ตอนที่แล้วบทที่ 99: รางวัลระดับเทพ ระบบโจมตีด้วยไฟอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 101: สัตว์เลี้ยงระดับเทพ มังกรไฟ

บทที่ 100: ไข่สัตว์ร้ายที่ถูกลืมโดยหลินเฟิง(ฟรี)


บทที่ 100: ไข่สัตว์ร้ายที่ถูกลืมโดยหลินเฟิง(ฟรี)

หลังจากที่หลินเฟิงซึ่งนั่งอยู่ริมเตียงได้ยืนยันภารกิจระดับเทพเจ้าแล้ว เขาก็เตรียมตัวที่จะเข้านอนต่อ

การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอนั้น จะทำให้มีแรงกายแรงใจในการเผชิญหน้ากับความท้าทายในวันใหม่ได้ดียิ่งขึ้น

“เดี๋ยวก่อนนะ เหมือนลืมอะไรไปอย่างหนึ่ง ข้างในกระท่อมน้อยน่าจะมีไข่สัตว์อสูรรอยู่ด้วยนี่!”

หลินเฟิงที่นอนอยู่บนเตียงพลันนึกขึ้นได้ จึงพึมพำกับตัวเองเบาๆ

ไข่สัตว์อสูรฟองนี้ เขาและจางเค่อเหมิงได้รับมาจากพ่อค้าสี่ทิศ ระหว่างที่เดินทางผจญภัยในดินแดนทะเลทราย

โดยพ่อค้าสี่ทิศมอบให้เป็นของแถมแก่หลินเฟิง

ไข่สัตว์อสูรฟองนี้มีขนาดเท่ากับไข่นกกระจอกเทศ ผิวเปลือกไข่เต็มไปด้วยลวดลายวงกลม คล้ายกับตะไคร่น้ำ

ในสายตาของหลินเฟิง มันดูคล้ายกับไข่ไดโนเสาร์เสียมากกว่า

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ หลินเฟิงก็พลิกตัวไปมา นอนไม่หลับอีกเลย

เขาจึงลุกขึ้นมาแต่งตัว เดินตรงไปยังกระท่อมน้อย หยิบไม้ส่องแสงยามค่ำคืนออกมาส่อง แล้วค้นหาใต้เตียงไม้

ในที่สุด เขาก็พบไข่สัตว์อสูรที่เต็มไปด้วยฝุ่นละอองและใยแมงมุม อยู่ตรงมุมห้องใต้เตียง

“โชคดียังดี! ที่จางเค่อเหมิงเจ้าเด็กสาวโลลิตะตะกละคนนั้นยังไม่เจอเข้า!”

“ไม่งั้นไข่สัตว์อสูรของฉันคงกลายเป็นไข่เจียวไปแล้ว!!”

หลินเฟิงค่อยๆ มุดตัวลงไปใต้เตียง คล้ายกับลุงข้างบ้านที่มักแอบปีนเข้ามา จากนั้นก็เอื้อมมือไปหยิบไข่สัตว์อสูรที่เปรอะเปื้อนออกมา

เขาหยิบผ้าที่เจอใกล้ๆ มือมาเช็ดฝุ่นและใยแมงมุมออกจากเปลือกไข่

ไข่สัตว์อสูรฟองใหม่ที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาหลินเฟิงเต็มไปด้วยลวดลายสวยงาม

หลินเฟิงไม่รู้ว่านี่คือไข่สัตว์อสูรชนิดใด พ่อค้าสี่ทิศก็ไม่ได้บอกเขาเช่นกัน

แต่การที่พ่อค้าสี่ทิศหยิบยื่นให้เป็นของแถมเช่นนี้

ในใจของหลินเฟิงเดาว่า ไข่สัตว์อสูรฟองนี้น่าจะไม่ได้มีระดับสูงส่งอะไรมากมายนัก

หรืออาจจะ!

เป็นแค่ขยะไร้ค่า!

“แล้วจะฟักไข่นี่ได้ยังไงล่ะเนี่ย?”

“ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรพิเศษเลย...”

หลินเฟิงพลิกไข่สัตว์อสูรไปมาในมือ

แต่ไม่ว่าจะดูยังไง ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรที่แตกต่าง

ลวดลายวงกลมบนเปลือกไข่ที่ดูคล้ายกับตะไคร่น้ำนั้น ช่างดูธรรมดาสามัญ

สำหรับหลินเฟิง ไม่ว่าไข่สัตว์อสูรฟองนี้จะมีระดับใด หรือจะฟักออกมาเป็นสัตว์อสูรที่อ่อนแอเพียงใดก็ตาม

แต่มันคือสัตว์เลี้ยงตัวแรกที่เขาเลี้ยงดูภายในค่ายพักเริ่มต้น

“เอาอย่างนี้ดีกว่า ไปถามเจ้าเงือกน้อยเหล่ยมู่ดู เผื่อว่านางจะมีวิธี”

หลินเฟิงพูดพลางถือไข่สัตว์อสูร เดินตรงไปยังบ่อปลาทันที

“เหล่ยมู่ เหล่ยมู่ มาหาหน่อย~”

หลินเฟิงย่อตัวลงที่ริมสระน้ำ ส่งเสียงเรียกเบาๆ ราวกับชายหนุ่มชั่วร้ายที่แอบนัดพบหญิงสาวในยามวิกาล

ทันทีที่สิ้นเสียงเรียก ก็เกิดระลอกคลื่นแผ่ขยายเป็นวงกว้างบนผิวน้ำ

ไม่นานนัก ก็มีศีรษะเล็กๆ โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ

ใต้แสงจันทร์อันขาวนวล เผยให้เห็นใบหน้างดงามสะดุดตาของเจ้าเงือกน้อยเหล่ยมู่ได้อย่างชัดเจน

ทุกครั้งที่ได้เห็นใบหน้าอันงดงามราวกับเทพธิดาของเหล่ยมู่ หลินเฟิงก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังจะหยุดหายใจ

ไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังเกิดหมอกหนา หลินเฟิงล้วนผ่านพบเจอสาวงามมากหน้าหลายตามาแล้วมากมาย!

แต่ท่ามกลางหญิงงามทั้งหมดที่เขาเคยพบเจอมา ไม่เคยมีแม้แต่คนเดียวที่มีรูปโฉมงดงามเหนือกว่าเจ้าหญิงเงือกน้อย เหล่ยมู่

แม้กระทั่งหนึ่งในสิบส่วนก็ยังเทียบไม่ได้!

เหล่ยมู่เปรียบเสมือนดอกไม้ที่งดงามที่สุดในบรรดาดอกไม้ทั้งหมด

ความงามของนางมีทั้งอำนาจน่าเกรงขามดุจดังราชินีแห่งบุปผา

และยังมีกลิ่นอายบริสุทธิ์ดุจดอกบัวที่พ้นจากโคลนตม!

เพียงแค่ได้มองแวบเดียว ก็รู้สึกตื่นตะลึงในความงามอันหาที่เปรียบมิได้!

หลินเฟิงจ้องมองนางอย่างตะลึงงันอยู่สองสามวินาที ก่อนจะถอนสายตาออกมา

จากนั้นแววตาของเขาก็กลับสู่ความสงบนิ่ง ใสกระจ่าง ความตื่นตะลึงเมื่อครู่เลือนหายไปจนหมดสิ้น

ยิ่งหลินเฟิงแสดงท่าทีสงบนิ่งเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้เจ้าหญิงเงือกน้อย เหล่ยมู่ พึงพอใจมากขึ้นเท่านั้น

ในสายตาของเจ้าหญิงเงือกน้อย การที่หลินเฟิงมีสายตาสงบนิ่งเช่นนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษ!

อ๊ะ ไม่สิ!

เป็นคนที่มีจิตวิญญาณบริสุทธิ์ต่างหาก!

อย่างไรเสีย เจ้าหญิงเงือกน้อย เหล่ยมู่ ก็คือสิ่งมีชีวิตขั้นเทพเจ้าระดับเก้าดาว อันหาได้ยากยิ่ง!

แม้ว่าจะไม่เคยติดต่อกับมนุษย์คนอื่น แต่ด้วยสติปัญญาอันสูงส่ง ทำให้นางมองเห็นธรรมชาติที่แท้จริงของสิ่งต่าง ๆ ได้

เมื่อนางรับรู้ได้ว่าสายตาที่หลินเฟิงมองนางนั้น มีเพียงความตื่นตะลึงในตอนแรก ก่อนจะกลับเป็นความสงบนิ่ง

นางจึงเข้าใจว่า ในสายตาของหลินเฟิงแล้ว ตัวนาง จางเค่อเหมิง และ กู้หลินหราน ต่างก็เป็นเพียงสตรีธรรมดาสามัญไม่ต่างกัน

ไม่มีการลำเอียง นี่คือสิ่งที่เจ้าหญิงเงือกน้อย เหล่ยมู่ ชื่นชอบมากที่สุดในตัวของหลินเฟิง!

แต่ความจริงแล้ว!

หลินเฟิงไม่ได้คิดอะไรมากมายขนาดนั้นเลยสักนิด!

ถ้าหลินเฟิงรู้ว่าเจ้าหญิงเงือกน้อยมองเขาในแง่ดีเช่นนี้ เขาคงต้องร้องโอดโอยว่า…

"โถ่เอ๊ย... ฉันก็แค่แกล้งทำเท่ไปงั้นแหละ! ไม่ได้คิดอะไรมากมายขนาดนั้นสักหน่อย..."

อย่างที่เขาว่ากัน…

การโกหกตัวเองนั้นไม่น่ากลัวเท่ากับการที่คนอื่นคิดไปเอง!

“นายท่าน ท่านมีเรื่องอะไรให้ข้ารับใช้หรือไม่เจ้าคะ?”

น้ำเสียงอันอ่อนหวานของเจ้าหญิงเงือกน้อย เหล่ยมู่ ทำให้หลินเฟิงรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก

ราวกับมีมนต์วิเศษบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายโดยไม่รู้ตัว

“บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกว่านายท่าน เรียกชื่อของฉันก็พอ!” หลินเฟิงเอื้อมมือไปลูบหัวเล็กๆ ของเหล่ยมู่อย่างเอ็นดู พร้อมกับแก้ไขคำพูด

“ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ ในเมื่อนายท่านเป็นผู้อัญเชิญข้าออกมา ท่านก็คือ นายท่าน ของข้าอย่างไรเล่า!”

“มิเช่นนั้นแล้วจะให้ข้าเรียกท่านว่าอะไรได้อีกล่ะเจ้าคะ?”

หรือจะให้เรียกว่า ‘ป๋า’ ดีนะ… หลินเฟิงคิดในใจอย่างเจ้าเล่ห์

แต่แน่นอนว่าเขาคงไม่กล้าเอ่ยปากให้เหล่ยมู่เรียกเขาเช่นนั้นจริงๆ หรอก!

“เอาที่เจ้าสบายใจเถอะ.....”

เมื่อเห็นว่าเจ้าหญิงเงือกน้อยไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องของการเรียกขาน หลินเฟิงจึงไม่ได้แก้ไขอะไรอีก

"เจ้าลองดูไข่สัตว์อสูรฟองนี้หน่อยสิ ว่าพอจะฟักออกมาได้หรือไม่"

หลินเฟิงพูดพลางยื่นไข่สัตว์อสูรให้เหล่ยมู่ตรวจสอบ

เผื่อว่านางจะบอกได้ว่ามันคือไข่ของสัตว์อสูรสายพันธุ์อะไรกันแน่!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด