ตอนที่แล้วบทที่ 124 เครื่องประดับจริงและปลอม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 126 เสร็จสิ้นเทคโนโลยีขั้นต้น

บทที่ 125 ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก(ฟรี)


บทที่ 125 ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก(ฟรี)

การถ่ายทอดสดดำเนินไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ผลงานออกแบบเครื่องประดับของบริษัท หวังเย่ จิวเวลรี่ ก็ถูกผู้ชมกวาดซื้อไปจนหมดเกลี้ยง

ปรากฏการณ์นี้ นับว่าเป็นผลดีมากกว่าผลเสียต่อบริษัทอย่างเห็นได้ชัด ยอดขายเครื่องประดับของบริษัทในครั้งนี้พุ่งทะยานขึ้นสู่อันดับหนึ่งในบรรดาสตูดิโอทั้งหมด ทิ้งห่างบริษัทอื่นๆ ที่ตามมาอย่างไม่เห็นฝุ่น

"เยี่ยมมาก เยี่ยมมาก... คุณหวังดูสิ ยอดขายของเราขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแล้ว!" หวู่เส้าฮัว ซึ่งเฝ้าติดตามตัวเลขยอดขายอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้นไปยังหวังเย่ เมื่อเห็นยอดขายเครื่องประดับค่อยๆ แซงหน้าบริษัทอื่น

นี่อาจเป็นยอดขายที่สูงที่สุดเท่าที่บริษัทเคยทำได้ เป้าหมายเริ่มแรกของหวู่เส้าฮัวในครั้งนี้นั้นเพียงแค่การติดอันดับท็อปเท็นของประเทศก็เพียงพอแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าผลลัพธ์ที่ได้จะน่าทึ่งขนาดนี้ อันดับในประเทศของพวกเขานั้นก้าวกระโดดไปไกลแล้ว แม้แต่ในอันดับโลกก็ยังติดอันดับสี่และห้า

ในขณะที่หวู่เส้าฮัวกำลังหันไปพูดกับหวังเย่ อันดับของพวกเขาก็พุ่งขึ้นสู่อันดับสามของโลกอย่างรวดเร็วราวกับติดจรวด

"ผู้จัดการหวู่ คุณดูสิ เราขึ้นมาอยู่อันดับสามของโลกแล้ว..." เหลียงเหว่ยเหว่ย ชี้นิ้วสั่นเทาไปที่ข้อมูลสถิติบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ ดวงตากลมโตเป็นประกายระยิบระยับด้วยความดีใจ

เมื่อได้ยินเสียงของเหลียงเหว่ยเหว่ย ทุกคนก็รีบเข้าไปมุงดู บรรดาดีไซเนอร์เครื่องประดับต่างก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ แม้ว่าก่อนเริ่มการแข่งขัน พวกเขามั่นใจในผลงานของตนเอง แต่การที่ผลงานจะขึ้นไปถึงอันดับสามของโลกนั้น พวกเขาไม่เคยแม้แต่จะคิดฝันมาก่อน

"คุณหวัง ตอนนี้ยอดสั่งซื้อของเราเกินงบประมาณที่เราตั้งไว้สำหรับการผลิตในโรงงานแล้วครับ แต่เราสามารถเร่งการผลิตในภายหลังได้ ผมเชื่อว่าหลังจากจบการถ่ายทอดสด เราอาจจะได้อันดับหนึ่งด้วยซ้ำ" หวู่เส้าฮัวเดินเข้าไปหาหวังเย่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเบา

ขณะนี้ ปริมาณคำสั่งซื้อออนไลน์พุ่งสูงเกินกว่าจำนวนที่พวกเขาวางแผนจะผลิตไว้ หากยังคงเปิดช่องทางการสั่งซื้อต่อไป นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องเร่งการผลิตอย่างหนักเพื่อให้สามารถส่งมอบสินค้าได้ทันตามกำหนด แต่นี่เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย หวู่เส้าฮัวได้เตรียมวิธีแก้ปัญหาไว้แล้ว

"ไม่ต้องแล้ว ในเมื่อถึงขีดจำกัดกำลังการผลิตของเราแล้ว ก็หยุดรับคำสั่งซื้อเดี๋ยวนี้เลย..." คำตอบของหวังเย่ทำให้ทุกคนต่างก็คาดไม่ถึง โอกาสดีๆ เช่นนี้มาอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่เขากลับบอกให้หยุดการขาย หากไม่ติดว่าหวังเย่เป็นเจ้าของบริษัท คงจะถูกคนอื่นด่าว่าสมองทึบไปแล้ว

"ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เราต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจ ในโลกของการค้าขายก็เช่นกัน แม้ว่ายอดขายที่สูงขึ้นจะทำให้บริษัทของเราได้รับผลกำไรมากขึ้น แต่เราอย่าลืมว่าเรากำลังไม่ได้จัดโปรโมชั่นลดกระหน่ำ เราต้องสร้างความน่าติดตามให้กับลูกค้า" หวังเย่ถอนหายใจอย่างจนใจเมื่อเห็นทุกคนจ้องมองเขาด้วยความงุนงง ก่อนจะเริ่มอธิบายเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจในครั้งนี้

เมื่อฟังคำอธิบายของหวังเย่ ทุกคนก็เข้าใจในทันที พนักงานฝ่ายขายรีบระงับช่องทางการสั่งซื้อสินค้าทันที พร้อมทั้งประกาศว่ายอดขายรอบพรีออเดอร์ได้ถึงขีดจำกัดแล้ว จึงจำเป็นต้องระงับการขาย

"อ๊ะ... ไม่จริงน่า ทำไมถึงหยุดขายเร็วขนาดนี้ ฉันยังไม่ได้สั่งเลย..."

"ฮือๆ... ฉันแค่ไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว กลับมายังไงก็ไม่ทันแล้วเหรอ"

"แบบนี้ก็ได้เหรอ ฉันอยากได้จริงๆ ช่วยพิจารณาด้วย..."

ทันทีที่แถลงการณ์อย่างเป็นทางการของบริษัท หวังเย่ จิวเวลรี่ ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม ส่วนใหญ่ต่างรู้สึกผิดหวังที่ไม่สามารถซื้อเครื่องประดับของบริษัทได้ บางคนถึงกับตั้งตารอคอยการผลิตสินค้าใหม่ในครั้งต่อไป

"ทุกอย่างพร้อมแล้ว ตอนนี้ฝ่ายขายกำลังดำเนินการจัดการคำสั่งซื้อทั้งหมด มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศจำนวนมาก เราจำเป็นต้องเปิดช่องทาง..."

หลังจากหวู่เส้าฮัวจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเข้าไปในห้องทำงานของหวังเย่เพื่อรายงานความคืบหน้าด้วยท่าทีระมัดระวัง

ในเวลานั้น หวังเย่กำลังหลับตาพักผ่อนอยู่บนโซฟาในห้องทำงาน เมื่อได้ยินเสียงของหวู่เส้าฮัวก็ลืมตาขึ้นทันที เขาเหลือบมองหวู่เส้าฮัวก่อนจะพยักหน้าด้วยความพอใจ

ช่วงหลายวันที่ผ่านมาหวังเย่ทำงานหนักมาก จนเผลอรู้สึกง่วงขณะอยู่ที่งาน เขาจึงตัดสินใจมอบหมายงานทั้งหมดให้หวู่เส้าฮัวดูแลแทน ส่วนตัวเองตั้งใจจะมางีบหลับในห้องทำงานสักครู่

"อืม... นายจัดการไปเถอะ ช่วงนี้เรื่องบริษัทฉันฝากนายดูแลก่อนก็แล้วกัน ช่วงนี้อาจจะมีธุระอย่างอื่นต้องจัดการ ถ้าเป็นแผนงานที่นายเห็นว่าเหมาะสม ไม่ต้องรายงานฉันก็ได้" หวังเย่พูดขึ้นพร้อมกับบิดขี้เกียจและถอนหายใจยาว

"ครับ... คุณหวังวางใจได้เลย เรื่องทางนี้ผมจัดการเอง แต่ว่าคุณหวัง... แล้วเรื่องของเฮาเหริน กับพวกนั้น คุณจะจัดการยังไงดีครับ" หวู่เส้าฮัวตอบตกลงด้วยสีหน้ามั่นใจ ก่อนจะถามถึงเรื่องของเฮาเหริน กับพวกพ้อง ซึ่งคาดว่าครั้งนี้หวังเย่คงไม่ปล่อยไปง่ายๆ เหมือนครั้งก่อน

"หึ... พวกสารเลวนั่นเหรอ ก็ต้องจัดการให้สิ้นซากไปเลยสิ!" ดวงตาของหวังเย่ฉายแววเยือกเย็นขึ้นมาทันทีเมื่อเอ่ยถึงชื่อของเฮาเหริน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและดูถูกเหยียดหยาม โดยเฉพาะประโยคหลังที่เน้นย้ำเป็นพิเศษ

แม้สีหน้าของหวังเย่จะไม่ได้แสดงความโกรธออกมาอย่างชัดเจน แต่หวู่เส้าฮัวก็สัมผัสได้ถึงรังสีความอาฆาตที่แผ่ออกมาจากตัวเขา

"ครับคุณหวัง เรื่องพวกนี้คุณวางใจผมได้เลย ผมจะจัดการให้เรียบร้อย อ้อ... เรื่องที่คุณหวังให้ตามหาที่เปิดสโมสร ผมให้เสี่ยวเย่เทียนเผิงไปจัดการแล้วครับ ถือโอกาสดูความสามารถของเขาไปด้วย ถ้าเขาทำผลงานได้ดี ผมว่าจะขึ้นเงินเดือนหรือเลื่อนตำแหน่งให้ คุณหวังว่าไงครับ" หวู่เส้าฮัวเอ่ยถามความเห็นของหวังเย่อย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่าการตัดสินใจเรื่องเย่เทียนเผิงของเขาจะทำให้หวังเย่ไม่พอใจ และถูกมองว่าลำเอียงเข้าข้างเย่เทียนเผิง ดังนั้นเรื่องของเย่เทียนเผิงเขาจึงทำอย่างระมัดระวังมาโดยตลอด

"อืม... ก็ดี ถ้านายเห็นว่าเด็กคนนั้นพอมีประโยชน์ จะให้โอกาสบ้างก็ไม่เสียหาย" หวังเย่ไม่ได้คิดมากเรื่องเย่เทียนเผิง ต่างจากที่หวู่เส้าฮัวจินตนาการไว้ เขาจึงตอบตกลงโดยไม่ลังเล จากนั้นหวังเย่ก็เตรียมตัวที่จะไปดูแลเรื่องของเจียงอู่และศาสตราจารย์ฉิน เพราะช่วงนี้เขาต้องการทุ่มเทให้กับการพัฒนาธุรกิจใหม่ ส่วนเรื่องของร้านจิวเวลรี่ขอพักไว้ก่อน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด