ตอนที่ 34 แปลกประหลาดออกมา
ตอนที่ 34 แปลกประหลาดออกมา
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ได้มีคนมาจากอีกด้านหนึ่งของทางเดิน แต่ในเวลานี้ซ่งลุ่ยกำลังตั้งใจมองเข้าไปในห้องอยู่ ในใจกำลังใจจดใจจ่อกับเรื่องราวภายในห้อง ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นสถานการณ์รอบนอกห้อง และเนื่องจากคนคนนั้นเดินเข้ามาในจุดอับสายตาของซ่งลุ่ย เขาจึงมองไม่เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
คนคนนั้นดูรีบร้อนที่จะเดินผ่านไป แต่ว่าพอเห็นว่าเป็นซ่งลุ่ยแววตาก็เปล่งประกายออกมา อยากจะตรงเข้ามาทักทายเขาด้านหน้า แต่ว่าพอเห็นซ่งลุ่ยหันหน้าเข้าหาประตูห้องทำงานของประธานจาง ในใจก็อดที่จะรู้สึกสงสัยไม่ได้ ซ่งลุ่ยไม่ไปทำงานเหรอไง มายืนโง่ทำอะไรอยู่ตรงนี้ ?
คนคนนั้น ไม่สิ คนนั้นต้องเป็นผู้หญิงอย่างแน่นอน เธอมองดูซ่งลุ่ยที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูด้วยความมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของผู้หญิงมองไปที่หูของซ่งลุ่ย แล้วมองไปทางที่ซ่งลุ่ยมองก็พบว่าไม่มีอะไร เป็นแค่เพียงประตู
ผู้หญิงคนนี้คิดว่าซ่งลุ่ยมีปัญหาผิดปกติอะไรหรือเปล่า ? หรือว่าประสาท ? ในตอนนั้นหญิงสาวคนนั้นก็มีความคิดหนึ่งแวบขึ้นมา ก็เริ่มโยกไปโยกมาไปหาซุ่งลุ่ย พลางตะโกนออกไปด้วย
“เฮ้ ! ซ่งลุ่ย ! นายกำลังทำอะไรอยู่น่ะ !”
ในความเป็นจริงเสียงการเดินของของผู้หญิงคนนั้นก็อุกอาจและคำพูดแบบนั้นเสียงก็ไม่ได้เบาเลย แต่ซ่งลุ่ยก็ยังคงไม่ขยับสายตายังคงมองไปข้างหน้า ในเวลานี้ในใจของเธอก็รู้สึกไม่ยอมแพ้ทันที เธออุตส่าห์เรียกเขาแต่เขากลับไม่สนใจเธอเลย ไม่ใช่ว่าตั้งใจเมินเฉยฉันล่ะ ! เมื่อถึงจุดนี้ ในใจของเธอก็เริ่มคิดจะเอาชนะซ่งลุ่ย ฉันไม่เชื่อเด็ดขาดว่านายสามารถเพิกเฉยไม่สนใจฉันได้ เธอหันไปมองรอบ ๆ และหาสิ่งของหรือวัสดุที่จะสามารถยั่วซ่งลุ่ยได้ คิดไปถึงปากกวาไวท์บอร์ดในมือและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ หึ ๆ ๆ ๆ ขึ้นมา !
ซ่งลุ่ยกำลังแกล้งจริง ๆ เหรอ ! ไม่สิ ในความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้นเลย จริง ๆ คือตอนที่ซ่งลุ่ยเปิดระบบมองทะลุ ตอนที่เริ่มต้นใช้ครั้งแรกไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ว่าในตอนสุดท้ายก็ได้ยินเสียงเตือนของระบบกลับทำให้ซ่งลุ่ยประหลาดใจ ในใจเต็มไปด้วยความผิดหวัง !
"ระบบแจ้งเตือน เพราะค่าประสบการณ์ที่ลูกค้าใช้ระบบมองทะลุได้ถึงขีดสุดแล้ว จะมอบทักษะใหม่ให้กับลูกค้า คำเตือน ช่วงเวลาการตั้งค่าทักษะใหม่ ไม่สามารถเคลื่อนไหวและกล่าววาจาได้ และลูกค้าจะไม่สามารถยกเลิกได้ ! โปรดระวัง ! ไม่สามารถยกเลิกได้ ไม่อย่างนั้นจะมีผลกระทบที่คาดเดาไม่ได้เกิดขึ้น ! ”
อันที่จริงแล้ว ซ่งลุ่ยตื่นเต้นมากเมื่อเขาได้ยินเสียงเตือนในครึ่งแรก เพราะตอนนี้เขามีแค่มุมมองพื้นฐานที่สุดเท่านั้น ทักษะอีกสามอันที่จะได้จากการทำภารกิจของประธานจาง เขายังคงต้องวาดฝันเอาไว้ก่อน ตอนนี้ยังคงไม่ได้มันมาครอบครอง ตอนนี้กลับได้ทักษะใหม่อย่างไม่ทันคาดคิด อยู่ ๆ ดันมีของดีตกลงมาจากฟ้าได้ เขาเพิ่งจะพูดกับตัวเองอยู่พอดี แต่หลังจากได้ยินเสียงของระบบครึ่งหลัง ในใจของซ่งลุ่ยก็ประสบกับความปั่นป่วนในเวลาอันสั้น ทันใดนั้นก็เสียการทรงตัวไปเลย !
ระบบบอกเวลาอื่นมันก็ยังดี แต่เมื่อมาเวลานี้กลับไม่ถูกเวลา แต่สถานที่ก็ถูกแหละ แต่ว่าตอนนี้ที่สำคัญคือเวลาก็ไม่ได้ ตั้งแต่ที่เขาดูสถานการณ์ในห้องตอนนี้ก็พอจะคาดเดาสถานการณ์ได้ ฮงเหมยคงใกล้จะออกมาแล้ว และนี่ก็คือหนึ่งในเหตุผลด้วย ค่อยว่ากันทีหลัง ตำแหน่งที่เขายืนอยู่ในตอนนี้คงไม่ดีสักเท่าไหร่ ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ตรงทางเดิน และที่สำคัญคือมันอยู่ตรงหน้าประตูห้องทำงานของประธานจาง ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีคนมา แต่ว่าอีกสักพักไม่แน่อาจจะมีใครมาก็ได้ ถ้ามีคนมาเห็นเขายืนอยู่ตรงนี้ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหรอ จะต้องโดนถามคำถามว่าทำไมถึงมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะ นายมาทำอะไรที่นี่ ? ประมาณนี้ ถ้าหากเขาไม่สามารถพูดได้ ไม่สามารถขยับไปไหนได้เวลามีคนมา มันคงจะเป็นเหตุการณ์ที่แย่มาก ๆ
หลังจากนั้นไม่นานก็ไม่มีใครเดินผ่านมา ในใจของซ่งลุ่ยก็ค่อย ๆ สงบลงและจากนั้นเขาก็คิดว่าเขาไม่สามารถยืนอยู่ที่นี่ได้ ถึงอย่างไรก็ตามยังไงก็ต้องทำตามระบบบอก ให้เวลาตัวเองสักชั่วโมงหนึ่งเถอะ ไม่ว่าจะดีจะเลวก็ต้องให้ความหวังตัวเองไว้ก่อน ! ยืนอยู่ตรงนี้ต่อไปมันจะยากลำบากขนาดไหนกันเชียว ! ยืนไปได้สักพัก เขาก็รู้สึกเบื่อหน่าย ก็เลยเปิดบอร์ดของระบบเพื่อดูว่ามีความก้าวหน้าอะไรบ้าง คิดไม่ถึงว่ามันจะก้าวหน้าเพิ่มเป็นเท่าตัว อีกทั้งยังทำให้เขาตะลึงไปเลย ! เขาเพียงแค่อยากเห็นว่ามันต้องใช้เวลานานแค่ไหน แต่กลับพบว่าตรงอีกฝั่งของทางเดินมีคนเดินมา !
พูดอะไรได้อย่างนั้นจริง ๆ ซ่งลุ่ยอยากจะตบปากตัวเองจริง ๆ คิดไปได้สักพักก็มีคนมา เขาจบเห่แล้ว คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะมีคนมาจริง ๆ แต่ว่าตอนนี้เขาไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวไปไหนได้ และไม่สามารถพูดได้ว่าทำไมเขาถึงขยับไปไหนไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น มันช่างอึดอัด ! ไม่นาน คนนั้นก็เดินเข้ามาข้าง ๆ เขา ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะไม่สามารถขยับได้ แต่ว่าดวงตาของเขายังคงสามารถขยับได้ ซ่งลุ่ยใช้สายตาเหลือบมองไปที่หญิงสาวด้านข้างของเขา ใจของเขาที่ปั่นป่วนอย่างฉับพลันก็สงบลง เพราะว่าผู้หญิงที่มาเป็นคนที่ซ่งลุ่ยรู้จัก เธอไม่ใช่ซุนหย่านเหรอ !
ซุนหย่านคนนี้เป็นคนบ้านเดียวกันกับซ่งลุ่ย อีกทั้งยังอยู่หมู่บ้านเดียวกันอีกด้วย สามารถพูดได้เลยว่าทั้งสองคนเติบโตมาด้วย ทั้งสองเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ในตอนที่ทั้งสองยังเด็กจะเดาไม่ออกก็ไม่ถือว่าผิด เมื่อก่อนนั้นซุนหย่านมีความรู้สึกดีกับซ่งลุ่ย แต่ว่าซ่งลุ่ยกลับไม่สนใจเธอ และมองเธอในฐานะน้องสาวคนหนึ่งตลอดมา ซุนหย่านเองก็ไม่ได้เปิดเผยความรู้สึกนั้นออกมา ดังนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็สามารถเรียกได้ว่าอยู่ในฐานะเป็นมากกว่าเพื่อนแต่ยังไม่ถึงขั้นคนรัก !
ซุนหย่านก็อยู่บริษัทนี้เช่นกัน ก่อนหน้านี้งานเจ้าหน้าที่รักษาปลอดภัยของซ่งลุ่ยก็หาได้จากที่นี่ แต่เมื่อวานนี้ซุนหย่านได้ยินว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชื่อซ่งลุ่ยถูกจางชูหยาย้ายไปเป็นตำแหน่งผู้ช่วยของเธอแล้ว ใหญ่รองจากประธานจางก็คือฮงเหมย แต่คนแรกที่ซุนหย่านคิดถึงก็คือพี่ชายซ่งของเธอเอง ซ่งลุ่ย แต่ว่าก็ความคิดนี้ก็ถูกปฏิเสธไปในทันที เพราะว่าเธอกับซ่งลุ่ยรู้จักกันและคิดว่าซ่งลุ่ยไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไรที่จะทำให้จางชูหยาชื่นชมได้ แต่ว่าในใจของเธอยังหวังว่าอาจจะมีความโชคดีอยู่บ้างที่คนคนนั้นจะเป็นพี่ชายของเธอ พอดีกับที่วันนี้ซุนหย่านจะไปส่งเอกสารที่ห้องทำงานของฮงเหมย หลังจากทำธุระนี้เสร็จแล้วก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องทำต่อ ไปหาซ่งลุ่ยหน่อยดีกว่า ในตอนนี้ซุนหย่านส่งเอกสารเสร็จแล้ว ดังนั้นเธอจึงเดินมาเห็นฉากตรงหน้าเข้าพอดี
ซ่งลุ่ยต้องการที่จะเอ่ยปากของเขาเพื่อถามซุนหย่านว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แต่ก็พบว่าตัวเองพูดไม่ออก ทันใดนั้นขาก็รู้สึกขัดใจและวางตัวไม่ถูกมาก ๆ ดังนั้นซ่งลุ่ยจึงใช้สายตาแสดงสีหน้าไปที่ซุนหย่าน เขาก็ไม่รู้ว่าซุนหย่านจะมาซื่อบื้ออะไรในเวลานี้ ขนาดส่งสายตาแบบนั้นไป เธอยังไม่เข้าใจสายตาของเขาที่กำลังสื่อออกไป เขาจ้องมองไปสักพัก หลังจากนั้นก็ขยับไปขยับมา สุดท้ายก็ผลักตัวเองออก ทั้งผลักทั้งร้องตะโกนเรียก แต่ว่าตอนนี้แม้แต่การแสดงอารมณ์ยังทำไม่ได้เลย อะไรก็ล้วนทำไม่ได้ มีแต่ถูกกระทำ แต่ตอนนี้ซ่งลุ่ยไม่สามารถแสดงออกทางสีหน้าได้เลย ทำอะไรไม่ได้เลย ทำได้แค่ดูเฉย ๆ คิดไม่ถึงว่าซุนหย่านจะหยิบปากกาออกมาและวาดมันลงบนใบหน้าของเขา แบบนี้ตัวเขาเองก็ไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงปล่อยให้เธอวาด แต่สายตาก็จ้องมองเธออย่างไม่ลดละ หวังว่าเธอจะเห็นสายตาของเขาที่กำลังสื่ออยู่