บทที่ 29 อืม ฮิฮิฮิ
บทที่ 29 อืม ฮิฮิฮิ
ไม่
ตอนที่ออกมาเขารีบร้อนเกินไป ดังนั้นโซลจึงหยิบข้าวของออกมาอย่างลวกๆ ทำให้ภาพแผนผังผสานรูนถูกเผยออกมา
"อืมม"
คราวนี้เสียงของเขาเปลี่ยนไป เสียงของเขาราวกับเสียงสวด
พ่อมดฝึกหัดระดับ 2 ได้เห็นบางสิ่งที่เขาสนใจ ทำให้การกระทำของเขาเปลี่ยนไปทันที
การแสดงออกของเขากลายเป็นมีความสุข
โซล ถอนหายใจและบอกกับรุ่นพี่ที่ดูไม่มีอันตรายผู้นี้ "รุ่นพี่นี้มันก็เกือบ 2 ทุ่มแล้ว พวกเราควรกลับห้องพักที่หอคอยตะวันตกได้แล้ว"
"อืมม" คำถามตอบสั้นๆ ก็ดังขึ้น
โซล รีบเดินกลับหอคอยตะวันตกอย่างรวดเร็ว โดยมีพ่อมดฝึกหัดระดับ 2 เดินตามหลังเขามาติดๆ
เขานิ่งเงียบราวกับไม่มีตัวตน
เหมือนผีที่ตามติดเขา
เมื่อโซลกับมาห้องโถง พ่อมดฝึกหัดส่วนใหญ่กลับมาแล้วเช่นกัน
ตามกฏแล้ว จะมีเพียงไม่กี่คนที่อยู่ในหอคอยตะวันออกหลัง 2 ทุ่ม ดูเหมือนเขาจะกลับมาได้ทันเวลา
ในตอนนั้น บริเวณห้องโถงของหอคอยตะวันตก พลุกพล่านไปด้วยพ่อมดฝึกหัดระดับ 1 ที่กลับมา
หากไม่มีที่แห่งนี้ พวกเขาคงรู้สึกกดดันไม่น้อย
สถานที่พักผ่อนในหอคอยพ่อมดมีขนาดเล็กอย่างมาก มีโอกาสน้อยที่พวกเขาจะได้ออกมาด้านนอก
ทุกครั้งหลังจากเรียนหนังสือมาทั้งวัน ช่วงเวลาที่ทุกคนกลับมาห้องโถงแห่งนี้ ถือเป็นช่วงเวลาผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าได้ดีที่สุด
โซลไม่เคยเห็นพ่อมดฝึกหัดมากเท่านี้มาก่อน
เพราะทุกครั้งที่มาพัก เขาจะตรงไปยังห้องพักทันทีไม่เคยออกมาด้านนอก
แต่ดูเหมือนวันนี้จะคึกคักเป็นพิเศษ
"โซล" เคลี เดินเข้ามาจากในห้องโถง ดุเหมือนนางกำลังรอโซลอยู่
เมื่อนางเห็นเขา นางก็ก้าวเข้ามาทันที รู้สึกไม่ค่อยมีความสุขมากนัก
"ทำไมเจ้าถึงไม่ไปชมรมช่วยเหลือกันล่ะ"
โซล กระพริบตา
"ข้า ลืมหน่ะ"
เขาลืมจริงๆ
ตอนแรกหลังจากค้นพบแผงผันผสานรูน เขาก็มุ่งความสนใจไปที่การศึกษาจนไม่ได้คำนึงถึงเวลาที่เลยผ่านไป ต่อมาเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับงานที่มากมายจนแทบไม่ได้ขยับตัว และออกจากหอคอยตะวันออกได้ทันเวลา
ในตอนนั้น เขาจะมีอารมณ์ไปนึกถึงชมรมช่วยเหลือได้อย่างไรกัน?
"ข้าไปเพราะ โดซ บอกข้าว่าเจ้าก็ไปด้วย" เคลี ทำหน้าบูดบึ้ง สีหน้าของนางเคร่งขรึมกว่าปกติมาก
"ข้าแค่บอกว่าจะลองคิดดู.."
"ข้าว่าแล้ว เจ้าโดซ นี่ไม่น่าไว้ใจจริงๆ" เคลีดูโกรธ แต่นางก็สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและส่งยิ้มออกมา "แต่ชมรมช่วยเหลือนั้นก็น่าสนใจเหมือนกันนะ พวกเราปรึกษากัน มันทำให้ข้ารู้ถึงปัญหาที่ข้าก็คิดไม่ถึงมาก่อน ฮิฮิฮิ..."
โซล มองเคลีด้วยความหวาดกลัว
เคลี รู้สึกตกใจไม่น้อยที่โซลจ้องมองนาง นางจึงรีบก้มหัวลงและมองตัวเอง "ทำไมเจ้าถึงมองข้าแบบนั้นละ"
เมื่อครู่ เคลี จู่ๆ ก็หัวเราะออกมา มันทำให้เขารู้สึกขนลึก ตอนนี้เขาก็ยังรู้สึกขนลุกไม่หายเลย
"ทำไมเจ้าถึงยิ้มแบบนั้นกันละ" โซลถามอย่างเงียบง่าย
"หัวเราะงั้นหรือ?" เคลี จับหน้าของนางโดยไม่รู้ตัว "ทำไมข้าต้องหัวเราะกันละ"
"ข้าก็แค่..."
"ฮิฮิฮิ..."
โซล กับ เคลีหันควับไปพร้อมๆกัน มองไปไม่ไกลนัก ทางฝั่งตรงข้าม หญิงสาวหัวเราะออกมาขณะพูดคุยกับโดซ
"ฮิฮิฮิ..."
โดซ ดูเหมือนจะได้ยินสิ่งที่น่าสนใจ เขาจึงหัวเราะออกมา
โซล รู้สึกว่าบรรยากาลรอบห้องโถงเริ่มแปลกประหลาด
เขามองออกไปในระยะไกลอีกครั้ง พ่อมดฝึกหัดทั้งหมดมาตามทางเดิน ทำไมคนถึงได้เยอะนัก
"ฮิฮิฮิ..."
"ฮิฮิฮิ..."
เสียงหัวเราะเหล่านั้นดูเหมือนจะปกติ แต่มันกลับดังก้องไปทั่วห้องโถงเป็นครั้งคราว
ในที่สุด สายตาของโซลก็จ้องมองไปที่เคลีที่อยู่ตรงหน้าเขา
"ฮิฮิฮิ..." นางคงยังมองไปยังโดซ ราวกับว่านางได้ยินสิ่งที่น่าสนใจ นางจึงหัวเราะออกมา
"เคลลี่!!" โซลตบไปที่หน้าของเคลี่
"อะ" เคลี่กลับมาได้สติ "เจ้าทำอะไรหน่ะ?"
โซลไม่รู้จะอธิบายอย่างไร แต่เขารู้สึกว่า เขาจะปล่อยให้เคลี่หัวเราะแบบนี่ไม่ได้
โซล ดึงเคลี่ เข้าไปในห้องพักของเขา
เป็นครั้งแรกที่ เคลี่ ได้เข้ามาห้องของโซล นางจ้องมองไปที่โต๊ะของโซล
แน่นอนว่าด้วยการที่นางเป็นแม่มดฝึกหัด นางคงสนใจที่จะเรียนรู้
ทันทีที่โซลปิดประตู เขาก็จำได้ว่ามีรุ่นพี่ที่ราวกับภูติผีตามเขามา
แต่เมื่อเขาต้องการที่จะเปิดประตู เพื่อเรียกรุ่นพี่ผู้นั้นเข้ามา
แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นเขาก็พบว่า รุ่นพี่ที่พูดแต่คำว่า "อืม" ก็มายืนอยู่ข้างหลังเคลี่แล้ว
เคลี่ มองไปที่โต๊ะของ โซล ด้วยความอยากรู้อยากเห็นในเวลานี้ นางต่อต้านความรู้สึกที่อยากจะพลิกคว่ำโต๊ะเอาไว้
แต่ทันใดนั้น รุ่นพี่ที่อยู่ด้านหลัง เคลี่ ก้มหัวลงทันที
เคลี่ยังคงจ้องมองไปที่โต๊ะของโซลอย่างตั้งใจราวกับนางสัมผัสถึงอะไรไม่ได้เลย
"รุ่นพี่ อย่าา!"
เคลี่ ที่ได้ยินเสียง โซล ร้องออกมา ก็จะหันหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว เห็นรุ่นพี่คนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังของนาง
แม้ว่า เคลี่ จะเป็นหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่มั่นใจในตัวเอง แต่เมื่อนางเห็นใครบางคนจูบไปที่หัวของนาง มันก็ทำให้นางตกใจจนตัวแข็งทื่อไปทั้งตัว
เมื่อนางพยายามจะขยับตัวอีกครั้งก็ พบว่าร่างกายขยับไม่ได้
"โซล... โซล..." หญิงสาวตัวเล็กๆ อายุ 12 ปีตัวสั่น ร้องขอความช่วยเหลือจากโซล
เมื่อโซลก้าวออกไปข้างหน้า เขาก็มองเห็นรุ่นพี่ส่ายหัวห้ามโซลเอาไว้
"อืมมม"
เขาส่งเสียงว่าอย่าเข้ามา
"ป๊องง"
เสียงเหมือนมีอะไรบางอย่างถูกดูดออกมาจากสมองของเคลี่ ปากที่เหมือนกับท่อโปร่งนูนขึ้นมา เคลื่อนจากหัวของ เคลี่ มุ่งหน้าไปยังปากของ รุ่นพี่คนนั้น
หลังจากนั้น รุ่นพี่ผู้นั้นก็เก็บปากยาวๆ ของเขากลับไป เช็ดมันด้วยหลังมือ พยักหน้าให้กับโซล
"อืมม"
ปฏิกิริาแรกของรุ่นพี่คือการบอกโซล ว่าไม่เป็นไรแล้ว
เคลี่ ที่ตัวแข็งอยู่กับที่ตั้งแต่รุ่นพี่ จูบหัวนาง ก็เริ่มกลับมาขยับได้อีกครั้ง
"นี่ข้าติดเชื้องั้นหรือ?" นางยกมือขึ้น แตะไปที่หัวของนาง มันเป็นบาดแผลขนาดเล็ก 2 แผล ซึ่งรู้สึกแสบเล็กน้อยเมื่อสัมผัส
เมื่อเคลี่ กับมารู้สึกตัวอีกครั้ง ก็โค้งคำนับให้กับรุ่นพี่ที่ช่วยชีวิตนางด้วยความเคารพ
"ข้าขอขอบคุณท่านมาก"
รุ่นพี่ไม่ได้สนใจเคลี่ และพยักหน้าให้กับ โซล
"ออ ใช่"
โซล ยื่นกระดาษแผนผังในมือของเขาให้กับ รุ่นพี่ด้วยความเคารพ
อย่างไรก็ตาม รุ่นพี่ได้เห็นภาพนั้นแล้วแม้ว่าโซลจะไม่ได้มอบมันให้กับเขา อีกฝ่ายก็สามารถจำมันได้อยู่ดี
นอกจากนี้เขายังช่วยเคลี่ เอาไว้
และเคลี่ เป็นเพื่อนของโซล
"รุ่นพี่ ท่านพอจะช่วยพ่อมดฝึกหัดด้านนอกเหล่านั้นได้หรือไม่?" โซลถามด้วยความไม่มั่นใจ
รุ่นพี่ มองไปยังภาพแผนผังที่โซลมอบให้เขา และส่ายหัวด้วยความไม่ใส่ใจ
หลังจากถูกปฏิเสธ โซลก็หายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เขาไม่ได้รีบร้อนมากนัก แต่จริงๆ แล้วรู้อยู่แล้วรุ่นพี่ท่านนี้ไม่ใช่พ่อพระ
ในตอนที่เขาช่วยเหลือ เคลี่ อีกฝ่ายช่วยเพราะต้องการแลกเปลี่ยนมากกว่า
หากโซลไม่ได้แสดงให้เห็นว่า เคลี่ เป็นเพื่อนของเขา รุ่นพี่ท่านนี้ก็อาจจะไม่ลงมือใดๆ เลย
ไม่เป็นไร โซลชอบการแลกเปลี่ยน เขาไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใคร
"รุ่นพี่ ถ้าท่านสนใจ ข้าสามารถบอกหลักการของกระดาษแผ่นนั้นให้แก่ท่านได้"
เนื่องจากภาพแผนผังได้ถูกเอาไว้แล้ว โซลจึงไม่สนใจหากเขาจะรู้มากกว่านี้ เขาเชื่อว่าพ่อมดฝึกหัดระดับ 2 จะสามารถเข้าใจหลักการพื้นฐานของภาพแผนผังนี้ได้ไม่ช้าก็เร็ว
เนื่องจากอีกฝ่านชื่นชอบในการแลกเปลี่ยน โซลจึงไม่รังเกียจที่จะเผยไพ่เด็ดในมือของเขาออกมา
ด้วยวิธีนี้ไพ่เด็ดของเขา จะไม่ไร้ค่าในทันที
รุ่นพี่ นิ่งเงียบแต่ไม่ได้ปฏิเสธ โซล เรียกเขาและเคลี่ ไปยังโต๊ะยาวตรงหน้า อธิบายแนวคิดและการใช้งานแผนผังการผสานรูนอย่างย่อ
หลังจากพูดไปเพียงไม่กี่ประโยค ทั่วทั้งห้องก็เงียบกริบ
รุ่นพี่ผู้นั้นเปิดปากของเขาออก
ปากของเขายืดออกเหมือนยาง มันมีขนาดเพียงพอที่จะให้แขนสอดเข้าไปได้
จากนั้นเขาก็เอื้อมมือเข้าไป ล้วงเข้าไปในปากของเขา ดังหนังสือเล่มเล็กๆ ออกมา
มีลายมือยุ่งๆ อยู่บนหนังสือเล่มเล็ก
บันทึกการศึกษาของ ไบรอน
"รุ่นพี่ ท่านชื่อ ไบรอน งั้นหรือ?"
รุ่นพี่ไบรอนพยักหน้า
เลือดสีแดงเข้มไหลออกมา
โซลและเคลี่ ต่างคาดไม่ถึง
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
เขาจะตายหรือไม่?
โดยไม่คาดคิด ปากที่มีฟันสีเหลืองขนาดใหญ่รวมถึงลิ้นหนาๆ ก็โผล่ออกมาจากบริเวณบาดแผล
"ปรสิตของชมรมช่วยเหลือ จะไม่ทำร้ายเจ้าถึงตาย" เสียงแหบแห้งดังขึ้นราวกับเขาไม่ได้พูดมานานมากแล้ว "แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี อย่าเข้าใกล้มัน ใส่ใจแต่เรื่องของตัวเองซะ"
เมื่อไบรอนเริ่มพูด บาดแผลของเขาก็ค่อยๆเริ่มหาย หลังจากพูดคำสุดท้ายออกมาบาดแผลก็หายไปทันที เหลือทิ้งไว้เพียงคราบเลือดที่ไหลจากคอลงไปถึงหน้าอก