เจ้าหน้าที่หมายเลข 74 [ฟรี]
ตอนที่ 74
เวลากำลังจะหมดลง!
เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่ถึงอย่างนั้นการทดลองก็ไม่สามารถหยุดลงได้ . . .
ขาขวากลนั้นดูเหมือนว่าจะต้องเชื่อมต่อเข้ากับเส้นประสาทของขาในส่วนที่พิการด้วยเครื่องปลูกถ่ายถึงจะสามารถควบคุมขากลได้อย่างสมบูรณ์แท้จริง
ดังนั้นแพทย์จึงจะต้องเชื่อมขากลเข้ากับบาดแผลเพื่อเชื่อมต่อเส้นประสาทต้นขาเข้ากับเส้นประสาทจำลองของขากลและรวมให้มันกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ากระบวนการนี้จะมาพร้อมกับความเจ็บปวดที่รุนแรงมาก . . .
"อ๊ากก . . . พอเถอะขอร้อง!!"
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของชายวัยกลางคนดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานจะเริ่มมีแสงสีแดงปรากฏขึ้นมาบนขากล!
"อัตราการเต้นของหัวใจของผู้ป่วยกำลังเร็วขึ้น! มันเกินหนึ่งร้อยแปดสิบครั้งต่อนาที หนึ่งร้อยเก้าสิบครั้ง . . . "
"ความดันโลหิตกำลังเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน!"
ชายวัยกลางคนในตอนนี้ไม่มีเสียงที่จะกรีดร้องออกมาอีกต่อไป ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดที่ปูดโปนออกมา มือของเขากำแน่นพร้อมกับร่างกายที่เริ่มชักกระตุกอย่างรุนแรง
ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าล็อคตัวของชายวัยกลางเอาไว้กับเตียงผ่าตัดตอนนี้ร่างของเขาคงลุกขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ลีออนเท่านั้นที่กำลังมองอยู่ แต่ยังมีดร.ลิซท์ นักวิจัยคนอื่น ๆ และผู้บริหารร็อกซอนสองคนที่มีสีหน้าคาดหวังและความตื่นเต้น
แม้กระทั่งนักวิจัยบางคนที่กำลังชี้นิ้วไปมาที่ชายวัยกลางคนและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานด้วยเสียงหัวเราะที่น่าขยะแขยงเป็นครั้งคราว
สำหรับทุกคนที่นี่ยกเว้นลีออนพวกเขาคิดว่าการทดลองนี้มันเป็นเหมือนกับการการเล่นเกมผ่าตัด
ภายใต้การจ้องมองที่ไม่สนใจใยดีเกี่ยวกับชีวิตของมนุษย์ นักวิจัยพวกนี้ก็เหมือนกับกลุ่มปีศาจในนรกที่ขึ้นมาอาศัยบนโลกมองดูมนุษย์ที่ตกลงในนรกและถูกแผดเผาจากเพลิงนรกที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ลีออนที่ยืนอยู่ด้านหลังของนักวิจัยพวกนี้พยายามทำตัวให้สมบทบาทมากที่สุดและกลมกลืนไปกับพวกเขา
อย่างไรก็ตามถ้าหากสังเกตดี ๆ จะสามารถมองเห็นหมัดที่กำแน่นของลีออนที่สามารถแสดงความรู้สึกภายในใจของเขาออกมาได้อย่างชัดเจน
ลีออนในตอนนี้แทบจะอดใจไม่ไหวแล้วที่จะส่งคนพวกนี้ที่เพิกเฉยต่อชีวิตของมนุษย์ไปใช้ชีวิตอยู่ใน ‘นรก’
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขายังไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของตัวเองได้!
อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้ . . .
ในขณะที่การผ่าตัดกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่นทันใดนั้นมันก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน!
ดูเหมือนว่าเส้นประสาทของมนุษย์และเส้นประสาทของขากลที่เชื่อมต่อกันจะมีปัญหาบางอย่าง ทำให้ชายวัยกลางคนที่นอนอยู่บนเตียงผ่าตัดที่ดิ้นอย่างรุนแรงในตอนแรกเริ่มนิ่งสงบลงพร้อมกับดวงตาที่เริ่มเหลือกขึ้น
ร่างกายเริ่มไร้เรียวแรง กำปั้นที่กำแน่นค่อย ๆ คลายออกหล่นลงข้างเตียงตามแรงโน้มถ่วง
"ติ๊ด!"
เครื่องตรวจจับข้าง ๆ เริ่มส่งเสียงร้องแจ้งเตือนขึ้นมา
แพทย์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เตียงผ่าตัดเริ่มทำการช่วยเหลือชายวัยกลางคนอย่างรวดเร็ว
"แย่แล้ว!"
"สัญญาณชีพของผู้ป่วยกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว!"
ในขณะที่แพทย์กำลังพยายามช่วยชีวิตของชายวัยกลางคนอย่างสุดความสามารถ แต่ชายวัยกลางคนที่นอนอยู่บนเตียงผ่าตัดกำลังก้าวสู้บั้นปลายของชีวิตของเขาอย่างช้า ๆ . . .
"เฮ้อ . . ."
เมื่อมองดูคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่เป็นเส้นหยักในตอนแรกค่อย ๆ ราบเรียบลงอย่างช้า ๆ แพทย์ที่ยืนอยู่รอบเตียงผ่าตัดก็หันไปมองหน้ากันด้วยความอับอาย
ทุกคนที่ยืนอยู่ด้านนอกห้องผ่าตัดก็ตกอยู่ในความเงียบสงัดอย่างน่าประหลาดใจ
ผู้บริหารของร็อกซอนเมื่อมองผ่านหน้าต่างกระจกเห็นความล้มเหลวของการทดลองคิ้วของพวกเขาทั้งสองคนก็ขมวดขึ้นมาทันที
ผู้บริหารชายวัยกลางคนที่อายุน้อยกว่าอีกคนหนึ่งหันไปมองที่ดร.ลิซท์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ และถามขึ้นมาว่า "ดร.ลิซท์เกิดอะไรขึ้น?!"
น้ำเสียงของผู้บริหารคนนี้เป็นเชิงตั้งคำถามเล็กน้อย "คุณไม่ได้บอกว่าการทดลองครั้งนี้จะประสบความสำเร็จอย่างนั้นหรอ? นี่คือสิ่งที่คุณบอกว่า ‘ประสบความสำเร็จ’?!!"
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของผู้บริหารร็อกซอน ดร.ลิซท์ที่ยืนยงคงกระพันในตอนแรกสีหน้าของเขาในตอนนี้ดูเหมือนกับกินแมลงเข้าไปทำให้สีหน้าของเขาดูน่าเกลียดมากในตอนนี้
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำงานให้กับร็อกซอน แต่เขาก็เป็นคนของไฮดราที่ส่งให้มาร่วมมือกับร็อกซอน
อย่างไรก็ตามในฐานะที่เขาเป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้และการทดลองมันเกิดการล้มเหลว เขาก็ไม่สามารถพลักความรับผิดชอบไปให้คนอื่นได้
ดร.ลิซท์จ้องมองไปที่ชายที่นอนอยู่บนเตียงผ่าตัด และอธิบายขึ้นมาอย่างช้า ๆ ว่า "คุณโคล กระบวนการการทำการทดลองกับมนุษย์เดิมทีช่วงแรกโอกาสสำเร็จของมันก็น้อยอยู่แล้ว บวกกับการความเข้ากันไม่ได้ของเส้นประสาทเทียมและเส้นประสาทของมนุษย์ทำให้การทดลองนี้ล้มเหลว ซึ่งเราจะนำเอามันไปปรับปรุงแก้ไขทันที . . . "
ดร.ลิซท์เดินไปยื่นตรงหน้าของผู้บริหารทั้งสองคนพร้อมกับชูนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้วและให้สัญญาว่า "ผมขอเวลาอีกหนึ่งสัปดาห์!"
"ระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์นี้ผมสามารถลดอัตราการเสียชีวิตของการทดลองลงได้เหลือ 30%!"
เมื่อผู้บริหารทั้งสองคนได้ยินคำพูดของดร.ลิซท์พวกเขาก็ใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อยและมองไปที่ดร.ลิซท์ด้วยความจริงจัง "หวังว่ามันจะเป็นอย่างที่คุณพูด"
ขณะเดียวกันผู้บริหารอีกคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงปนเศร้าเล็กน้อย "คุณรู้ไหม พวกเราให้ความสำคัญกับความร่วมมือในครั้งนี้มาก และองค์กรของคุณก็คงจะไม่อยากให้ความร่วมมือในครั้งนี้มันล้มเหลวอย่างแน่นอน . . ."
หลังจากทิ้งคำขู่ให้ดร.ลิซท์ผู้บริหารทั้งสองคนก็เดินออกมาจากห้องทดลอง
เมื่อพวกเขาเดินออกจากประตูพวกเขาก็ได้ยินเสียงของดร.ลิซท์ที่ดังแว่วเข้ามาในหูของพวกเขาจากระยะไกลว่า "เอาศพไปทิ้ง และอย่าลืมถอดขากลออกมาด้วย . . . "
ขณะเดียวกันลีออนที่ได้ยินคำพูดนี้หมัดของเขาก็กำแน่นอีกครั้ง
การทดลองกับมนุษย์ล้มเหลวมันไม่ใช่ข่าวดีสำหรับทีมวิจัยโครงการ ‘XR75’ เลย!
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการทดลองอยู่หลายครั้งแต่มันก็ไม่มีผู้ที่เข้ามารับการปลูกถ่ายที่ตายลง
อย่างไรก็ตามพอมาทำการทดลองต่อหน้าผู้บริหารของร็อกซอนมันกลับล้มเหลวต่อหน้าต่อตา ซึ่งการล้มเหลวครั้งนี้มันย่อมส่งผลกระทบต่อความเชื่อใจที่บริษัทร็อกซอนมีให้กับไฮดรา
ซึ่งเมื่อความร่วมมือกับร็อกซอนล้มเหลวมันคงจะไม่เป็นผลดีกับไฮดราอย่างแน่นอน
ดังนั้นเพื่อทำให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติดร.ลิซท์จึงเรียกประชุมทีมวิจัยทั้งหมดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าและทำการทดลองกับมนุษย์อีกหลายสิบครั้ง
. . .
ในขณะเดียวกันลีออนก็เริ่มรู้สึกได้ถึงเวลาที่มันเริ่มกระชั้นชิดเข้ามาเรื่อย ๆ
ถ้าหากเขายังปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปจำนวนคนที่เสียชีวิตมันก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการทดลอง และเมื่อการทดลองประสบความสำเร็จและสร้างทหารไซบอร์กออกมามากมาย ทหารรับจ้างทั่วโลกจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อย่างแน่นอน
สงครามความขัดแย้งต่าง ๆ ทั่วโลกจะไม่สามาถควบคุมได้อีกต่อไปเนื่องจากการแทรกแซงของทหารไซบอร์กพวกนี้!
คนที่ตายลงจากพิษของสงครามคงมีมากมายมหาศาล . . .
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ลีออนก็รู้ทันทีว่าตัวเองไม่สามารถล่าช้าได้อีกต่อไปแล้ว!
โปรดติดตามตอนต่อไป …