ตอนที่แล้วตอนที่ 34 เปิดการใช้งานกระทะเหล็กขั้นสูง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 36 ปลุกพลัง (2) 

ตอนที่ 35 ปลุกพลัง (1)   


ตอนที่ 35 ปลุกพลัง (1)

ทั้งสามคนถูกซ่งเจิงที่อยู่ในสภาพอดนอนจนตาแดงก่ำเขย่าร่าง เพื่อปลุกให้ตื่นในตอนเช้า

ตลอดคืนเขาแทบข่มตาหลับไม่ลง จนทำให้ถุงใต้ตาทั้งสองข้างบวมเป่งและเกิดเป็นรอยคล้ำโดยรอบ

“ลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตาเถอะ พวกเราต้องออกเดินทางแล้ว” ซ่งเจิงเขย่าฉู่อี้ที่ยังขี้เซาไม่ยอมตื่นอย่างหมั่นไส้อีกสองที

“พวกเราจะไปไหนกัน?” ฉู่อี้จอมปัญหายอมแพ้ ก่อนลุกขึ้นและตั้งคำถาม

“ไปหาแมลงกลายพันธุ์ระดับต่ำ” ซ่งเจิงใช้กระทะเหล็กผลิตน้ำสะอาดขึ้นมาให้ทุกคนใช้ล้างหน้า

“ไปหาของพวกนั้นทำไมกัน? พวกมันไม่มีน้ำยาวิวัฒนาการซะหน่อย?” ลิงผอมถามด้วยความสงสัย แม้แต่พี่ใหญ่กุ้ยกับฉู่อี้ก็มีสีหน้าสับสน

“ฉันจำเป็นต้องจัดการพวกมันทีละมากๆ มีใครรู้บ้าง ว่าแหล่งของแมลงพวกนั้นอยู่ที่ไหน?” ซ่งเจิงถามกลับ

เรื่องเอามาใช้ทำอะไรนั้น ไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้ใจเพื่อนๆ แต่สิ่งนี้ถือเป็นความลับของกระทะเหล็ก ยิ่งพวกเขารู้รายละเอียดเกี่ยวกับมันน้อยเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งปลอดภัยเท่านั้น

“ฉันรู้! เมื่อก่อนสมัยออกสำรวจร่วมกับหัวหน้าเฉิน แถวเขตซีมีซอมบี้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่ามดกินคน ครั้งนั้นพี่น้องของพวกเราล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ถ้าทำเลพวกเราไกลจากแม่น้ำ คนที่เหลืออยู่ก็คงจะตายแหงแก๋กันหมดแล้ว” พี่ใหญ่กุ้ยพูดถึงความหลังอย่างหวาดกลัวไม่หาย

“เขตซีเหรอ?” ซ่งเจิงชะงักไปพักหนึ่ง เขาเพิ่งร่วมทีมสำรวจกับพวกเขาได้ไม่นาน จึงยังไม่รู้ว่าสถานที่แบบนี้มีเขตอื่นๆอีก

“ด้านนอกมีพื้นที่ทั้งหมดยี่สิบเขต เรียงตามตัวอักษร มีเขตหวงห้ามอยู่สี่เขต แม้แต่มนุษย์พันธุ์ใหม่ระดับสี่ก็ยังไม่กล้าเข้าไป” ฉู่อี้อธิบายคร่าวๆ แต่สิ่งที่เขารู้ละเอียดกว่านั้นมาก

“เขตหวงห้ามทั้งสี่ที่ว่านี่ อยู่ตรงไหนเหรอ? รู้พิกัดรึเปล่า? ทำไมถึงกลายเป็นเขตหวงห้ามไปได้ล่ะ?” ซ่งเจิงรัวคำถามไม่หยุด

“เขตหวงห้ามทั้งสี่แบ่งเป็นทะเลมรณะ ป่าสายหมอก หุบเหวพิษและภูเขาเพลิง ตำแหน่งของเขตทั้งสี่ตั้งอยู่ตามขอบเขตของพื้นที่ด้านนอก ทั้งทิศตะวันออก ทิศใต้ ทิศเหนือ และทิศตะวันตก ส่วนเหตุผลว่าทำไมถึงกลายเป็นเขตหวงห้าม ฉันเองก็รู้มาจากคำบอกเล่าอีกทีหนึ่ง” ฉู่อี้หยุดพูดครู่หนึ่งเพื่อกลืนน้ำลาย

“ที่เรียกทะเลมรณะ เพราะน้ำในทะเลนั้นมีเชื้อไวรัสอยู่ สัตวในทะเลนั้นส่วนใหญ่กลายพันธุ์เป็นซอมบี้ไปแล้ว อีกอย่าง ในน้ำไม่มีอากาศอยู่เลย ความหนาแน่นของน้ำค่อนข้างมาก ต่อให้มนุษย์พันธุ์ใหม่จะลงไปพร้อมถังออกซิเจนก็อยู่ได้แค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น”

“ส่วนป่าสายหมอกถูกปกคลุมไปด้วยละอองพิษมาหลายปีแล้ว สภาพแวดล้อมย่ำแย่จนหายใจไม่ออก ว่ากันว่าพิษนั้นร้ายแรงมาก ถ้าเป็นมนุษย์พันธุ์ใหม่ต่ำกว่าระดับสามจะไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ แต่ฉันได้ยินมาว่า ที่นั่นเป็นที่เดียวในเขตด้านนอกที่ไม่ติดเชื้อไวรัส”

“หุบเหวพิษ อันนี้ชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว ข้างในเต็มไปด้วยก๊าซพิษจำนวนมาก แถมยังมีซอมบี้ที่ได้รับสารพิษอยู่เยอะ การโจมตีของพวกมันค่อนข้างรุนแรง แม้แต่พวกคนระดับสามก็ยังไม่กล้าเข้าไปลึก”

“สุดท้ายก็คือภูเขาเปลวไฟ มันได้ชื่อว่าเป็นสถานที่อันตรายที่สูงสุด ที่น่าแปลกก็คือ ข้างบนยอดเขาไม่ได้มีไฟแผดเผาตลอดเวลาเหมือนชื่อ แต่ถ้ามีคนรุกล้ำเข้าไป ก็จะโดนไฟครอกโดยไม่รู้สาเหตุ ฉันได้ยินมาว่า เมื่อก่อนเคยมีมนุษย์พันธุ์ใหม่ระดับสี่คนหนึ่งที่มีพลังสูงอยากลองดี แต่ผลก็คือเขาถูกย่างสดทันทีที่ก้าวขาเข้าไป”

‘น่าสนใจแฮะ... ถ้าฉันกินเกี๊ยวน้ำกับบะหมี่น้ำใส พลังที่ได้จากมันจะแกร่งมากพอให้เข้าไปในเขตหวงห้ามสามที่แรกได้รึเปล่านะ?’ ซ่งเจิงจมอยู่ในความคิดของตัวเองไปพักใหญ่

“แล้วเขตซีอยู่ที่ไหนเหรอ?” ซ่งเจิงหันไปถามพี่ใหญ่กุ้ย เขาเคยไปที่นั่นมาครั้งหนึ่งแล้ว ดังนั้นต้องรู้ที่ตั้งของมันแน่นอน

“แต่ที่แบบนั้นมันอันตรายจริงๆนะ ฉันแนะนำว่าอย่าไปดีกว่า ที่นั่นมีแมลงที่กลายพันธุ์เป็นซอมบี้เยอะแยะ ที่สำคัญการโจมตีของมันยังแข็งแกร่งมากอีกด้วย” พี่ใหญ่กุ้ยกลืนน้ำลายสองสามอึกอย่างยากลำบาก ขณะเกลี้ยกล่อมให้ซ่งเจิงเปลี่ยนความคิด

“อย่าปอดแหกไปเลยน่า เรามีมนุษย์พันธุ์ใหม่ระดับสามอยู่ที่นี่ตั้งหนึ่งคนนะ ไม่อันตรายหรอก เชื่อสิ!” ซ่งเจิงหันไปขยิบตาให้ฉู่อี้หนึ่งทีอย่างมีเลศนัย

“ถ้านายใช้งานฉันอีก ฉันจะเรียกเก็บเงินนายแน่!” ฉู่อี้ตะโกนโหวกเหวกทันที เพราะรู้ดีว่าสายตาของอีกฝ่ายมีความหมายว่าอะไร

“สบายใจได้ พวกเราขาดนายไปไม่ได้หรอก” ซ่งเจิงส่งยิ้มให้ฉู่อี้

ลิงผอมและพี่ใหญ่กุ้ยฟังทั้งสองต่อล้อต่อเถียงกัน โดยไม่คิดคัดค้านอะไรอีก เพราะใจจริงแล้ว พวกเขาก็อยากลองไปสำรวจพื้นที่ใหม่ๆดูด้วย

ถึงยังไง การมีมนุษย์พันธุ์ใหม่ระดับสามอยู่ในกลุ่มแบบนี้ อาจจะทำให้พวกเขาก้าวข้ามขอบเขตไปอีกหนึ่งขั้นก็ได้

“ออกเดินทางได้!” ซ่งเจิงคว้ากระทะเหล็กขึ้นมาเช็ดถูไปมาซ้ำๆ ‘ใกล้แล้วล่ะ! อีกนิดเดียวฉันก็จะเกิดการพัฒนาแล้ว!’

ทั้งสี่คนมุ่งหน้าไปยังเขตซี ระหว่างทาง พวกเขาได้ช่วยกันฆ่าซอมบี้ไปเป็นจำนวนมาก ทุกครั้งที่ซ่งเจิงได้รับน้ำยาวิวัฒนาการขั้นต่ำมา ก็แบ่งปันให้ลิงผอมและพี่ใหญ่กุ้ยแทบทั้งหมด

แต่น่าแปลกที่พวกเขาใช้ไปแล้วประมาณยี่สิบส่วนแต่ยังไม่สามารถสัมผัสถึงพลังอะไรได้เลย แถมร่างกายยังรู้สึกคล้ายจะไม่สบายอีกต่างหาก เหตุการณ์นี้ทำให้ซ่งเจิงไม่กล้าให้น้ำยาวิวัฒนาการกับพวกเขาเพิ่มเติม

มีแต่ฉู่อี้รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่เกิดขึ้น รีรออยู่พักหนึ่ง เขาจึงเดินไปเช็คร่างกายทั้งสองอย่างกระตือรือร้น

“ฉู่อี้ พวกเขาเป็นยังไงบ้าง?” ซ่งเจิงมีความรู้เกี่ยวกับมนุษย์พันธุ์ใหม่น้อยมาก เขาทำได้เพียงใช้เวลาช่วงแวะพักผ่อนในการถามเอาข้อมูลจากฉู่อี้

“ครั้งนี้ถือว่านายเจอสมบัติชิ้นโตเลยแหละ” ขณะตอบคำถามอีกฝ่าย แววตาของฉู่อี้ยังสั่นไหวไปมาด้วยความตื่นเต้น

“หมายความว่าไง?” ซ่งเจิงถาม

“จริงๆแล้วคนธรรมดาที่อยากวิวัฒน์เป็นมนุษย์พันธุ์ใหม่น่ะ น้ำยาวิวัฒนาการขั้นต่ำทำได้แค่บำรุงร่างกายไว้เท่านั้น ตัวแปรที่จะทำให้พลังนั้นตื่นขึ้นมา คือความปรารถนาอันแรงกล้าของมนุษย์ ที่อยู่ในช่วงเวลาของความเป็นความตายต่างหาก”

“สองสามวันมานี้ ถึงนายจะให้พวกเขาฆ่าซอมบี้ไปเยอะแยะก็เถอะ แต่ว่าพลังพวกนั้นจะตื่นขึ้น ก็ต่อเมื่อพวกเขาอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง หากยังเป็นที่พึ่งให้พวกเขาต่อไปเรื่อยๆ พลังอาจจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลยก็ได้” ฉู่อี้อธิบาย

“งั้นทำไมนายไม่บอกฉันตั้งแต่แรกล่ะ!” ซ่งเจิงฉุนเฉียวขึ้นทันที เขาเอื้อมมือไปคว้าคอเสื้อของฉู่อี้ด้วยความโมโห

“เฮ้! อย่าตกใจไปสิ ฉันแค่อยากจะรู้ขีดจำกัดของพวกเขาน่ะ เราต้องรู้ก่อนว่าร่างกายของพวกเขาสามารถทนต่อน้ำยาวิวัฒนาการได้ถึงระดับไหน ยิ่งทนได้มากเท่าไหร่ พลังที่ตื่นขึ้นก็จะแข็งแกร่งมากเท่านั้น!”

“ตอนที่พลังของฉันตื่นครั้งแรก ก็ใช้น้ำยาไปแล้วตั้งห้าสิบส่วน ตอนนี้เราทำได้แค่ประเมินพลังของพวกเขา เมื่อพลังตื่นขึ้นจริง พลังของฉันคงห่างไกลจากพวกเขาแล้วล่ะ! ฉันถึงได้บอกไง ว่านายน่ะเจอสมบัติเข้าแล้ว!” ฉู่อี้ชูมือขึ้นสูงทั้งสองข้าง พลางยิ้มแฉ่ง

“งั้นก็ดีน่ะสิ!” ซ่งเจิงรีบเปลี่ยนจากอาการโมโหเป็นดีใจทันที เขาไม่เคยคิดถึงเหตุผลนี้มาก่อน รู้แค่สหายพี่น้องของตัวเองจะต้องมีพลังที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นความรู้สึกดีใจจึงฉายผ่านแววตาของเขาอย่างชัดเจน

“แต่จะทำยังไงให้พลังของพวกเขาตื่นขึ้นได้ล่ะ?” ซ่งเจิงตั้งคำถามอีกครั้ง ขณะที่กำลังใช้ความคิด

“เรื่องนั้นพี่จะต้องเป็นคนใจร้ายสักหน่อย ไม่ยากเลย! ตอนนี้พวกเขาต่อสู้กับซอมบี้ขั้นต่ำจนเคยชินซะแล้ว ซอมบี้ระดับต่ำไม่สร้างความท้าทายให้สองคนนั้นอีกต่อไป” ฉู่อี้พูดพลางจ้องมองเข้าไปในตาของอีกฝ่าย

ซ่งเจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าเชิงเห็นด้วย

“มีซอมบี้ระดับหนึ่งอยู่สองตัว ที่ตามพวกเรามานานแล้ว แต่สัญชาตญาณของพวกมันกลัวไฟจากตัวฉัน เลยไม่ยอมโจมตีสักที เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราต้องทำก็คือ...” ฉู่อี้ขยับไปกระซิบที่หูของซ่งเจิง

“แบบนี้มันไม่อันตรายไปหน่อยเหรอ? ถ้าพวกเขาเกิดมีอันตรายถึงชีวิตขึ้นมา นายต้องเข้าไปช่วยทันที เข้าใจไหม?!” ซ่งเจิงพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยเต็มใจ แต่อีกใจก็เห็นด้วยกับคำแนะนำของฉู่อี้

“ถ้าอย่างนั้นทำตามแผนนี้ก็แล้วกัน แต่เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ พวกเราต้องกำจัดซอมบี้ระดับต่ำที่อยู่รอบๆทิ้งให้หมดซะก่อน” ฉู่อี้เสนอ

“ดีเหมือนกัน! เอาตามวิธีของนายเลย!” ซ่งเจิงยอมเห็นด้วยในที่สุด

ถ้าอยากจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อไป ทุกคนจำเป็นต้องต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้!

ความจริงแล้ว การที่ตัวเขาคอยปกป้องพวกเขามาตลอด นับว่าไม่ถูกต้องเท่าไหร่ ขืนทำแบบนั้น จะยิ่งทำให้พวกเขาไม่ต่างอะไรไปจากดอกไม้ที่อยู่ในเรือนกระจก หากต้องการเติบโตอย่างสวยงาม จำเป็นต้องผ่านมรสุมลมพายุเสียก่อน!

‘สหายพี่น้องทั้งหลาย! ฉันรู้ว่าพวกนายผ่านมันไปได้สบายอยู่แล้ว! อีกไม่นานพลังต้องตื่นขึ้นแน่ ๆ!’

ถึงซ่งเจิงไม่เคยสัมผัสพลังของลิงผอมและพี่ใหญ่กุ้ย แต่จิตใจของเขากลับเต็มไปด้วยความหวัง

เขาเชื่อมั่นในตัวทั้งสองว่าจะผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปได้อย่างราบรื่น

‘ตื่นขึ้นเถอะ พลังที่หลับใหล! การใช้ชีวิตต่อไปบนโลกอันสิ้นหวังนี้ ก็ไม่เลวร้ายเท่าไหร่หรอกว่าไหม?’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด