ตอนที่ 32: กลยุทธ์เปิดเผยของหวังยวน
ตอนที่ 32: กลยุทธ์เปิดเผยของหวังยวน
“พี่หลิง เพื่อนของน่าสนใจไม่เบานี่”
นอกจุดคืนชีพในเมืองพายุฟ้าคะนอง
เพื่อนของสุ่ยหลิงหลงผู้เป็นสักขีพยานกับกระบวนการทั้งหมดอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
“ค่อนข้างน่าสนใจเลยล่ะ ผู้ชายคนนี้ทั้งกล้าหาญและแข็งแกร่งมาก” สุ่ยหลิงหลงเอ่ยคำ
ในสายตาของเธอนั้นคงบอกได้ว่าหวังยวนเป็นคนที่มีฝีมือและกล้าหาญ
“ไม่ไม่ไม่! เขาไม่ใช่แค่แข็งแกร่ง แต่ยังเป็นผู้ชายที่ฉลาดมากด้วย!” ผู้เล่นสวมชุดนักบวชเอ่ยคำอย่างสงบขณะลูบคาง
“ใช่เหรอ? คนอย่างเขามีสมองจริงเหรอเนี่ย?” สุ่ยหลิงหลงค่อนข้างประหลาดใจ
"อื้ม!"
นักบวชพยักหน้าแล้วเอ่ยคำ "คุณไม่ได้สังเกตหรือว่าสมาคมมังกรดำกำลังเต้นไปตามจังหวะของเขา? ผู้ชายคนนี้กำลังใช้กลยุทธ์เปิดเผยอย่างชาญฉลาด"
“กลยุทธ์เปิดเผยเหรอ? หมายความว่าไง?”
“เห็นได้ชัดว่ามันคือการวางกับดักให้เขาเดินเข้าไปเหยียบ แต่เขาก็ยังเข้าไปติดกับเสียอย่างนั้น… ไม่ใช่สิพี่หลิง คุณไปพบเจอสหายมากปัญญาขนาดนี้ได้ยังไง?”
“ว่ากันว่าคนประเภทเดียวกันมักรวมอยู่ด้วยกันไม่ใช่เหรอ? ในเมื่อฉันเป็นคนฉลาด จึงเป็นธรรมดาที่จะพบเจอกับคนฉลาด” สุ่ยหลิงหลงเอ่ยคำ “ช่างเรื่องนั้นก่อน ทำไมเขาต้องไปติดกับดักด้วย?”
“…”
นักบวชพูดอะไรไม่ออกก่อนจะเอ่ยคำ "คุณไม่รู้เหรอว่าเกิดอะไรขึ้น? เพราะรู้ว่าตัวเองเอาชนะทุกคนในสมาคมมังกรดำไม่ได้ก็เลยขานชื่อมังกรท่องโลกแล้วลงมือฆ่าเพื่อสร้างอำนาจให้ตัวเอง คุณคิดว่าด้วยสถานะของมังกรท่องโลก เขาจะยังไปไหนได้? ทันทีที่เขาออกมา เพื่อนของคุณก็จะตามติดอยู่ไม่ห่าง”
“อ๋อเหรอ...” หัวของสุ่ยหลิงหลงเริ่มมีกลุ่มควัน
หลังจากนิ่งไปพักใหญ่ ในที่สุดก็เข้าใจว่าที่นักบวชพูดมันหมายความว่ายังไง
ใช่แล้ว สมาคมมังกรดำมีสมาชิกมากกว่าสองพันคน ทุกคนต่างเป็นผู้เล่นมากประสบการณ์ที่มีเลเวลมากกว่าสิบห้า
หวังยวนเป็นเพียงเนโครแมนเซอร์เลเวลสิบ ไม่ว่าความสามารถในการควบคุมโครงกระดูกจะแข็งแกร่งแค่ไหน ไม่ว่าคุณสมบัติของทหารโครงกระดูกจะสูงส่งเพียงใด แต่ถ้าเผชิญกับกลยุทธ์คลื่นมนุษย์มากกว่าสองพันคนย่อมถึงแก่ความตายแน่นอน
ดังนั้นหวังยวนฉลาดพอที่จะสับเปลี่ยนแนวคิดด้วยการยื่นคำท้ามังกรท่องโลกผ่านเว็บบอร์ด
มังกรท่องโลกคือประธานกิลด์ขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองพายุฟ้าคะนอง หากมีคนมาท้าก็ต้องรับสู้กลับเป็นธรรมดา
ทันทีที่รับคำท้า เรื่องผู้เล่นของสมาคมมังกรดำมากกว่าสองพันคนก็กลายเป็นเรื่องของเขาเพียงผู้เดียว ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะถูกหวังยวนถูไถไปกับพื้น
การดักรอจุดคืนชีพของหวังยวนก็เช่นเดียวกัน
อาจกล่าวได้ว่าทันทีที่หวังยวนขานชื่อ ทุกย่างก้าวของมังกรท่องโลกก็อยู่ภายในการคำนวณของหวังยวนหมดแล้ว
สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าคือมังกรท่องโลกเข้าใจตรรกะที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เช่นกัน กระนั้นก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเคลื่อนไหวตามการคำนวณของหวังยวนพร้อมกับขยับทุกย่างก้าวโดยมีหวังยวนชี้นำ
กลยุทธ์เปิดเผยหมายถึงอะไร? มันหมายถึงการบอกจุดประสงค์ของตัวเองให้คุณทราบ ซึ่งคุณไม่สามารถปฏิเสธได้ แม้แต่ตอนคุณเล่นไพ่ คุณก็ต้องเล่นตามเกมของฉัน
“ไอ้หยา ตอนนี้เริ่มมีเรื่องฉันไม่เข้าใจแล้วสิ”
นักบวชเผยสีหน้าสับสนเมื่อเห็นสุ่ยหลิงหลงกลับมามีสติ
“หา? ทำไมถึงไม่เข้าใจล่ะ?”
“ระยะห่างที่เนโครแมนเซอร์สามารถควบคุมเด็กน้อยได้มีจำกัด แล้วทำไมถึงไม่มีใครสามารถหาตำแหน่งเขาได้เลยล่ะ?” นักบวชลูบคางพลางขมวดคิ้ว
“ใครจะรู้...” สุ่ยหลิงหลงส่ายหน้า ทันใดนั้นเธอจึงตระหนักได้ว่าไม่ได้เข้าใจหวังยวนเป็นอย่างดีเช่นกัน
แน่นอนว่าเหตุผลที่พวกสุ่ยหลิงหลงไม่เข้าใจเป็นเพราะหวังยวนไม่ใช่เนโครแมนเซอร์ธรรมดา
ตามการตั้งค่าระบบ เนโครแมนเซอร์มีพื้นที่อันเดดเป็นของตัวเอง ซึ่งสามารถรองรับอันเดดที่ถูกอัญเชิญมาได้ ด้วยตัวตนของพื้นที่อันเดดจึงทำให้เนโครแมนเซอร์ควบคุมอันเดดได้ในระยะราว 20 เมตร โดยระยะดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นตามการพัฒนาของเนโครแมนเซอร์ ยิ่งเลเวลสูงเท่าไหร่ ระยะก็จะยิ่งมากตามไปด้วย
ทว่าหวังยวนครอบครองวัตถุศักดิ์สิทธิ์อย่าง "หนังสือประวัติศาสตร์วีรชน" ไว้ในมือ ทำให้อันเดดที่เขาอัญเชิญมามีสุสานแยกจากกัน ขอเพียงเปลวเพลิงวิญญาณไม่ถูกพรากไปก็สามารถคืนชีพได้อย่างไร้ขีดจำกัด ดังนั้นในอีกแง่หนึ่ง อันเดดที่ถูกอัญเชิญโดยหวังยวนจึงเทียบเท่ากับผู้เล่นที่กำลังใช้ชีวิต ขอเพียงรักษาการเชื่อมโยงวิญญาณกับหวังยวนเท่านั้นก็จะไม่ถูกผูกมัดโดยพื้นที่อันเดดแล้ว
ตามทฤษฎีแล้ว ตราบที่หวังยวนเต็มใจ อันเดดของเขาย่อมสามารถปรากฏได้ทุกหนแห่ง
ดังนั้น หวังยวนเพียงต้องซ่อนตัวในที่ปลอดภัยเพื่อสั่งให้โครงกระดูกปรากฏตัวในตำแหน่งใดก็ได้
แน่นอนว่าผู้เล่นของสมาคมมังกรดำไม่สามารถหาตัวเขาได้
…
“นึกไม่ถึงว่าลูกพี่ของพวกคุณจะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้…”
หม่าซานเอ๋อร์ผู้อยู่บนหลังคาโบสถ์กำลังสนทนากับแซ่ไป๋ทั้งสอง
หลังจากได้เห็นวิธีการของหวังยวน หม่าซานเอ๋อร์จึงบังเกิดความเชื่อมั่น
เขาไม่เคยคาดหวังว่าหวังยวนกับทหารเพียงสามคนจะสามารถทำให้กิลด์ขนาดใหญ่ปั่นป่วนได้ แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่กล้าออกไปข้างนอกด้วยซ้ำ
“เหลวไหลน่า พูดเหมือนกับพี่หนิวไม่ใช่ลูกพี่ของคุณอย่างงั้นแหละ จับตาดูจุดคืนชีพเอาไว้ว่ามีคนจากสมาคมมังกรดำออกมาเดินถนนหรือเปล่า” เสี่ยวไป๋ตอบกลับอย่างเดือดดาล
พวกเขาล้วนเป็นนักรบที่แท้จริงและรู้ถึงความสำคัญของการมีผู้บัญชาการดีในการทำสงคราม หลังจากประสบกับการต่อสู้ครั้งนี้ เสี่ยวไป๋จึงยิ่งมั่นใจในหวังยวนมากขึ้น มันไม่ใช่เพียงเพราะหวังยวนทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะมีพรสวรรค์อย่างแท้จริงในการบังคับบัญชาการต่อสู้
อาศัยประโยชน์จากกฎเกณฑ์ วางตัวเองเป็นศูนย์กลาง ใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อควบคุมกิลด์ขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกมากกว่าสองพันคนให้อยู่ในกำมือได้
อย่าว่าแต่ยุคการเล่นเกมก่อนเข้าสู่วันสิ้นโลกเลย แม้แต่วันสิ้นโลกในอีกหนึ่งร้อยยี่สิบปีต่อมา กลยุทธ์ของหวังยวนก็อยู่ในระดับสูงสุด
พวกเขาล้วนเป็นคนที่กลับมาจากวันสิ้นโลก ทุกคนจึงรับรู้ความแข็งแกร่งเป็นอย่างดี
ก่อนหน้านี้ตอนหวังยวนให้อุปกรณ์สวมใส่ด้วยตัวเอง เสี่ยวไป๋เพียงยอมรับหวังยวนในทางวัตถุเท่านั้น แต่หลังจากร่วมมือกันในตอนนี้ เสี่ยวไป๋กล้าพูดได้เต็มปากว่ายอมรับหวังยวนไปถึงระดับวิญญาณ
อย่าได้ดูถูกผู้เล่นในยุคที่สงบสุขเช่นนี้อีกเป็นอันขาด
"ใช่ใช่ใช่!"
หม่าซานเอ๋อร์หงุดหงิดกับการวิพากษ์วิจารณ์ของเสี่ยวไป๋ ทำให้ไม่มีทางเลือกนอกจากใช้ตาเหยี่ยวเพื่อมองรอบข้าง
หลังจากหันมองรอบข้างก็พบคนผู้หนึ่งเสื้อคลุมสีเทากำลังเดินอยู่บนถนนการค้า
“ฝั่งอาจารย์ซ่ง!! ถนนการค้าหมายเลข 115”
"เห็นแล้วเห็นแล้ว!" ต้าไป๋รีบหันอย่างรวดเร็วหลังจากได้รับคำสั่ง
ผู้เล่นจากสมาคมมังกรดำคนหนึ่งกำลังเดินมาทางเขา
ผู้เล่นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเห็นต้าไป๋อยู่บนถนน "ฮิฮิ! เป็นเนโครแมนเซอร์จริงด้วย อย่ามัวแต่หลบซ่อน ออกมาเดี๋ยวนี้ ฉันเคยเห็นอันเดดของแกมาแล้ว"
หากหวังยวนอยู่บนถนนก็จะต้องตำได้อย่างแน่นอน คนผู้นี้คือเนโครแมนเซอร์ที่เห็นตอนไปอัญเชิญโครงกระดูกใต้กำแพงเมืองก่อนหน้านั้น อีกทั้งยังเป็นคนที่อ้างว่าเป็นเนโครแมนเซอร์อันดับหนึ่งในเซิร์ฟเวอร์
ชื่อของคนผู้นี้คือ "อย่ารบกวนถ้าไม่มีเรื่องเร่งด่วน" นอกจากจะเป็นรองประธานของสมาคมมังกรดำแล้ว ยังเป็นพี่ชายทางสายเลือดของมังกรท่องโลกอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นผู้ชื่นชอบการเก็บเลเวลเป็นชีวิตจิตใจ… เขาเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่เลเวล 22 ในเกมตอนนี้ อีกทั้งยังถูกจัดอันดับหนึ่งในระดับของคนที่โหดเหี้ยมที่สุดอีกด้วย
ปกติแล้วชายผู้นี้สนใจเพียงการเก็บเลเวลเท่านั้น หากไม่ใช่เพราะมังกรท่องโลกบอกว่ามีเนโครแมนเซอร์โคตรโหด อย่าหวังเลยว่าจะโผล่หน้าออกมา
ตอนนี้เมื่อเห็นโครงกระดูกสีดำอยู่ตรงหน้า อย่ารบกวนถ้าไม่มีเรื่องเร่งด่วนก็เดือดดาลขึ้นมา
เห็นได้ชัดว่าโครงกระดูกสีดำเป็นเพียงทหารโครงกระดูกระดับสอง
เนโครแมนเซอร์โคตรโหดอะไรกัน มังกรท่องโลกคนนี้ทำตัวงี่เง่าจนถึงขั้นกุเรื่องเหลวไหลขึ้นมาเหรอ?
“…”
สายลมพัดไปตามถนนจนใบไม้กลิ้งไปมา
ไม่มีคำตอบ ไม่มีใครปรากฏตัว มีเพียงโครงกระดูกสีดำยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน ทั้งสองมองหน้ากันที่ฝั่งตรงข้ามถนน
โครงกระดูกค่อยยกมือซ้ายที่ว่างเปล่าขึ้น จากนั้นชูนิ้วกลางใส่อย่ารบกวนถ้าไม่มีเรื่องเร่งด่วน