เจ้าหน้าที่หมายเลข 71 [ฟรี]
ตอนที่ 71
บูคาเรสต์!
เมื่อลีออนมาถึงบูคาเรสต์เมืองหลวงของโรมาเนียก็เป็นเวลา 18.30 น ตามเวลาท้องถิ่น
ถึงแม้ว่าท้องฟ้าจะเริ่มมืดแล้ว แต่ล็อบบี้ของสนามบินก็ยังอัดแน่นเต็มไปด้วยผู้คน
ลีออนเดินแบกสัมภาระออกมาจากประตูสนามบิน และเห็นชายในชุดสูทสีดำที่ยืนรออยู่ไม่ไกล
ชายในชุดสูทมองรูปถ่ายในมือเล็กน้อยเพื่อเปรียบเทียบกับลีออนก่อนที่จะรีบเดินไปทักทายอย่างรวดเร็ว
ชายในชุดสูทยื่นมือขวางลีออนเอาไว้ และถามขึ้นมาว่า "คุณใช่ ดร. อังเดร เอลส์ หรือเปล่าครับ?"
ตอนนี้ลีออนได้เปลี่ยนตัวตนใหม่กลายเป็นอีกคนหนึ่งไปเรียบร้อยแล้ว
แว่นตาขอบดำเสื้อโค้ทสีกากีผมยาวรุงรังและเคราขนาดใหญ่บริเวณคางและปาก . . .
ภาพลักษณ์ของนักวิทยาศาสตร์ที่ชอบหมกตัวอยู่ในห้องทดลองเป็นเวลานานจนลืมเวลา นี่เป็นรูปลักษณ์ที่ลีออนเลือกใช้ในภารกิจครั้งนี้
เนื่องจากบริษัทร็อกซอนต้องการทดลองเกี่ยวกับร่างกายของมนุษย์ให้เปลี่ยนเป็นไซบอร์ก บริษัทร็อกซอนจึงได้รวบรวมนักวิจัยด้านชีวจักรกลและร่างกายมนุษย์จากทั่วทุกมุมโลก
ดังนั้นเพื่อให้เขาสามารถแอบเข้าไปในศูนย์วิจัยและเข้าถึงข้อมูลการวิจัย ชีลด์จึงเลือกตัวตนนักวิทยาศาสตร์ที่มีหนวดเคราและมีหน้าตาค่อนข้างคล้ายกับลีออน
เพราะหลายครั้งการจะแทรกซึมเข้าไปในฐานศัตรูรายละเอียดเพียงเล็กน้อยมันก็เป็นตัวกำหนดความสำเร็จและล้มเหลวของภารกิจได้แล้ว . . .
ตัดภาพมาปัจจุบัน!
เมื่อเห็นการแต่งตัวของอีกฝ่ายลีออนก็เดาตัวตนของอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย . . . พนักงานของบริษัทร็อกซอน
ลีออนเอานิ้วดันแว่นตาขึ้นมองไปที่ชายตรงหน้าด้วยความหวาดระแวงและถามขึ้นมาด้วยด้วยเสียงของชายวัยกลางคนผ่านเครื่องเปลี่ยนเสียงว่า "คุณมาจากร็อกซอนอย่างนั้นหรอ?"
"ใช่ครับ!" ชายในชุดสูทตอบด้วยความสุภาพและเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเดินทางของลีออนมาถือเอาไว้ "มีรถจอดรออยู่ด้านนอกแล้วครับ เชิญตามผมมาได้เลย"
"อืม!" ลีออนพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับอนุญาตให้อีกฝ่ายถือกระเป๋าเดินทางของเขา ก่อนที่จะเดินตามชายในชุดสูทออกมาจากสนามบิน
ภายใต้การเดินนำของชายในชุดสูทหลังจากนั้นไม่นานลีออนก็ขึ้นไปบนรถเบนซ์สีดำที่จอดอยู่อย่างรวดเร็ว
สตาร์ทเครื่องยนต์และเริ่มเคลื่อนที่ไปยังจุดหมายปลายทางอย่างช้า ๆ
ซึ่งภายในรถลีออนก็ไม่ได้พูดคุยกับชายในชุดสูทมากนัก เพราะเขาจะต้องวางตัวให้สมฐานะนักวิทยาศาสตร์วิศวกรรมเครื่องกลที่บินมาจากสเปนมายังโรมาเนียเพื่อทำการวิจัย!
ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่บ้าการวิจัยโดยทั่วไปแล้วพวกเขามักจะเป็นพวกเด็กเนิร์ด และพูดคุยกับคนอื่นไม่ค่อยเก่งสักเท่าไหร่
ดังนั้นลีออนจึงไม่ได้ถามอะไรมากมาย และถามเฉพาะเรื่องสำคัญเท่านั้น "เรากำลังจะมุ่งหน้าไปที่ศูนย์วิจัยเลยใช่ไหม?"
ลีออนมองออกไปนอกหน้าต่างที่เต็มไปด้วยดอกไม้ข้างทาง
ก่อนที่เขาจะเดินทางมาที่บูคาเรสต์ลีออนรู้มานานแล้วว่าศูนย์วิจัยอยู่ในเขตอุตสาหกรรมในเขตชานเมือง แต่ไม่มีใครบอกเขาว่าศูนย์วิจัยมันซ่อนอยู่ใต้ดิน . . .
ลีออนถูกพาเข้าไปในโรงงานที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนา และลงลิฟต์ไปชั้นใต้ดินที่ซ่อนตัวอยู่ใต้โรงงาน ซึ่งตอนนี้ลีออนเริ่มสงสัยแล้วว่าบริษัทร็อกซอนนอกจากศึกษาทหารไซบอร์กแล้ว พวกเขายังคิดจะทำอะไรอีก . . .
ทันทีที่ประตูลิฟต์ถูกเปิดออกรูม่านตาของลีออนก็เบิกกว้างขึ้นเช่นกัน เผยให้เห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของเขา!
ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ลีออนอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งขึ้นมาในใจว่า ‘นี่มันอะไรกันวะเนี้ย!!’
เขาไม่คิดเลยว่าจะศูนย์วิจัยขนาดใหญ่ซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน!
ที่นี่มีห้องอยู่มากมายและทางเดินที่ซับซ้อนพร้อมกับป้ายที่เขียนคำแปลก ๆ ที่อ่านไม่ออกเอาไว้บนผนัง
ซึ่งเมื่อพิจารณาจากโครงสร้างและการตกแต่งของพื้นที่ตรงหน้าแล้วดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นจะเป็นหลุมหลบภัยจากการโจมตีทางอากาศในช่วงสงครามโลก
"ทางนี้ครับ!"
ถ้าหากไม่มีการนำทางจากชายในชุดสูทเขาอาจจะหลงทางในเขาวงกตใต้ดินที่ซับซ้อนแห่งนี้ไปแล้วก็ได้ . . .
ในระหว่างเดินตามชายในชุดสูทลีออนก็พยายามจำเส้นทางเข้าออกเอาไว้ในใจอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับมองสำรวจรอบ ๆ ศูนย์วิจัยแห่งนี้ไปในตัว
กำแพงที่แตกร้าวและฝุ่นที่เกาะตามผนังมันช่างไม่เข้ากับบรรยากาศของนักวิทยาศาสตร์ที่เดินเพล่นพล่านไปรอบ ๆ ด้วยเสื้อกาวน์สีขาวและถือเอกาสารอยู่ในมือ โดยบริเวณตรงมุมทางเดินจะมียามที่เธอปืนไรเฟิลจู่โจมยืนอยู่ทุกจุด
เห็นได้ชัดว่าสถานที่แห่งนี้ถูกทิ้งร้างมานานมากแล้ว และร็อกซอนก็เปิดใช้ที่นี่เพื่อทำการทดลองชั่วคราวเท่านั้น . . .
เนื่องจากการวิจัยนี้มันเป็นความลับ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทุกคนจะต้องอาศัยอยู่ใต้ดินแห่งนี้จนกว่าการวิจัยจะเสร็จสิ้น
โชคยังดีที่สถานที่แห่งนี้มันใหญ่มากทำให้มันมีห้องเดี่ยวให้ทุกคนพักผ่อนได้เพียงพอ
ลีออนถูกพาไปยังห้องหนึ่งที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสวมเสื้อกาวน์และถูกยามพาไปหาผู้รับผิดชอบโครงการวิจัย
"สวัสดี ดร.อังเดร เอลส์ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับคุณ"
หัวหน้านักวิจัยยื่นมือมาจับกับลีออน ซึ่งลีออนรู้สึกว่าใบหน้าของคนคนนี้มันดูคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
"คุณคือ?"
"ขอโทษที ดูเหมือนว่าผมจะลืมแนะนำตัวเอง . . . " อีกฝ่ายยิ้มเล็กน้อยและพูดขึ้นมาต่อว่า "ผมเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ‘XR75’ ดร.ลิซท์
ดร.ลิซท์?!
ลีออนเอานิ้วดันแว่นตาที่ไม่ได้มีฟังก์ชั่นพิเศษอะไรขึ้นมาเพื่อมองหน้าชายตรงหน้าให้ชัด ๆ ก่อนที่ภาพของชายตรงหน้าจะซ้อนทับกับใครบางคนที่อยู่ในความทรงจำของเขา!
เขานี่เอง!
นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นมือขวาของ บารอน สตรัคเกอร์ หนึ่งในผู้นำของไฮดรา และผู้ให้กำเนิดสการ์เล็ต วิทช์ และควิกซิลเวอร์ขึ้นมา ดร.ลิซท์!!!
ลีออนรู้สึกได้ถึงคลื่นลูกใหญ่ที่กำลังถาโถมอยู่ภายในใจของเขา
บริษัทร็อกซอนไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังเลย . . .
สมควรแล้วที่พวกเขาเป็นบริษัทที่ชั่วร้ายที่สุดใน MCU
ด้วยการปรากฏตัวของดร.ลิซท์และเป็นผู้รับผิดชอบโครงการวิจัยทหารไซบอร์ก ดูเหมือนว่าไฮดราและร็อกซอนจะข้อตกลงร่วมกัน
‘ถ้าหากเป็นกรณี ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีทางเลยที่พวกเขาจะทำสำเร็จ . . .’ ลีออนคิดอยู่ในใจและหันไปพยักหน้าให้ดร.ลิซท์พร้อมกับพูดทักทายขึ้นมาว่า "ยินดีที่ได้รู้จัก"
"ด้วยความช่วยเหลือจากคุณมันจะทำให้การวิจัยก้าวหน้าอย่างรวดเร็วแน่นอน คุณมาได้ทันเวลาจริง ๆ . . ." ถึงแม้ว่าดร.ลิซท์จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่ฝีปากของเขาก็ไม่น้อยหน้าความฉลาดของเขาเช่นกัน
ถ้าหากลีออนเป็น ดร.อังเดร เอลส์ ตัวจริงเขาคงตัวลอยจากการชมของอีกฝ่ายอย่างแน่นอน
น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่ดร.อังเดร
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขากำลังสวมรอยเป็น ‘อังเดร เอลส์’ อยู่!
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นลักณะนิสัยหรือท่าทางเขาจะต้องเลียนแบบให้เหมือนที่สุด . . .
ลีออนเกาผมที่ยุ่งเหยิงบนหัวของตัวเองด้วยความเขินอายเล็กน้อยพร้อมกับตาที่มองต่ำและพูดขึ้นมาว่า "คุณก็ชมผมเกินไป . . . "
‘เด็กเนิร์ดสินะ . . .’ ดร.ลิซท์ยกยิ้มในใจและตบไหล่ของลีออนด้วยรอยยิ้ม
"ไปกันเถอะ ผมจะพาคุณไปดูห้องทดลอง . . . "
โปรดติดตามตอนต่อไป …