เจ้าหน้าที่หมายเลข 73 [ฟรี]
ตอนที่ 73
การทดลองมนุษย์!
เมื่อเทียบกับผู้นำไฮดราคนอื่น ๆ ที่พยายามดื่มด่ำไปกับความฝันในการครอบครองโลก แต่สำหรับดร.ลิซท์นั้นเขาเป็นคนที่อุทิศทุกอย่างให้กับวิทยาศาสตร์มากกว่าที่จะเป็นวายร้าย
แต่ถึงอย่างนั้นความเป็นจริงก็คือความเป็นจริง ดร.ลิซท์ไม่สามารถหักล้างเรื่องที่เขาได้ทำงานให้กับไฮราไปได้
อาวุธที่เขาสร้างขึ้นมาได้สังหารผู้บริสุทธิ์มากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งอาชญากรรมของเขามันไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าไฮดราคนอื่น ๆ เลย
ซึ่งการอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้นำไฮดรามาเป็นเวลานานมันย่อมมีความอึดอัดและเก็บกดเป็นธรรมดา
ทำให้ตอนนี้เขาที่มีอำนาจในการสั่งการคนอื่นและอยู่ตัวคนเดียวโดยไม่มีใครมาควบคุมมันย่อมทำให้ดร.ลิซท์ผ่อนคลายเป็นอย่างมากและอยากสัมผัสกับความรู้สึกของการควบคุมคนอื่นให้ได้มากที่สุด
ส่วนถ้าถามว่าดร.ลิซท์ชอบผู้ใต้บังคับชาแบบไหนมากที่สุดระหว่างพวกที่มีแต่กล้ามเนื้อในสมองหรือพวกที่เฉลียวฉลาด?
เขาดูถูกคนที่ในสมองมีแต่กล้ามเนื้อ และต้องการที่คนที่ฉลาดเหมือนตัวเองเพื่อมาทำให้ตัวเองฉลาดเพิ่มมากยิ่งขึ้น . . .
ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างชื่นชอบ ‘ดร.อังเดร เอลส์’ ที่ลีออนปลอมตัวเป็นอยู่พอสมควร
จากการสังเกตในช่วงหลายวันที่ผ่านมาเขาเชื่อว่าชาวสเปนคนนี้เป็นคนที่ชื่อฟังคำสั่งของเขาและไว้ใจได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่อยู่ต่อหน้าชายคนนี้เขาสามารถเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกของการเป็นคนสำคัญและความเคารพนับถือจากอีกฝ่ายได้
ซึ่งความรู้สึกนี้มันช่างแตกต่างจากความรู้สึกตอนที่เขาอยู่ที่ศูนย์วิจัยของไฮดราโดยสิ้นเชิง
ที่นั่นเขาได้รับความเคารพนับถือจากคนอื่น ๆ เพราะฐานะเสนาธิการอาวุโสของไฮดรา ส่วนที่นี่เขาได้รับความเคารพนับถือจากความฉลาดของเขาและใช้ความรู้ที่เขามีในการทำให้คนอื่นเคารพนับถือในตัวของเขา
ความแตกต่างของทั้งสองอย่างนี้มันไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้เลย!
แน่นอนว่าสิ่งนี้ก็คือสิ่งที่ลีออนจงใจทำให้ดร.ลิซท์รู้สึกกับเขาแบบนี้เหมือนกัน . . .
เขารู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่จะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จโดยการแอบเข้าไปในศูนย์วิจัยใต้ดินแห่งนี้โดยสถานะของนักวิจัยที่นี่
เพราะตลอด 24 ชั่วโมงจะมียามลาดตระเวนแบ่งเป็นสามกะที่เดินลาดตระเวนตลอดเวลา และกล้องวงปิดมากมายที่ติดอยู่ทั่วศูนย์วิจัยใต้ดิน . . .
ดังนั้นถ้าหากเขาต้องแอบเข้าไปขโมยข้อมูลการวิจัย และหลบหนีออกไปด้านนอกอย่างปลอดภัยเขาจะต้องกอดขาของดร.ลิซท์คนนี้เอาไว้ให้แน่น นี่เป็นแผนการที่มีข้อดีมากกว่าข้อเสียอย่างแน่อน!
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาจะต้องจ่ายสำหรับการทำแบบนี้ก็คือการประจบสอพลอและชมดร.ลิซท์เป็นครั้งคราวประมาณว่า "ดร.ลิซท์ คุณฉลาดมากเลย!!" ไปเรื่อย ๆ แค่นั้นแหละ . . .
สองสัปดาห์ผ่านไป
หลังจากกลับมาจากห้องจัดเก็บเวลาก็ผ่านไปสองสัปดาห์อย่างรวดเร็ว ส่วนลีออนก็ทำตามหน้าที่ตามปกติของเขาเหมือนเช่นเคย
อย่างไรก็ตามตอนนี้ในเวลาช่วงพักทานอาหารกลางวันเขาไม่ได้เดินไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจเส้นทางอีกต่อไป แต่ไปหาดร.ลิซท์เพื่อประจบสอพลอเป็นประจำราวกับลูกน้องที่ซื่อสัตย์
ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของดร.ลิซท์จะฟังดูเข้มงวดมาก แต่หลังจากผ่านไปไม่นานมันก็มีข้อมูลหนึ่งที่ถูกเปิดเผยออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
ทำให้เมื่อวันเวลาผ่านไปลีออนก็เริ่มรู้สึกว่าเวลาที่เขาจะออกจากสถานที่เฮงซวยแห่งนี้มันอยู่ไม่ไกลแล้ว
ในขณะที่อยู่ในห้องจัดเก็บนอกเหนือจากการเห็นอดาแมนเทียมสีดำเป็นพิเศษแล้วลีออนยังเหลือบไปเห็นห้องหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงมุมของห้องโดยไม่ได้ตั้งใจโดยมีชื่อภาษาอังกฤษเขียนเอาไว้ว่า ‘ห้องควบคุมเซิร์ฟเวอร์’!
ภายใต้คำเยินยอเป็นประจำลีออนก็สามารถเอาเปิดปากเอาข้อมูลเกี่ยวกับห้องนี้ออกมาจากดร.ลิซท์ได้อย่างง่ายดาย
ห้องควบคุมเซิร์ฟเวอร์นี้เป็นห้องที่ควบคุมศูนย์วิจัยใต้ดินทั้งหมด รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครือข่ายทั้งหมดภายในศูนย์วิจัย โดยสามารถควบคุมพวกมันทั้งหมดได้ภายในห้องแห่งนั้น
โดยข้อมูลการวิจัยทั้งหมดจะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายในห้องควบคุมหลักผ่านเครือข่ายภายในศูนย์วิจัยทุกวัน
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือสิ่งที่ลีออนกำลังตามหาอยู่มันน่าจะอยู่ภายในห้องนั้น!
หลังจากรู้ตำแหน่งสถานที่ที่เก็บข้อมูลการวิจัยแล้วเรื่องหลังจากนี้มันก็ง่ายขึ้นมาก
ต่อไปจะต้องหาวิธีเข้าไปด้านในนั้น . . .
เวลาในแต่ละวันผ่านไปอย่างเชื่องช้า
วันนี้เป็นวันที่ 28 แล้วที่ลีออนแทรกซึมเข้ามาศูนย์วิจัยใต้ดินแห่งนี้
ช่วงพักเที่ยงในขณะลีออนกำลังนั่งอยู่ในพื้นที่พักผ่อนและวางแผนอยู่ในหัวว่าจะจัดการยามและผ่านประตูอิเล็กทรอนิกส์เข้าในพื้นที่จัดเก็บได้อย่างไร ทันใดนั้นเขาก็ถูกดร.ลิซท์เรียกตัวให้ไปพบ
ลีออนสับสนเล็กน้อยกับการเรียกตัวอย่างกะทันหัน หรือว่าเขาจะถูกจับได้แล้ว?
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเดินมาถึงห้องทดลองขนาดใหญ่ที่มีแสงสว่างจ้าอยู่ด้านในหัวใจของเขาก็เต้นเร็วขึ้นทันที!
ห้องทดลอง . . . ไม่สิ! มันเหมือนกับห้องผ่าตัดมากกว่า!!
ห้องผ่าตัดถูกรายล้อมด้วยกระจกที่สร้างขึ้นมาในรูปแบบของสี่เหลี่ยมจัตุรัส
ตรงกลางของห้องมีเตียงผ่าตัดวางอยู่ตรงกลางและแพทย์หลายคนในชุดผ่าตัดสวมหน้ากากอนามัยกำลังล้อมเตียงผ่าตัดพร้อมกับเครื่องมือผ่าตัดมากมายที่อยู่ด้านข้าง
เมื่อมองไปที่ท่าทางของพวกเขาและสีหน้าจริงจังด้วยดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเตรียมตัวจะผ่าตัดกันอยู่
ในขณะที่ยืนอยู่ด้านนอกมองคนที่อยู่ด้านในห้องกระจก เขาก็มองเห็นดร.ลิซท์ที่เป็นคนเรียกเขามายืนอยู่ด้านในด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ในขณะที่กำลังยืนดู ‘การผ่าตัด’ อยู่ด้านนอกลีออนก็สังเกตเห็นชายวัยกลางคนสองคนในชุดสูทที่ดูเหมือนจะเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทร็อกซอนยืนอยู่ด้วย
หลังจากผ่านไปไม่นานดร.ลิซท์ก็เงยหน้าขึ้นหลังจากผ่าตัดคนแรกเสร็จพร้อมกับเหลือบมองไปทางลีออนเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมาต่อหน้าทุกคนว่า "ในเมื่อผู้บริหารทุกท่านมาถึงแล้ว พาเขามาได้เลย!"
ทันทีที่คำพูดของดร.ลิซท์จบลง ยามที่สวมชุดดำสองคนก็ช่วยกันพาชายวัยกลางคนที่ประหม่าเล็กน้อยเดินเข้าไปด้านในห้องผ่าตัด
ลีออนเหลือบมองชายวัยกลางคนที่กำลังเดินเข้าไปด้านในเล็กน้อย และสังเกตความผิดปกติที่ขาขวาของชายวัยกลางคนอย่างรวดเร็ว
ขาขวาใต้กางเกงของชายวัยกลางคนมันว่างเปล่า!
เมื่อเห็นชายวัยกลางคนที่ถูกพาไปนอนลงบนเตียงผ่าตัดพร้อมกับแขนขาที่เหลือที่ถูกมัดติดกับเตียงเอาไว้ ลีออนก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาของเขาลงและเข้าใจทันทีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น - การทดลองมนุษย์!
ในขณะเดียวกันดร.ลิซท์ที่ยืนอยู่ต่อหน้าฝูงชนก็อ้าแขนออกและพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อยว่า "หลังจากพยายามมาหลายเดือน ในที่สุดพวกเราก็มาถึงจุดไคลแม็กซ์ของการทดลองนี้แล้ว!"
"ต่อไปนี้สิ่งที่พวกคุณจะได้เห็นคือการทดลองที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบของสงครามโลกได้!"
หลังจากพูดจบดร.ลิซท์ก็ปรบมือและพูดขึ้นมาว่า "เริ่มได้!"
ภายในห้องผ่าตัดเมื่อแพทย์ได้รับคำสั่งก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
พวกเขาเริ่มแปะแผ่นทรงกลมลงที่หน้าอกของชายวัยกลางคนเพื่อวัดชีพจรและค่าต่าง ๆ ของร่างกาย ก่อนที่จะฉีดยาสลบให้ชายวัยกลางคน ทำให้หลังจากนั้นไม่นานชายวัยกลางคนก็ค่อย ๆ หมดสติไป
"การเต้นของหัวใจปกติ . . . "
"การติดตั้งขากล เริ่มได้!"
หลังจากนั้นหัวหน้าแพทย์ก็เดินมาที่เตียงผ่าตัดพร้อมกับขาขวากลที่ทำจากคาร์โบนาเดียม
ซึ่งภาพต่อจากนั้นมันทำให้สีหน้าของลีออนเปลี่ยนเป็นไปเล็กน้อย เนื่องจากต้องมาดูการผ่าตัดที่เลือดเย็นแบบนี้ต่อหน้าต่อตาของตัวเอง
เขามองไปที่แพทย์คนหนึ่งที่ถือใบเลื่อยที่คมกริบตัดกางเกงบริเวณขาขวาของชายวัยกลางคนออกเผยให้เห็นต้นขาของอีกฝ่ายที่อยู่เหนือหัวเข่าขึ้นไป
หลังจากนั้นก็ใช้ใบเลื่อยตัดหน้าขาของชายวัยกลางคน
ทันใดนั้นเลือดก็สาดกระเด็นออกมาราวกับน้ำพุ!
ในขณะเดียวกันแพทย์คนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ด้านข้างก็รีบล้างเลือดออกจากบาดแผลเพื่อทำความสะอาดและตะโกนบอกกับแพทย์ที่ถือขาขวากลอยู่ในมือ "รีบใส่เข้าไปเร็วเข้า!"
แพทย์คนที่ถือขาอยู่เมื่อได้รับคำสั่งเขาก็รีบเปิดใช้งานขากลพร้อมกับเล็งไปที่แผลก่อนที่จะสวมขาขวากลเข้าไปอย่างรวดเร็ว!
ซึ่งความเจ็บปวดของการใส่ขากลเข้าไปนั้นทำให้ชายวัยกลางคนที่นอนหมดสติอยู่ตื่นขึ้นมาทันที!
รูม่านตาทั้งสองข้างของชายวัยกลางคนหดตัวลงอย่างกะทันหันด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ก่อนที่จะมีเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดตามาติด ๆ
"อ๊ากกกกก!!!!!"
โปรดติดตามตอนต่อไป …