ตอนที่ 12 เมล็ดพันธุ์
ตอนที่ 12 เมล็ดพันธุ์
หลินมู่ผ่อนคลายขึ้นมาทันทีหลังจากหญ้าวิญญาณสำหรับกลั่นยาผนึกวิญญาณได้ถูกรวบรวมเรียบร้อยแล้ว
ทว่าเขายังไม่ได้ลาออกจากงานสร้างฝนให้กับต้นยาสูบเยือกแข็ง และยังคงไปที่แปลงของต้นยาสูบเยือกแข็งในทุก ๆ สามถึงห้าวันเช่นเดิม
ภายใต้การดูแลอย่างดีจากหลินมู่ ต้นยาสูบเยือกแข็งเติบโตอย่างดี และสิ่งนี้ทำให้จางลั่วสวีต้องเอ่ยปากชมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ต้นยาสูบเยือกแข็งในหุบเขาอุ่นเมฆาไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับหลินมู่ ตราบใดที่เขาไม่สร้างปัญหาก็เพียงพอ เพราะในเวลานี้สิ่งที่เขาสนใจมากที่สุดคือสมุนไพรวิญญาณทั้งสี่สิบ หรือห้าสิบชนิดภายในมิติวังวนจันทรา
ภายในมิติวังวนจันทรา มีหญ้าจิตวิญญาณระดับหนึ่งถึงสี่สิบเจ็ดชนิด และหญ้าจิตวิญญาณระดับสองถึงสามชนิด
หลินมู่เข้าตรวจสอบพวกมันหลายครั้งต่อวัน เพราะกังวลว่าจะเกิดปัญหาใดขึ้น ในทุก ๆ สามถึงห้าวันเขาจะใช้เคล็ดหยกวารีเพื่อรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ
ภายใต้การเพาะปลูกอย่างระมัดระวังของเขาทำให้พืชพรรณในมิติวังวนจันทราเติบโตไปอย่างรวดเร็ว มีการเปลี่ยนแปลงในทุกวันอย่างเห็นได้ชัด
หลินมู่เฝ้ารอให้พวกมันเติบโตอย่างอดทน
เขาฝึกฝนเคล็ดธาตุทองทุกวันภายในลานบ้าน และยังฝึกฝนวิชาจิตเก้าทิศในมิติวังวันจันทราช่วงกลางวัน
พริบตาเดียว ผ่านไปแล้วกว่าหนึ่งเดือน
เคล็ดธาตุทองของหลินมู่เข้าสู่ขั้นปลายโดยสมบูรณ์ และออร่าของธาตุทองก็ยิ่งคมชัดเข้มข้นมากขึ้น
ทั้งระดับยุทธ์ในกายเข้าสู่ขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นสี่แล้ว เพื่อที่จะทะลวงผ่านเขาจำเป็นต้องฝึกฝนอย่างหนักไปอีกสักระยะ
สิ่งที่ทำให้หลินมู่พึงพอใจที่สุดคงจะเป็นสมุนไพรวิญญาณในมิติวังวนจันทราที่กำลังเติบโตไปอย่างก้าวกระโดด กลิ่นหอมของสมุนไพรคละคลุ้งทั่วบริเวณทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะมัวเมาไปกับมัน
สิ่งแรกที่เติบโตเต็มที่ก่อนคือยาสูบเยือกแข็ง หลังจากมันพร้อมแล้ว ผลของมันจะมีสีขาวสุกใส ปลดปล่อยไอเย็นเป็นควันและหมอกออกมาเป็นครั้งคราว
ยาสูบเยือกแข็งในหุบเขาอุ่นเมฆายังไม่สุกงอม แต่เพราะเวลาภายในมิติวังวนจันทรานี้เร็วกว่าโลกภายนอกถึงสองเท่า จึงทำให้ต้นยาสูบเยือกแข็งเติบโตได้รวดเร็วกว่าข้างนอก
การรวบรวมต้นยาสูบเยือกแข็งทั้งสี่สิบต้นไม่ใช่ยากเย็นสำหรับหลินมู่ เขาเพียงดึงมันออกจากแปลงดินวิญญาณอย่างระมัดระวัง โดยไม่ต้องการให้มันบอบช้ำแม้แต่น้อย
หลังจากทำความสะอาดกระท่อมภายในมิติวังวนจันทราแล้ว เขาตระเตรียมเสื่อฟางอย่างเรียบร้อย ก่อนจะวางต้นยาสูบเยือกแข็งไว้ด้านบน
ต้นยาสูบเหล่านี้เป็นวัตถุดิบหลักในการกลั่นยาปรับสภาพจิตใจ หลินมู่จึงต้องเก็บมันไว้ให้ดีที่สุด โชคดีที่ภายในมิติวังวนจันทราเต็มไปด้วยพลังวิญญาณ และต้นยาสูบเยือกแข็งจะไม่เสียหายแน่นอน
หลังจากนั้นหลินมู่เริ่มเก็บเมล็ดพันธุ์ของต้นยาสูบเยือกแข็งอย่างระมัดระวัง เพราะมันเป็นหญ้าจิตวิญญาณระดับสอง ในแต่ละต้นจึงมีเมล็ดพันธุ์เพียงสามถึงสี่เมล็ดเท่านั้น
หลังจากจัดการกับต้นยาสูบเยือกแข็งทั้งสี่สิบต้นแล้ว เขาได้รับเมล็ดพันธุ์กว่าหนึ่งร้อยสามสิบเมล็ด
หลินมู่ใช้จอบวิญญาณปฐพีพรวนดินที่เคยปลูกต้นยาสูบเยือกแข็งในคราวแรก ก่อนจะหย่อนเมล็ดพันธุ์ลงไปทีละเมล็ดด้วยตนเอง
ถ้าหากปลูกทั้งหมดกว่าหนึ่งร้อยเมล็ด มันก็จะไม่กินพื้นที่ภายในแปลงดินวิญญาณมากนัก เพียงแค่หนึ่งส่วนสิบของแปลงที่ดิน
หลินมู่ตัดสินใจว่าจะควบคุมปริมาณของต้นยาสูบเยือกแข็งไว้เพียงเท่านี้ เพราะเวลานี้เขาอยู่ในขอบเขตกลั่นลมปราณเท่านั้น และยังไม่มีจำเป็นต้องใช้ยาปรับสภาพจิตใจ
วันรุ่งขึ้น หลังจากปลูกต้นยาสูบเยือกแข็งเสร็จแล้ว ดอกไม้เรืองแสงและหญ้าวิญญาณดาราครามก็เติบโตตามต้นยาสูบเยือกแข็งมาติด ๆ
หลินมู่เริ่มกระทำในแบบเดียวกัน เขารวบรวมผลผลิตทั้งหมดและเอาไปวางซ้อนกันไว้บนเสื่อฟางในกระท่อม
เขาเก็บเกี่ยวดอกไม้เรืองแสงได้สามสิบดอก และเก็บเมล็ดของมันได้หนึ่งร้อยห้าเมล็ด
ส่วนของหญ้าวิญญาณดาราครามมากกว่าเล็กน้อย เขาได้รับหญ้าดาราครามสี่สิบสามต้น และเมล็ดพันธุ์หนึ่งร้อยสี่สิบเจ็ดเมล็ด เหล่านี้ทำให้หลินมู่พึงพอใจมาก
หลินมู่เริ่มพรวนดินอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มหย่อนเมล็ดพันธุ์ของหญ้าวิญญาณตามที่เคยกระทำ
หญ้าวิญญาณทั้งสองชนิดปกคลุมทั่วผืนดินวิญญาณเช่นเดียวกับต้นยาสูบเยือกแข็ง หลินมู่ตัดสินใจว่าจะปลูกหญ้าวิญญาณดาราครามในปริมาณเดียวกันกับต้นยาสูบเยือกแข็ง ส่วนดอกไม้เรืองแสงเป็นวัตถุดิบหลักในการกลั่นยาผนึกวิญญาณ หลังจากเก็บเกี่ยวเสร็จแล้วควรปลูกเพิ่มได้อีกสักหน่อย
หลังจากเก็บเกี่ยวหญ้าวิญญาณระดับสองทั้งสามชนิดแล้ว หญ้าวิญญาณระดับหนึ่งที่เหลืออีกสี่สิบเจ็ดชนิดก็เริ่มเติบโตติดตามมา
ว่านน้ำขุนเขาเขียวขจี หญ้าหางพยัคฆ์ขจี หญ้าหยาดน้ำค้างสามชุ่น…
สมุนไพรวิญญาณทั้งสี่สิบเช็ดชนิดนี้อาจจะดูเหมือนเยอะ แต่ความจริงแล้วไม่ค่อยเสียเวลาสำหรับการรวบรวมพวกมันนัก เพราะหลินมู่ปลูกหญ้าวิญญาณระดับหนึ่งแต่ละประเภทเป็นสิบชนิดเท่านั้น และจำนวนทั้งหมดจึงมีเพียงสี่ร้อยต้น
หญ้าวิญญาณกว่าสี่ร้อยต้นถูกจัดเก็บอย่างเรียบร้อย มันต้องใช้พื้นที่ของเสื่อฟางกว่าสองผืนเพื่อจัดเรียงให้เป็นเรียบ
หนึ่งในสามของกระท่อมมีสมุนไพรวิญญาณวางเรียงราย
ผลผลิตของหญ้าวิญญาณระดับหนึ่งมีมากกว่าหญ้าวิญญาณระดับสองมาก
เป็นผลให้จำนวนหญาวิญญาณแต่ละประเภทเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่าเจ็ดถึงแปดเท่า!
แต่อย่างไรแล้ว ครึ่งหนึ่งของแปลงดินวิญญาณที่แบ่งออกเป็นห้าสิบส่วนเอาไว้ก็ยังไม่ถูกเติมเต็ม
ที่ดินวิญญาณทั้งห้าสิบผืนครอบคลุมพื้นที่มากกว่าสิบหมู่ หลินมู่เริ่มมองสภาพแวดล้อมแล้วไตร่ตรองโดยมองว่าที่ดินวิญญาณแต่ละแห่งสามารถปลูกหญ้าวิญญาณระดับสองได้มากกว่าร้อยต้น แต่ถ้าหากเลือกที่จะปลูกหญ้าวิญญาณระดับหนึ่งจะสามารถปลูกได้มากกว่าสองร้อยต้น
หากพิจารณาอีกสักหน่อย แปลงดินวิญญาณในมิติจันทรานี้เป็นแปลงดินวิญญาณระดับสาม จึงไม่สำคัญกว่าจะปลูกหญ้าวิญญาณระดับหนึ่งหรือสอง
และพลังวิญญาณภายในมิติวังวนจันทรายังเพียงพอ หลินมู่จึงไม่คิดมากกับสิ่งที่ยังไม่เกิด
แนวคิดในปัจจุบันของหลินมู่ไม่ซับซ้อน นั่นก็คือเขาจะรอให้หญ้าวิญญาณชุดนี้เติบโตเต็มที่เสียก่อน
เมื่อมีสมุนไพรและน้ำอมฤตเพียงพอแล้ว เขาจะค่อยกลั่นยาภายหลัง
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการเจริญเติบโตของหญ้าวิญญาณภายในมิติวังวนจันทรา และภายในสองเดือนแผนการทั้งหมดของเขาจะเสร็จสิ้น
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา หลินมู่เตรียมตัวเข้าสู่การฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อที่จะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นห้า
นับตั้งแต่ที่เขามีปัญหากับหม่าฮวาหยวน อีกฝ่ายไม่เคยมากวนใจเขาอีกเลย เรื่องนี้ทำเขาประหลาดใจไม่น้อยแล้ว
แม้ว่าจะรู้สึกแปลก ๆ และสงสัยว่าอีกฝ่ายกินยาผิดขนานหรือไม่จึงไม่มายุ่งกับตน แต่หลินมู่ก็ไม่คิดประมาทเกินไปนัก เขาสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายมีแผนการที่จะจัดการเขาอยู่เสมอ
ความสงบในปัจจุบันเป็นเพียงความสงบก่อนพายุร้ายจะมาเยือน
ยิ่งตระหนักอย่างนั้น หลินมู่ยิ่งตั้งใจฝึกฝนมากขึ้น มีเพียงการฝึกฝนเท่านั้นที่จะทำให้เขาสามารถปกป้องตนเองจากอันตรายได้
ตอนกลางวันหลินมู่ยังคงฝึกฝนภายในมิติวังวนจันทราเช่นเดิม ส่วนในเวลากลางคืนเขาจะฝึกฝนเคล็ดวิชาพื้นฐานห้าธาตุ
หลินมู่เรียนรู้เคล็ดวิชาพื้นฐานห้าธาตุแล้วสองวิชา นั่นคือเคล็ดหยกวารี และเคล็ดธาตุทอง ที่เหลืออีกสามคือเคล็ดก่อปฐพี เคล็ดหญ้าพฤกษา และเคล็ดอัคคีสีชาด
สิ่งที่หลินมู่จะฝึกฝนต่อไปคือเคล็ดอัคคีสีชาด
สิ่งสำคัญในการเล่นแร่แปรธาตุคือการควบคุมไฟ ในสายตาของหลินมู่ แม้เคล็ดอัคคีสีชาดจะเป็นเพียงคาถาไฟระดับต่ำ แต่มันก็จะช่วยปรับปรุงความเข้าใจเกี่ยวกับไฟให้เขาได้
นอกเหนือจากการฝึกฝนเคล็ดอัคคีสีชาดแล้ว หลินมู่ยังคงไปรดน้ำต้นยาสูบเยือกแข็งที่หุบเขาอุ่นเมฆาเช่นเคย
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา จางลั่วสวีไม่ได้จ่ายหินวิญญาณหรือยาผนึกวิญญาณให้กับเขาเลย หลินมู่จึงคิดว่าจะรอจนกว่าต้นยาสูบเยือกแข็งเติบโตเต็มที่แล้วค่อยถามไถ่ภายหลัง
สุดท้ายแล้วเขาเชื่อว่าจางลั่วสวีจะไม่ผิดสัญญากับเขาอย่างที่หม่าฮวาหยวนทำ…