ตอนที่แล้วตอนที่ 32 ความจริงอันโหดร้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 34 เปิดการใช้งานกระทะเหล็กขั้นสูง

ตอนที่ 33 ฉู่อี้


ตอนที่ 33 ฉู่อี้

ฉู่อี้เปิดประตูเครื่องบินออกไป ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็วิ่งกลับเข้ามาอีกครั้งโดยมีสุนัขกลายพันธุ์วิ่งไล่กวด

“มาแล้ว!” เขาถีบประตูห้องควบคุมให้เปิดผาง ทันใดนั้นสุนัขกลายพันธุ์จึงปะทะเข้ากับแนวป้องกันที่ซ่งเจิงสร้างไว้อย่างจัง!

ซ่งเจิงรีบก้มงอตัวคู้เข่าโดยที่ในมือถือกระทะเหล็กขนาดใหญ่ในท่าเตรียมพร้อม พอมันพุ่งเข้ามาและอ้าปากกว้างตั้งท่าจะกัดเขาจึงยกกระทะขึ้นเป็นโล่ทันที

แรงปะทะจากการชน ทำให้ซ่งเจิงลอยไปกระแทกกับกระจกบานหนึ่งจนแตกกระจายและกระเด็นออกไปด้านนอก สุนัขกลายพันธุ์พยายามไล่ตามแต่ไม่สำเร็จเพราะกะโหลกหนาดันติดคาอยู่กับกรอบหน้าต่างนั้น

“จุดไฟซะ!” ฉู่อี้ชะโงกออกมาจากห้องผู้โดยสารขณะหันไปตะโกนสั่งลิงผอมและพี่ใหญ่กุ้ย

มือของชายทั้งสองคว้ากระบอกปืนกลที่มีควันโขมงออกมาจากปลายปืนขึ้นเล็ง เสียงรัวกระสุนแหวกผ่านอากาศดังลั่นจนแก้วหูทุกคนสะเทือน

ลูกกระสุนทุกนัดพุ่งทะลุร่างสุนัขกลายพันธุ์จนแน่นิ่ง จู่ๆลำตัวของฉู่อี้กลับมีเปลวไฟลุกท่วม เขาวิ่งตรงเข้าหาศพของสุนัขตัวนั้นโดยไม่รอช้า

ซ่งเจิงยันตัวลุกขึ้นยืนขณะมองการกระทำของอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชาเพราะรู้ดีแก่ใจว่าฉู่อี้จงใจหลอกใช้พวกเขา แต่ไม่คิดว่าจะกล้าหลอกให้เขาทำภารกิจเสี่ยงอันตรายขนาดนี้!

“ตูม!” เสียงระเบิดดังลั่นจนแผ่นดินสะเทือน เปลวไฟลุกท่วมซากเครื่องบินทั้งลำ ลิงผอมและพี่ใหญ่กุ้ยวิ่งหอบกล่องเสบียงหนีออกมาทันที แต่ยังไม่ทันอ้าปากพูดอะไรกับซ่งเจิง “ตูม!” เสียงซากเครื่องบินระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง!

“หมอบเร็ว!” ซ่งเจิงพุ่งไปดึงทั้งสองให้หมอบราบลงกับพื้น ครู่เดียวคลื่นความร้อนก็ลอยเฉียดเหนือร่างของทั้งสาม ผลกระทบจากแรงระเบิดรวมถึงไอร้อนจัดทำให้พวกเขาแทบหมดสติ!

“โฮก!” เสียงขู่คำรามของสุนัขกลายพันธุ์ดังขึ้น ซ่งเจิงรีบลุกขึ้นสังเกตสถานการณ์อีกครั้ง เขาเห็นสุนัขพวกนั้นจากเดิมที่มีสี่ตัวเหลืออยู่แค่สองตัว ลำตัวพวกมันไหม้เกรียมไปเกือบครึ่งจากแรงระเบิดเมื่อกี้นี้

“แม่งเอ๊ย! ไอ้ฉู่อี้มันบ้าไปแล้วรึไง! นายไม่ได้เตือนมันเหรอว่าถ้าเสร็จภารกิจแล้วให้รีบหนีออกมา! พวกเราจะได้ใช้ซากเครื่องบินนี่เป็นโลงศพเผาพวกมันซะ!” ลิงผอมก่นด่าอย่างโมโหสุดขีด พี่ใหญ่กุ้ยที่ยังนอนหมอบอยู่ท่าเดิม กลัวมากจนไม่พูดอะไรสักคำ ทั่วลำตัวเปียกโซมไปด้วยเหงื่อ

“ตูม!” เสียงระเบิดดังขึ้นเป็นรอบที่สาม ลำตัวที่มีเปลวไฟลุกท่วมของฉู่อี้ค่อยๆหยัดยืนขึ้นบนซากเครื่องบินที่ไหม้วอด สภาพของเขาอนาถแทบดูไม่ได้ แรงระเบิดทำให้แขนและขาข้างซ้ายขาด เนื้อตัวและเสื้อผ้าโชกไปด้วยเลือด

“ไอ้หนุ่มนั่นมันบ้าไปแล้ว! แม้แต่ชีวิตตัวเองยังไม่รู้จักรักษา!” ลิงผอมตะโกนเสียงสั่น หน้าซีดเผือดด้วยความกลัวและตกใจสุดขีด

“ซ่งเจิง! แกลอบกัดฉัน!” ฉู่อี้ตะคอกใส่หน้าซ่งเจิงทั้งๆที่ใบหน้ายังโชกเลือด

“ฉันเนี่ยนะลอบกัดนาย?!” ซ่งเจิงตะคอกกลับเพราะเริ่มโมโห “ตั้งแต่ฉันบอกว่าจะฆ่าไอ้หมาบ้าพวกนั้นเราสองคนก็ช่วยกันวางแผน แต่ตอนนี้ดันมาโทษว่าฉันลอบกัดนายนี่มันหมายความว่ายังไงกัน?!”

“งั้นฉันถามอะไรแกหน่อย ระเบิดในห้องควบคุมนั่น นายเป็นคนวางไว้ใช่ไหม?” ฉู่อี้เริ่มพูดจาเลอะเลือน ความเจ็บปวดและกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งทำให้เขาดุร้ายเหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน!

“ใช่!” ซ่งเจิงยอมรับตามตรง

“เหอะ! ไม่เลวเลยนี่! ชั้นเชื่อใจนายเข้าไปได้ยังไงวะ?!” ลำตัวฉู่อี้ยังมีไฟลุกท่วม ไฟนั้นลามมาจากร่างของสุนัขกลายพันธุ์ตัวหนึ่งที่นอนหายใจรวยรินอยู่ใกล้หัวเครื่องบิน

ซ่งเจิงรู้ทันทีว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไร แต่กลับไม่คิดจะหยุดเขา

ฉู่อี้เดินเข้าหาสุนัขกลายพันธุ์ แล้วใช้มือขวาที่ปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ ล้วงเข้าไปในหัวเพื่อควานหาอะไรบางอย่าง

“โฮก!” สุนัขตัวนั้นร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด ก่อนแน่นิ่งไปพร้อมกับมือของเขาที่ดึงกลับออกมา ตามแขนมีของเหลวสีเขียวเหนอะเลอะไปทั่ว น้ำยาวิวัฒนาการขั้นที่สอง!

ซ่งเจิงเหม่อมองนิ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นน้ำยาวิวัฒนาการขั้นสอง ที่แท้มันก็มาในรูปแบบแผลหนองพุพองสีเขียวอี๋นี่เอง!

“ฮ่าๆๆ! ในที่สุดฉันก็ได้มันมาแล้ว! แค่กลืนมันลงคอก็จะวิวัฒน์ขึ้นไปยังระดับที่สามได้สำเร็จ! ถึงตอนนั้น ฉันจะได้กลับไปแก้แค้น!” ฉู่อี้ที่ยืนอยู่เหนือหัวสุนัขกลายพันธุ์ประกาศชัยชนะพร้อมหัวเราะดังลั่น

“พรึ่บ!” จู่ๆสุนัขกลายพันธุ์ตัวเดิมกลับลืมตาขึ้น และใช้อุ้งเท้าหน้าตะปบเข้ากลางลำตัวฉู่อี้อย่างจัง! จากนั้นเปลือกตาของมันก็ปิดลงอีกครั้งและสิ้นใจ

ฉู่อี้ถูกแรงตะปบผลักจนล้มลงกองกับพื้น พลางหายใจรวยริน

“เป็นไงบ้าง?” ซ่งเจิงเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าฉู่อี้ สายตาที่จ้องมองเรียบเฉย

“อย่างน้อยฉันก็ไม่ตายเพราะฝีมือแก! ขอบคุณก็แล้วกัน! ความจริงแล้วฉันก็ไม่ได้อยากจะหลอกพวกนายหรอกนะ” ใบหน้าฉู่อี้ยังแต้มด้วยรอยยิ้ม ทำให้ซ่งเจิงที่ตั้งท่าเงื้อกระทะขึ้นฟาดหยุดชะงัก

“ฉันก็หวังว่านายจะไม่หลอกใช้ฉันเหมือนกันนั่นแหละ!” ซ่งเจิงพูดสั้นๆ ก่อนใช้กระทะเหล็กดูดซับน้ำยาวิวัฒนาการ

“ติ้ง! ระบบรับคำสั่ง!”

“ชำระล้าง!”

“ติ๊ง! พื้นที่ไม่พอสำหรับการดำเนินการดูดซับพลัง! ต้องการทำต่อหรือไม่?”

“ทำต่อ!”

“การชำระล้าง จำเป็นต้องใช้น้ำยาวิวัฒนาการขั้นต่ำหนึ่งร้อยส่วน หรือน้ำยาวิวัฒนาการขั้นหนึ่งสิบส่วน ต้องการดำเนินการต่อหรือไม่?”

“ดำเนินการต่อ!”

“ชำระล้างเสร็จสิ้น! น้ำยาวิวัฒนาการขั้นต่ำแปดสิบส่วนถูกเปลี่ยนเป็นน้ำยาวิวัฒนาการขั้นหนึ่งเรียบร้อยตามเงื่อนไขทุกประการ คุณได้รับน้ำยาวิวัฒนาการระดับสองหนึ่งส่วน!”

ซ่งเจิงกรอกน้ำยาวิวัฒนาการใส่ปากของฉู่อี้ ทันทีที่เสร็จสิ้นกระบวนการ ใบหน้าของฉู่อี้เปลี่ยนไปทันที ดวงตาที่มองซ่งเจิงกลอกขึ้นลงตลอดเวลา ทั้งแสดงความซาบซึ้งปนสงสัยในการตัดสินใจของอีกฝ่าย

“ขอบคุณนะ!” ฉู่อี้กลืนน้ำยาวิวัฒนาการลงคอก่อนพูดขอบคุณซ่งเจิงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นการขอบคุณจากใจจริง

“นายควรขอบคุณตัวเองมากกว่า ที่ไม่ทรยศฉัน” ซ่งเจิงยกมือเช็ดคราบดำที่เป็นเขม่าไฟบนหน้าของฉู่อี้พลางยิ้มออกมา

ก่อนหน้านี้ ซ่งเจิงเคยถามฉู่อี้ว่ามนุษย์สายพันธุ์ใหม่แต่ละระดับ มีลักษณะต่างกันอย่างไร

ระดับหนึ่ง มีความสามารถพิเศษ ระดับสอง สมรรถภาพทางร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ระดับสาม มีความสามารถในการรักษาตัว และระดับสี่ มีความสามารถในการทำลายเซลล์

ตอนนี้ร่างกายของฉู่อี้ค่อยๆฟื้นฟูส่วนที่สึกหรออีกครั้ง ลิงผอมและพี่ใหญ่กุ้ยเดินมาหยุดอยู่ข้างด้านข้างซ่งเจิง ทั้งสองมองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาเบิกกว้างแทบถลน แม้แต่ซ่งเจิงก็ตะลึงลาน

“ขอเพียงแค่หัวกับหัวใจยังอยู่ก็จะเหมือนเกิดใหม่ นี่เป็นพลังของระดับที่สาม” ฉู่อี้พูดพลางมองซ่งเจิงด้วยแววตาเปล่งประกาย

ซ่งเจิงสั่งให้กระทะทำขนมเปี๊ยะทอดจากน้ำยาวิวัฒนาการระดับต่ำที่เหลือ จากนั้นฉู่อี้ที่แขนและขาเพิ่งงอกออกมาใหม่ ก็หยิบขึ้นมากินอย่างไม่เกรงใจทันที

“ไอ้ตะกละเอ๊ย! นายยังมีกะจิตกะใจจะกินอีกเหรอ! พวกเราเกือบโดนนายฆ่าตายไปแล้วนะ!” ลิงผอมตะคอกฉู่อี้อย่างไม่พอใจ

“โทษฉันได้ยังไงล่ะ?! ไอ้หมาบ้านั่นไม่ทันได้สวาปามนายซะหน่อย!” ฉู่อี้ตะคอกกลับบ้าง อย่างไม่ยอมน้อยหน้า

“พูดแบบนี้อยากมีเรื่องรึไง?!” ลิงผอมถลกแขนเสื้อขึ้นและลุกขึ้นยืนทันที

“กลัวซะที่ไหนล่ะ?!” ฉู่อี้กัดขนมเปี๊ยะทอดขณะโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้

พูดจบทั้งสองคนก็จู่โจมกันทันที ซ่งเจิงมองทั้งคู่เงียบๆขณะกินขนมเปี๊ยะทอดและดื่มน้ำตามไปด้วยโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ

“นี่! มันไม่ใช่เวลาที่พวกนายจะมาทะเลาะกันนะ” พี่ใหญ่กุ้ยเตือนสติ

“ตีกันให้ตายไปข้างนั่นแหละดีแล้ว” ซ่งเจิงยิ้มพลางมองไปยังทั้งสองคนที่กำลังแลกเปลี่ยนหมัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

“แล้วพวกเราจะทำยังไงต่อ?” พี่ใหญ่กุ้ยถาม

“ขั้นตอนแรกเลย อย่าเพิ่งทำอะไรทั้งนั้น ขอผมคิดดูให้ดีๆก่อน อืม... อยู่แถวนี้ต่อแล้วไล่ล่าซอมบี้เพื่อพัฒนาขึ้นเป็นระดับที่สองก่อนก็แล้วกัน ผมจะทำให้ทุกคนกลายเป็นมนุษย์พันธุ์ใหม่ให้ได้ แบบนี้จะได้มีพลังพอที่จะปกป้องตัวเองซะที!”

ซ่งเจิงหยุดคิดก่อนพูดต่อ “ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ พลังคือสิ่งที่จำเป็นมาก ตอนนี้พวกเรายังอ่อนแอเกินไป”

“แต่เรายังมีฉู่อี้อยู่นะ เขาเป็นถึงระดับสามแล้วด้วย ข้างนอกนี้ก็ไม่น่าจะมีศัตรูอยู่อีกแล้ว” พี่ใหญ่กุ้ยสงสัย

“ฉันมีเรื่องอยากจะให้เขาไปทำอยู่ อีกอย่าง ถ้านายยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อก็ต้องพึ่งพาตัวเอง” พูดจบซ่งเจิงก็มองไปยังขนมเปี๊ยะทอดอีกแผ่น ที่ถูกเผาเกรียมเพราะการต่อสู้ของคนทั้งสอง

“ไอ้เวรเอ๊ย! กล้าทำลายอาหารของฉันเหรอ! ฉันจะฆ่าพวกแกซะ!” เสียงโวยวายของทั้งสองที่ปะทะยังคงดังอย่างต่อเนื่อง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด