ตอนที่ 37 ปลุกพลัง (3)
ตอนที่ 37 ปลุกพลัง (3)
“ไปตายซะ!” ลิงผอมตะโกนเสียงดัง และจ้วงแทงเข้าไปที่หัวของสุนัขกลายพันธุ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“โฮก! โฮก...” มันร้องคำรามโหยหวนอย่างต่อเนื่อง ตอนที่มีดสั้นใกล้บั่นหัวของมันขาดออกจากลำตัว ดวงตาทั้งสองข้างของมันก็ไม่มีแววของพลังชีวิตอีกต่อไป ร่างของลิงผอมทรุดลงกับพื้นพร้อมกับศพสุนัขกลายพันธุ์ที่แน่นิ่งของจริง
“ลิงผอม!” ซ่งเจิงวิ่งเข้าไปประกบลิงผอมทันที สายตาสังเกตว่าอีกฝ่ายเต็มไปด้วยน้ำตานองหน้า
“นายเป็นยังไงบ้าง?” ซ่งเจิงรีบถามออกมาพร้อมก้มมองบาดแผลทั้งสามที่อยู่บนหน้าอกของลิงผอมด้วยความตกใจ ดวงตาทั้งสองข้างของอีกฝ่ายยังคงแดงก่ำ
“ซ่งเจิง... นายรู้ไหม ว่าทำไมฉันถึงฆ่าพ่อกับแม่แท้ๆ” ลิงผอมถามกลับเสียงแผ่ว
ซ่งเจิงเงียบไป เรื่องราวอันน่าเจ็บปวดแบบนี้ เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไงดี
“นั่นก็เพราะพวกเขาถูกซอมบี้กัดแล้วติดเชื้อไวรัส!” ดวงตาของคนเล่าแดงก่ำยิ่งกว่าเดิม และแฝงด้วยความโกรธที่สะสมมานานแรมปี
“คนพวกนั้นบังคับให้ฉันฆ่าพ่อแม่ตัวเอง! หลังจากนั้นฉันเลยฆ่าพวกเขาในขณะปฏิบัติหน้าที่ ใช่! ฉันฆ่าพวกมันทุกคน! บางทีการมีสหายพี่น้องประวัติเลวๆแบบฉัน นายคงอับอายมากสินะ นอกจากจะฆ่าพ่อแม่แท้ๆแล้ว ยังฆ่าบรรพบุรุษทุกคนที่กลายร่างเป็นซอมบี้ เพื่อให้คนที่เหลืออยู่รอดปลอดภัย!” เสียงของลิงผอมแผ่วลง จนเหลือแค่เสียงหัวเราะในลำคอ
“ซ่งเจิง ถ้าฉันเจอนายเร็วกว่านี้คงจะดีไม่น้อย แค่พวกเขาได้กินแพนเค้กพวกนั้น เรื่องพวกนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น” ลิงผอมพูดพลางหลบตาซ่งเจิง
“พรึ่บ!” ซ่งเจิงสะบัดแขนของลิงผอมทิ้ง ก่อนตะคอกเสียงดังด้วยความโมโห “ก็ช่างหัวมันสิ! ฉันไม่สนหรอกว่านายจะฆ่าคนไปแล้วกี่คน! เพราะถึงยังไงนายคือสหายพี่น้องของฉัน! ต่อให้นายฆ่าทุกคนจนหมดโลก นายก็ยังเป็นนายคนเดิม! คนพวกนั้นเป็นเชื้อร้าย! อย่าว่าแต่นายเลย... ต่อให้เป็นฉัน ก็คงเลือกที่จะฆ่าไม่ต่างจากนายในตอนนั้นหรอก!” ซ่งเจิงขยำคอเสื้อของลิงผอมและตะโกนออกมาอีกครั้ง
“ขอบคุณมากนะ!” ลิงผอมโผเข้าสู่อ้อมกอดของซ่งเจิง เขากอดซ่งเจิงแน่นพลางร้องไห้สะอึกสะอื้นแทบขาดใจเหมือนเด็กๆ
“นายไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเขาก็เหมือนกัน มันเป็นเพราะโลกอันโหดร้ายใบนี้ต่างหาก การที่คนพวกนั้นบีบบังคับนาย พวกเขาก็สมควรตายนั่นแหละถูกต้องแล้ว!” ซ่งเจิงกอดตอบแน่น แววตาของเขาก็แดงก่ำเช่นกัน
เวลาผ่านไป อารมณ์อ่อนไหวของลิงผอมจึงกลับมาเป็นปกติ เขาก็พูดกับซ่งเจิงอย่างตื่นเต้น “พลังของฉันตื่นแล้ว!”
ทันทีที่พูดจบ ร่างของลิงผอมกลับหายวับไปจากอ้อมแขนของซ่งเจิงอย่างกะทันหัน ก่อนปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในระยะที่ห่างออกไปเกือบสองเมตร
“นะ... นี่มัน!” ซ่งเจิงเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
“ทักษะในการหายตัว ตอนนี้ฉันไปได้ไกลถึงสองเมตรแล้ว ขอบคุณนายมากน้องชาย ในที่สุดฉันก็ทำได้แล้วล่ะ จริงอย่างที่นายว่า ถ้าจะโทษก็ต้องโทษโลกอันโหดร้ายนี้!” ลิงผอมพูดด้วยสีหน้าโล่งอก
“ถ้างั้นรีบแก้พิษก่อนเถอะ!” ซ่งเจิงก็หัวเราะออกมาเช่นกัน
หลังจากนั้นเขาจึงทำบะหมี่น้ำใสให้ลิงผอมกินหนึ่งถ้วย ที่จริงพิษจากซอมบี้ระดับหนึ่งสามารถใช้ขนมเปี๊ยะทอดธรรมดาในการแก้พิษได้ แต่ที่เขาเลือกใช้กระทะเหล็กทำบะหมี่น้ำใสออกมา ก็เพราะอยากให้รางวัลสหายพี่น้องที่เอาชนะใจตัวเองจนพลังตื่นขึ้น ความสุขในจิตใจก่อเกิดขึ้นอย่างเต็มเปี่ยม
ซ่งเจิงได้รับรู้วันนี้ ว่าบรรดาผู้คนต่างตราหน้าลิงผอมที่เขาเคยฆ่าพ่อแม่ของตนเอง แต่ใครจะรู้ว่าลิงผอมแบกรับเรื่องนี้อย่างเงียบๆมาโดยตลอด และตกอยู่ในฝันร้ายนี้มานานหลายปี ตอนนี้เขาปล่อยวางมันสำเร็จแล้ว ความทรงจำของเขาเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง!
“อร่อยไหม?” ซ่งเจิงมองลิงผอมที่กำลังซดน้ำบะหมี่อย่างกระหาย
“แม่งโคตรอร่อยเลย!” ลิงผอมกินบะหมี่น้ำใสหมดภายในไม่กี่คำ และใช้ลิ้นเลียถ้วยจนเกลี้ยงโดยไม่คำนึงถึงมารยาท
“ไปกัน! พวกเราไปหาพี่ใหญ่กุ้ยกับฉู่อี้กันเถอะ!” ซ่งเจิงหันไปหาลิงผอมด้วยใบหน้าแห่งความสุข ระหว่างทางเขาจึงเล่าแผนการที่เขาวางไว้ร่วมกับฉู่อี้อย่างไม่ปิดบัง
“น้องพี่! ฉันหวังว่าวันหลังนายจะไม่ปิดบังเรื่องนี้กับพวกเราอีกนะ ถึงพวกเราจะไม่โทษนาย แต่พอได้รู้แล้วมันเจ็บปวดหัวใจจริงๆ !” ลิงผอมพูดอย่างเศร้าใจ พลางเอานิ้วจิ้มไปที่ตำแหน่งหัวใจของตัวเอง
“ฉันสัญญา! ครั้งต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแน่นอน!” ซ่งเจิงตบหน้าอกแล้ววิ่งหนีไป
“ครั้งต่อไปเหรอ! นายยังคิดจะมีครั้งต่อไปอีกเหรอ?! คอยดูนะฉันจะฆ่านายซะ!” ลิงผอมหัวเราะพลางก่นด่า และวิ่งตามซ่งเจิงไป
ทั้งสองมาถึงจุดที่พี่ใหญ่กุ้ยอยู่ แต่พวกเขากลับเห็นแค่พื้นที่โดยรอบที่เป็นรอยไฟไหม้เท่านั้น
ส่วนฉู่อี้นอนนิ่งอยู่ที่พื้น ด้านหลังของพวกเขามีสุนัขกลายพันธุ์ระดับหนึ่งนอนตะแคงอยู่ ลำตัวของมันไหม้เกรียม
“ฉู่อี้! พี่ใหญ่กุ้ยไปไหนล่ะ?” ซ่งเจิงมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตกใจเป็นอย่างมาก เขารีบพลิกร่างของฉู่อี้ให้หงายขึ้น
หลังจากนั้นเขาก็เห็นว่าดวงตาของฉู่อี้นั้นเป็นสีแดงก่ำ ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“ฉันถามว่าพี่ใหญ่กุ้ยอยู่ที่ไหน?!” เมื่อน้ำเสียงอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นตะคอก ฉู่อี้จึงรีบตอบทันที
“พี่ซ่ง! ฉันขอโทษ! ทั้ง..ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฉันเอง!” ฉู่อี้พูดพลางสะอื้น
ซ่งเจิงเบิกตาโพลงนิ่งอึ้งไปทันที ร่างกายของเขาเซถอยหลังไปสองสามก้าว หลังจากนั้นเขาจึงไม่สนใจฉู่อี้อีกต่อไป และวิ่งไปยังร่างของสุนัขกลายพันธุ์ที่นอนแน่นิ่งอยู่ เพื่อค้นหาร่างของพี่ใหญ่กุ้ยราวกับคนบ้า
หลังจากนั้นเขาก็เห็นพี่ใหญ่กุ้ยนอนนิ่งอยู่ข้างหินก้อนหนึ่ง แต่ทั่วลำตัวของเขามีแผลทั่วร่างกาย ศีรษะของเขาขาดสะบั้นและคว่ำแนบสนิทกับพื้นดิน ทำให้ไม่สามารถมองเห็นว่าเขามีสีหน้ายังไง
“พี่... พี่... พี่ใหญ่กุ้ย!” ซ่งเจิงไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง ว่าร่างสะบักสะบอมนี้คือสหายพี่น้องที่นอนกลางดินกินกลางทรายด้วยกันทุกวันคืน สมองของเขาขาวโพลนไปหมด และยืนนิ่งไม่ไหวติงเพราะอาการช็อก ขณะที่เขายังพูดอะไรไม่ออก ก็มีเสียงหนึ่งตะโกนดังขึ้น
“ไอ้สารเลวเอ๊ย!” ดวงตาของลิงผอมก็แดงก่ำขึ้นอีกครั้งเพราะความโกรธ เขาหายตัวไปอยู่ด้านหน้าของฉู่อี้ แล้วซัดหมัดหนักๆเข้าไปหน้าอีกฝ่ายอย่างจัง
“ขอโทษ! ฉันขอโทษจริงๆ!” ฉู่อี้ลุกขึ้นยืน แววตาทั้งสองข้างปราศจากชีวิตชีวาเหมือนทุกครั้ง เขาพูดคำว่าขอโทษไม่หยุดปาก
“ฉันจะฆ่านายซะ!” ลิงผอมพูดด้วยความโมโห เขาเงื้อมีดสั้นขึ้นแล้วไล่แทงฉู่อี้อย่างขาดสติ ไม่รู้ว่าเขาแทงฉู่อี้ไปกี่ครั้ง แต่ตอนนี้มือของเขากลับกระตุกแรงด้วยอาการเหน็บชา
เมื่อเขาไม่สามารถใช้มีดสั้นได้อีกต่อไป จึงใช้มือเปล่ากระหน่ำตีแทน พอปวดมือก็ใช้เท้า... พอเท้าเป็นตะคริวก็ใช้ฟันกัด
“แกเป็นสหายพี่น้องกับพวกเราประสาอะไรวะ?!” ลิงผอมตะคอกกรอกหูอีกฝ่าย เสียงดังลั่นด้วยอารมณ์เดือดจัด
“ขอโทษ...” ทั่วร่างของฉู่อี้เต็มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมาจากแผลเปิด แต่บาดแผลเหล่านั้นกลับสมานกันอย่างรวดเร็ว
“ออกไปให้พ้น!” ซ่งเจิงทรุดตัวลงกอดร่างของพี่ใหญ่กุ้ยไว้ เขาใช้เสื้อนอกของตัวเองห่อศีรษะของพี่ใหญ่กุ้ยขึ้นมาวางไว้บนร่าง
“พี่ใหญ่กุ้ย! โธ่...” ลิงผอมล้มลงกองพื้นเพราะแข้งขาอ่อนแรง น้ำตาไหลทะลักออกมาไม่หยุดหย่อน ในบรรดาพวกเขาทั้งสี่ เขากับพี่ชายกุ้ยนั้นสนิทกันมากที่สุด แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับตายไปแล้ว จะให้เขายอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้ยังไงกัน?!
“พี่ซ่ง ฉัน...” ปากของฉู่อี้ขมุบขมิบเหมือนอยากอธิบายอะไรบางอย่าง แต่ถูกซ่งเจิงตัดบทเสียก่อน
“ไสหัวไปซะ! ออกไปให้พ้น! อย่าได้กลับมาให้ฉันเห็นหน้าแกอีก ไม่งั้นฉันจะฆ่านายซะ” น้ำตาที่ไหลอาบแก้มก่อนหน้านี้เหือดแห้งไปแล้ว เขาบรรจงลากร่างของพี่ใหญ่กุ้ยไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ
“ครึก... ครึก!” ขณะนั้นเอง ร่างของพี่ใหญ่กุ้ยก็ส่งเสียงดังคล้ายเสียงกระดูกและข้อต่อทั้งหลายในร่างกายลั่นให้เข้าที่
“หืม?” ซ่งเจิงรีบวางร่างของพี่ชายกุ้ยลงกับพื้น และมองร่างกายของพี่ใหญ่กุ้ยที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสงสัย
“เจ้าพี่บ้า! นายตายอนาถจริงๆ ตายแล้วก็มากลายเป็นซอมบี้อีก” ลิงผอมพูดด้วยน้ำเสียงทุกข์ทรมาน ขณะคลานไปหยุดอยู่ข้างๆร่างของพี่ใหญ่กุ้ย
“ขอข้าวผัดไข่หน่อยสิ!” เสียงหนึ่งที่ฟังดูอ่อนระโหยโรยแรงเต็มทีดังขึ้น เสียงนั้นคล้ายพี่ใหญ่กุ้ยมากทีเดียว! ที่น่ากลัวคือมันเปล่งออกมาจากปากของร่างนั้น!
“พี่ใหญ่กุ้ยเหรอ?” ซ่งเจิงถามออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ
หลังจากนั้นเขาจึงตั้งสติและรีบแกะเสื้อผ้าของเขาที่ห่อพันศีรษะของอีกฝ่ายไว้
ทันใดนั้น เขาจึงมองเห็นแววตาของพี่ใหญ่กุ้ย ในเวอร์ชันย่อขนาดลำตัวจนเล็กเท่าตุ๊กตาไขลาน มองขึ้นมาอย่างอ่อนแรง
“ข้าว... ผัด... ไข่” ดวงตากลมโตของพี่ใหญ่กุ้ยหม่นหมองเพราะความอ่อนเพลีย ซ่งเจิงแน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายพูดกับตัวเองจริง!
“เฮ้ย! ผะ... ผีหลอก!” ลิงผอมมองดวงตาประหลาดของพี่ใหญ่กุ้ย แล้วร้องออกมาดังลั่นด้วยความตกใจสุดขีด!