ตอนที่แล้วตอนที่ 91 : ตงฟางเหอหื่นกาม !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 93 : ต่อไปฉันจะเรียกแกว่าตงฟางเหอป้า !

ตอนที่ 92 : ตงฟางเหอช่วยตัวเองต่อหน้าคนเป็นแสน !


ตอนที่ 92 : ตงฟางเหอช่วยตัวเองต่อหน้าคนเป็นแสน !

“ห่าเอ้ย ! เขาทำบ้าอะไรวะ ? !” ในห้องรับรองของตระกูลตงฟาง ตงฟางไต้ซ่งดีดตัวลุกขึ้นมองไปที่เวทีประลองและตะโกนออกมา

ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขา คนที่แกร่งที่สุดในเด็กรุ่นนี้ของตระกูลตงฟาง, ว่าที่หัวหน้าตระกูลคนต่อไปกลับมา....ช่วยตัวเองต่อหน้าคนเป็นแสนคน  ?

ขายหน้าชะมัด !

“หัวหน้าตระกูล ! พี่เหอตกอยู่ในภาพลวงตาแน่ ! เราจะทำยังไงกันดี ?”

“พี่ใหญ่ ! ยอมแพ้เลย ! เขากำลังทำเราเสียหน้า !”

“ใช่ พี่ใหญ่ ! เหอเอ๋อทำให้ทั้งตระกูลตงฟางเสียหน้า ! ตอนนี้มีคนอย่างน้อยแสนคนที่ดูการแข่งขันแบบเดี่ยวอยู่ มันยังมีผู้ชมทางบ้านอีกต่างหาก...”

“พี่ใหญ่ ฉันคิดอะไรบางอย่างได้...”

คนในตระกูลพากันออกความเห็นออกมา หลายคนพากันเรียกร้องออกมาเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตระกูล ทว่ามันก็ยังมีหลายคนที่แอบยิ้มที่มุมปากออกมา

ลูกชายของหัวหน้าตระกูลกลับมาช่วยตัวเองต่อหน้าประชาชน หัวหน้าตระกูลจะเอาหน้าไปไว้ไหน ?

เมื่อเห็นสายตาของคนรอบข้าง ตงฟางไต้ซ่งก็ได้แต่สูดหายใจเข้าลึก ๆ

พวกขยะเอ้ย ! พวกเฮงซวย !

ตอนนี้ยังมีหน้ามาคิดแก่งแย่งอำนาจกันอยู่อีกเหรอ ?

เกียรติของตระกูลตงฟางต้องเสียเพราะพวกนี้ !

“พี่ใหญ่ ! ให้เหอเอ๋อยอมแพ้เถอะ ! ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป แม้แต่บรรพชนก็อาจจะ....” พี่สองเดินเข้ามาและพูดเพื่อรักษาหน้าตระกูลเอาไว้

“หุบปาก !”  ตงฟางไต้ซ่งฮึดฮัดออกมาและมองไปที่เวทีประลอง “จะยอมแพ้ไม่ได้ !”

“เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ทุกคนเห็นหมดแล้ว การยอมแพ้ตอนนี้ก็เท่ากับเดินตามหมากที่ไอ้บ้านั่นวางเอาไว้ !”

“ตระกูลของเราทุ่มเทไปเพื่อรางวัลครั้งนี้ มีแค่ต้องได้แชมป์ เราถึงจะถอนทุนคืนได้ ! เรื่องนี้คือเป้าหมายของบรรพชน !”

“ในเมื่อเขาอยากจะเล่น งั้นก็ปล่อยเขาขายหน้าไป !”

“ตราบใดที่เหอเอ๋อไม่ยอมแพ้ มังกรก็จะโจมตีไอ้บ้านั่นได้ ตราบใดที่พลังจิตเขาหมดลง สุดท้ายเราก็จะเป็นฝ่ายชนะ !”

“....”

“หุบปากไป !” ตงฟางไต้ซ่งกัดฟันพูดขึ้น “ฉันยังเป็นหัวหน้าตระกูลอยู่ พวกนายยังไม่มีสิทธิ์ตัดสินเรื่องนี้ !”

“...” พี่รอง ตงฟางหวงเฟยได้แต่ต้องถอยกลับไปอย่างไม่เต็มใจ

“เดี๋ยวก่อน !” ตงฟางไต้ซ่งกัดฟันพูดขึ้น “ไปเรียกเหมยเอ๋อมา !”

“อะไร ? พี่ใหญ่ นี่พี่คิดจะทำอะไร ?” ตงฟางหวงไท่พูดขึ้นมา “พี่ใหญ่ พี่อยากจะสาปหลินลั่วงั้นเหรอ ? ทำแบบนั้นไม่ได้ !”

“ถ้าใช้คำสาป หลินลั่วก็จะรู้ตัว ถ้าเขารายงานเรื่องนี้ต่อกิลด์ผู้ปลุกพลังหลังจากที่จบการแข่ง เราซวยแน่ !”

“นอกจากนี้ถ้าเหมยเอ๋อต้องการใช้สกิลใส่ใคร เธอก็ต้องได้เส้นผมของเป้าหมายมารึว่าเป็นเนื้อรึเลือดของอีกฝ่าย แต่นี่เราไม่มีอะไรเลย !”

“ใครบอกว่าฉันจะใช้คำสาปกับหลินลั่ว ?” ตงฟางไต้ซ่งกัดฟันพูดขึ้น “ให้เหมยเอ๋อใช้สกิลใส่เหอเอ๋อต่างหาก !”

“ตอนนี้เหอเอ๋อตกอยู่ในภาพลวงตา ตราบใดที่โจมตีเขา มันก็มีโอกาสสูงที่เขาจะเรียกสติกลับมาได้ !”

“ให้เหมยเอ๋อใช้สกิลเบา ๆ แค่พอเรียกสติเหอเอ๋อได้ก็พอ !”

ทันทีที่ตงฟางไต้ซ่งพูดจบ สายตาของคนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนไปทันที

“เป็นความคิดที่ดี ! สมกับเป็นพี่ใหญ่ !”

“ทำลายภาพลวงตาด้วยคำสาป พี่ใหญ่นี่ฉลาดจริง ๆ !”

“ฮ่าฮ่า ถึงเหอเอ๋อจะโดนโจมตีโดยคำสาป ทว่าเขาก็ไม่มีทางรายงานเรื่องนี้แน่ !”

“เรามีผมของเหอเอ๋อและวันเกิดของเขาอยู่พอดี เรียกเหมยเอ๋อมา !”

ไม่นานสาวสวยในวัย 20 กว่าก็ถูกนำตัวมาที่นั่น

เธอเป็นลูกสาวคนโตของตงฟางหวงไท่ เธอเป็นผู้ปลุกพลังอาชีพแม่มด เธอสามารถใช้ผมและเนื้อรึวันเกิดของป้าหมายเพื่อทำการสาปแช่งได้ !

ตงฟางไต้ซ่งเปิดปากพูดทันที “เหมยเอ๋อ ใช้คำสาปกับเหอเอ๋อ เลือกคำสาปที่ไม่ได้รุนแรงนัก พอที่จะปลุกให้เขาตื่นได้ !”

ตงฟางเหมยยิ้มออกมาและพูดขึ้น “ไม่ต้องห่วงเลยลุง น้องเหอน่ะเป็นเกียรติของตระกูลตงฟาง แน่นอนว่าเหยเอ๋อจะทำให้เต็มที่ ฉันมีคำสาปที่ชื่อว่าคำสาปสังหาร มันทำให้ผู้โดนสาปนั้นเห็นสิ่งน่ากลัวที่สุดในใจตอนที่ฝัน”

“เดาว่าคำสาปนี้น่าจะเพียงพอที่จะปลุกน้องเหอจากภาพลวงตาได้ !”

ตงฟางไต้ซ่งพูดขึ้นมาด้วยท่าทีร้อนใจ “ถ้าอย่างนั้นก็รีบลงมือเลย !”

“...”

ในห้องส่วนตัวอีกห้อง กั้วโฉวยี่และจ้าวฉือเฉิงต่างก็สับสน

จ้าวฉือเฉิงพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าแปลก ๆ “นี่...ภาพลวงตางั้นเหรอ ?”

“เด็กนี่คิดบ้าอะไรอยู่ ? เขาใช้ภาพลวงตาแบบไหนกัน ? ตอนที่ตงฟางเหอได้สติกลับมา เขาคงขายหน้ามากแน่ ๆ !” กั้วโฉวยี่ยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มแปลก ๆ

“สกิลภาพลวงตานี่มั่นแปลก ฉันไม่รู้ว่าเขาตั้งใจทำรึว่าสกิลของเขามันแปลกเอง ?”

จ้าวฉือเฉิงพูดขึ้นมา “หัวหน้า ทำไมถึงพูดแบบนั้น ?”

“นายไม่เห็นรึไง ?” กั้วโฉวยี่พูดขึ้น “สกิลของหลินลั่วน่ะคล้ายกับสกิลของนักบวชทมิฬก็จริง ไม่ว่าจะเป็นสกิลควบคุมไวรัสโรคห่ารึสกิลที่ทำให้คนท้องเสียหรือสกิลภาพลวงตาที่ใช้อยู่ตอนนี้ มันคล้ายกับไวรัส มันเหมือนกับโรคภัยไข้เจ็บ”

“รึว่าอาชีพที่เขาได้มาคือการควบคุมโรครึไวรัส ?” จ้าวฉือเฉิงพูดขึ้น “แล้วสกิลโจมตี, วาร์ปและภาพลวงตานี่ล่ะ ?”

กั้วโฉวยี่ส่ายหน้าและพูดขึ้น “เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีเขาอาจจะได้อะไรอย่างอื่นติดมือกลับมาก็ได้”

“ด้วยพรสวรรค์ของเด็กนี่ เราต้องดึงเขามาเป็นผู้พิทักษ์ให้ได้ เราจะปล่อยให้พวกนอกรีตได้ตัวเขาไปได้ยังไง ?”

“ถึงจะเป็นตระกูลพวกผู้ปลุกพลังก็อย่าให้ดึงเขาเข้าไปได้ !”

“ไม่ว่าจะต้องทุ่มอะไรก็ดึงเขาเข้ามากลุ่มเราให้ได้ !”

“ได้ครับ หัวหน้า !”

ในห้องรับรองของตระกูลมู่หรง คนของตระกูลมู่หรงกว่าสิบคนพากันมองหน้ากัน

พวกเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าหลินลั่ว...จะมีสกิลที่น่าขนลุกแบบนี้  !

“ภาพลวงตารึว่าการสะกดจิต ?”

“ต้องเป็นภาพลวงตาแน่ๆ ! แต่ทำไมเขาถึงใช้ภาพลวงตาได้ ? น่าอายแทนตงฟางเหอชะมัด !”

“ฮึ่ม ! มองไม่ออกรึไงว่าภาพในภาพลวงตาน่ะสร้างขึ้นโดยอิงจากจิตใจคนที่โดนสกิล  !”

“เมื่อตงฟางเหอตกอยู่ในภาพลวงตาที่ต้องทำเรื่องอย่างว่า งั้นมันก็ยืนยันได้ว่าเขาคือไอ้สำส่อน !”

“หึหึ ขนาดสอบอยู่แท้ ๆ เขายังมีหน้าไปคิดเรื่องอย่างว่าอยู่อีก !”

“ทำไมเด็กนี่ถึงคู่ควรกับเสวี่ยเหินได้ ?”

“ผู้อาวุโสสาม ปฏิเสธการขอแต่งงานจากตระกูลตงฟางซะ !”

“ใช่ ! หัวหน้าตระกูล..”

คนในตระกูลพากันออกความเห็นออกมา มู่หรงเสวี่ยเหินที่อยู่ตรงหน้าหน้าต่างนั้นยังคงมองไปที่เวทีประลองตาไม่กะพริบ ทว่าเธอกำลังมองไปที่หลินลั่วอยู่

“ภาพลวงตานี้ส่งผลแตกต่างกันตามความคิดของคนรับ รึว่ามันเป็นสกิลอื่น ?”

“หลินลั่ว คู่ต่อสู้คนต่อไปของฉันจะเป็นนายงั้นเหรอ ?”

เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ ความมั่นใจที่คิดว่าจะเอาชนะหลินลั่วได้นั้นเริ่มสั่นไหว !

“บัดซบ ! นะ...นี่มันบ้าอะไร ? เราไม่ควรไปมีเรื่องกับเขา...”

ในมุมของลาน หยางห้าวหรานอ้าปากค้างมองไปที่ตงฟางเหอที่กำลังโยกเอวไปมา เมื่อเห็นแบบนั้น หยางห้าวหรานก็แทบจะทรุดลงไปกับพื้น

เขากับตงฟางเหอถือว่าเป็นพี่น้องที่เข้าอกเข้าใจกัน !

ไอ้จ้อนเขาเต็มไปด้วยหูด, หนองในและซิฟิริส มันทั้งเหม็นทั้งเน่า

ถึงจะรักษาแล้ว แต่มันก็ไม่อาจจะกำจัดไวรัสออกจากร่างกายได้ มันจะอยู่กับเขาไปตลอด ชีวิตเขาพังแล้ว แต่โชคดีที่เขาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ มีแค่ตัวเขา, หมอที่รักษา และพ่อแม่ที่รู้เรื่องนี้ ไม่มีคนอื่นที่รู้อีก

แม้แต่ตงฟางเหอก็ไม่รู้ !

แต่ในอีกด้าน การที่ตงฟางเหอมาโยกเอวต่อหน้าคนเป็นแสนคนน่ะ นี่ยิ่งทำให้เสียหน้ายิ่งกว่าหยางห้าวหรานเสียด้วยซ้ำ !

ตอนนั้นหยางห้าวหรานก็แอบดีใจ...

“โชคดีจริง ๆ ฉันควรจะอยูให้ห่างจากคนแบบนี้เอาไว้...”

ในห้องรับรองของตระกูลเฉิน เฉินผิงอันอ้าปากค้างมองไปที่เวทีประลอง

นี่มันเรื่องบ้าอะไร ?

ช่วยตัวเองต่อหน้าคนเป็นแสน ?

ตัวเขาสั่นไปตาม

บัดซบ !

ดีแล้วที่เขาไม่ได้สู้กับหลินลั่ว ไม่งั้นแล้วคงไม่ใช่เขารึไงที่ต้องมาช่วยตัวเองต่อหน้าคนเป็นแสน ๆ คน ?

“นี่ฉันโชคดีรึโชคร้ายกันแน่ ?” เขายิ้มแห้ง ๆ ออกมา

“ถึงฉันจะแพ้ให้กับมู่หรงเสวี่ยเหิน ทว่าอย่างน้อยก็ยังรักษาหน้าตัวเองไว้ได้ ถ้าฉันต้องทำเหมือนตงฟางเหอตอนนี้ที่ช่วยตัวเองต่อหน้าคนเป็นแสนและผู้ชมทางบ้าน... ฉันก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน !”

“ตระกูลตงฟางคงหน้าแตกไม่มีชิ้นดี ! ถึงคิดจะปิดเรื่องนี้เอาไว้ แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เงินมากแค่ไหน !”

“ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าตงฟางเหอจะแสดงสีหน้ายังไงตอนที่ได้สติกลับมา หึหึหึ...”

“อีกอย่าง หลินลั่วทำบ้าอะไร ?”

เฉินผิงอันมองไปที่หลินลั่วที่กำลังโจมตีมังกร สายตาเขาสะท้อนความสงสัยออกมา

“ตงฟางเหอตกอยู่ในภาพลวงตา แค่จัดการกับตงฟางเหอก็เอาชนะได้แล้วนิ ? ทำไมถึงต้องไปยุ่งกับมังกรด้วย ?”

“เขากำลังเล่นอยู่งั้นเหรอ ? รึว่ามีเป้าหมายอื่น...”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด