ตอนที่แล้วตอนที่ 35 ปลุกพลัง (1)   
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 37 ปลุกพลัง (3)

ตอนที่ 36 ปลุกพลัง (2) 


ตอนที่ 36 ปลุกพลัง (2)

“พวกนายหายเหนื่อยกันบ้างรึยัง?” ซ่งเจิงหันไปถามลิงผอมกับพี่ใหญ่กุ้ยที่กำลังพักผ่อนอยู่

“พอแล้วล่ะ! ได้กินข้าวผัดไข่ของนายไป ตอนนี้ร่างกายก็แข็งแรงขึ้นมาเลย!” ลิงผอมลูบปากตัวเองขณะพูดด้วยน้ำเสียงสดใส

“ข้าวผัดไข่นี้กลิ่นหอมฉุยเชียว! นี่เป็นข้าวผัดไข่ที่อร่อยที่สุดเท่าที่ฉันเคยกินมาเลยล่ะ!” พี่ใหญ่กุ้ยพูดพลางเลียจานข้าวหวังลิ้มรสความอร่อยไม่ให้เหลือ

“รอมีวัตถุดิบก่อนเถอะ ฉันจะเข้าครัวทำอาหารด้วยตัวเอง แล้วจะให้พวกนายลองชิมข้าวผัดทองคำชื่อดังของฉัน!” ซ่งเจิงลูบด้ามกระทะเหล็ก ที่อยู่ด้านหลังของเขา

จากนั้นทั้งสี่คนจึงออกเดินทางอีกครั้ง ครั้งนี้ซ่งเจิงแนะนำให้ทุกคนกระจายตัวไปสำรวจคนละทาง ลิงผอมและพี่ใหญ่กุ้ยพยักหน้าโดยไม่ได้คิดอะไรมากมาย ซ่งเจิงหันไปมองหน้าอีกฝ่ายแล้วฉู่อี้ก็พยักหน้าให้

ทั้งสี่คนต่างแยกออกไปคนละทิศทาง ฉู่อี้ซึ่งเป็นคนที่พลังแข็งแกร่งที่สุด จัดการซอมบี้ระดับต่ำที่อยู่รอบๆก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นจึงรีบเข้าไปยืนขนาบข้างซ่งเจิง

“นายจะล่อให้สุนัขกลายพันธุ์สองตัวไปทางสองคนนั้นยังไง?” ซ่งเจิงถามออกไป เขาก็ยกกระทะเหล็กขึ้นฟาดเข้าไปที่หัวของซอมบี้ระดับต่ำ

“จำตอนที่พวกเราเพิ่งกินข้าวเสร็จได้ไหม ฉันนำจานพวกนั้นไปวางไว้ให้พวกมันแล้ว บนจานนั้นมีน้ำลายของพวกเขาเปื้อนอยู่ สุนัขกลายพันธุ์จมูกดีมาก พวกมันจะต้องแยกย้ายตามหาสองคนนั้นแน่ๆ”

“รีบกำจัดพวกมันให้หมดก่อนเถอะ ฉันกลัวว่าพวกเขาจะเกิดอันตราย!” ซ่งเจิงพูดกับฉู่อี้ที่อยู่ข้างๆ

“ขอข้าวผัดไข่หนึ่งส่วน!” ฉู่อี้ยื่นมือออกมา หลังจากนั้นทั้งร่างของเขาก็เกิดเปลวไฟลุกท่วม

จากนั้นเขาจึงพุ่งไปกำจัดซอมบี้ที่พุ่งมาจากด้านหน้า จนลำตัวของซอมบี้ที่อยู่โดยรอบพลอยติดไฟไปด้วย ทำให้ร่างของพวกมันถูกเผาไหม้จนมอดเป็นเถ้าถ่านอย่างรวดเร็ว

“ว้าว!” ซ่งเจิงร้องออกมาอย่างตะลึงในความสามารถของฉู่อี้

แต่หลังจากเห็นศพของซอมบี้ที่ไหม้จนเกรียมนอนอยู่บนพื้น เขาจึงเอ่ยปากด่าอีกฝ่ายทันที “นายรู้ไหมว่านี่มันเปลืองขนาดไหน!”

ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังจัดการกับซอมบี้อยู่นั้น ลิงผอมและพี่ใหญ่กุ้ยก็กำลังเผชิญหน้าอยู่กับสุนัขกลายพันธุ์

ลิงผอมเปลี่ยนมีดสปาตาร์ที่อยู่ในมือ ให้กลายเป็นมีดสั้นตามคำแนะนำของฉู่อี้ แต่มีดสปาตาร์มีขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับร่างกายอันผอมแห้งของเขาแล้ว จึงดูเก้งก้างเกินตัวไปหน่อย

หลังจากเขาเปลี่ยนมาใช้มีดสั้น จึงรู้สึกว่าผลลัพธ์ในการฆ่าซอมบี้ของเขาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

ถึงแม้มีดสั้นนี้จะไม่แข็งแรงเท่ามีดสปาตาร์ แต่ความคมของมันนั้นค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

เขาปามีดสั้นที่อยู่ในมือขวาออกไปโดยแรง ทำให้หัวของซอมบี้ที่อยู่รอบตัวเขาถูกตัดหัวจนขาดสะบั้นในทันที เขาย่อตัวลงเพื่อหลบการโจมตีของซอมบี้ที่ย่องเข้ามาจากด้านหลังและหมุนตัวไปทางซ้าย ก่อนจัดการกับซอมบี้ตัวที่อยู่ซ้าย มือจนเลือดของมันสาดกระเซ็นไปทั่ว

ตอนนี้เหมือนเขาได้กลายเป็นเทพแห่งความตายไปเสียแล้ว! เขาฝ่าฝูงซอมบี้ออกมาได้อย่างรวดเร็ว ทุกที่เขาเดินผ่านเต็มไปด้วยเลือดที่เจิ่งนองพื้น หัวของซอมบี้ที่ร่วงกระแทกพื้นก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนพี่ใหญ่กุ้ยยังใช้มีดสปาตาร์ที่เหมาะมือเช่นเคย เขากระชับด้ามมันแน่นด้วยมือทั้งสองข้าง

ตอนนี้พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยหัวของซอมบี้ที่ขาดออกจากลำตัวจำนวนมาก หลายวันมานี้ เขาต่อสู้กับพวกมันอย่างหนัก ทำให้ได้ฝึกทักษะการใช้มีดเพิ่มขึ้นไปในตัว การเคลื่อนไหวของเขาคล่องตัวกว่าเก่ามากทีเดียว

ทุกครั้งที่เขาออกแรงฟาดฟัน หัวของซอมบี้จะหลุดออกจากลำตัวและร่วงลงพื้นในทันที การควบคุมมีดและพลังของมันมาถึงจุดที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

แม้ว่าการทำความเร็วจะยังเชื่องช้า แต่ก็มีความเสถียรจนแทบไม่ต้องใช้การเคลื่อนไหวเลย เขาแค่รอให้ฝูงซอมบี้พุ่งเข้ามาเท่านั้น พอเกิดช่องโหว่ให้โจมตี มีดสปาตาร์ก็จะปลิดชีวิตพวกมันทันใด

เมื่อซ่งเจิงและฉู่อี้จัดการเหล่าซอมบี้ที่อยู่รอบๆเสร็จแล้ว ซ่งเจิงจึงรีบวิ่งไปยังตำแหน่งของลิงผอมทันที ส่วนฉู่อี้แยกตัววิ่งไปยังตำแหน่งที่พี่ใหญ่กุ้ยอยู่

ซ่งเจิงหลบอยู่หลังหินก้อนใหญ่ด้วยความตื่นเต้น เขาจ้องมองลิงผอมที่ตอนนี้มีฝีมือสูงเหมือนเทพแห่งความตาย ที่กำลังต่อสู้อยู่ท่ามกลางฝูงซอมบี้อย่างไม่หยุดหย่อน

ไม่ว่าเขาเดินไปที่ไหน หัวของซอมบี้ก็จะร่วงลงกับพื้นที่นั่น ซ่งเจิงกำหมัดแน่น... เขาไม่เคยคิดเลยว่าสหายพี่น้องของเขาจะกระเหี้ยนกระหือรือขนาดนี้ พวกเขาพัฒนาขึ้นอีกขั้นหนึ่งแล้ว!

ส่วนตัวเขา ถ้าไม่ได้พลังจากเส้นใยพลังจิตละก็ ฝีมือคงไม่สามารถเทียบกับลิงผอมได้

ไม่ทันไร ความเร็วของลิงผอมจึงค่อยๆลดลง ซอมบี้ที่อยู่รอบๆก็เหลือไม่กี่ตัวแล้ว หลังจากที่เขาจัดการกับซอมบี้เสร็จ ลิงผอมจึงนั่งลงพักผ่อนโดยพิงก้อนหินและถอนหายใจแรง

หลังจากนั้นเขาจึงหยิบข้าวผัดไข่ห่อหนึ่งออกมา และเริ่มกินอย่างตะกละตะกลาม

ซ่งเจิงที่แอบอยู่ด้านหลังเกือบจะตะโกนเตือนลิงผอมแล้ว เพราะตอนที่ลิงผอมกำลังกินข้าวผัดไข่อย่างเอร็ดอร่อย สุนัขกลายพันธุ์ตัวหนึ่งก็ย่องเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ  อีกนิดเดียวก็จะมาถึงด้านหลังของอีกฝ่าย!

ในขณะที่ซ่งเจิงพยายามยับยั้งชั่งใจไม่เดินออกไปโจมตีสุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้น ลิงผอมก็รับรู้ถึงอันตรายจากด้านหลังจึงรีบกลิ้งหลบไปด้านข้างทันที ข้าวผัดไข่ที่อยู่ในมือหกกระจายเต็มพื้นอย่างน่าเสียดาย

ลิงผอมลุกขึ้นยืนพลางหันไปมองสิ่งนั้น และเห็นว่ามันคือสุนัขกลายพันธุ์ระดับหนึ่ง ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

สุนัขกลายพันธุ์พุ่งกระโจนด้วยความเร็วสูงทันทีที่เหยื่อไหวตัวทัน ด้วยพละกำลังมากล้นทำให้มันสามารถกระโดดเข้าหาลิงผอมได้ภายในพริบตา โชคดีที่เขาเร็วกว่าจึงรอดจากการโจมตีของมันอย่างหวุดหวิด

“ให้ตายเถอะ!” ลิงผอมสบถคำด่าออกมา พลางลูบตัวเพื่อหยิบมีดสั้นขึ้นมาสองเล่ม จากนั้นเขาค่อยๆก้าวถอยหลัง ทั่วใบหน้าและหนังศีรษะของเขาเต็มไปด้วยหยดเหงื่อ

ซ่งเจิงมองการกระทำของลิงผอมด้วยความตกใจสุดขีด เขารีบคว้ากระทะเหล็กที่สะพายอยู่ด้านหลังมาถือไว้ในมือเพื่อเตรียมพร้อม เผื่อลิงผอมตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต เขาจะได้พุ่งตัวออกไปช่วยได้ทันเวลา

“แม่งเอ๊ย! กัดไม่ปล่อยเลยใช่ไหม?!” ลิงผอมหมุนตัวอีกครั้งเพื่อหลบคมเขี้ยวขนาดใหญ่

ภายในปากที่กบไปด้วยเลือดของสุนัขกลายพันธุ์ที่พุ่งเข้าหา หลังจากนั้นเขาก็ยังสบถด่าออกมาอีกหลายครั้ง

ลิงผอมรู้ทันทีว่าตอนนี้เขาจะต้องพึ่งพาตัวเอง แววตาของเขาเย็นชาลงทุกขณะ สายตาจับจ้องไปยังร่างกายขนาดใหญ่ของสุนัขกลายพันธุ์อย่างไม่วางตา

เขาจำได้ว่า ฉู่อี้เคยพูดไว้ตอนที่เขาจัดการสุนัขกลายพันธุ์ระดับสองตัวนั้นว่า ความจริงแล้วร่างกายของสุนัขกลายพันธุ์ค่อนข้างอ่อนแอ แค่ฉวยโอกาสโจมตีเข้าไปที่ลำตัวของมันได้เมื่อไหร่ เขาก็จะชนะอย่างแน่นอน!

เมื่อซ่งเจิงเห็นแววตาแสดงความมุ่งมั่นของลิงผอมแล้วจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก และชื่นชมในความกล้าหาญของอีกฝ่ายไปพร้อมๆกัน

ร่างกายของลิงผอมถือว่าอ่อนแอที่สุดในบรรดาคนทั้งสี่ ทุกครั้งที่ร่วมกันต่อสู้ เขามักอยู่ในตำแหน่งซัพพอร์ตจากเบื้องหลังมากกว่าเป็นแนวหน้า แต่วันนี้ เขาจะทำให้ซ่งเจิงมองเขาด้วยสายตาใหม่ให้ได้ !

‘เราเป็นห่วงว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับพวกเขา หวังว่าช่วงเวลาสั้นๆที่พวกเขาอยู่ลำพัง จะทำให้เติบโตขึ้นแหละนะ!’ ซ่งเจิงเกิดความรู้สึกละอายใจอยู่บ้าง ถ้าที่ผ่านมาเขาไม่มัวปกป้องทั้งคู่อยู่ตลอดเวลา ลิงผอมและพี่ใหญ่กุ้ยคงเกิดพัฒนาพลังเร็วขึ้นกว่านี้

ลมหายใจของลิงผอมแผ่วลงเรื่อยๆ การเคลื่อนไหวหลบหลีกก็เริ่มช้าลงเช่นกัน

ดูเหมือนมีดสั้นที่อยู่ในมือได้รวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายของเขา ทำให้เขากลายเป็นงูตัวหนึ่งที่เคลื่อนไหวอย่างเงียบสงบ เพื่อรอจังหวะโจมตีที่รุนแรงยิ่งกว่า

สุนัขกลายพันธุ์วิ่งเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้ลิงผอมขยับตัวแล้ว ก่อนที่จะถูกโจมตีเขากลับย่อตัวลงครึ่งหนึ่ง เท้าทั้งสองข้างเหยียบพื้นอย่างมั่นคงขณะหมุนรอบตัวหนึ่งรอบ

พอเลี่ยงการโจมตีจากสุนัขกลายพันธุ์สำเร็จ จึงเคลื่อนตัวเข้าไปอยู่ใต้ร่างของมันและจ้วงมีดสั้นแทงเข้าไปที่ท้องของมันอย่างรุนแรงและโหดเหี้ยม!

“โฮก!” สุนัขกลายพันธุ์กรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ร่างของมันล้มลงกระแทกพื้นและนอนแน่นิ่งไปอย่างนั้น ลิงผอมมองศพของมันด้วยความพอใจ ขณะถือมีดสั้นวิ่งเข้าไปใกล้ศพของมันอีกครั้ง

“พลั่ก!” เสียงบางอย่างดังขึ้น สุนัขกลายพันธุ์ตัวนั้นยังไม่ตาย! มันใช้อุ้งเท้าตะปบลิงผอมจนร่างของเขาลอยกระเด็นไปไกล บนหน้าท้องของมันมีรอยแผลลากยาวตั้งแต่หน้าอกจรดต้นขาถึงสองแผล แต่ดูเหมือนมันจะไม่มีอาการบาดเจ็บเลยสักนิด

“ลิงผอม!” ซ่งเจิงพุ่งตัวออกมาจากหินก้อนใหญ่ เพื่อวิ่งไปช่วยลิงผอมที่ถูกตะปบจนลอยขึ้นฟ้าในทันที แต่สุนัขกลายพันธุ์กลับเคลื่อนที่เร็วกว่า มันกระโจนเข้าไปและใช้อุ้งเท้าเหยียบบนร่างของลิงผอมที่นอนจุกอยู่ที่พื้น ก่อนอ้าปากที่เต็มไปด้วยคราบเลือดของมันและกัดทึ้งร่างของลิงผอมเต็มแรง!

“ทำไมฉันถึงยังมีชีวิตอยู่มาจนวันนี้?! ทำไมคนที่ฆ่าได้แม้แต่พ่อแม่ตัวเองถึงไม่ตายๆไปจากโลกนี้ซะ!?” ลิงผอมพ่นความในใจออกมาด้วยอารมณ์โกรธแค้น

“นั่นก็เพราะฉันยังต้องอยู่เพื่อฆ่าสัตว์น่ารังเกียจอย่างพวกแกไงล่ะ!” ทันใดนั้น ร่างของลิงผอมก็เด้งตัวจนลอยจากพื้นอยู่บนหัวของสุนัขกลายพันธุ์

ทันใดนั้น เขาจึงใช้มีดสั้นคู่หนึ่งที่เป็นทรงโค้งสวยงาม แทงเข้าไปกลางกบาลของมันอย่างไม่ออมมือ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด