขมวด เขาโบกมือเรียกหมอหลายคนเข้ามาลากตัวตงฟางเหอออกไป
“ผู้ชนะ...หลินลั่ว !”
ตูม...
ทันทีที่กรรมการพูดจบ ผู้ชมโดยรอบต่างก็พากันฮือฮาออกมา
“หลินลั่วชนะจริง ๆ ด้วย !”
“ทำลายสถิติ ! อัศวินมังกร อาชีพลับระดับ S ! แพ้ให้กับนักบวชระดับ D !”
“พระเจ้า ! บ้านฉัน !”
“ไอ้ห่าตงฟางเหอ ! แกมันขยะ พี่น้องทุกคน ไปเจอกันบนดาดฟ้า...”
“รอฉันด้วย ฉันจะไป....ที่ดาดฟ้าด้วย !”
“ฮ่าฮ่า ตงฟางเหอแพ้ ไม่ใช่ว่ามู่หรงเสวี่ยเหินจะเป็นแชมป์เหรอ ?”
“จะเป็นแบบนั้นได้ไง ! หลินลั่วเอาชนะตงฟางเหอได้ เขาต้องเอาชนะมู่หรงเสวี่ยเหินได้แน่ !”
“มู่หรงเสวี่ยเหินเป็นเทวทูตรึเทวดา เธอมีพลังที่จะต้านทานพลังด้านมืด, โรคภัย และไวรัสได้ เธอต้องชนะแน่...”
ผู้คนพากันถกเถียงกัน ไม่ว่าพวกเขาจะเถียงกันนานแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจจะตัดสินได้ว่าใครจะแพ้รึชนะ
ตอนนั้นในห้องรับรอง หลินลั่วได้พบกับกรรมการคนหนึ่ง
“เรื่องมันเป็นแบบนี้ หลินลั่ว หลังจากจบรอบรองชนะเลิศ มันจะต้องสู้เพื่อตัดสินแชมป์ทันที แต่ในการต่อสู้รอบรองวันนี้ ความแข็งแกร่งของพวกนายทั้ง 4 คนน่ะแกร่งเกินไป เวทีประลองเลยพังไปด้วย”
“ดังนั้นเราจึงต้องเลื่อนการแข่งรอบชิงไปวันพรุ่งนี้ มู่หรงเสวี่ยเหินตกลงกับเงื่อนไขนี้แล้ว แล้วนายว่ายังไง ?”
“นายเพิ่งจะสู้เสร็จ มันไม่ยุติธรรมที่จะให้นายต้องไปสู้ต่อทันที มันจะยุติธรรมถ้านายได้พักสักคืน นายเห็นด้วยไหม ?”
ถังเฉิงที่อยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “พี่ลั่ว ฉันว่าแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน รีบตกลงเลย !”
หลินลั่วพยักหน้า ยังไงซะเขาก็ไม่เสียหายอะไรอยู่แล้ว
“งั้นก็ได้...เอาเป็นวันพรุ่งนี้ก็ได้”
ตกดึก
บรรยากาศในตระกูลตงเหอนั้นตึงเครียดอย่างมาก ผู้คนเดินเข้าออกห้องโถงโดยไม่พูดอะไรออกมา แม้แต่คนรับใช้ก็ยังกังวลจนไม่กล้าหายใจเสียงดัง
ในห้องโถงมีแต่กลิ่นยา ผู้อาวุโสของตระกูลตงฟางหลายคนอย่างตงฟางไต้ซ่ง, ตงฟางหวงไท่ และคนอื่น ๆ ก็อยู่ที่นั่นด้วย พวกเขาต่างก็สีหน้าถมึงทึง
ในอีกด้าน ตงฟางเหอที่พันผ้าพันแผลไปทั้งตัวยังแสดงสายตาแค้นเคืองออกมา สายตาเขาเหมือนกับจะกินคนทั้งเป็นได้
“บัดซบ ไอ้ห่าหลินลั่ว ฉันรับไม่ได้ รับไม่ได้...”
ตงฟางไต้ซ่งมองไปที่ลูกและส่ายหน้าก่อนจะถามขึ้นมา “มีข่าวอะไรไหม ?”
“ยังไม่มีเลยพี่ใหญ่ !” ตงฟางหวงไท่ส่ายหน้าและพูดขึ้น “เราตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดทั่วทั้งเมืองแล้ว เรารู้แค่ว่ามังกรบินหนีไปทางตะวันออกเฉียงใต้ คนของเราตามไปแต่ก็ไม่พบเบาะแสของมัน ! ”
“ทางตะวันออกเฉียงใต้...” ตงฟางไต้ซ่งพูดขึ้น “ที่นั่นมีหุบเขาสีชาดกับบึงทมิฬ ที่นั่นคือที่ที่พวกผู้ปลุกพลังอาชีพขั้น 2 ไปเก็บเลเวล ตามหาต่อไป”