บทที่ 76 ผิวทองแดงกระดูกเหล็ก
หลัวเฉิงมั่นใจยังแน่วแน่ว่า เคล็ดวิชาควบคุมมังกรสวรรค์ต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่ มันต้องเป็นเคล็ดวิชาที่ไร้เทียมทานยากหาใดเปรียบ!
“หลอมรวมพลังของมังกรนับล้านไว้ในร่างเดียว...หากข้าฝึกฝนไปจนถึงระดับนั้น เกรงว่าจะสามารถทำลายตระกูลจี ที่เป็นตระกูลแข็งแกร่งโบราณได้อย่างแน่นอน!”
หลัวเฉิงลืมตาตื่นขึ้นจากภวังค์ของเคล็ดวิชา
หากฝึกฝนเคล็ดวิชานี้ ภายในสิบปีเขามีความมั่นใจอย่างมากที่จะสามารถไปเยือนตระกูลจีได้!
“ก่อนหน้านี้ ข้าสงสัยนักว่าเกิดอะไรขึ้นกับเกร็ดเก้าสี”
ครั้นได้คะนึงถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตันเถียนก่อนหน้า หลัวเฉิงก็หลับตาลงอีกครั้ง แล้วใช้จิตสัมผัสอย่างลึกเข้าไปในร่างของตน
ภายในจุดตันเถียน จุดแสงที่แต่เดิมนั้นเคยขยายออกไปหลายพันฉื่อ บัดนี้กลายเป็นวังวนขนาดเท่ากำปั้นเดียว
ซึ่งเกร็ดเก้าสีก็ลอยอยู่ท่ามกลางวังวนนั้น มันทำให้วังวนนั้นมีความงดงามยิ่งนัก
“หรือว่า เคล็ดวิชาควบคุมมังกรสวรรค์บางทีอาจมาจากเกล็ดเก้าสีนี้ อีกทั้งวิญญาณยุทธ์ที่ตื่นขึ้นของข้าอาจเกี่ยวข้องกับมันก็เป็นได้…”
หลัวเฉิงเริ่มรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเกล็ดเก้าสีนี้พิลึกพิสดารยิ่งนัก
หลัวเฉิงเลิกให้ความสนใจแล้วหยุดคิดในสิ่งที่เขาไม่อาจเข้าใจได้ ไว้ในอนาคตที่ความแข็งแกร่งของเขาทวียิ่งขึ้นค่อยสืบหาความจริงก็ไม่สาย
เมื่อเปิดตาขึ้นอีกครั้ง หลัวเฉิงก็โคจรปราณแท้ในตันเถียนแล้วพุ่งหมัดออกไปทันที
บูม!
เสียงลมที่ถูกสะบั้นขาดจากหมัดคำรามลั่น และลมแรงที่ถูกหมัดทะยานผ่านก็พัดเอาเศษหินโดยรอบปลิวกระจายไปอย่างรุนแรง
“นี่มัน! พลังหมัดนี้มีความเป็นไปได้ว่าจะเกินแปดพันจิน!”
หลัวเฉิงแสดงสีหน้าประหลาดใจยิ่ง เขารู้สึกว่าความแข็งแกร่งทางร่างกาย บัดนี้กลับเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่านัก!
ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ ยังคงเกี่ยวกับการฝึกฝนร่างกาย ทว่า มันมิใช่เพียงการฝึกฝนลมปราณและกล้ามเนื้ออีกต่อไป แต่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงร่างกายที่แท้จริง!
ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับหนึ่ง พลังปราณแห่งสวรรค์และโลกจะหลั่งไหลเข้าสู่ผิวหนังและกล้ามเนื้อของผู้ฝึกยุทธ์ ทำให้ร่างกายมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก และความแข็งแกร่งนั้นอาจมากถึงสองพันจิน!
ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสองนั้น พลังปราณแห่งสวรรค์และโลกจะหลั่งไหลเข้าสู่กระดูก ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ฝึกฝนเคล็ดวิชาได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยผิวหนังทองแดงและกระดูกเหล็ก จะทำให้คนผู้นั้นมีความแข็งแกร่งมากถึงห้าพันจิน!
ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสาม ปราณแห่งสวรรค์และโลกจะหลั่งไหลเข้าสู่อวัยวะภายในของผู้ฝึกยุทธ์นั้น ทำให้อวัยวะภายในแข็งแกร่งประดุจเหล็กกล้าและยืดอายุขัยได้อีกด้วย ทั้งความแข็งแกร่งยังเพิ่มขึ้นมากถึงหมื่นสี่ร้อยจิน! หรือที่เรียกกันว่าพลังพยัคฆ์!
พลังปราณในร่างของหลัวเฉิงไหลเวียนไปทั่วทั้งผิวหนังและกระดูก ซึ่งเห็นได้ชัดว่า นี่เป็นขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสอง
ซึ่งทำให้ในตอนนี้ ความแข็งแกร่งของเขาก็เรียกได้ว่าเป็นพลังพยัคฆ์! ซึ่งมันเทียบเท่ากับผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสาม!
“นี่อาจเป็นผลมาจากที่ข้าสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นหลอมกายาขั้นสุดยอดได้ ทั้งยังฝึกฝนเคล็ดวิชาควบคุมมังกรสวรรค์อีกด้วย!”
“ตอนนี้ข้ามีพลังใกล้เคียงกับพยัคฆ์แล้ว หากว่าข้าสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสาม พลังจะเพิ่มพูนมากถึงขนาดไหนกันนะ?”
ดวงตาของหลัวเฉิงลุกโชติช่วงราวกับไฟที่ร้อนระอุ ซึ่งตอนนี้เขาต้องการทดลองความแข็งแกร่งในปัจจุบันเป็นที่สุด
ชั่วพริบตาเขาก็คว้าเอามีดแหลมคมเล่มหนึ่งขึ้นมา หลัวเฉิงโคจรปราณแท้ไปรวมยังฝ่ามือแล้วบีบมีดเล่มนั้นอย่างรุนแรง
คราที่มีดแหลมคมเล่มนั้นถูกบีบจนสุดแรงเกิด มันก็แตกละเอียดทันที เพราะว่าผิวหนังบนฝ่ามือของหลัวเฉิงกับเป็นรอยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“แข็งแกร่งยิ่งนัก! ข้าอยู่ในขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ระดับสอง จึงมีผิวหนังทองแดงกระดูกเหล็ก ไม่มีทางเลยที่ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นหลอมกายาจะสามารถเอาชนะข้าได้!”
“โชคดีในการแข่งขันการล่าสัตว์ครั้งก่อน หลินอวิ๋นกลืนโอสถสลายโลหิตบังคับให้ตนเองทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ แต่ยังไม่ถึงขั้นผิวหนังทองแดงกระดูกเหล็ก มิฉะนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่ข้าจะเอาชนะ”
หลัวเฉิงเริ่มเข้าใจความแข็งแกร่งของขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์เป็นอย่างดี หลังจากได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์
ไม่ต้องกล่าวถึงพลังที่เพิ่มพูน แค่ในเรื่องของความแข็งแกร่งทางด้านร่างกาย ขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์และขั้นหลอมกายานั้น ไม่ได้อยู่ในระดับที่จะสามารถประมือกันได้!
การเปลี่ยนแปลงมนุษย์! ก็คือการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย!
หากจะถามว่าการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายคืออะไรงั้นหรือ?
ต้องกล่าวว่า เริ่มต้นในขั้นหลอมกายานั้น ก็คล้ายกับฝึกฝนให้ร่างกายเป็นดักแด้ในรังไหม แล้วขั้นเปลี่ยนแปลงมนุษย์ ก็คือการ ออกจากรังไหมแล้วกลายเป็นผีเสื้อที่โบยบิน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่แท้จริง!
ผู้ฝึกยุทธ์ในขั้นหลอมกายา ยังเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น พวกเขาจะเทียบกับร่างกายที่เหนือมนุษย์ได้อย่างไร?
“ว่าแต่ ข้าจะช่วยลั่วเหยาหลอมโอสถได้อย่างไร ในเมื่อเกล็ดเก้าสีจมลงในตันเถียนของข้าไปแล้ว”
หลัวเฉิงเริ่มใคร่ครวญแล้วตั้งคำถามเพื่อหาวิธีแก้ไข
พัฟ!
แต่ขณะที่หลัวเฉิงกำลังไตร่ตรองวิธีการอยู่นั้น เกล็ดเก้าสีดูเหมือนมันจะรับรู้ได้ถึงความต้องการ จึงได้เคลื่อนย้ายลอยออกมาจากตันเถียนของเขา และปรากฏขึ้นมาบนมือซ้ายทันที
เมื่อเห็นมันปรากฏออกมาเช่นนี้ หลัวเฉิงจึงขบคิด ทันใดนั้น เกล็ดเก้าสีก็จมลงบนฝ่ามือและไหลไปตามเส้นลมปราณกลับเข้าสู่ตันเถียนอีกครั้ง