ตอนที่แล้วตอนที่ 12 เมล็ดพันธุ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 14 การยั่วยุ

ตอนที่ 13 การเก็บเกี่ยว


ตอนที่ 13 การเก็บเกี่ยว

หลินมู่หลับตาพริ้ม มองเปลวไฟสีแดงสดที่ปลายนิ้วของเขาอย่างเคลิบเคลิ้ม ราวกับว่าเปลวไฟนั้นไม่มีอุณหภูมิ เขามีสีหน้าเรียบเฉยไร้ซึ่งความรู้สึกไม่สบายใดๆ

สองเดือนผ่านไป หลินมู่ก็บรรลุเป้าหมาย ฝึกฝนเคล็ดวิชา “อัคคีสีชาด” จนถึงชั้นที่สาม หลินมู่คลายคาถา เปลวไฟที่ปลายนิ้วของเขาก็สลายตัวไปอย่างเงียบงัน

สองเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ต้นยาสูบเยือกแข็งในหุบเขาอุ่นเมฆาก็เติบโตเต็มที่ หลินมู่ตัดสินใจไปยังหุบเขาอุ่นเมฆาเพื่อขอหินวิญญาณและยาผนึกวิญญาณจากจางลั่วสวี

หลินมู่เดินตามทางเล็กคดเคี้ยว มือถือหยกมรกต มุ่งหน้าสู่หุบเขาอุ่นเมฆา หมอกขาวสองข้างทางราวกับรู้จักเขา พวกมันแยกออกจากกันเปิดเส้นทางให้กับเขาโดยอัตโนมัติ

เมื่อหลินมู่เดินผ่านไป หมอกขาวกลับมารวมกันอีกครั้ง

หลินมู่มองเห็นจางลั่วสวีซึ่งยืนอยู่ในแปลงปลูก สายตาของอีกฝ่ายจับจ้องการเจริญเติบโตของต้นยาสูบเยือกแข็งจากระยะไกล

หลินมู่ยิ้มและทักทาย “สวัสดีครับศิษย์พี่ ปีนี้เก็บเกี่ยวยาสูบเยือกแข็งได้ดีหรือไม่?”

จางลั่วสวียิ้มและตอบกลับว่า “ขอบคุณความช่วยเหลือจากน้องชาย เก็บเกี่ยวได้มากกว่าปีที่แล้วอย่างน้อยสองเท่าเชียวล่ะ”

จางลั่วสวีไม่รอให้หลินมู่ตอบ สายตาของเขามองหลินมู่ด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะเอ่ยปากขึ้นว่า “น้องชายขยันจริง ๆ เพียงแค่สี่เดือนก็ก้าวเข้าสู่ขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นห้าแล้ว”

หลินมู่ตื่นตระหนกพร้อมลอบคิดในใจ ‘หรือว่าเขาเริ่มสงสัยข้าแล้ว?’ เวลานี้เขาเก็บอารมณ์ก่อนจะเอ่ยปากตอบกลับไปว่า “ข้าเพียงโชคดีขอรับ โชคดีที่งานที่ศิษย์พี่มอบหมายให้นั้นไม่หนักหนา ข้าเลยมีเวลาฝึกฝนมากขึ้น เช่นนี้จึงทำให้ระดับยุทธ์ของข้าก้าวหน้ารวดเร็วกว่าเดิม”

จางลั่วสวีไม่ได้ซักไซร้ต่อ เขาเพียงตอบกลับคำเบา “ดูเหมือนว่าน้องชายคงต้องฝึกฝนอย่างหนักแล้ว”

หลินมู่พยักหน้า ไม่พูดอะไรมาก จากนั้นกล่าวตรงประเด็นว่า "ศิษย์พี่ขอรับ ยาสูบเยือกแข็งนี้เก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว ขอขอรับหินวิญญาณ และยาผนึกวิญญาณสำหรับสี่เดือนที่ผ่านมาได้หรือไม่?"

จางลั่วสวีเพิ่งนึกขึ้นได้ เขายิ้มก่อนจะกล่าวเสียงอ่อน “ต้องขอโทษด้วยแล้วน้องชาย ข้าลืมไปเลยจริง ๆ ว่าไม่ได้ให้หินวิญญาณและยาผนึกวิญญาณแก่เจ้านานแล้ว ตัวข้าแก่ขึ้นทุกวัน ความจำไม่ดีนักโปรดอย่าถือ”

หลินมู่มองไปที่ใบหน้าที่เรียบเนียนและอ่อนเยาว์ของจางลั่วสวี เขายิ้มพร้อมตอบกลับ “ศิษย์พี่กล่าวเรื่องขบขันอีกแล้ว”

ในใจของหลินมู่อดไม่ได้ที่จะกังวล เขาคิดว่าเพราะระดับยุทธ์ที่ก้าวหน้ารวดเร็วเกินไปคงเริ่มทำให้จางลั่วสวีสงสัย จางลั่วสวีมีประสบการณ์มาเกือบ 60 ปี แน่นอนว่าเขาต้องสังเกตเห็นความผิดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเขายังมีรากฐานทางวิญญาณสี่ธาตุเช่นเดียวกับหลินมู่ เขาย่อมรู้ดีว่าระดับยุทธ์ของหลินมู่สามารถพัฒนาได้รวดเร็วเท่าใด

เวลานี้จางลั่วสวียกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหยิบหินวิญญาณระดับต่ำจำนวน 12 ก้อนและยาผนึกวิญญาณ 4 ขวดออกมา จากนั้นมอบให้หลินมู่ “นี่คือค่าจ้างของเจ้าสำหรับสี่เดือนที่ผ่านมา”

หลินมู่ลอบถอนหายใจลับ ๆ เขาไม่ปฏิเสธและเอื้อมมือไปรับอย่างสุภาพ “ขอบคุณแล้วศิษย์พี่” หลังจากเก็บทุกสิ่งให้เรียบร้อย หลินมู่ยกยิ้มก่อนจะพูดต่อไปว่า “ครั้นข้าได้ฟังเรื่องราวอันน่าสลดใจของท่านก่อนหน้านี้ ข้ารู้สึกสะเทือนใจยิ่ง ข้าเห็นด้วยกับท่านว่าเราสมควรใช้เวลาอันมีจำกัดนี้มุ่งมั่นฝึกฝน สร้างรากฐานให้มั่นคง ดังนั้นข้าจึงขอลาออกจากงานนี้เพื่อทุ่มเทเวลาให้กับการฝึกฝนอย่างจริงจังขอรับ”

สีหน้าของจางลั่วสวีแปรเปลี่ยนต่อเนื่อง ก่อนจะกลับมาสงบอีกครั้งแล้วพูดว่า “ทุกคนล้วนมีความทะเยอทะยานเป็นของตัวเอง ในเมื่อน้องชายตัดสินใจแล้ว ข้าก็จะไม่บังคับ”

หลินมู่โค้งคำนับพร้อมกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณศิษย์พี่ที่คอยดูแลข้ามาตลอดสองสามเดือนที่ผ่าน ข้าขอบคุณนัก”

หลังกล่าวจบแล้วจึงมอบหยกมรกตให้กับจางลั่วสวีแล้วเอ่ยปากด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่จำเป็นต้องใช้หยกนี้แล้ว จึงขอส่งคืนสู่ศิษย์พี่”

จางลั่วสวียกยิ้มพร้อมรับสิ่งของกลับคืน

หลินมู่พยายามระงับอารมณ์อย่างสุดความสามารถ แล้วหันหลังเดินออกมา

เมื่อกลับมาถึงห้องส่วนตัว เขามีความกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก เพราะเขาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนบนใบหน้าของจางลั่วสวี สุดท้ายแล้วต่อให้เขาพยายามปกปิดอย่างสุดความสามารถ แต่ระดับยุทธ์ที่พัฒนารุดหน้าเช่นนี้ยากจะปิดบังได้ ผู้อื่นสามารถมองเห็นมันได้ง่ายดาย หลินมู่พยายามครุ่นคิดอยู่นานแต่ก็ไม่อาจหาทางออกในเรื่องนี้ได้

หลินมู่ส่ายศีรษะก่อนจะก้าวเข้าสู่มิติวังวนจันทรา

เมื่อหลินมู่ก้าวเข้าสู่มิติภายใน ความกังวลทั้งหมดก่อนหน้าพลันเหือดหายสิ้น

ที่ดินวิญญาณหกหมู่เต็มไปด้วยหญ้าวิญญาณกว่าห้าสิบชนิดที่เจริญเติบโตเต็มที่ กลิ่นหอมของยาโชยมาแตะจมูกทำให้หลินมู่เคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะ

เช่นเดียวกับครั้งก่อน หลินมู่เก็บเกี่ยวหญ้าวิญญาณเหล่านี้อย่างระมัดระวัง ก่อนจะวางไว้ในกระท่อมเช่นเดิม หญ้าวิญญาณหลายพันต้นสูงจนพ้นครึ่งกระท่อมแล้ว

เห็นกองหญ้าวิญญาณสูงมากขนาดนี้ ในใจของเขาอดไม่ได้ที่จะยกยิ้ม

หลังจากทุ่มเทแรงกายแรงใจ วางแผนอย่างรอบคอบ และระมัดระวังเป็นเวลายาวนานหลายเดือน ในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จ

สิ่งนี้คือทุนในการก้าวขึ้นสู่อำนาจของเขา

หลินมู่หยิบหินวิญญาณทั้งหมดออกมานับจำนวน เวลานี้เขามีหินวิญญาณระดับต่ำกว่า 30 ก้อน และยาผนึกวิญญาณอีก 4 ขวด

หากใช้สิ่งเหล่านี้ในการฝึกฝนทันที แน่นอนว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและสามารถยกระดับการฝึกฝนได้อย่างมาก แต่หลินมู่จะไม่ทำเช่นนั้น เขาจะไม่ฆ่าไก่เพื่อเอาไข่

หลินมู่หยิบหินวิญญาณและมุ่งตรงไปยังหอซ่อนวิถี

เมื่อเข้ามาด้านในของหอซ่อนวิถีแล้ว หลินมู่ตรงไปยังชั้นวางแผ่นหยกที่เกี่ยวกับการกลั่นยา

ที่มุมเดียวกัน หลินมู่สังเกตเห็นชั้นวางไม้จันทน์สีม่วงขนาดเล็กวางอยู่ มีแผ่นหยกไว้บนนั้นประมาณสิบกว่าแผ่น

นี่คือแผ่นหยกที่บันทึกวิธีการกลั่นยา!

หลินมู่หยิบแผ่นหยกขึ้นมาทีละแผ่น ป้อนพลังวิญญาณเข้าไป เพื่อค้นหาคัมภีร์ที่เขาต้องการ

แต่เขากลับไม่ชอบคัมภีร์ใดที่หยิบขึ้นมาเลย ทั้งหมดนี้มีแต่ชื่อดูลึกลับซับซ้อน เช่น ความลับของผู้เล่นแร่แปรธาตุ หรือเล่นแร่แปรธาตุ แม้จะดูล้ำลึกแต่หลินมู่รู้ดีว่าคัมภีร์เหล่านี้ไม่เหมาะกับตน

จนกระทั่งหยิบแผ่นหยกอีกแผ่นขึ้นมา หลินมู่รู้สึกตาลุกวาว

แผ่นหยกนี้ชื่อว่า “ยาเม็ดอัคคี” เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นฝึกการกลั่นยา อธิบายถึงความรู้พื้นฐานและข้อกำหนดที่จำเป็นสำหรับการกลั่นยา เช่น สัดส่วนของวัตถุดิบ ระยะเวลาในการกลั่น การควบคุมอุณหภูมิ

สิ่งที่ทำให้หลินมู่ยิ่งดีใจคือ "ยาเม็ดอัคคี" ยังมีสูตรยาสำหรับยาชั้นเลิศสองชนิดอีกด้วย

แบบแรกคือเม็ดยาพลังชีวิตเหมาะสำหรับผู้ฝึกตนขอบเขตกลั่นลมปราณ เมื่อทานแล้วจะสามารถอดอาหารได้นานถึง 10 วัน!

ส่วนอีกแบบคือยาผนึกวิญญาณ!

นี่เป็นสูตรยาที่หลินมู่ใฝ่ฝันถึง ทว่าราคาของมันอยู่ที่หินจิตวิญญาณ 26 ก้อน… ด้วยราคานี้ทำให้เขาปวดใจไม่น้อยแล้ว

แต่สุดท้ายเขาก็ไม่คิดมาก หลินมู่ตัดสินใจซื้อมันทันที

เขาจ่ายหินจิตวิญญาณให้กับชายชราเฝ้าหอซ่อนวิถี ก่อนจะหันหลังเดินเข้าสู่หอสีขาวในฝั่งตรงข้าม

เทียบกับหอซ่อนวิถีก่อนหน้านี้ หอสีขาวมีชีวิตชีวามากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

หลินมู่เดินตรงไปที่เคาน์เตอร์พร้อมวางขวดยาผนึกวิญญาณ 4 ขวดไว้ จากนั้นถามกู่เฉินว่า “ยาผนึกวิญญาณทั้ง 4 ขวดนี้ขายได้เท่าไหร่หรือ?”

กู่เฉินยิ้มและพูดว่า “ขวดละ 4 ก้อนวิญญาณระดับต่ำ สี่ขวดรวมเป็น 16 ก้อน”

หลินมู่ยังคงมีสีหน้าสงบ เขาหยิบแผ่นกระดาษขึ้นมาก่อนจะเขียนชื่อของหญ้าวิญญาณหลายชนิดลงไปแล้วยื่นให้กู่เฉิน “แล้วหญ้าวิญญาณเหล่านี้ขายได้เท่าไหร่หรือ?”

กู่เฉินรับกระดาษมาดูแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “นี่มันเป็นวัตถุดิบสำหรับการกลั่นยาผนึกวิญญาณนี่ พี่ชายต้องการสิ่งใดหรือ? ท่านขายยาผนึกวิญญาณเพื่อซื้อวัตถุดิบสำหรับการกลั่นยาผนึกวิญญาณหรือ?”  แต่หลังกล่าวจบกู่เฉินก็เข้าใจ  เขาหัวเราะและพูดว่า “พี่ชายอยากเรียนรู้การกลั่นยาใช่ไหมขอรับ?”

หลินมู่ยิ้มเล็กน้อย “เป็นเช่นนั้น”

กู่เฉินถือกระดาษโน้ตไว้แล้วพยายามเกลี้ยกล่อม “พี่ชายควรคิดให้รอบคอบ ข้าไม่ได้อยากจะเอาเปรียบท่าน การซื้อวัตถุดิบสำหรับการกลั่นยาผนึกวิญญาณ 1 ชุด ต้องใช้หินวิญญาณระดับต่ำ 2 ก้อน กลั่นออกมาได้ 1 ขวด สำหรับที่นี่รับซื้อเพียงแค่ 4 ก้อนหินวิญญาณ นั่นหมายความว่าต้องมีอัตราการกลั่นยาสำเร็จมากกว่าร้อยละห้าสิบถึงจะไม่ขาดทุน แบบนี้พี่ชายจะลำบากเปล่า ๆ นะขอรับ”

หลินมู่ยกยิ้มก่อนจะตอบกลับไปว่า “ขอบคุณน้องชายที่กล่าวเตือน แต่ตอนนี้ข้าเพียงสนใจเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุนิดหน่อย และอยากจะลองดู ถ้าหากไม่ได้ผล ข้าจะหยุดมือทันที แต่ถ้าหากว่าประสบความสำเร็จ ข้าก็จะมีช่องทางหารายได้เพิ่มไม่ใช่หรือ?”

เป็นเรื่องยากที่ทุกคนจะมองเห็นความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ สุดท้ายแล้วคนจำนวนมากล้วนแต่ไม่สนใจ

กู่เฉินยิ้มแห้ง “เช่นนั้นข้าก็หวังว่าความปรารถนาของท่านจะเป็นจริง แล้วท่านต้องการวัตถุดิบกี่ชิ้นหรือ?”

หลินมู่หยิบหินวิญญาณ 4 ก้อนออกมาวางไว้บนเคาน์เตอร์แล้วพูดว่า “เอา 10 ชุด”

กู่เฉินเก็บขวด “ยาผนึกวิญญาณ” ทั้ง 4 ขวดและหินวิญญาณ 4 ก้อน ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องด้านในเพื่อไปเอาวัตถุดิบสำหรับการกลั่นยาผนึกวิญญาณ

ไม่นานนัก กู่เฉินก็เอาวัตถุดิบมา มันถูกห่อด้วยผ้าสีน้ำเงิน

หลินมู่ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ จึงลากับกู่เฉิน และมุ่งหน้าไปยังยอดเขาตะวันตก

แต่เมื่อมาถึงตีนเขาตะวันตก มีร่างหนึ่งขวางทางของหลินมู่เอาไว้

หลินมู่เงยหน้าขึ้นมอง บุคคลตรงหน้าคือหม่าฮวาหยวนที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด

เวลานี้หลินมู่ลอบตื่นตระหนกอยู่ในใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด