ตอนที่แล้วตอนที่ 15 ความตายคือตัวตัดสิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17 เล่นแร่แปรธาตุ

ตอนที่ 16 ยอดเขาเซียนล่องลอย


ตอนที่ 16 ยอดเขาเซียนล่องลอย

หลังกลับมาถึงห้องน้อยของตนเอง หลินมู่อดไม่ได้ที่จะกระสับกระส่าย

เมื่อได้นั่งไตร่ตรองเรื่องราว ความคิดมากมายผุดขึ้นในหัวของเขา

การต่อสู้ตัดสินแพ้ชนะด้วยความตายกับหม่าฮวาหยวนเป็นเรื่องที่บ้าเกินไป และหลินมู่ก็ไม่คิดว่าหม่าฮวาหยวนจะเคียดแค้นตนมากเช่นนั้น

คราวนี้ที่หลินมู่สามารถเอาชนะหม่าฮวาหยวนได้ ครึ่งหนึ่งเป็นเพราะความแข็งแกร่ง และอีกครึ่งหนึ่งเป็นเพราะความโชคดี

แต่ถ้าหากต้องต่อสู้ตัดสินแพ้ชนะด้วยความตาย แล้วยังมีศิษย์นับพันเฝ้ามอง หลินมู่อดไม่ได้ที่จะประหม่า สุดท้ายแล้วหลินมู่ไม่มั่นใจว่าตนจะสามารถต้านทานกระสุนเพลิงของหม่าฮวาหยวนได้

เวลานี้จุดอ่อนของเขาคือขอบเขตยุทธ์และพลังวิญญาณอันน้อยนิด ในขอบเขตปัจจุบันหากหลินมู่ใช้เคล็ดหยกวารีด้วยพละกำลังทั้งหมด เขาจะสามารถใช้มันได้แค่สามครั้งเท่านั้น และเมื่อนั้นพลังวิญญาณในกายจะหมดไปทันที เขาจำเป็นต้องเข้าสู่สมาธิเพื่อฟื้นฟูพลัง… แต่ในระหว่างการต่อสู้ที่โหดร้าย หากไม่ระมัดระวังเพียงพอ เขาจะตายในการต่อสู้ และไม่มีเวลาเพียงพอจะฟื้นฟูพลังวิญญาณด้วย

ไม่ว่าจะคิดอย่างไร หลินมู่ก็สัมผัสได้ว่าตนไม่มีโอกาสชนะ

หลินมู่เรียนรู้พลังสามในห้าธาตุแล้ว ทันทีที่เผชิญหน้ากับศัตรู ตัวเขาก็มีความยืดหยุ่นและยากจะคาดเดา

ภายในมิติวังวนจันทราเต็มไปด้วยพลังวิญญาณเข้มข้น หากหลินมู่ฝึกฝนอย่างหนักสักสามเดือน เขาก็น่าจะทะลวงผ่านได้อีกสักหนึ่งขั้ย

ทว่าข้อดีเหล่านี้กลับไม่ทำให้หลินมู่สบายใจแม้แต่น้อย

การต่อสู้ที่ตัดสินแพ้ชนะด้วยความตายไม่ใช่เรื่องเล็ก หากล้มเหลวนั้นหมายถึงความตาย

หลินมู่ต้องการให้โอกาสชนะของเขาเพิ่มมากขึ้น อย่างน้อยก็ต้องมากกว่าเจ็ดในสิบ และหากต้องการให้เป็นเช่นนั้น เขาจะต้องฝึกฝนอย่างหนักเพื่อพัฒนาขอบเขตยุทธ์

อย่างไรแล้วหลินมู่ก็ยังมีความลังเล เพราะหากขอบเขตยุทธ์เพิ่มขึ้นเร็วเกินไป ผู้อื่นจะต้องสงสัยอย่างแน่นอน

หลินมู่มีรากวิญญาณห้าธาตุ ไม่ว่าใครในสำนักดาบพันปักษาย่อมทราบเรื่องนี้ การพัฒนาขอบเขตยุทธ์ของเขาเชื่องช้าเสียยิ่งกว่าเต่าคลาน ไม่เช่นนั้นหม่าฮวาหยวนคงไม่กล้าหาญท้าทายเขา

แต่หลังจากไตร่ตรองอยู่นานสองนาน เขาตัดสินใจว่าการรักษาชีวิตไว้คือสิ่งสำคัญที่สุด และหากเป็นไปได้เขาจะไม่เปิดเผยการมีอยู่ของจี้วังวนจันทราเด็ดขาด

หลินมู่หยุดความลังเล ก่อนจะตัดสินใจดำเนินการตามแผน

การกลั่นยาวิญญาณถือเป็นความจำเป็นอย่างหนึ่ง นี่คือทางลัดในการพัฒนาขอบเขตยุทธ์ และยังสามารถช่วยเป็นข้อแก้ตัวในการปกปิดจี้วังวนจันทราด้วย

ร่างกายของหลินมู่วูบไหวก่อนจะปรากฏขึ้นในมิติวังวนจันทรา

หญ้าวิญญาณถูกวางเอาไว้มากมายภายในกระท่อม ทั้งหมดถูกหลินมู่คัดแยกไว้อย่างเป็นระเบียบ

หลินมู่หยิบเอาหญ้าวิญญาณชั้นเลิศทั้ง 7 ชนิดที่จำเป็นต่อการกลั่นยาวิญญาณออกมา ก่อนจะหยิบเอาหญ้าวิญญาณระดับสองออกมาด้วย

ตามสูตรยาที่บันทึกไว้ในแผ่นหยกยาเม็ดอัคคี หลินมู่ได้เตรียมส่วนผสมสำหรับการกลั่นยาวิญญาณไว้ทั้งหมด 70 ชุด รวมกับชุดที่เขาซื้อจากหอสีขาวอีกสิบชุดกลายเป็น 80 ชุด

วัตถุดิบการเล่นแร่แปรธาตุกว่า 80 ชุดเพียงพอที่จะให้หลินมู่ได้วุ่นวายสักพักหนึ่ง

ในช่วงแรกอันตราความสำเร็จของเขาต่ำมาก แต่ตราบใดที่สามารถประสบความสำเร็จได้ถึงหกในสิบส่วน เขาจะได้รับยาวิญญาณอย่างน้อย 30 ขวด

แล้วในแผ่นหยกยาเม็ดอัคคียังมีสูตรยาของเม็ดยาพลังชีวิตด้วย

เม็ดยาพลังชีวิตสามารถกลั่นได้จากหญ้าวิญญาณทั้งเจ็ดชนิดที่มีอยู่ภายในกระท่อม

และหากกลั่นเม็ดยาพลังชีวิตเหล่านี้สำเร็จ หลินมู่จะมีกินมีใช้ยาวนานกว่าสองปี

เมื่อแยกวัตถุดิบต่าง ๆ ออกจากกันแล้ว หลินมู่ไม่รอช้าที่จะลงมือและเริ่มฝึกฝนอีกครั้ง

คราวนี้เขาไม่ได้ตาบอด และลองทำตามอำเภอใจ เขามีสูตรยาในมือ ทุกการกระทำล้วนมีเป้าหมาย

หญ้าวิญญาณระดับสองในที่ดินวิญญาณยังไม่ได้ถูกขยับขยาย ทั้งยาสูบเยือกแข็งและหญ้าวิญญาณดาราครามยังคงไว้เช่นเดิม ส่วนดอกไม้เรืองแสงเป็นสมุนไพรหลักในการกลั่นยาผนึกจิตวิญญาณ เช่นนี้หลินมู่จึงปลูกมันไว้อีก 300 ต้น

ในบรรดาหญ้าวิญญาณระดับหนึ่ง หญ้าวิญญาณทั้งเจ็ดชนิดที่ใช้กลั่นยาผนึกวิญญาณมีมากกว่า 300 ต้น ทั้งหมดมีรูปลักษณ์คล้ายกับดอกเหง้า

สำหรับสมุนไพรชั้นเลิศชนิดอื่นๆ หลินมู่ไม่ได้ปลูกเพิ่มเติมในปริมาณมาก เพราะตอนนี้ไม่จำเป็น เขาปลูกแต่ละชนิดไว้เพียงร้อยกว่าต้น เป็นการปลูกเพื่อให้มีเท่านั้น…

กระบวนการทั้งหมดนี้กินเวลาของหลินมู่ไปหนึ่งวันเต็ม ๆ

หลังจัดการกับงานเหล่านี้เสร็จสิ้น หลินมู่ก็เริ่มนั่งสมาธิจดจ่อกับการอ่านตำรา "ยาเม็ดอัคคี" อย่างละเอียด

ในเรื่องของการกลั่นยาตาม ‘สูตรยา’ หลินมู่ยังเป็นมือใหม่ ไม่มีประสบการณ์ใด ๆ เขาจึงทำได้แค่เรียนรู้ความรู้พื้นฐานจากตำรา ‘ยาเม็ดอัคคี’ ซึ่งก็ดีกว่าการคลำช้างไปมั่ว ๆ

วิธีการกลั่นยาตาม ‘สูตรยา’ นั้นมีหลายแบบ มีทั้งแบบกลั่นด้วยน้ำ และแบบกลั่นด้วยไฟ แต่โดยทั่วไปแล้วนักปรุงยาส่วนใหญ่จะใช้แบบกลั่นด้วยไฟ ตำรา ‘ยาเม็ดอัคคี’ ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับข้อควรระวัง และเทคนิคที่ใช้ในการกลั่นยาด้วยไฟอย่างละเอียด

สำหรับหลินมู่แล้ว นี่คือโลกใหม่ที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน

หลินมู่มุ่งมั่นศึกษาอย่างจริงจัง ดั่งผู้กระหายน้ำทะเลทราย

เขาใช้เวลาติดต่อกันสามวัน ไม่กิน ไม่นอน นั่งอยู่ในห้องเงียบทุ่มเทให้กับการศึกษาศาสตร์การปรุงยา หลังจากผ่านไปสามวัน เขาก็เริ่มเข้าใจพื้นฐานของศาสตร์การปรุงยาแล้ว

แต่หากต้องการเป็นนักปรุงยาที่เก่งกาจ เขาจำเป็นต้องฝึกฝนเพิ่มเติมอีกมาก

ในช่วงสามวันที่ผ่านมา เขาอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับการกลั่นยาผนึกวิญญาณมากที่สุด เขาอ่านเนื้อหานี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งท่องจำขึ้นใจ

สำหรับวิธีการกลั่น [เม็ดยาพลังชีวิต] เขาก็อ่านทบทวนจนขึ้นใจเช่นกัน

‘มีดที่ลับคมไว้ ย่อมตัดไม้ได้รวดเร็ว’ เมื่อเตรียมงานทุกอย่างเสร็จสิ้น หลินมู่ก็เริ่มลงมือทำ

เขาห่อส่วนผสมสำหรับการกลั่นยา 10 ชุดที่ซื้อจากหอสีขาวไว้ในผ้าสีฟ้า จากนั้นเขาก็ไปทานอาหารที่โถงผลาหารวิญญาณ แล้วจึงถือผ้าห่อเดินมุ่งหน้าสู่ยอดเขาเซียนล่องลอย

ยอดเขาเซียนล่องลอยอยู่ไม่ไกลจากยอดเขาตะวันตก ภายในยอดเขาเซียนล่องลอยมีห้องสำหรับการกลั่นยาอยู่มากมาย

แต่เมื่อเดินมาถึง มีคนเดินเข้ามาต้อนรับเขาพร้อมกล่าวถามเสียงหนัก “เจ้ามาทำสิ่งใดที่นี่?”

ไท่หนิงเป็นศิษย์แรงงานของยอดเขาเซียนล่องลอย และเขาคือผู้รับผิดชอบดูแลห้องกลั่นยา

หลินมู่ประสานหมัดทำความเคารพก่อนจะเอ่ยปาก “ข้าต้องการเช่าห้องกลั่นยาขอรับ”

ไท่หนิงมองหลินมู่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนจะเอ่ยเสียงหนัก “ตามข้ามา”

หลินมู่เดินตามไท่หนิงไปถึงด้านในของภูเขา

ภายในยอดเขาเซียนล่องลอยถูกขุดเจาะจนเป็นโพรง ดัดแปลงเป็นห้องสำหรับการกลั่นยาขนาดต่าง ๆ มีทั้งห้องสำหรับกลั่นยา ห้องเก็บของเสียจากการกลั่นยา ห้องเก็บสมุนไพร ห้องเก็บยา และอื่น ๆ อีกมากมาย

พวกเขาเดินไปนานพอสมควร ผ่านทางเดินที่คดเคี้ยวไม่รู้เท่าไหร่ ไท่หนิงพาหลินมู่มาถึงด้านหน้าแถวห้องสำหรับการกลั่นยา

เวลานี้ไท่หนิงเอ่ยปากด้วยรอยยิ้ม “ที่นี่คือห้องกลั่นยาสำหรับศิษย์ขอบเขตกลั่นลมปราณที่ต้องการฝึกฝนการกลั่นยา ค่าเช่าคือหินวิญญาณระดับต่ำ 2 ก้อน แต่ถ้าหากมีหินวิญญาณไม่เพียงพอ สามารถใช้ยาผนึกวิญญาณทดแทนได้ ยาผนึกวิญญาณหนึ่งขวดมีค่าเท่ากับหินวิญญาณระดับต่ำ 4 ก้อน ส่วนเม็ดยาพลังชีวิตหนึ่งขวดเท่ากับหินวิญญาณระดับต่ำ 2 ก้อน”

หลินมู่พยักหน้ารับ ก่อนจะสุ่มเลือกห้องกลั่นยาแล้วเดินเข้าสู่ภายใน

ทันทีที่เขาเดินเข้ามา ดวงตาของเขาถูกดึงดูดด้วยทุกสิ่งภายในห้อง

มีแท่นหินวางอยู่ตรงกลาง บนแท่นหินมีเตาเล่นแร่แปรธาตุทองเหลืองโบราณ เปลวไฟสีแดงพวยพุ่งออกมาจากก้นเตาเป็นครั้งคราว

ไท่หนิงเดินตามเข้ามาพร้อมกล่าวอธิบายให้หลินมู่ฟัง “นี่คืออาวุธเวทมนตร์ระดับกลาง ชื่อเตาทองเหลือง แม้จะไม่ใช่เตาที่ดีที่สุดสำหรับการกลั่นยาอายุวัฒนะชั้นเลิศ แต่มันสามารถสร้างเม็ดยาพลังชีวิตได้ ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว”

หลินมู่หันมองเตาทองเหลืองแล้วกล่าวถาม “เช่นนั้นข้าจะควบคุมเปลวไฟใต้แท่นหินนี้ได้อย่างไรหรือขอรับ?”

ไท่หนิงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ฝึกตนระดับต่ำที่สนใจการกลั่นยา เหล่าอาวุโสภายในสำนักใช้พลังยิ่งใหญ่เปิดเส้นทางผ่านชั้นหินดึงเอาไฟใต้พิภพมาไว้ภายใต้แท่นหินเหล่านี้ เมื่อกลั่นยาเพียงใช้พลังวิญญาณควบคุมความแรงของเปลวไฟ ผู้ฝึกตนระดับต่ำก็สามารถกลั่นยาได้แล้ว” เขาจ้องมองเปลวไฟที่กำลังเริงระบำก่อนจะกล่าวต่อไปว่า “แม้ว่าการกลั่นยาจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ทดสอบความอดทนของผู้คนได้ดี หากพลาดเพียงนิดเดียว ยาทั้งหมดในเตาก็จะสูญหายไปในพริบตา”

หลินมู่ยกยิ้ม “ขอบคุณศิษย์พี่ที่กล่าวเตือนข้า”

ไท่หนิงยังคงกล่าวต่อไปอย่างใจดี “เช่นนั้นเจ้าก็สามารถฝึกฝนศาสตร์การปรุงยาได้แล้ว” พูดจบเขาหันหลังเดินออกไป แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันกลับมาเตือนหลินมู่ว่า “ประตูนี้มีกลไกอยู่ด้วย หากกดลงไปเพียงเล็กน้อย ประตูหินจะปิดแน่นหนาจนกระทั่งบุคคลภายนอกไม่สามารถเข้ามารบกวนเจ้าได้”

หลังจากนั้นเขาก็เดินออกไป หลินมู่มาส่งเขาที่หน้าประตูก่อนจะกลับมากดกลไกหินเบา ๆ ประตูหินหนักกว่าพันจินเริ่มปิดตัวลงช้า ๆ ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่สามารถมองเข้ามา หรือเดินเข้ามาได้อีกแล้ว

หลังจากประตูหินปิดลงแล้ว หลินมู่เริ่มสำรวจห้องกลั่นยานี้

ห้องกลั่นยามีเพดานสูง กว้างขวาง ระบายอากาศได้ดี มีเพียงแท่นหินเดียวตั้งอยู่กลางห้อง และไม่มีสิ่งอื่นเพิ่มเติม

หลินมู่เดินไปด้านหน้าและเริ่มจ้องมองโครงสร้างของแท่นหิน และเตาทองเหลืองอย่างถี่ถ้วน

ยิ่งหลินมู่มองมันมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นเท่านั้น แท่นหินนี้ช่างประณีตบรรจงราวกับสร้างจากฝีมือเทพ ฐานเป็นทรงกลม ภายในขังไฟใต้พิภพไว้ ด้านข้างแท่นหินนูนเป็นด้ามจับสีทอง หลินมู่จับด้ามที่ยื่นออกมาก่อนจะอัดฉีดพลังวิญญาณเข้าไปเล็กน้อย เวลานั้นเปลวไฟที่ถูกคุมขังไว้ใต้แท่นหินก็พวยพุ่งออกมา มันแผดเผาเตาทองเหลืองด้านล่างอย่างบ้าคลั่ง

ด้ามจับทรงกลมสีทองถือเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมเปลวไฟ

หลินมู่จดจำได้ดีว่าหากต้องการปรับแต่งยาอายุวัฒนะ เขาจะต้องควบคุมความแรงของเปลวไฟให้ได้เสียก่อน

การควบคุมเปลวไฟถือเป็นส่วนสำคัญที่สุดของกระบวนการเล่นแร่แปรธาตุแล้ว

ก่อนจะทำสิ่งใดให้ดี ต้องเตรียมเครื่องมือให้พร้อม

หลินมู่เริ่มฝึกฝนควบคุมเปลวไฟ เขากระชับด้ามจับสีทองเอาไว้ก่อนจะปรับการอัดฉีดพลังวิญญาณอย่างช้า ๆ เวลานี้ความเข้มข้นของเปลวไฟภายในแท่นหินก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามการกระทำของหลินมู่

เพียงครึ่งวัน หลินมู่ก็สามารถควบคุมเปลวไฟได้ตามต้องการ

เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะขั้นตอนต่อไปคือการกลั่นยาครั้งแรกในชีวิต!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด