ตอนที่ 89 : นางฟ้า ? ยมทูตเกรี้ยวกราด !
ตอนที่ 89 : นางฟ้า ? ยมทูตเกรี้ยวกราด !
เฉินผิงอันที่อยู่กลางอากาศ เขามองไปที่มู่หรงเสวี่ยเหิน ทว่าสายตาเขาไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย
อุกกาบาตตกลงมาพร้อมกับปราณดาบปะทะกับเงาของนางฟ้าของมู่หรงเสวี่ยเหินอย่างแรง
ตูม !
เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมแสงที่ระเบิดจ้าออกมา
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ดาบปราณและพลังแสงศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มกระจายออกมาโดยรอบ พลังงานเหล่านี้แผ่ออกมาเป็นคลื่นกระจายไปรอบเวทีประลอง
สุดท้ายคลื่นพลังนี้ก็กระแทกเข้ากับโล่พลังรอบเวทีประลอง ค่ายกลป้องกันถูกคลื่นพลังนี้อัดเข้าอย่างจัง มันสั่นไหวอย่างรุนแรง
ที่ด้านนอกเวทีประลอง ผู้ใช้ค่ายกลต้องประกบมือกันแน่นเพื่อรักษาพลังของค่ายกลเอาไว้
ผู้ชมโดยรอบต่างก็เบิกตากว้างกับการต่อสู้ที่ดุเดือดนี้
“บัดซบ ! รุนแรงจริงๆ ! คลื่นพลังงานระดับนี้ แม้แต่ผู้ปลุกพลังระดับเงินก็ไม่อาจจะสร้างขึ้นมาได้ !”
“รุนแรงจริง ๆ ! นี่มันใช่ผู้ปลุกพลังหน้าใหม่จริง ๆ เหรอ ?”
“เลเวลของทั้งสองคนยังไม่ถึง 30 เลย ทว่าพวกเขากลับแข็งแกร่งขนาดนี้ก่อนจะเปลี่ยนอาชีพขั้น 2 ถ้าพวกเขาเปลี่ยนอาชีพขั้น 2 แล้วจะแกร่งขนาดไหน ?”
“นี่แหละพลังของอาชีพลับระดับ S !”
“นักบวชมังกร ลอร์ดริชาร์ดใช้เวลาแค่ 4 ปีก้าวขึ้นจากผู้ปลุกพลังหน้าใหม่เป็นผู้ปลุกพลังระดับทอง พวกนายคิดว่าไงล่ะ ?”
“นี่แหละความแตกต่างระหว่างคนธรรมดากับคนมีความสามารถ !”
“แกเป็นผู้ปลุกพลังอาชีพลับระดับ S รึไง ? แค่ขยะระดับ E แกกล้าเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่นได้ไง ?”
“นักดาบไร้เทียมทานและเทวทูตน่ะแข็งแกร่งขนาดนี้ แล้วอัศวินมังกรตงฟางเหอจะแกร่งได้ถึงขนาดไหน ?”
“พลังนี่มัน...”
ฉือเหล่ยมองไปที่มู่หรงเสวี่ยเหินที่รับมือกับปราณดาบ สายตาของเขาดูมุ่งมั่นอยากที่จะสู้บ้าง
“ความแข็งแกร่งระดับนี้ ต้องมีพลังระดับนี้เท่านั้นที่จะปกป้องคุณหนูเอาไว้ได้ !”
“ฉันยังแกร่งไม่พอ ฉันยัง...อ่อนแอ !”
“พลังระดับนี้...” ที่มุมหนึ่งของลาน หยางห้าวหรานที่รับการรักษามาตลอดทั้งคืนก็มาชมการแข่งขันในวันนี้ด้วย เขามองไปยังทั้งสองคนบนเวทีประลองด้วยสีหน้าตะลึง
“ใช้พลังได้สองสายเหมือนกัน แต่ฉันกลับแพ้ผู้หญิงคนนี้ !”
“พลังขนาดนี้ ฉันเทียบไม่ได้เลยสักนิด ! บัดซบเอ้ย...”
เขากำหมัดแน่น สายตาสะท้อนถึงความแค้นเคืองที่แทบเผาไหม้ทุกอย่างได้ ความเจ็บปวดที่ท้องน้อยเล่นงานเขาตลอดเวลา
“ไอ้ห่าหลินลั่ว ! เป็นเพราะแก ! ฉันเลยติดโรคบัดซบนี่มา ! ฉันจะฆ่าแกให้ได้ !!! ”
อีกมุมหนึ่ง หยางเฉินหลี่มองไปที่เวทีประลองโดยไม่พูดอะไรออกมา สุดท้ายเขาก็หันกลับและเดินออกมา
“นี่แค่ขั้นแรก น่าเสียดายที่ฉันเพิ่งปลุกพลังมา ตราบใดที่ฉันมีเวลามากพอ...”
ในห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง
กั้วโฉวยี่มองไปยังทั้งสองคนพร้อมสายตาที่สั่นไหวเล็กน้อย
“ถึงเวลาตัดสินผู้ชนะแล้ว ผู้ชนะคือเธอ”
“ความแข็งแกร่งของตระกูลผู้ปลุกพลังนี่แกร่งจริง ๆ... ”
ตูม....
เกิดการระเบิดขึ้นอีกครั้ง แสงศักดิ์สิทธิ์สว่างจ้าส่องประกายก่อนจะสลายไปอย่างไร้ร่องรอย
ในเวทีประลอง ทั้งสองคนก็กลับมาปรากฏตัวภายใต้สายตาทุกคนอีกครั้ง
เฉินผิงอัน !
มู่หรงเสวี่ยเหิน !
ทั้งสองคนยืนเผชิญหน้ากัน ความต่างคือมือของเฉินผิงอันสั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมเหงื่อที่ชุ่มไปทั้งตัว
นัยน์ตาของเขากลับมาปกติดังเดิม ชัดแล้วว่าเขาหลุดจากเขตแดนดาบที่เขาใช้ตะกี้แล้ว
“แค่ก แค่ก แค่ก...” เขากระอักเลือดออกมา
เพื่อที่จะใช้เขตแดนดาบ เขาต้องทุ่มพลังไปอย่างมาก
เขาพยายามประคองร่างกายไม่ให้ล้มและหัวเราะเยาะตัวเอง “มู่หรงเสวี่ยเหิน เธอชนะแล้ว !”
มู่หรงเสวี่ยเหินถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกพร้อมเงานางฟ้าด้านหลังที่หายไป
“จบการแข่งขัน !” กรรมการเดินขึ้นมาประกาศเสียงดัง “คู่แรกในรอบรองชนะเลิศ ผู้ชนะคือ....มู่หรงเสวี่ยเหิน !”
ตูม...
ทันทีที่กรรมการพูดจบ คนกว่าแสนคนในลานต่างก็พากันฮือฮาออกมา
“บ้าเอ้ย ! มู่หรงเสวี่ยเหินชนะ !”
“เทพธิดาสุดยอดจริง ๆ ! เทพธิดาไร้เทียมทาน !”
“ฮ่าฮ่า ฉันว่าแล้ว ! ฉันได้เงินแล้วโว้ย !”
“เชี้ย ! โชคดีนะที่ฉันไม่เดิมพันเฉินผิงอัน ไอ้ขยะเอ้ย แกเอาชนะผู้หญิงไม่ได้ด้วยซ้ำ !”
“พี่มู่หรงโคตรแกร่งเลย ! นี่คือต้นแบบของผู้หญิงทุกคน !”
“เทวทูต อาชีพที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ โคตรแกร่งเลย !”
“น่าเสียดายแทนเฉินผิงอัน ถ้าเป็นเขาแต่ก่อน ไม่ว่าเขาจะเรียนอยู่ห้องไหน เขาก็จะเป็นที่ 1 ตลอด ! น่าเสียดายที่ปีนี้มีสัตว์ประหลาดถึง 4 คน ! ผู้ปลุกพลังอาชีพระดับ S ถึง 4 คน !”
“หึหึ ไม่รู้เลยว่าใครแกร่งกว่ากัน มู่หรงเสวี่ยเหินรึตงฟางเหอ....”
“ฉันเคยคิดว่าตงฟางเหอแกร่งกว่า ทว่าหลังจากที่เห็นการต่อสู้คู่นี้แล้ว ทำไมฉันรู้สึกว่ามู่หรงเสวี่ยเหินเหนือกว่า”
“ฉันเองก็คิดแบบนั้น !”
“ตงฟางเหอมีมังกรเลยนะโว้ย ! ลองคิดถึงลอร์ดริชาร์ดดูสิ ตอนที่เขายังหนุ่ม เขาพึ่งมังกรของตัวเองรับมือกับทุกคนได้ สุดท้ายเขาก็แข็งแกร่งจนก้าวขึ้นมาถึงระดับตำนานได้ !”
“ตงฟางเหอตอนนี้น่ะไม่ได้อ่อนแอกว่าลอร์ดริชาร์ดตอนเด็ก ๆ เลย !”
“ใช่ ฉันก็คิดแบบนั้น ! อีกอย่างคือลอร์ดริชาร์ดตอนนั้นน่ะได้อาชีพสายสนับสนุน เขาได้แต่คอยช่วยมังกรตอนที่สู้ ตงฟางเหอน่ะได้อาชีพอัศวินมังกร นอกจากมังกรแล้ว เขาก็ยังเป็นอัศวินที่แข็งแกร่งอีก !”
“ตงฟางเหอต้องแกร่งกว่าอยู่แล้ว !”
“ฉันก็คิดแบบนั้น...”
ตอนที่ทุกคนคุยกันอยู่นั้น มันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นที่เวทีประลอง
ทันทีที่เฉินผิงอันและมู่หรงเสวี่ยเหินลงจากเวทีประลอง มันก็มีร่างขนาดใหญ่พุ่งขึ้นไปบนเวทีประลอง
กรร....
มังกรยมทูต !
มันใช้ทั้งสี่ขากดลงกับพื้นและชูคอไปทางหลินลั่วก่อนจะคำรามออกมา แค่เสียงคำรามก็สร้างลมพายุพุ่งไปทางที่หลินลั่วอยู่
ตงฟางเหอที่อยู่ข้าง ๆ มังกรนั้นยืนยกหอกชี้ไปที่หลินลั่ว
“หลินลั่ว ออกมา ! ครั้งนี้ฉันจะจัดการแกให้ได้ !”
“โอ้ ! ตงฟางเหอโคตรหล่อเลย !”
“โคตรจะหยิ่งเลย แต่ฉันชอบว่ะ !”
“ฮ่าฮ่า นี่สิอัศวินมังกรของจริง ! โคตรยิ่งใหญ่ !”
“หลินลั่ว ! ขึ้นเวทีประลองได้แล้วโว้ย !”
“ฮ่าฮ่า เขาคงไม่กลัวจนหนีไปแล้วหรอกนะ !”
“ฉันจะขายบ้านขายรถลงข้างตงฟางเหอ !”
“ฉันด้วย !”
“ตงฟางเหอ ! ตงฟางเหอ !”
“นี่แหละไอดอลของพวกเรา...”
ในห้องส่วนตัว กั้วโฉวยี่ได้ถอนหายใจออกมา สายตาเขาสะท้อนความอิจฉาออกมา
เขาแก่แล้ว !
เขาไม่ใช่คนหนุ่มเหมือนเมื่อร้อยปีก่อน เขาแค่ชายแก่ที่กำลังจะตาย
“หลินลั่ว ไม่รู้เลยว่านายจะรับมือกับการแข่งนี้ยังไง ?”
“ตงฟางเหอจะสู้แล้วเหรอ ?” เฉินผิงอันและมู่หรงเสวี่ยเหินพากันหยุดเท้าหันกลับไปมองที่เวทีประลอง
ความต่างคือเฉินผิงอันมองไปที่ตงฟางเหอ สายตาของเขาดูมุ่งมั่นอยากที่จะสู้
ส่วนมู่หรงเสวี่ยเหินมองไปทางหลินลั่ว !
“หลินลั่ว ในการแข่งนี้นายจะทำให้ฉันแปลกใจได้มากแค่ไหนนะ ?”
ไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ
การแข่งนี้ต้องทำให้เธอแปลกใจมากแน่ๆ !
“พี่เหอ ! ฆ่าเขาเลย ! ฆ่าเขาให้ได้ !” ที่ริมเวทีประลอง หยางห้าวหรานเดินค้ำไม้เท้าเข้ามาตะโกนขึ้น
บางทีเพราะการที่เขาตะโกนจึงทำให้แผลแตกจนเลือดไหลออกมา เขากลัวจนรีบนั่งลงไปกับพื้นและกดไอ้จ้อนตัวเองเอาไว้
“เหี้ยเอ้ย ! ชีวิตฉันต้องพังพินาศ ! โรคเหี้ยนี่ก็รักษาไม่ได้ ! รักษาไม่หาย !”
“ฮืออ....”
“น่าสนใจดีนิ....อยากจะเจ็บตัวมากสินะ... ” ในห้องรับรอง หลินลั่วค่อย ๆ ลุกขึ้นและยกมือขวาขึ้นมา
ร่างของเขาปรากฏตัวขึ้นที่เวทีประลองในทันที ในห้องรับรองนั้นมีเศษหินกรวดที่เกิดขึ้นจากพื้นระเบิดในการต่อสู้ของเฉินผิงอันและมู่หรงเสวี่ยเหินมาแทน !
ในเวทีประลอง เพราะการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของหลินลั่ว ตงฟางเหอจึงสะดุ้ง มังกรยมทูตเองก็มองหลินลั่วด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
หลินลั่วยิ้มออกมา “ทำไม ? เรียกฉันออกมาไม่ใช่รึไง ?”
“หือ ! หลินลั่วโผล่มาได้ยังไง ?”
“วาร์ปเหรอ ? สกิลมิติ เป็นไปไม่ได้น่า !”
“ฉันคิดว่าน่าจะเป็นคัมภีร์วาร์ปมากกว่า รึอาจจะเป็นมีดวาร์ปหรืออะไรอย่างอื่น เขาเป็นนักบวช เขาจะมีสกิลมิติได้ยังไง ?”
“ฉันก็ว่างั้นแหละ !”
“แต่การวาร์ปของเขาน่ะโคตรเท่เลย มันทำให้เขาดูลึกลับกว่าตงฟางเหอ !”
“ลึกลับแล้วทำไม ? นี่การต่อสู้กันโว้ย !”
“เขาต้องแพ้แน่ !”
“เริ่มสู้กันได้แล้ว !”
ในห้องส่วนตัว กั้วโฉวยี่ยิ้มออกมา “เด็กนี่ยังเด็กแต่ก็ใจกล้า ฉันอยากเห็นเหมือนกันว่าเขาจะชนะการแข่งนี้ยังไง ?”
การกระทำของหลินลั่วนั้นดูอันตรายสำหรับคนในห้องส่วนตัวอื่น ๆ โดยเฉพาะคนของตระกูลตงฟาง
“วาร์ป ! เป็นไปไม่ได้น่า !”
“เด็กนี่เป็นใคร ? ความสามารถนี้มัน...”
“อาจจะเป็นไอเทมวาร์ปก็ได้ ! เขาเป็นนักบวช เขาจะมีสกิลมิติได้ยังไง ?”
“เสี่ยวเหอเป็นผู้ปลุกพลังหน้าใหม่ที่แกร่งที่สุดในรุ่น เขาไม่มีทางแพ้ !”
“สำหรับตงฟางเหอแล้ว เราทุ่มผลึกมังกรหลังเหล็กให้เขาไป มันมีค่าหลายสิบล้าน ถ้าเขาแพ้ขึ้นมา...”
“หุบปาก !”
ตงฟางไต้ซ่งตะคอกออกมาจนทำให้คนอื่นรอบ ๆ พากันเงียบ
ถึงตงฟางไต้ซ่งจะอยู่แค่ระดับทอง ทว่าเขาก็เป็นหัวหน้าตระกูลตงฟาง เขาได้รับการหนุนหลังจากบรรพชน ตงฟางเหอเป็นลูกของเขา
ไม่ว่าคนที่นี่จะใจกล้าแค่ไหน ทว่าพวกเขาก็ไม่กล้าพูดความเห็นตามใจ
“ไม่ต้องห่วง เหอเอ๋อต้องชนะแน่ โลกวิเศษต้องเป็นของตระกูลตงฟาง !”
“ที่ต้องกังวลตอนนี้คือคู่ชิงชนะเลิศที่รอเขาอยู่ต่างหาก มู่หรงเสวี่ยเหินจากตระกูลมู่หรง !”
“เทวทูต....มู่หรงเสวี่ยเหิน !”
ในเวทีประลอง เมื่อได้ยินคำพูดของหลินลั่ว ตงฟางเหอก็คลั่งขึ้นมาทันที
เขาไม่สนใจกรรมการที่ยังไม่ประกาศเริ่มการแข่งขัน เขายกหอกขึ้นพร้อมระเบิดเปลวไฟสีทองออกมาก่อนจะพุ่งเข้าใส่หลินลั่ว
[ ไฟเผาเมือง ] !
ในเวลาเดียวกันมังกรยมทูตก็คำรามออกมา ปีกทั้งสองข้างของมันกางออก จากนั้นมัมก็อ้าปากกว้างร่อนเข้าใส่หลินลั่ว !
กรร.....