บทที่ 192: ยิ่งพวกเขามาเร็วเท่าใด พวกเขาก็ยิ่งตายเร็วขึ้นเท่านั้น!
[แปลโดยแฟนเพจ BamแปลNiyay มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[ลงแบบราคาถูกแค่ใน my-novel แต่จะลงช้ากว่าThai-novel 100 ตอน]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนจะไม่มีการกลับมาแก้ให้นะครับ]
บทที่ 192: ยิ่งพวกเขามาเร็วเท่าใด พวกเขาก็ยิ่งตายเร็วขึ้นเท่านั้น!
เขาช่างอวดดีเกินไป!
ทระนงตนเกินไปแล้ว!
ตัวแทนของอาณาจักรหยานตัวสั่นด้วยความโกรธ!
ทั้งที่อยู่มานานขนาดนี้ แต่พวกเขาไม่เคยเห็นผู้ใดเย่อหยิ่งเช่นนี้มาก่อนเลย!
ตัวคนเดียวกลับกล้าท้าทายสี่คน ดูก็รู้ว่ามันผู้นี้ขาดความเคารพต่อผู้อื่นมากเพียงใด!
กระทั่งจักรพรรดินีแห่งอาณาจักรอู๋ เสนาบดีพลเรือนและทหารต่างก็รู้สึกว่าหลินเป่ยฟานทำเกินไป
“ท่านหลิน คำพูดของท่านมันเกินไปแล้ว รีบขอโทษตัวแทนของฝ่ายอาณาจักรหยานเถิด!” จักรพรรดินีรีบกล่าว
หลินเป่ยฟานเองก็รู้สึกเสียใจยิ่ง “ฝ่าบาท กระหม่อมแค่พูดสิ่งที่คิดในใจ มันผิดตรงไหนกัน? ทักษะการเล่นหมากของอาณาจักรหยานนั้นอ่อนด้อยยิ่ง ทุกท่านต่างก็ประจักษ์กันแล้ว ข้าทั้งจิบชา กินขนมและอ่านหนังสือ แต่กลับเอาชนะบัณฑิตถังได้อย่างง่ายดาย! ถ้าไม่ใช่เพราะการเดินหมากอันเชื่องช้าและความดื้อรั้นของเขา กระหม่อมคงจบการแข่งขันนี้ไปนานแล้ว!”
ถังหยง "บัดซบเถอะ!"
“ว่ากันว่า ถังหยงเป็นผู้เล่นหมากที่เก่งกาจที่สุดในทีมตัวแทนของอาณาจักรหยานแล้ว! ถ้าแม้แต่คนอย่างเขาก็ไม่อาจทัดเทียม แล้วหากสู้ต่อไปจะมีประโยชน์อะไร? ใช้จำนวนเข้าสู้หรือไงกัน?”
ทางฝั่งทีมของอาณาจักรหยาน: "บัดซบเถอะ!"
“ฝ่าบาท ยังเหลือการแข่งขันอีกสี่รอบนะพ่ะย่ะค่ะ!”
ดวงตาของหลินเป่ยฟานเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความสิ้นหวัง
“แต่ละรอบใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง สี่รอบก็ต้องใช้เวลาสี่ชั่วโมง! แค่คิดว่าต้องใช้เวลากว่าสี่ชั่วโมงหยอกล้อกับพวกเขา ก็ทำให้กระหม่อมอยากตายแล้ว!”
ทางฝั่งทีมของอาณาจักรหยาน: "บัดซบเถอะ!"
“มีคำกล่าวว่าเวลาคือเงินทอง เวลาคือชีวิต! การเสียเวลาไปย่อมหมายถึงข้าต้องเสียเงิน ต้องเสียเวลาชีวิตของข้า ดังนั้นข้าจึงไม่อาจทนได้อีกต่อไป!”
หลินเป่ยฟานโค้งคำนับและกล่าวต่อว่า “กระหม่อมร้องขออย่างนอบน้อมฝ่าบาท ได้โปรดพิจารณาด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
“นี่มันมากเกินไปแล้ว!!!” ในที่สุด องค์ชายสามของอาณาจักรหยานก็ลุกขึ้นยืนและกล่าวด้วยความโกรธว่า “ท่านหลิน ท่านดูถูกผู้เล่นหมากของอาณาจักรหยานมากเกินไป เหมือนดั่งงูที่พยายามจะเขย่าต้นไม้ ท่านไม่รู้เลยว่าท่านกำลังทำสิ่งใดอยู่! หากเป็นเช่นนั้น ข้า องค์ชายผู้นี้จะทำตามความปรารถนาของท่านเอง!”
เมื่อพูดเช่นนั้น เขาก็ประสานมือและพูดกับจักรพรรดินีเสียงดังว่า “จักรพรรดินีแห่งอาณาจักรอู๋ ได้โปรดทำตามความปรารถนาของเขาและให้เราแข่งขันกับหลินเป่ยฟานด้วยเถอะ!”
“องค์จักรพรรดินีแห่งอาณาจักรอู๋ ได้โปรดเติมเต็มความปรารถนาของเขา เถิดพ่ะย่ะค่ะ!” ตัวแทนของอาณาจักรหยานต่างกล่าวอย่างพร้อมเพรียงกัน
จักรพรรดินีเริ่มรู้สึกลังเล "นี่มัน..."
เจ้ากรมพิธีการเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าและแนะนำว่า “ฝ่าบาท ท่านผู้อำนวยการใหญ่หลินยังหนุ่มและหุนหันพลันแล่น อย่าสนใจเขาเลยพ่ะย่ะค่ะ! เป็นการดีกว่าที่เราจะทำตามแผนเดิม! ได้โปรดทวนพระทัยเถิดฝ่าบาท!”
เหล่าเสนาบดีพลเรือนและทหารต่างกล่าวพร้อมเพรียงกัน "ได้โปรดทวนพระทัยเถิดฝ่าบาท!”
หลินเป่ยฟานจึงกล่าวไปว่า “ท่านจ้าวและท่านเสนาบดีทั้งหลาย ตัวข้าไม่ได้หุนหันพลันแล่นไป ข้านั้นมีสติครบถ้วน!”
เสนาบดีกรมพิธีจึงตำหนิทันทีว่า “หุบปากเสีย! หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว!
จักรพรรดินีเริ่มลังเล
พูดตามตรง นางเอนเอียงไปทางฝั่งค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า เพราะมันมีโอกาสสำเร็จกว่าการหุนหันพลันแล่นเช่นนี้
แต่เรื่องความรู้สึกของหลินเป่ยฟานก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังดูผ่อนคลายมาก แสดงให้เห็นเลยว่าเขายังไม่ได้ใช้ฝีมือทั้งหมดที่มา การที่เขากล่าวร้องขอเช่นนี้ย่อมไม่ใช่การขอลอย ๆ เป็นแน่
“ท่านหลิน ท่านมั่นใจแค่ไหน?” จักรพรรดินีเอ่ยถาม
“ฝ่าบาท ท่านกำลังถามผิดคน ท่านควรถามพวกเขาต่างหากพ่ะย่ะค่ะ!” หลินเป่ยฟานชี้ไปยังกลุ่มตัวแทนอาณาจักรหยานผู้ยิ่งใหญ่
"ถามพวกเขางั้นหรือ?" จักรพรรดินีพลันรู้สึกสับสนมาก
“ฝ่าบาท มันไม่ใช่เรื่องของความมั่นใจ แต่เป็นเรื่องของความเร็ว!” หลินเป่ยฟานยิ้มเจ้าเล่ห์ "มีคำกล่าวที่ว่ายิ่งเร็วเท่าใด ก็ยิ่งตายเร็วขึ้นเท่านั้น!"
ทางฝั่งอาณาจักรหยาน "บัดซบเถอะ!"
“แสดงว่าถังหยงคงมีชีวิตอยู่นานเป็นแน่ เพราะเขาทำอะไรก็ช้าไปหมด!”
ถังหยง "บ้าอะไรกันวะ..."
มันเยาะเย้ยข้าอีกแล้ว!
จักรพรรดินีเองก็พูดไม่ออก!
ปากของชายผู้นี้มีแต่พิษมากเกินไปแล้ว ถึงขั้นทำให้กลุ่มตัวแทนของอาณาจักรหยานโกรธด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ!
จักรพรรดินีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและรู้สึกว่ามันอาจคุ้มค่าที่จะลอง
“การแข่งขันเช่นนี้มันถือว่าไม่เป็นไปตามกฎ!”
“แต่ในเมื่อทั้งสองฝ่ายเต็มใจ มันก็คงไม่ถูกต้องหากปฏิเสธความตั้งใจของพวกท่าน! คิดเสียว่าเป็นการแข่งขันเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรแล้วกัน ผลลัพธ์จักเป็นเช่นไรย่อมไม่ได้ส่งผลต่ออะไรนัก! หลังจากการแข่งขันเชื่อมความสัมพันธ์นี้จบลง การแข่งขันจะดำเนินต่อไป! หากท่านหลินพ่ายแพ้ เขาจะขอโทษฝ่ายอาณาจักรหยานทันที! ถ้าเขาชนะก็ไม่จำเป็นต้องทำสิ่งใด!”
นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่นางคิดได้ ซึ่งจะทำให้ผลของการแข่งขันนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวม
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!” ทุกคนต่างพึงพอใจ
ดังนั้นกระดานหมากรุกห้ากระดานจึงถูกตั้งขึ้นมา หลินเป่ยฟานต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ห้าคนพร้อมกัน
นอกสนามมีกระดานหมากรุกขนาดใหญ่ห้ากระดานตั้งอยู่ด้วย
"มันเกิดอะไรขึ้นกัน? ทำไมถึงมีกระดานหมากรุกอีกสี่กระดานเล่า?”
“พวกเขาควรจะเล่นไปแบบทีละรอบไม่ใช่หรือ?”
…
หลังจากคำอธิบายอย่างเป็นทางการได้ออกมา ทุกคนต่างก็เข้าใจและตื่นเต้นมากขึ้นสำหรับการแข่งขันครั้งนี้
หลินเป่ยฟานยืนอยู่หน้ากระดานหมากรุกทั้งห้าและเผยยิ้มออกมา “ข้าเสนอการแข่งขันเช่นนี้ไปและอาจกล่าวข้ามเส้นไปบ้าง แต่ได้โปรดไม่ต้องรั้งมือ เชิญพวกท่านขยับหมากได้เลย!”
"ฮึ่ม!" ฝ่ายอาณาจักรหยานไม่ได้คิดยั้งมือเลยสักนิด พวกเขาเคลื่อนไหวหมากทันที
การขยับหมากของแต่ละคนอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกัน ส่งผลให้เส้นทางหมากทุกคนล้วนแตกต่าง สร้างความยากให้หลินเป่ยฟานมากยิ่งขึ้นไปอีก
ทว่าหลินเป่ยฟานยังคงสงบนิ่ง ถือชิ้นส่วนสีขาวและเคลื่อนไหวไปในแต่ละกระดาน
“การเล่นหมากรุกไม่ใช่การละเล่นของเด็ก ผู้อำนวยการใหญ่หลินกำลังท้าทายคู่ต่อสู้ทั้งห้าคนจริงหรือ?”
“ถูกต้องแล้ว หมากรุกไม่ใช่สิ่งที่ง่ายเลย มันต้องใช้ความคิดเป็นอย่างมาก! หากต้องเล่นกระดานเพิ่มอีกหนึ่งกระดาน มันก็ต้องใช้ความคิดและพลังใจเป็นสองเท่า! ตอนนี้มีกระดานเพิ่มอีกสี่กระดาน ความยากก็เพิ่มขึ้นมากกว่าสี่เท่า!”
“ข้าเกรงว่าครานี้คงเป็นเขาแน่ที่ถูกบดขยี้!”
“ขอบคุณพระเจ้าที่มันเป็นการแข่งขันเชื่อมความสัมพันธ์ ไม่อย่างนั้นข้าคงจะด่าเขาจริง ๆ แล้ว!”
“แต่ถ้าเขาชนะทั้งหมด เขาคงจะสร้างประวัติศาสตร์และกลายเป็นอัจฉริยะหมากรุกไปเลย!”
…
ผู้คนกระซิบอย่างเงียบ ๆ ขณะที่พวกเขาดูกระดานหมากรุก
เวลาหนึ่งก้านธูปได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หลินเป่ยฟานยังคงผ่อนคลายมาก เช่นเดียวกับตัวแทนจากฝ่ายอาณาจักรหยาน
มันยังคงเป็นช่วงเริ่มต้นของการแข่งขัน และทุกคนกำลังใช้แผนการเดินที่ตนคิดขึ้นมา ความยากไม่ได้สูงเกินไป ความเร็วในการเล่นค่อนข้างเร็ว
เวลาสองก้านธูปได้ผ่านไป
หลินเป่ยฟานยังคงสงบนิ่ง ไร้วี่แววของความกังวลบนใบหน้าของเขา
ทว่าตัวแทนจากฝ่ายหอาณาจักรหยานดูจริงจัง ทุกการเคลื่อนไหวต่างเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
เวลาสามก้านธูปได้ผ่านไป
หลินเป่ยฟานยังคงผ่อนคลายเช่นเดิม
ทว่าตัวแทนจากฝ่ายอาณาจักรหยานกลับเคร่งขรึมพลางคิ้วขมวด พวกเขาต้องพิจารณาการเคลื่อนไหวแต่ละครั้งอย่างรอบคอบ ความเร็วในการเล่นของพวกเขาจึงช้าลง
หนึ่งชั่วโมงผ่านพ้นไป
หลินเป่ยฟานยังคงดูเหมือนเดิม
ทว่าตัวแทนจากฝ่ายอาณาจักรหยานกลับมีเหงื่เม็ดโตไหลอออกพร้อมกันที่หน้าผาก นี่เป็นปฏิกิริยาทางกายภาพที่เกิดจากความตึงเครียดทางจิตใจ
ด้วยการเคลื่อนไหวแต่ละครั้ง พวกเขาเกือบจะหมดเวลา ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความลังเลและไม่แน่ใจ
ในเวลานี้ กระดานหมากรุกประมาณครึ่งหนึ่งได้ถูกเติมเต็มจนหมด
วิธีการเล่นของทุกคนต่างถูกแสดงฝีมือออกมาอย่างเต็มที่
เช่นเดียวกับบัณฑิตถังหยงคนก่อนไม่มีผิด ที่วิธีการเล่นของเขาเน้นมั่นคงและระมัดระวัง
หลิวไห่ ผู้เข้าแข่งขันคนที่สองมีวิธีการเล่นแบบดุดันและชิงไหวชิงพริบมากกว่า
ส่วนองค์ชายสามเล่นอย่างกล้าหาญและก้าวร้าว เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอันสง่างาม คล้ายดั่งท่าทีเหมือนราชนิกุลมีกัน
…
เขาไม่มีวิธีการเล่นที่ตายตัว เขาสามารถมั่นคงหนักแน่นได้เมื่อเขาต้องการ เจ้าเล่ห์ได้เมื่อเขาต้องการ หรือกระทั่งเล่นดุดันก็ยังได้เมื่อเขาต้องการ...
และเขาสามารถสลับวิธีการเล่นได้อย่างลื่นไหล ทำให้ยากมากที่จะจัดการกับเขา!
ตัวแทนของฝ่ายอาณาจักรหยานถูกผลักดันอย่างบ้าคลั่งด้วยรูปแบบการเล่นและการเคลื่อนไหวที่คาดเดาไม่ได้ของหลินเป่ยฟาน
“ท่านหลิน ทักษะการเล่นหมากรุกของท่านไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง อาจถึงระดับปรมาจารย์ด้วยซ้ำไป! ไม่น่าแปลกใจเลยที่ท่านกล้าท้าทายคู่ต่อสู้ทั้งห้าคน เห็นได้ชัดว่าท่านมีความมั่นใจในฝีไม้ลายมือการเล่นหมากรุกของท่านมาก!” จักรพรรดินีหัวเราะ
“ฝ่าบาท แม้แต่ผู้มีระดับปรมาจารย์ทั่วไปก็มิอาจรับคู่ต่อสู้ทั้งห้าได้หรอกพ่ะย่ะค่ะ!” เสนาบดีอาวุโสยิ้มอย่างขมขื่น
“เหนือสิ่งอื่นใด คู่ต่อสู้ที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่หาใช่คนธรรมดา พวกเขาล้วนเป็นทั้งปรมาจารย์หรือผู้เชี่ยวชาญในการเล่นหมาก! มันเป็นเรื่องยากมากที่จะเอาชนะพวกเขาพร้อมกัน ด้วยเหตุนี้ ทักษะการเล่นหมากรุกของท่านหลินจึงถือได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่กระหม่อมเคยเห็นมาอย่างไม่ต้องสงสัย! ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไรในวันนี้ ความสามารถในการเล่นหมากรุกของเขาจะสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งโลกอย่างแน่นอน!”
"ท่านพูดถูกต้อง! แต่ถ้าเขาผงาดเป็นผู้ได้รับชัย เขาก็จะกลายเป็นผู้ที่มิมีใครทัดเทียมได้! ข้าตั้งตารอที่จะได้เห็นปาฏิหาริย์เชียวล่ะ!” จักรพรรดินียิ้ม ดวงตาที่วิจิตรของนางจดจ่ออยู่กับกระดานหมากรุก
ในขณะนี้เอง ผู้ตัดสินตะโกนว่า “ท่านหลิวไห่แห่งอาณาจักรหยานพ่ายแพ้ท่านหลินเป่ยฟาน อาณาจักรอู๋ได้รับชัยชนะในรอบนี้!”
ทุกคนต่างประหลาดใจและยินดีอย่างยิ่ง
“เราชนะอีกรอบแล้ว!”
“ผู้อำนวยการใหญ่หลิน ท่านน่าทึ่งมาก!”
“เหลือเพียงสี่คนเท่านั้น ผู้อำนวยการใหญ่สู้ต่อไป!”
…
หลิวไห่ถอยกลับไปที่นั่งด้วยใบหน้าที่มืดมน
ในเวลาไม่ถึงครึ่งก้านธูป ผู้ตัดสินก็ตะโกนอีกครั้ง “ติงเส้าเหรินแห่งอาณาจักรหยานได้พ่ายแพ้ และหลินเป่ยฟานจากอาณาจักรอู๋ได้รับชัยสองครั้งติดต่อกัน!”
ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นกันอีกครั้ง
“ผู้อำนวยการใหญ่หลินชนะอีกแล้ว!”
“เขามีชัยชนะสองครั้งติดต่อกัน สู้ต่อไป!”
“ท่านผู้อำนวยการใหญ่ เดินหมากกดดันเลย!”
…
จากนั้นในเวลาน้อยกว่าเวลาที่ใช้ในการชงชา ผู้ตัดสินก็ตะโกนว่า “ซุนซานเต๋อแห่งอาณาจักรหยานพ่ายแพ้ และหลินเป่ยฟานจากอาณาจักรอู๋ได้รับชัยชนะสามครั้งติดต่อกัน!”
"นี่มันอะไรกัน! เขาชนะสามครั้งติดต่อกันแล้ว!”
“เหลืออีกแค่สองครั้งเท่านั้น!”
“ท่านอาจารย์ใหญ่ ท่านต้องชนะนะ!”
…
ชัยชนะสามครั้งติดต่อกันสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อองค์ชายสามและถังหยง
โดยเฉพาะกับถังหยงผู้แพ้ไปแล้วหนึ่งรอบ เขาได้ใช้ความคิดจนแทบล้า เมื่อไม่มีเวลาพักฟื้น เขาก็ต้องลงเล่นอีกรอบ ซึ่งทำให้เหนื่อยหนักกว่าเดิมอีก ยิ่งมีความเหนื่อยล้ามันก็จะทำให้ผู้คนมักจะทำผิดพลาดอยู่แล้ว
ดังนั้นพอเขาเกิดวางหมากพลาด หลินเป่ยฟานจึงคว้าโอกาสนี้และกวาดล้างหมากของถังหยงอย่างสมบูรณ์
ถังหยงมองไปที่กระดานที่เต็มไปด้วยชิ้นส่วนสีขาว เขาได้แต่ถอนหายใจ “ข้าแพ้อีกแล้ว!”
ผู้ตัดสินประกาศเสียงดัง “ถังหยงของอาณาจักรหยานได้พ่ายแพ้ และหลินเป่ยฟานจากอาณาจักรอู่ชนะสี่รอบติดต่อกัน!”
ดังนั้นความกดดันทั้งหมดจึงตกไปอยู่ที่องค์ชายสาม
หยานซิงเหอรู้สึกกดดันอย่างมาก!
เป็นแรงกดดันที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน!
เขาเป็นคนเดียวที่เหลืออยู่!
หากเขาแพ้ นั่นหมายความว่าอาณาจักรหยานจะพ่ายแพ้สมบูรณ์จนเสียหน้าอย่างน่าอับอาย!
นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยกล้าคิดมาก่อน!
เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องนี้กับท่านพ่อของเขากับเสนาบดีและราษฎรเช่นไร!
ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาต้องอดทนเอาไว้!
แม้ว่ามันจะหมายถึงความตาย แต่เขาก็ต้องต่อสู้ให้จนถึงที่สุด!
ตัวแทนของอาณาจักรหยานมองไปยังกระดานหมากล้อม กำหมัดแน่นและส่งเสียงให้กำลังใจอย่างแผ่วเบา
“ฝ่าบาท ท่านต้องอดทนไว้นะพ่ะย่ะค่ะ!”
“ฝ่าบาท ท่านเอาต้องชนะให้ได้!”
“เราแพ้ไม่ได้เด็ดขาด! ท่านต้องชนะในรอบต่อไปและรักษาศักดิ์ศรีของเราเอาไว้!”
“เราหวังพึ่งท่านแล้ว เพื่ออาณาจักรหยาน!”
…
ทว่ามันมีบางสิ่งนั้นอยู่นอกเหนือการควบคุมของทุกคน
ตอนนี้เขาไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นหลินเป่ยฟาน ปรมาจารย์แห่งหมากล้อมแห่งอนาคตที่มีความสามารถในการคำนวณที่น่าสะพรึงกลัว เทียบเท่าได้กับ Ai รุ่นอัลฟ่า
เขาพร้อมบดขยี้อีกฝ่ายให้จมดิน!
ผลลัพธ์ถูกกำหนดมาตั้งแต่ต้นแล้ว!
เมื่อมีการเดินหมากอีกสองสามครั้ง องค์ชายสามก็วางชิ้นส่วนของเขาลงบนกระดานอย่างอ่อนแรงและยิ้มอย่างขมขื่น “ข้าก็แพ้แล้วเช่นกัน !”
ผู้ตัดสินประกาศเสียงดัง “หยานซิงเหอ องค์ชายสามแห่งอาณาจักรหยานได้พ่ายแพ้ และหลินเป่ยฟานแห่งอาณาจักรอู๋ชนะห้ารอบติดต่อกัน! ดังนั้นในการแข่งขันเชื่อมความสัมพันธ์ครั้งนี้ หลินเป่ยฟานจึงกลายเป็นผู้ชนะ !”
ใบหน้าของตัวแทนอาณาจักรหยานเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ในขณะที่ฝ่ายอาณาจักรอู๋ส่งเสียงตะโกนยินดีออกมาด้วยความตื่นเต้น!
“ท่านผู้อำนวยการใหญ่ชนะ เราชนะแล้ว!!!”