บทที่ 260:คุณต้องการให้ฉันไปฆ่าพระเจ้าหรือ (ฟรี)

บทที่ 260:คุณต้องการให้ฉันไปฆ่าพระเจ้าหรือ (ฟรี)

ขณะที่จางเซิงยังอยู่ในภาวะงุนงง เหว่ยฉีโหรวก็เปลี่ยนรูปร่างอีกครั้ง

ในครั้งนี้ เธอกลายเป็นโล่ไฟสีแดง

ทันทีถัดมา เธอก็เปลี่ยนเป็นเกราะสีแดง

พอจางเซิงคิดว่าเหว่ยฉีโหรวจะหยุดการเปลี่ยนรูป เธอกลับกลายเป็นปืนติดยิงสีแดง

ปากกระบอกปืนปล่อยลูกไฟสีแดงออกมา สร้างความน่าเกรงขาม

"โอ้ว, ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ!" ตาของจางเซิงเบิกกว้าง

สุดท้าย เหว่ยฉีโหรวกลายเป็นปืนสั้นไฟสีแดง

จากข้อมูลที่เขาได้รับมาก่อนหน้านี้ บอกว่าอาวุธพิเศษสามารถเปลี่ยนรูปเป็นอุปกรณ์ชนิดต่างๆ ได้

แต่ที่เหว่ยฉีโหรวสามารถเปลี่ยนรูปได้ถึง 5 รูปแบบนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน!

หลังจากที่เหว่ยฉีโหรวกลับสู่รูปร่างมนุษย์ จางเซิงรีบวิ่งไปยังคอมพิวเตอร์

เขาเริ่มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธพิเศษ

ภายในเวลา 10 นาที เขาก็ปิดคอมพิวเตอร์

จากที่เขาค้นพบ มีอาวุธพิเศษที่สามารถเปลี่ยนรูปได้หลายรูปแบบ

แต่ที่เข้มแข็งที่สุดสามารถเปลี่ยนได้เพียง 3 รูปเท่านั้น

นั่นคืออาวุธพิเศษที่เรียกว่า 'เทพสิทธิ์'

แต่เหว่ยฉีโหรวสามารถเปลี่ยนรูปได้ถึง 5 รูปแบบ มีทั้งแบบประชิด การป้องกัน และการโจมตีระยะกลาง ไกล

เธอเป็นอาวุธพิเศษที่สามารถทำทุกอย่างได้เลย!

พอคิดอย่างนี้ จางเซิงก็มองเหว่ยฉีโหรวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล

อยากจะรีบโอบกอดเธอในทันที

เมื่อเหว่ยฉีโหรวเห็นสายตาบ้าคลั่งของจางเซิง เธอรีบถอยหลังสองก้าว

เห็นเช่นนั้น จางเซิงก็ตกอยู่ในภวังค์คิดครุ่น

เขายังคงไม่เข้าใจว่าเหว่ยฉีโหรวแท้จริงแล้วคืออะไร

แม้จะบอกว่าเป็นอาวุธพิเศษ แต่กลับสามารถแสดงท่าทางและอารมณ์คล้ายมนุษย์

แม้แต่สีหน้าต่างๆ ก็ดูมีความเป็นมนุษย์มาก

เป็นการกระทำที่อาวุธพิเศษไม่สามารถทำได้

เมื่อสงบสติอารมณ์ลงได้ จางเซิงถามด้วยความสงสัย "เหว่ยฉีโหรว, เมื่อก่อนเธอเคยเป็นคนใช่ไหม?"

เมื่อได้ยินคำพูดของจางเซิง เหว่ยฉีโหรวก็นิ่งไปชั่วขณะ

จากนั้น สีหน้าของเธอก็แสดงความเศร้าโศก

เอ้อ...ทำไมเธอถึงอยากร้องไห้ล่ะ?

จางเซิงรู้สึกอึดอัดใจกับเหว่ยฉีโหรวที่กำลังจะร้องไห้

แต่จากสีหน้าของเธอก็พอจะเดาได้ว่ามีเรื่องอะไรบางอย่าง...

นี่เป็นอาวุธพิเศษที่ถูกปรับปรุงจากมนุษย์อย่างแน่นอน!

ท้ายที่สุด เหว่ยฉีโหรวก็ไม่ได้ร้องไห้ออกมา เธอนิ่งเงียบไปสักครู่ แล้วถามว่า "คุณชื่อว่าอะไร?"

"จางเซิง"

เมื่อได้ยินชื่อนี้ เหว่ยฉีโหรวเบิกตาโต แสดงสีหน้าที่น่าสงสาร ถามว่า "จางเซิง ฉันจะติดตามคุณไปได้ไหม?"

"อะไร? ติิดตามฉันไป?"

เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ จางเซิงก็งุนงงไปหมด

"ใช่ ใช่!" เหว่ยฉีโหรวพยักหน้าอย่างจริงจัง

"ทำไม?"

จางเซิงไม่ได้ตอบรับคำขอของเธอทันที

เขาคิดว่าตัวเองคงไม่มีเสน่ห์มากพอถึงขั้นนี้

แน่นอนว่าเหว่ยฉีโหรวคงมีวัตถุประสงค์อยู่เบื้องหลัง

คิดเช่นนี้ จางเซิงจึงจ้องตาเหว่ยฉีโหรวอย่างตั้งใจ

ในครั้งนี้ เหว่ยฉีโหรวไม่ได้แสดงสีหน้าหวาดกลัว หรือตื่นตระหนก แต่เพียงมองจางเซิงอย่างเงียบ ๆ

"จางเซิง จริง ๆ แล้ว ฉันรับรู้ถึงพลังอันแข็งแกร่งภายในตัวคุณ!"

เมื่อพูดจบ จางเซิงก็ตกใจในทันที

ไม่คิดว่าแม้แต่พลังเทพก็ยังปกปิดเธอไม่ได้

เมื่อเห็นว่าจางเซิงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เหว่ยฉีโหรวจึงพูดต่อ "พลังภายในร่างกายคุณคือพลังที่น่ากลัวมาก!"

"แม้เธอจะรับรู้ถึงพลังของฉัน แต่เธอมีเป้าหมายอะไร?"

"ฉันต้องการแก้แค้น!"

เมื่อพูดจบ ออร่าของเหว่ยฉีโหรวพุ่งออกมาด้วยความตั้งใจฆ่าฟัน

"เธอจะแก้แค้นใคร?"

หลังจากที่ยิ่งกล่าวมากขึ้น จางเซิงก็เริ่มเข้าใจ ดูเหมือนเหว่ยฉีโหรวต้องการใช้พลังของเขาไปแก้แค้นให้เธอ

ไม่นานนัก เหว่ยฉีโหรวจึงพูดด้วยความเคร่งขรึม "คนที่ฉันต้องการแก้แค้น คือ ดร.แมคฟายล์ ผู้ก่อตั้งบริษัทอาวุธ!"

"หืม? เขามีกำลังรบเท่าไหร่?"

"เป็นจอมเทพ!"

"อะไรนะ?"

เมื่อได้ยินคำตอบจากเหว่ยฉีโหรว จางเซิงก็ตะลึง

ให้เขาไปหาจอมเทพเพื่อแก้แค้น? แสดงว่าเขาต้องไปสู้กับความตายใช่ไหม?

"เหว่ยฉีโหรว นี่เป็นการขอเกินไป และเธอก็มองเกินความจริง" จางเซิงส่ายหัว

ความแตกต่างระหว่างเทพและจอมเทพคือ เทพมีพลังในระดับโลก ขณะที่จอมเทพควบคุมทุกอย่าง

ต้องเพิ่มพลังในระดับโลกให้ถึง 10 จึงจะสามารถยกระดับจากเทพขึ้นเป็นจอมเทพได้

ไม่ต้องพูดถึงการไปหาจอมเทพหรอก เขายังไม่มีแม้กระทั่งโลกของตัวเองที่สมบูรณ์อยู่เลย

เหว่ยฉีโหรวพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "จางเซิง ฟังฉันให้ดี ไม่ใช่ให้คุณไปหาเดอะดร.แมคฟายล์ตอนนี้หรอก แต่ฉันกลับเชื่อในศักยภาพของคุณมากกว่า!"

เมื่อได้ยินคำของเธอ จางเซิงก็จมลงในความคิด...

การได้มาซึ่งวิญญาณอาวุธที่ทรงพลังอย่างเหว่ยฉีโหรว ถือเป็นเรื่องที่คุ้มค่าอย่างมาก

จางเซิงมีความมั่นใจในตัวเองอย่างมาก

เขาเชื่อมั่นว่าเขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งจนไม่มีใครสามารถต่อกรได้!

เหว่ยฉีโหรวเห็นว่าจางเซิงเงียบ จึงเอ่ยขึ้น "จางเซิง ถ้าฉันเดาไม่ผิด ภายในตัวคุณน่าจะมีพลังทำลายล้างอยู่!"

"หืม? เธอรับรู้ได้เหรอ?" จางเซิงมองเธอด้วยความสงสัย

"ไม่เพียงแต่ฉันรับรู้ได้ แต่ฉันยังรู้วิธีที่จะกำจัดมันด้วย!" เหว่ยฉีโหรวพยักหน้า

"อะไรนะ? เธอรู้วิธีกำจัดพลังทำลายล้าง?" จางเซิงเบิกตากว้างหลังได้ยิน

พลังทำลายล้างที่ซานเค่อปล่อยไว้นั้นไม่ธรรมดา มันสามารถพรากชีวิตเขาไปได้ทุกเมื่อ

เวลาที่เขาไม่ได้ใช้พลัง เขาก็ยังรู้สึกเฉยๆ แต่พอใช้พลัง รู้สึกเหมือนเซลล์ทั่วร่างกายจะถูกทำลายด้วยพลังทำลายล้างนั้น

ตอนนี้รู้ว่ามีวิธีกำจัดแล้ว จางเซิงจึงตื่นเต้นมาก

ถ้ากำจัดพลังทำลายล้างในร่างกายได้ เขาก็จะกลับสู่จุดสูงสุดได้

เมื่อกลับสู่จุดสูงสุด เขาจะไม่ต้องกังวลหวาดกลัวอีกต่อไป

เห็นจางเซิงแสดงสีหน้าตื่นเต้น เหว่ยฉีโหรวก็รู้สึกแปลกใจมาก

เธอไม่คิดว่าจางเซิงจะมีปฏิกิริยาตอบสนองรุนแรงขนาดนี้

"จางเซิง ถ้าคุณตอบรับคำขอของฉัน ฉันจะช่วยคุณกำจัดพลังทำลายล้างในร่างกายของคุณ!" เหว่ยฉีโหรวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจางเซิงจะยอมรับ

หลังจากสงบสติอารมณ์ลง จางเซิงจ้องมองดวงตาของเธอเป็นเวลาหนึ่งนาที

ต้องยอมรับว่าดวงตาของเหว่ยฉีโหรวนั้นสวยมาก

เธอมีดวงตาสีม่วง 2 ดวง

"ตกลง ฉันยอมรับ!"

เมื่อได้ยินว่าจางเซิงยอมรับ เหว่ยฉีโหรวก็แสดงสีหน้าดีใจ

"เยี่ยมไปเลย จางเซิง เรามาทำสัญญาผูกพันวิญญาณอาวุธกันเถอะ!"

"สัญญาผูกพันวิญญาณอาวุธ? นั่นคืออะไร?" จางเซิงถามด้วยความสงสัย

"เอ่อ... คุณไม่รู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ?" เหว่ยฉีโหรวรู้สึกสงสัยในคำพูดของจางเซิง

จางเซิงส่ายหัว

"เอาล่ะ!"

ต่อมา เหว่ยฉีโหรวอธิบายเรื่องสัญญาผูกพันวิญญาณอาวุธให้จางเซิงฟัง

โดยง่ายแล้ว ก็คือ ถ้าคนๆ หนึ่งต้องการใช้วิญญาณอาวุธ ก็ต้องทำสัญญากับมันก่อน

สัญญานี้ก็คือ สัญญาผูกพันวิญญาณอาวุธ

ในฐานะผู้ใช้วิญญาณอาวุธ หรือเจ้าของ ต้องรับปากว่าจะช่วยวิญญาณอาวุธทำสิ่งหนึ่ง

กำหนดเวลาการทำสิ่งนั้นขึ้นอยู่กับวิญญาณอาวุธ

ส่วนหน้าที่ของวิญญาณอาวุธคือ ช่วยเจ้าของต่อสู้รบ!