ตอนที่ 40 แอนติบอดี้ที่ยังไม่สมบูรณ์
ตอนที่ 40 แอนติบอดี้ที่ยังไม่สมบูรณ์
“เหอะ! ฉันไม่ทำหรอกนะ น่าขยะแขยงจะตายไป!” ทันทีที่ได้ยิน น้องเล็กกุ้ยก็โบกมือปัดไปมาพร้อมอั้นหายใจ
“นายอยากจะท้าทายขีดจำกัดของฉันก็แล้วแต่ อย่าลืมคิดถึงผลที่จะตามมาด้วยล่ะ!” ซ่งเจิงจ้องน้องเล็กกุ้ยตาถลึง จนอีกฝ่ายผงะถอยราวกับเห็นผี เขารีบหยิบอาหารแล้วนำไปแจกจ่ายทันที
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง คนที่อยู่ในคลังสินค้าก็ได้กินอาหารจนครบทุกคน ไม่ใช่ว่าซ่งเจิงขี้เหนียว แต่จำนวนของน้ำยาวิวัฒนาการนั้นมีไม่มากพอ เมื่อทำขนมเปี๊ยะทอดไปได้แค่เจ็ดแปดแผ่นน้ำยาก็หมดลงแล้ว
“ทีมสำรวจของพวกนายมีกันแค่ห้าคนเหรอ?” ซ่งเจิงถามชายคนหนึ่งที่เคยอยู่ทีมสำรวจแต่ลาออกเพราะอาการบาดเจ็บ
“เมื่อก่อนพวกเรามีจำนวนคนเยอะมาก ประมาณสองพันกว่าคน แต่ว่าพวกนายก็น่าจะรู้ว่าเขตซีนี้มีแมลงซอมบี้อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซอมบี้พวกนี้ไม่แค่มีจำนวนเยอะ แต่การโจมตีของพวกมันก็แข็งแกร่งมาก”
“แถมส่วนใหญ่ยังมีพิษในตัวอีกด้วย ดังนั้น พวกเราเลยล้มหายตายจากไปหลายคน ตอนนี้ก็เหลือแค่คนแก่ เด็กและผู้หญิงเท่านั้น ขาของฉันโดนซอมบี้กัดในตอนที่กำลังต่อสู้ ฉันเลยรีบตัดขาตัวเองทิ้งเพื่อรักษาชีวิตไว้ แต่ว่าการทำแบบนั้นทำให้ฉันกลายเป็นคนพิการ” ชายคนนั้นก้มมองขาขวาของตัวเอง ส่วนตั้งแต่เข่าลงไปนั้นว่างเปล่า
“แต่ว่านายก็ได้ชีวิตกลับมานะ การมีชีวิตรอดยิ่งใหญ่กว่าอะไรทั้งหมด” ซ่งเจิงพูดเพื่อให้กำลังใจก่อนจะถามเพิ่มเติม “ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ทำไมพวกนายไม่หนีไปล่ะ?”
“ถึงเขตซีจะขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งความตาย แต่ความเป็นจริงแล้ว ใต้พื้นโรงงานแห่งนี้มีอ่างเก็บน้ำอยู่ และน้ำในนั้นไม่ติดเชื้อไวรัส” ชายคนนั้นอธิบาย
“แต่คงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกมั้ง” ฉู่อี้ที่นั่งฟังอยู่ข้างๆแสดงความคิดเห็น
“ใช่แล้ว ที่จริงพื้นที่ด้านนอกของเขตซี กลายเป็นที่วางไข่ของแมลงซอมบี้ไปหมดแล้ว พวกเราต้องค้นหาไข่ของพวกมันมาแลกเปลี่ยนกับอาหารและของใช้จำเป็น” ชายคนนั้นยังคงอธิบายต่อไป
“พวกเขาจะเอาไข่เหล่านั้นไปทำอะไรกัน?” ซ่งเจิงถามก่อนหันไปมองฉู่อี้ พวกมนุษย์พันธุ์ใหม่ที่อยู่ข้างในนั้นต้องทำอะไรบางอย่างแน่นอน
“พวกนายก็รู้ว่าร่างกายของสิ่งมีชีวิต ถ้าติดเชื้อไวรัสแล้วก็ไม่มีทางขยายพันธุ์ได้ แต่แมลงซอมบี้นั้นพิเศษออกไป พวกมันไม่เพียงแค่วางไข่ได้เท่านั้น แต่ไข่ของพวกมันสามารถฟักออกมาเป็นตัวได้อีกด้วย! ดีที่เปอร์เซ็นต์การฟักตัวนั้นน้อยมาก เมื่อพวกมันฟักออกมาแล้วก็จะกลายเป็นแมลงซอมบี้ตั้งแต่เกิด” ชายคนนั้นพูดพลางยื่นถ้วยไปขอน้ำจากซ่งเจิงเพิ่ม
“อีกทั้งทิศทางในการกลายพันธุ์ของพวกนั้นไม่ได้เป็นการวิวัฒนาการ แต่เป็นการเสื่อมโทรมลง ฝูงแมลงที่เกิดใหม่จะสร้างสารแอนติบอดี้ให้ร่างกายต้านเชื้อไวรัส นี่แหละคือคุณค่าของพวกมัน” ชายคนนั้นอธิบาย
“ทำไมนายถึงได้รู้เรื่องพวกนี้ดีนักล่ะ?” ฉู่อี้เดินมาอยู่ที่ด้านหน้าของชายคนนั้น แล้วจับคอเสื้อของเขาขยำเพื่อเตือนว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการคำล้อเล่น
“ฉันไม่ได้โกหกพวกนายนะ! นี่! พวกนายมากับฉันเดี๋ยวก็รู้เอง” ชายคนนั้นแกะมือของฉู่อี้ออกแล้วลุกขึ้น และเดินนำคนทั้งสองไปยังด้านนอกของคลังสินค้า ก่อนเข้าไปในตัวอาคารหลังใหญ่หลังหนึ่ง
“เดิมทีที่นี่เป็นแล็บ ซึ่งพวกเราใช้วิจัยเรื่องเซรุ่มต้านไวรัส แต่ว่าการวิจัยนั้นไม่มีอะไรคืบหน้าเลย”
ชายคนนั้นนำทั้งสองคนมายังห้องที่อยู่ข้างในสุด ภายในห้องนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์เครื่องมือการวิจัยและศพของแมลงซอมบี้ แต่ว่าตอนนี้สิ่งของทุกอย่างเต็มไปด้วยฝุ่นจับ ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครมาที่นี่นานแล้ว
“นี่คือสมุดบันทึกการวิจัย พวกนายเอาไปดูสิ ฉันไม่ได้โกหกพวกนายจริงๆนะ!” ชายคนนั้นหยิบสมุดบันทึกการทำวิจัยเล่มหนาสองสามเล่มส่งให้ซ่งเจิง
“คนที่ชื่อดัมนี้คือใคร?” เมื่อซ่งเจิงเปิดสมุดบันทึก เข้าไปก็เจอชื่อคนถูกเขียนอยู่ที่หน้าชื่อเรื่อง
“ได้ยินมาว่า เป็นมนุษย์พันธุ์ใหม่ระดับสี่คนหนึ่ง ตอนนั้นเขานำคนแปลกๆกลุ่มหนึ่งและเครื่องวิจัยจำนวนมากขนย้ายมาที่นี่ คนกลุ่มนั้นสวมหน้ากากและสวมชุดป้องกันเชื้อโรคอย่างหนากันทุกคน คนกลุ่มนั้นถูกเรียกกันว่า... คนต้นแบบ” ชายหนุ่มนึกภาพในวันนั้นแล้วเล่าเป็นฉากๆ
“แล้วพวกเขาหายไปไหนกันหมดล่ะ?” ซ่งเจิงถามอย่างสงสัย
“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ว่าในวันที่เขาจากไปแบบกะทันหันนั้น ดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลายเป็นบ้ากันไปแล้ว เขาฆ่าผู้ช่วยและคนที่ร่วมทำงานวิจัยทุกคน ฉันได้ยินมาว่า ตอนนั้นเขาตะโกนอะไรออกมาบางอย่างว่า ของปลอม! นี่มันของปลอมทั้งนั้น!” ชายคนนั้นตอบ
“เขาออกจากที่นี่ไปตอนไหน?” ฉู่อี้ถาม ขณะที่ซ่งเจิงยืนฟังทั้งสองคนคุยกันพลางอ่านสมุดบันทึกการวิจัยไปด้วย
“สองปีก่อน พอเขาจากไป อาหารที่ส่งมาไม่เพียงแต่จะแย่ลงเท่านั้น แต่ปริมาณยังลดลงมากด้วย” อีกฝ่ายตอบ
“ใครคือหลัวเทียน?” ซ่งเจิงพูดพลางยื่นสมุดบันทึกที่เปิดหน้าสุดท้ายอยู่ให้ชายคนนั้นดู
เขาเงียบไป ท่าทางที่แสดงออกทำให้ซ่งเจิงและฉู่อี้รู้สึกไม่ชอบมาพากล
“หลัวเทียนตายไปแล้ว...” ชายคนนั้นก้มหน้าก้มตาตอบและพยายามหลบสายตาของซ่งเจิง
“ฉันอยากให้นายพูดความจริง!” ซ่งเจิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงคาดคั้น สายตาที่เขาจับจ้องชายคนนั้นคมกริบราวคมดาบ
“ฉันชื่อหลัวเฉิง ส่วนหลัวเทียน... เขาเป็นน้องชายแท้ๆของฉัน เฮ้อ...”
“สมุดบันทึกเล่มนี้ ถูกคนฉีกเนื้อหาตรงกลางไป นายรู้ไหมว่าใครเป็นคนทำ?” ซ่งเจิงถามต่อ
“เรื่องนี้ฉันไม่ค่อยรู้มากหรอก พวกนายไปถามน้องของฉันเองสิ” หลัวเฉิงพูดออกมาอย่างเศร้าสร้อย
“นำทางสิ!” ฉู่อี้กวาดสายตามองโดยรอบ อุปกรณ์วิจัยทั้งหมดไม่น่าใช้การได้อีกต่อไป ส่วนนักวิจัยเหล่านั้นก็ล้มตายไปหมดแล้ว สถานที่แห่งนี้คงไม่ต่างอะไรจากอาคารที่ถูกร้างทั่วไป
หลัวเฉิงนำทั้งสองไปยังอาคารที่อยู่ด้านหลัง ที่แห่งนั้นมีห้องที่ดูคล้ายห้องเก็บของอยู่ห้องหนึ่ง แต่มันถูกล้อมด้วยตาข่ายเหล็ก
ฉู่อี้แอบทำท่าทางบางอย่างให้ซ่งเจิงเป็นเชิงเตือนว่าสถานที่นี้อาจมีอันตราย ซ่งเจิงจึงหยิบกระทะเหล็กที่อยู่ด้านหลังมาถือไว้ในมือ
หลัวเฉิงเดินนำพวกเขาเข้ามายังพื้นที่ซึ่งมีตาข่ายเหล็กถูกตัดเป็นทางเข้า เขาลอดเข้าไปก่อนตามด้วยซ่งเจิงและฉู่อี้
“น้องชายของฉันอยู่ที่นี่” หลัวเฉิงพาเดินมาจนถึงประตูเหล็ก แต่ว่าไม่มีท่าทีว่าจะพาเข้าไป
“โครม!” ประตูเหล็กถูกเปิดออก ตอนนั้นเองดวงตาจำนวนนับไม่ถ้วนก็เปล่งประกายออกมาจากห้องที่มืดสนิท
“ถอย!” ฉู่อี้มีปฏิกิริยาตอบรับเร็วกว่า เขาลากซ่งเจิงออกมาเมื่อถอยห่างได้ระยะหนึ่ง แล้วก็มีแมงมุมตัวใหญ่ตัวหนึ่งไต่ออกมาจากห้องเก็บของห้องนั้น
บนหลังของมันมีร่างของคนอยู่หนึ่งคน แต่ที่น่าแปลกก็คือ ร่างกายของคนคนนั้นเชื่อมต่อเข้าที่คอของแมงมุมตัวนี้ ดวงตาของมันมองมายังซ่งเจิงและฉู่อี้ด้วยสายตาแห่งความกระหายเลือด
“นี่มันอะไรกัน?!” ซ่งเจิงเพ่งมองไปยังแมงมุมตัวนั้น แล้วเอ่ยถามออกมาด้วยความตกใจสุดขีด
“เขาคือน้องชายของฉัน... หลัวเฉิง!” ชายที่ยืนอยู่ด้านข้างซ่งเจิงพุ่งตัวออกไปยืนอยู่หน้าแมงมุมตัวนั้น แมงมุมไม่ได้โจมตีเขา แถมยังเอาหัวของมันมาถูร่างกายของชายหนุ่มอย่างสนิทสนม
“ที่แท้นายก็คือหลัวเทียน! นายหลอกพวกเราทำไมวะ?!” ซ่งเจิงรู้ตัวทันทีว่าเขาได้โดนชายตรงหน้าหลอกเข้าแล้ว จึงตวาดถามด้วยความโมโห
“นั่นเป็นเพราะว่าพวกนายแส่ไม่เข้าเรื่องเองไม่ใช่เหรอ? กว่าฉันจะหาเหยื่อได้แต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ ตอนนี้พวกนายจะได้กลายเป็นอาหารของหลัวเฉิงแล้ว!” สีหน้าของหลัวเทียนเต็มไปด้วยความโกรธจัดด
“อาหารอะไร? นายหมายความว่ายังไง?!” ซ่งเจิงสับสนเพราะตกใจจนคิดตามไม่ทัน
“ปกติแล้ว ฉันจะล่อคนที่อยู่ในคลังสินค้าพวกนั้นเป็นเหยื่อ หนึ่งคนจะเป็นอาหารของฉันและน้องชายไปได้ถึงสามเดือน ล่าสุดน้องฉันเพิ่งจะกินทีมสำรวจห้าคนสุดท้ายไป จนตอนนี้เขาพัฒนาเป็นแมงมุมกลายพันธุ์ระดับที่สองแล้ว! แต่ยังจำเป็นต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักหน่อย เหยื่อพวกนั้นมีสารอาหารมากพอที่จะทำให้เขาทะลุขีดจำกัดขั้นต่อๆไป!” หลัวเทียนอธิบายด้วยสีหน้าอันน่าเกลียดน่ากลัว
“ฆ่าพวกมันซะ!” หลัวเทียนหันไปหาแมงมุมและออกคำสั่ง ทันใดนั้นแมงมุมกลายพันธุ์ก็พ่นของเหลวข้นหนืดออกมาจากปาก ซ่งเจิงรีบยกกระทะขึ้นบังของเหลวพวกนั้นไว้ทันที ทำให้พวกมันถูกดูดซึมเข้าไปในกระทะ
[ติ้ง! พบแอนติบอดี้ที่ยังไม่สมบูรณ์!]