ตอนที่แล้วบทที่ 29 อืม ฮิฮิฮิ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 31 วัสดุเปลี่ยนร่าง

บทที่ 30 ราคาของความรู้


บทที่ 30 ราคาของความรู้

ไบรอนคว้าภาพแผนผังผสานรูนที่โซลเพิ่งอธิบาย รวมทั้งปากกาที่เขียน และยัดเข้าใส่ในปากอันใหญ่โตของเขา

เขาพยักหน้าให้โซล และพูดว่า "อืม" อีกครั้ง จากนั้นก็ออกจากห้องพักของโซลไป

สำหรับ เคลี่ นั้น ตั้งแต่ที่ โซล เริ่มอธิบายเกี่ยวกับวิธีการวิเคราะห์แผนผังผสานรูน นางก็ได้แต่ยืนอยู่เงียบๆ

นางจ้องมองไปยังโต๊ะและตกอยู่ในภวังค์ แม้ว่าไบรอนจะหยิบกระดาษแผนผังผสานรูนไปจนหมดแล้วก็ตาม

เมื่อเวลาผ่านไป โซลก็เริ่มกังวล

เป็นไปได้ไหมว่า ปรสิตเหล่านั้นมาจากชมรมช่วยเหลือ?

แม้ว่า รุ่นพี่ไบรอนจะบอกว่าปรสิตนั้นไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่เขาก็ไม่ได้บอกว่ามันจะไม่เป็นอันตราย

เมื่อพิจารณาจากท่าทางของพ่อมดฝึกหัดเหล่านั้นที่ถูกปรสิตสิงสู มันมีบางอย่างผิดปกติในสมองของพวกเขาจริงๆ

ทันใดนั้น เคลี่ ก็เคลื่อนไหว

นางเปิดประตูห้องของโซลและรีบวิ่งออกไปราวกับสายลม ก่อนที่โซลจะได้สติ นางก็รีบวิ่งเข้ามาราวกับสายลมอีกเช่นกัน

ปิดประตูปิดลง

"ปังง"

กระเป๋าหล่นลงบนโต๊ะด้วยเสียงที่สนั่น

จากนั้นก็มีหนังสือและอะไรบางอย่างที่เหมือนกับระเบิดมือ

"นี่คือคริสตัลเวทมนตร์ทั้งหมดของข้า ทั้ง 2 อย่างนี้คือสิ่งที่มีค่าที่สุดที่ข้าสามารถให้เจ้าได้"

เคลี่ ประสานมือคำนับให้กับเขา

"ช่วยสอนข้าอีกสักครั้งเถอะ เมื่อกี้ข้าไม่เข้าใจเลย"

โซล ก็ไม่เกรงใจ เขาเปิดกระเป๋าของเคลี่ และเอื้อมมือไปหยิบคริสตัลเวทมนตร์มา 1 กำมือใหญ่

คริสตัลเวทมนตร์จำนวนมากถูกรวบอยู่ในนิ้วมือของโซล

มันดูน่าเสียดาย แต่โซลก็หน้าบางเกินกว่าจะหยิบมันขึ้นมาอีกครั้ง

มันออกจะเกินเลยไปซักนิด

"นี่คืออะไร?" เขาชี้ไปที่หนังสือเล่มเล็กๆบน โต๊ะ

"นี่คือหนังสือเวทมนตร์ คาถาลมหายใจเปลวเพลิง ซึ่งเป็นเวทมนตร์ธาตุไฟระดับ 0"

จริงๆแล้วมันก็คือหนังสือเวทมนตร์งั้นหรือ?

โซลหยิบหนังสือขึ้นมาดูแต่ไม่ได้เปิดมัน

"ข้ามีหนังสือนี่อยู่อีกเล่มหนึ่ง และนี่คือต้นฉบับ โดยมีประสบการณ์ของ เจ้าของเดิมอยู่ด้านหลัง"

เมื่อโซลที่มีท่าทางตื่นเต็น เคลี่ก็อดที่จะภาคภูมิใจไม่ได้ขณะที่นางพูด

"แต่เนื่องจากมันเป็น เวทมนตร์ระดับ 0 ที่ค่อนข้างทรงพลัง เมื่อทำการวาดอักษรรูน เจ้าต้องผสานอักษรรูน 2 อันที่มีคุณสมบัติธาตุไฟเข้าด้วยกัน"

"หนังสือเวทมนตร์เล่มนี้เพียงเล่มเดียวก็คุ้มค่ากับความรู้ที่ข้าสอนเจ้าแล้ว" โซลถอนหายใจออกมา

พ่อมดฝึกหัดระดับ 1 สามารถเรียนรู้ เวทมนตร์ได้ 2 อย่างจากอาจาร์ยฟรี ในส่วนของเวทมนตร์อื่นๆ นั้นเขาต้องใช้คะแนนในการแลกเปลี่ยน

และยังเวทมนตร์มีความพลังมากเท่าไหร่ มันก้ยิ่งใช้คะแนนมากขึ้นเท่านั้น

โซล ไม่คาดคิดว่า เคลี่ จากมีของดีเช่นนี้อยู่ในมือของนาง

แต่ เคลี่ ไม่รู้ว่า โซล กำลังอาศัยประโยชน์จากนาง นางจึงเริ่มแนะนำสิ่งของชิ้นที่ 3

"สิ่งนี้เรียกว่าเหล็กเพลิง เป็นอุปกรณ์เสริม เมื่อใช้ให้บิดเกลียวฝาครอบด้านหลังออกและดึงเชือกที่อยู่ด้านใน จากนั้นโยนออกไปภายใน 5 วินาที หากมันถูกกระแทกอย่างรุนแรงหรือผ่านไป 5 วินาที มันก็จะระเบิด โดยจะมีเหล็กแหลมคมอยู่ภายในที่สามารถเจาะทะลวงผิวชั้นนอกได้อย่างสบาย"

"หือ นี่มัน ระเบิดมือชัดๆ"

ตัวตนของ เคลี่ ในโลกภายนอกคงไม่ใช่ธรรมดา ไม่เช่นั้นคงเป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะพกคริสตัลเวทมนตร์จำนวนมากติดตัวมาด้วยเช่นนี้ แถมนางยังมีหนังสือเวทมนตร์และอุปกรณ์เสริมอีกด้วย

"ข้าเพิ่งจะสอนการผสานรูนให้เจ้าเองนะ"

ด้วยน้ำใจของนาง ทำให้โซลรู้สึกผิดเล็กน้อย

"ไม่ สิ่งที่ข้าต้องการให้เจ้าสอนคือ การคำนวน และ วิธีคิด" เคลี่ พูดอย่างจริงจัง "น่าเสียดาย ที่ข้ายังไม่มีความรู้เทียบเท่าเจ้า ดังนั้นข้าจึงให้ได้แค่สิ่งของธรรมดาเหล่านี้"

โซล ส่ายหัว เพียงแค่ของเหล่านี้มันล้ำค่ามากเกินพอแล้ว

.....

เมื่อเคลี กลับไปก็ไม่ใครเดินไปมาตามทางเดินอีก แม้ว่าเขาจะรู้สึกผ่อนคลาย แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะใช้เวลาในการเรียนรู้

เมื่อคิดถึงเสียงหัวเราะอันแปลกประหลาด ที่ออกมาจากปากของพ่อมดฝึกหัดหน้าใหม่ที่เข้าร่วมชมรมช่วยเหลือ โซล ก็ได้แต่เตือนตัวเองว่าอันตรายมีอยู่ทุกหนแห่งบนโลกเวทมนตร์แห่งนี้ มันอาจคุกคามชีวิตของเขา ไม่ใช่เพียงแค่ซิด

ดังนั้นควรระวังให้มาก และตื่นตัวอยู่เสมอไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหน

บางครั้ง โซลก็คิดถึงโลกที่แล้ว แม้ว่าจะรู้สึกกดดันจากการเข้าสังคม และก็ไม่ถึงกับขนาดเป็นอันตรายถึงชีวิต

แม้แต่เวลานอนเขาก้ยังรู้สึกกดดัน เขาใช้เวลารำลึกถึงอดีตเพียงแค่ไม่กี่วินาที ก่อนที่เขาจะมุ่งไปยังชั้นเรียน

อีกไม่กี่วันต่อมา โซลก็ เชี่ยวชาญในการผสานรูนเข้ากับธาตุมืดได้อย่างสมบูรณ์ และได้รับเวทมนตร์ระดับ 0 จากอาจาร์ยแคซ

มันไม่จำเป็นต้องใช้คริสตัลเวทมนตร์หรือคะแนนในการเรียนรู้ เวทมนตร์ระดับ 0 2 อันแรก ซึ่งเทียบเท่ากับการเรียนวิชาบังคับจากเหล่าอาจาร์ย

แต่ถ้าเขาต้องการให้อาจาร์ยมอบเวทมนตร์ให้กับเขา เขาต้องรอจนกว่าอาจาร์ยจะพอใจหรือให้ท่านอารมณ์ดีเท่านั้น

ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เขาอาจจะได้รับก็คือความเย็นชา

"ข้ายังไม่ได้เรียนรู้เวทมนตร์พื้นฐานเลย แล้วข้าจะใช้เวทมนตร์ประเภทไหนได้บ้าง?"

การเลือกเวทมนตร์ของโซล ทำไม อาจาร์ยแคซ ต้องประหลาดใจอีกครั้ง

เขายังคงมุ่งมั่นทำงานในห้องเก็บศพ

มันทำให้อาจาร์ยแคซพึงพอใจไม่น้อย เขาเรียนรู้เวทมนตร์โดยไม่เรื่องมากแม้แต่น้อย

นอกเหนือจากศึกษาอักษรรูนแล้ว โซล ยังคงเพิ่มความแข็งแกร่งของพลังจิตของเขาอย่างต่อเนื่อง

อุปกรณ์เสริมที่เขายืมมาฝึกฝนก็คือหุ่นเชิด

ทุกครั้งที่โซลฝึกเพิ่มความแข็งแกร่งของพลังจิต เขาก็ยังคงได้ยินเสียงหุ่นเชิดที่ขอความช่วยเหลืออยู่เสมอ

เสียงร้องของความช่วยเหลือนั้นค่อยๆดังขึ้นทำให้เขารู้สึกเวียนหัว เมื่อเสียง "ฆ่าข้า" อันบ้าคลั่งนั้นดังขึ้น โซล ก็จะตัดการเชื่อมต่อจากหุ่นเชิดในทันที

หลังจากที่สามารถควบคุมพลังจิตของเขาได้แล้วในตอนแรก อิทธิพลที่หุ่นเชิดมีต่อโซลก็ลดน้อยลง

"แน่นอน ข้าสามารถแก้ปัญหานั้นได้ด้วยการแข็งแกร่งขึ้น"

โซลวางหุ่นเชิด ลงบนโต๊ะ จากนั้นก็ศึกษา คาถารักษาศพ ซึ่งเป็นเวทมนตร์ระดับ 0 ต่อไป

"จากความรู้ของโลกก่อน การเสื่อมสภาพของร่างกายเกิดจากการตายของเซลล์ชีวิตและการทำลายของจุลินทรีย์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วสิ่งใดคือหลักการของการใช้ คาถารักษาศพ?"

สมุดเปล่าเล่มใหม่เริ่มบันทึกรายละเอียดการศึกษา คาถารักษาศพ

เมื่ออาศัยความรู้จากโลกก่อน เขาจึงใช้คำว่า โลกที่แล้ว โดยจงใจเขียนคำผิดที่ออกเสียงเหมือนกัน

แม้ว่าเขาจะคิดมาก แต่โซลก็กลัวว่ามันถูกถอดรหัสได้

โลกแห่งเวทมนตร์นี้สามารถฆ่าเขาได้ทันทีหากเขาประมาทมัน

"คาถารักษาศพ เป็นเพียงเวทมนตร์เล็กๆ คล้ายกับการทำให้ร่างกายขาดน้ำและฆ่าเชื้อโรคต่างๆ? มันเป็นหลักการเดียวกับการถนอมอาหาร เพื่อให้เก็บไว้ได้นานๆ"

จากคำอธิบายของอาจาร์ยแคซ โซลรู้สึกว่าเขามีความเข้าใจเกี่ยวกับ คาถานี้มากขึ้น

จากนั้นเขาก็จดบันทึกทั้งหมดลงไป นำชิ้นส่วนศพ 3 ชิ้น ที่ถูกตัดออกมาจากแขก เมื่อวานนี้ออกมาจากตู้ นำมันไปที่โต๊ะ

โซลจ้องมองไปยังชิ้นส่วนศพ ชิ้นแรก ด้วยพลังเวทย์ของเขา เขาจึงเริ่มวาดอักษรรูนขึ้น

มือของเขากวัดแกว่งไปในอากาศ ราวกับกำลังเต้นรำ

มันเป็นท่าทางที่ถูกสอนโดยอาจาร์ยแคซ สำหรับพ่อมดฝึกหัดหน้าใหม่

ท่าทางเหล่านี้เป็นแนวหน้า ซึ่งสามารถลดโอกาสในการวาดอักษรรูนล้มเหลว

เมื่อเขาสามารถร่ายเวทมนตร์ได้อย่างเชี่ยวชาญแล้ว เขาสามารถวาดอักษรรูนได้ด้วยมือข้างเดียว ไม่ต้องทำท่าทางก็ได้

โซลฝึกฝนท่าเหล่านี้อยู่หลายร้อยครั้ง ก่อนที่เขาจะลงมือร่ายเวทมนตร์ครั้งแรก มันทำให้เขาทำท่านี้ไปโดยไม่รู้ตัว

นอกจากนี้ใช้ยังวาดอักษรรูปขึ้นในหัวของเขาซ้ำแล้วซ้ำเหล่า

การผสานรูนนั้นใช้พลังเวทย์มากเกินไป หลังจากปรับเปลี่ยนอยู่หลายครั้ง การผสานรูน 1 ครั้งก็ไม่ได้ใช้พลังเวทย์ทั้งหมดของโซลอีกต่อไป ดังนั้นโซลจึงต้องวาดมันด้วยปากกาเพื่อเพิ่มความคุ้นเคย

แม้ว่าเขาจะเตรียมตัวมามากมาย แต่การร่ายเวทมนตร์ครั้งแรกของโซลก็ยังล้มเหลว

พลังเวทย์ในร่างกายของเขาผันผวนเล็กน้อย โซล สงบสติก่อนที่เขาจะครุ่นคิด

"เมื่อผสานรูนหลายอันเข้าด้วยกัน มันทำให้จิตใจของเขาฟุ้งซ่าย ก่อให้เกิดความล้มเหลว หรือว่าเป็นเพราะความสามารถของข้ายังไม่มากพอ"

หลังจากล้มเหลวครั้งแรก เขาก็ไม่ท้อ เขาหยิบลูกแก้วคริสตัลขึ้นมาและเริ่มทำสมาธิ เพื่อฟื้นฟูพลังเวทย์ของเขา

เป็นเวลาบ่ายโมง

บ่าย 2

บ่าย 3

เมื่อแสงเทียนเหนือสายพานลำเลียงสว่างขึ้น ในที่สุด โซลก็ สามารถทำได้สำเร็จ

เวทมนตร์ระดับ 0 คาถารักษาศพ ในที่สุดข้าก็ใช้มันได้แล้ว!!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด