เจ้าหน้าที่หมายเลข 78 [ฟรี]
ตอนที่ 78
หนึ่งต่อห้าไม่ถือว่ารุม!
แสงที่ดับมืดลงอย่างกะทันหันทำให้ลีออนมีเวลาในการหลบหนีมากขึ้น เพราะถึงอย่างไรแล้วสิ่งนี้มันก็อยู่ในแผนการของเขา
แต่ใครจะคิดว่ามันจะมีบางอย่างผิดพลาดในแผนการซะงั้น . . .
ตามแผนเดิมอุปกรณ์ทรงสี่เหลี่ยมหรือ EMP ที่เขาได้วางเอาไว้ในห้องควบคุมหลักมันจะเกิดการระเบิดขึ้นหลังจากที่เขาขึ้นลิฟต์ไปถึงด้านบนเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งถ้าหากเป็นในกรณีนั้นเขาสามารถใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่ศูนย์วิจัยใต้ดินตกอยู่ในความมืดในการหลบหนีจากศัตรูได้อย่างง่ายดาย และไม่มีความเสี่ยง
แต่ตอนนี้ผลที่ได้มากับเป็นการที่ระเบิดมันดันระเบิดก่อนเวลาอันควรทำให้ลีออนติดอยู่ในลิฟต์
"คนอะไรมันจะซวยขนาดนี้ . . . "
แน่นอนว่าลีออนไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก
แผนการที่สมบูรณ์แบบนอกเหนือจากแผนการเดิมแล้วมันจะต้องมีแผน B สำรองเอาไว้เสมอ!
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดตรงหน้าที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เขาจะต้องมีความเป็นมืออาชีพในฐานะเจ้าหน้าที่ชั้นยอด
ภายใต้ความมืดลีออนเงยหน้าขึ้นไปด้านบนและใช้มือแกะผนังลิฟต์ด้านบนออกพร้อมกับโยนอดาแมนเทียมขึ้นไปไว้ด้านบนก่อน จากนั้นก็ใช้มือจับที่ปลายด้านข้างทั้งสองข้างของผนังลิฟต์ปีนขึ้นไปด้านบนของลิฟต์
ในปล่องลิฟต์ที่มืดมิดสามารถได้ยินเสียงการสั่นไหวของอากาศได้อย่างชัดเจนและความรู้สึกร้อนอบอาบที่แทรกซึมเข้าไปในผิวหนัง
ลีออนเงยหน้าขึ้นไปมองทางด้านบนและพบว่าระยะห่างระหว่างตัวเองกับประตูลิฟต์นั้นห่างอยู่ประมาณสิบเมตรเห็นจะได้
นั่นน่าจะเป็นทางออกที่พาเขาไปสู่พื้นดินได้ . . .
แต่เขาจะขึ้นไปที่นั่นได้ยังไง?!
เมื่อเอื้อมมือไปแตะที่เชือกโลหะของลิฟต์ด้านข้าง ทันใดนั้นมันก็มีความคิดกล้าหาญหนึ่งปรากฏขึ้นในใจของลีออน
ปีนขึ้นไป!
เพราะถึงอย่างไรแล้วผิวของเขาก็สามารถป้องกันการโจมตีของกระสุนได้ ทำให้โดยธรรมชาติมันย่อมสามารถป้องกันมือของเขาจากการเสียดสีของเชือกได้อย่างไม่มีปัญหา
ตอนนี้เวลาเริ่มไม่คอยท่าแล้ว ถึงแม้ว่า Emp จะสามารถถ่วงเวลาศัตรูได้ช่วงเวลาหนึ่ง แต่มันก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าศัตรูจะไม่มีวิธีอื่นในการติดต่อกับพวกยามที่อยู่บนพื้นดิน
ในเมื่อตอนนี้ได้วิธีแก้ปัญหาแล้วต่อไปก็เหลือแค่ลองเท่านั้น!
ลีออนไม่กล้าถอดชุดกาวน์ของเขาออก และเปลี่ยนเป็นถอดเนคไทออกมาพันรอบอดาแมนเทียมและพันกับเอวของเขาเอาไว้แทน
หลังจากเตรียมการอะไรพร้อมเสร็จเรียบร้อยลีออนก็สูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ มือเอื้อมไปจับเชือกที่ทำมาจากเหล็กอย่างแน่นหนาและใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายทั้งหมดจดจ่ออยู่ที่แขนทั้งสองข้างและเริ่มปีนขึ้นไป!
การปีนเชือกนั้นถือว่าเป็นทักษะพื้นฐานของหน่วยรบพิเศษซึ่งมันไม่มีอะไรสำหรับลีออนเลย
ลีออนไข้วขาทั้งสองข้างรอบเชือกและออกแรงดึงที่มือทั้งสองข้างส่งร่างของตัวเองขึ้นไปสูงเกือบครึ่งเมตร หลังจากนั้นลีออนก็เริ่มเร่งความเร็วขึ้นจนถึงมาหน้าประตูลิฟต์ที่สูงกว่าสิบเมตรโดยใช้เวลาเพียงแค่สิบวินาทีเท่านั้น
เมื่อมองลงไปด้านล่างที่มีความสูงมากกว่าสิบเมตรลีออนก็หน้าซีดด้วยความกลัวเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามเขายังมีหน้าที่สำคัญมากกว่ามากลัวความสูงในตอนนี้นั่นก็คือการหลบหนีออกจากศูนย์วิจัยใต้ดินและกลับสู่พื้นดินด้านบน ซึ่งตอนนี้มันกำลังถูกคั่นด้วยประตูลิฟต์ตรงหน้าของเขาเท่านั้น!
ลีออนพันขาของตัวเองเข้ากับเชือกอย่างแนบแน่นเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองตกลงไปด้านล่าง ก่อนที่จะปล่อยมือออกจากเชือกใช้มือแง้มประตูลิฟต์ด้วยพละกำลังทั้งหมดของเข
"เปิด … ให้ฉันซะ!!"
ประตูลิฟต์ที่ถูกปิดอย่างแน่นหนาในตอนแรกค่อย ๆ ถูกเปิดออกด้วยมือเปล่าของลีออนพร้อมกับเสียงของเหล็กที่ถูกเสียดสีอย่างรุนแรง
หลังจากเปิดประตูลิฟต์ออกจนมีช่องว่างให้คนสามารถผ่านไปได้ ลีออนก็ใช้มือคว้าจับไปที่เชือกทั้งสองข้างและกระโดดพุ่งตัวทันที!
เมื่อลอดตัวผ่านช่องประตูลิฟต์สำเร็จลีออนก็ยืนขึ้นบนพื้นอย่างปลอดภัย
ในที่สุดเขาก็หนีออกมาได้สักที!
ลีออนรีบวิ่งออกจากโรงงานอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันทางฝั่งของศูนย์วิจัยใต้ดินที่อยู่ลึกลงไปมากกว่าสิบเมตร . . . ดร.ลิซท์ในตอนนี้กำลังมีสีหน้ามืดมนเขายืมไฟฉายจากยามที่ยืนอยู่หน้าประตูพื้นที่จัดเก็บและมองไปที่แผงวงจรที่มีเอาไว้สำหรับใส่รหัสผ่านที่เสียหาย ก่อนที่จะหันไปถามกับยามที่ยืนอยู่ด้านข้างว่า "ไฟสำรองยังทำงานอยู่หรือเปล่า?"
"ท่านครับ ตอนนี้ระบบเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดของเราถูกทำลาย และจะต้องใช้เวลาอีกสักพักหนึ่งระบบต่าง ๆ ถึงจะกลับมาทำงานได้ตามปกติอีกครั้งครับ . . . " ยามตอบ
"บอกฉันมาว่าเราเสียอะไรไปบ้าง"
"นอกจากฮาร์ดดิสก์ที่เก็บข้อมูลการวิจัยทั้งหมดแล้ว อดาแมนเทียมสีดำที่อยู่ในพื้นที่จัดเก็บก็หายไปเช่นกันครับ . . . "
ปัง!
เมื่อได้ยินข่าวร้ายดร.ลิซท์ก็เอามือต่อยกำแพงด้วยความโกรธ "ไอ้สารเลวอังเดร!! ฉันเชื่อใจแกมากไป . . . "
เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้เขาชื่อว่ามันคงไม่ใช่ฝีมือใครนอกซะจากชายชาวสเปนที่ชื่อว่า ‘อังเดร เอลส์’
ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ลีออนไม่ได้ยกเลิกการปลอมตัวของเขา และดำเนินแผนการทั้งหมดภายใต้ชื่อของอังเดร เอลส์
เพราะเขารู้ว่าเมื่อตัวตนของเขาถูกเปิดเผยเมื่อไหร่ไฮดราจะต้องตามหาตัวตนที่แท้จริงของเขาเจออย่างแน่นอน
การลงมือของเขาในครั้งนี้มันจะต้องเป็นระเบิดลูกใหญ่สำหรับไฮดราอย่างแน่นอน และมันคงจะมีการเคลื่อนไหวตามมาในอนาคต
ดังนั้นถึงแม้ว่าการปลอมตัวตลอดเวลามันจะลำบากเล็กน้อย แต่ลีออนก็ไม่ได้ถอดวิกหรือเคราที่เขาใส่มาเป็นเวลาหนึ่งเดือนออก
หลังจากผ่านไปไม่นานแหล่งจ่ายไฟสำรองก็กลับมาทำงาน ทำให้ศูนย์วิจัยใต้ดินทั้งหมดกลับมาสว่างไสวอีกครั้ง
ในขณะเดียวกันนักวิจัยของไฮดราก็เดินเข้ามาถามกับดร.ลิซท์ว่า "ท่านครับ ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรต่อดีครับ?"
ดร.ลิซท์คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะหันไปพูดกับหัวหน้ายามที่ยืนอยู่ด้านข้างว่า "แจ้งผู้บังคับบัญชาของคุณให้ส่งตัวทดลองออกไปไล่ล่ามันซะ!"
ขณะที่พูดสีหน้าของดร.ลิซท์ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นดุร้ายมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่เขาจะกัดฟันและตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธว่า "ตามหาตัวมันให้เจอ! นำข้อมูลการวิจัยทั้งหมดและอดาแมนเที่ยมกลับมาให้ฉันให้ได้!"
"ครับ!!"
ยามที่ได้ยินคำสั่งก็รีบแจ้งผู้รับผิดชอบโครงการ ‘XR75’ ซึ่งก็คือผู้บริหารระดับสูงของบริษัทร็อกซอน โคล เคลย์สัน
หลังจากได้รับข่าวร้ายดังกล่าวโคลก็เกือบจะหมดสติลงกับพื้นพร้อมกับโทรศัพท์ในมือของเขา
โชคยังดีที่เขายังสามาถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อยู่
การแก้ปัญหาบางครั้งการใช้ความโกรธมันไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง
โคลรีบแจ้งคนของเขาทันทีและทำตามคำแนะนำของดร.ลิซท์ส่งทหารไซบอร์กห้าคนที่รอดชีวิตจากโครงการ ‘XR75’ ออกจากศูนย์วิจัยใต้ดินไปยังสถานที่ปลอดภัย
ตัวทดลองพวกนี้แต่ละคนมีชิ้นส่วนที่ทำมาจากโลหะคาร์โบนาเดียมประกอบเข้ากับร่างกายของพวกเขา ซึ่งเดิมทีพวกเขาเป็นทหารชั้นยอดที่เกษียณอายุเนื่องจากอาการบาดเจ็บและความพิการ หลังจากได้รับแขนขากลสุดไฮเทคมันก็ทำให้สมรรถภาพทางร่างกายและความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว!
โดยเฉพาะแขนขากลคาร์โบนาเดียมที่สามาถใช้บดขยี้วัตถุทั้งหมดที่ขวางหน้าพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
‘อาวุธสังหาร’ เหล่านี้สามารถไล่ล่าและฆ่าโจรที่ขโมยข้อมูลการวิจัยได้อย่างง่ายดายอย่างแน่นอน ส่วนที่เหลือมันก็เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น . . .
ในขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งทางฝั่งของลีออนหลังจากหลบหนีออกมาจากเขตอุสาหกรรมได้เรียบร้อยเขาก็รีบวิ่งที่ไปถนนที่มีผู้คนพลุกพล่านและพยายามซ่อนตัวไปกับฝูงชน
แต่ถึงอย่างนั้นหลังจากผ่านไปไม่นานลีออนที่เพิ่งรอดตัวจากการไล่ล่าของศัตรูและพยายามซ่อนตัวอยู่ในจัตุรัสเมืองที่ใหญ่ที่สุดของบูคาเรสต์ - ยูเนียนสแควร์ ตอนนี้ด้านหน้าของเขากำลังถูกจ้องมองด้วยคนห้าคนที่ถูกส่งมาจากร็อกซอน
เมื่อมองไปที่ศัตรูทั้งห้าคนที่ยืนเรียงกันเป็นครึ่งวงกลมและพยายามปิดล้อมเขาเอาไว้ ลีออนก็ดึงเข็มขัดกางเกงให้แน่นขึ้นสูดลมหายใจเข้าปอดและพูดขึ้นมาด้วยความเยาะเย้ยว่า "ห้าคน? ห้าคนมันเอาฉันไม่อยู่หรอก อย่างน้อยมันต้องหนึ่งโหลไอ้น้อง!"
โปรดติดตามตอนต่อไป …